เพื่อนๆ คิดว่า L Death Note (L Lawliet) น่าจะมีกรุ๊ปเลือด อะไร

ด้วยอุปนิสัย สุขุมนุ่มลึก และชาญฉลาดในการแก้ปัญหาต่างๆ (ไม่รวมพฤติกรรมอันแปลกประหลาด) เพื่อนๆคิดว่า แอลควรจะมีกรุ๊ปเลือดอะไรคับ


ประวัติแอล (อ้างอิงจาก http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=188cfecb3524ad26)
ชื่อจริง: แอล ลอว์ไลท์
วันเกิด: 31 ตุลาคม 1979
วันมรณะ: 5 พฤศจิกายน 2004
ส่วนสูง: 179 เซนติเมตร (โดยประมาณ)
น้ำหนัก: 50 กิโลกรัม (โดยประมาณ)
กรุ๊ปเลือด: ไม่ปรากฏ
ของที่ชอบ: ของหวาน
ของที่เกลียด: ถุงเท้า
(2) ค่าพลังของ L
- ความรู้ 8/10
- พลังความคิด 10/10
- พลังปฏิบัติการ 9/10
- ความมุ่งมั่น 10/10
- การเข้าสังคม 1/10
- ความชอบของหวาน 10/10
(3) ข้อมูลพื้นฐาน
นักสืบอันดับหนึ่งของโลกผู้ไล่ล่าคิระ
เป็นนักสืบชื่อดังชั้นแนวหน้าของโลก แต่เนื่องจากไม่ยอมปรากฏตัวในที่สาธารณะ ตัวตนที่แท้จริงจึงคงเป็นปริศนามาตลอดระยะเวลายาวนาน คดีคิระเป็นเหตุให้ต้องออกมายืนอยู่แนวรบกองหน้าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แล้วผลลัพธ์ของเรื่องนั้นก็คือ…
(6) นิสัย
มีนิสัยเกลียดความพ่ายแพ้เหมือนเด็ก ๆ
ตัว L เองก็ตระหนักถึงนิสัยเหมือนเด็กข้อนี้ของตน แม้จะเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็ยังเกลียดความพ่ายแพ้อยู่ดี สงสัยใคร่รู้อะไรฝังลึกมาก ด้วยเหตุที่เขาสืบสวนข้อเท็จจริงโดยใช้ทุกวิถีทางจนกว่าตัวเองจะยืนยันอะไรได้แน่ชัด จึงมักจะไม่ได้รับความเข้าใจจากคนรอบข้าง

(7) ความสามารถ
มันสมองระดับอัจฉริยะและพลังปฏิบัติการที่บ้าบิ่น
เหตุผลที่ L ได้รับสมญาว่าเป็นนักสืบอันดับหนึ่งของโลกนั้น แน่นอนว่าส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะมันสมองที่เห็นได้แจ่มชัด แต่ก็มีส่วนมาจากพลังปฏิบัติการด้วย เขาเป็นคนจัดการตั้งแต่การปฏิบัติการระดับสามัญอย่างการนั่งจ้องจอมอนิเตอร์เป็นเวลาหลายวันไปจนถึงการเตรียมการรวบตัวผู้ต้องสงสัยอย่างรวดเร็วลำพังคนเดียวทั้งหมด

8) รสนิยมในการบริโภค
กินอาหารไม่ครบหมู่อย่างรุนแรง
L เป็นพวกชอบของหวานและไม่มีบันทึกเอาไว้เลยว่าเขากินอาหารถูกหลักโภชนาการระหว่างการสืบสวน หยิบของหวานอย่างเช่นขนมเข้าปากอยู่ตลอดเวลา ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถขาดเสบียงน้ำตาลได้เลยเพราะต้องส่งไปเลี้ยงสมองที่ถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง ด้วยเหตุนี้ การที่ยังสามารถรักษาสุขภาพร่างกายเอาไว้ได้ก็นับว่าเป็นอัจฉริยภาพรูปแบบหนึ่ง มิสะเองก็ยังอิจฉาเลย
(9) คำพูดประทับใจ
- \\\"เอาล่ะ ลองฆ่าฉันดูสิ!" (ในเล่ม 1 หน้า 75)
สำหรับ L ผู้รอบคอบระมัดระวัง นับว่าเป็นคำพูดที่บ้าบิ่น แต่ที่พูดออกไปก็เพราะมั่นใจว่า \\\"ไม่มีทางโดนฆ่าอยู่แล้ว\\\"
- \\\"สุดท้ายแล้วความชอบธรรมย่อมเป็นฝ่ายชนะ" (ในเล่ม 2 หน้า 87)
เป็นคำพูดที่ฟังดูอ่อนหัดจนเกินไป การที่สามารถพูดออกมาได้อย่างเต็มปากนั้นเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นอันแข็งแกร่ง หรือว่า?
- \\\"เพราะ(ไลท์คุง)เป็นเพื่อนคนแรกของผมครับ" (ในเล่ม 4 หน้า 132)
ขณะที่ฟาดฟันกันในฐานะศัตรู L ก็สวมบทบาทในการสร้างมิตรภาพอันบอบบางกับไลท์ไปด้วย นับว่าเป็นคู่หูที่ดีในการร่วมมือกันสืบสวนยทสึบะ
- \\\"เดี๋ยวผมก็ตกหลุมรักเข้าหรอกครับ?" (ในเล่ม 6 หน้า 49)
เป็นคำพูดที่พูดกับมิสะ เมื่อมองจากสีหน้าแล้ว อ่านเจตจำนงที่แท้จริงได้ลำบาก แต่น่าจะเป็นคำโกหก ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีภูมิคุ้มกันผู้หญิง


(อันนี้แถม จาก L change the world (อาจจะไม่ตรงทุกคำพูด))
"คนเราหากยังมีลมหายใจอยู่ คำว่าเริ่มต้นใหม่ก็ไม่มีคำว่าสาย เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ไม่มีใครสามารถพรากมันจากเราไปได้"
(มาจากฉากไหนไปหาเอาเอง 5555 )
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
สุดท้ายแล้วความชอบธรรมย่อมเป็นฝ่ายชนะนี่เชื่อมากไม่ได้หรอกครับ แอลเคยบอกผมว่าสำหรับผมแล้วการไขคดีมันก็เป็นแค่เกมเท่านั้นก็เหมือนกับงานอดิเรกเวลาเล่นเกมไม่ว่าใครก็อยากจะผ่านด่านได้เร็วๆใช่มั๊ย ถ้าใช้มาตรฐานของสังคมยุคปัจจุบันมาตัดสินละก็ผมไม่ใช่คนดีหรอกนะ ดูอย่างตอนสืบบริษัทโยทสึบะก็ได้แอลบอกว่าต้องรอให้คนบริสุทธิ์พวกนั้นตายไปซะก่อนค่อยมาสรุปหาคนร้ายกันทีหลัง สำหรับผมแล้วถ้าเพื่อไขคดีให้ได้ยอมทำได้ทุกอย่างละ ส่วนเรื่องข้อมูลภาค 3 นำมาใช้อ้างอิงไม่ได้หรอกครับ เพราะคนเขียนคนละคนกัน ภาคนั้นผมมองไม่เห็นความฉลาดของแอลซักนิดความสามารถทางกายก็อ่อนมาก ที่จริงแอลตัวจริงความสามารถทางกายสูงมากนะ ไม่น่าแพ้คุโด้ ชินอิจิเลยละ เห็นตอนเล่นเทนนิสกับไลท์ก็รู้แล้วเพราะว่าชั้นนะเคยความแชมป์จูเนียร์แชมป์เปี้ยนชิพที่อังกฤษมาแล้ว และอีกอย่างแอลยังเป็นคาโปเอร่าอีกด้วย ส่วนภาค 3 ที่มาถ่ายทำที่เมืองไทยเอาข้อมูลของเนียร์มาเล่นครับ เนียร์เกิดวันที่ 24 มิถุนายนถ้าผมจำไม่ผิดเหมือนจะเป็นวันที่เกี่ยวข้องกับชาติไทยนี่เแหละ ที่จริงตามข้อมูลไม่มีระบุนะว่าเนียร์เกิดที่ไหน ส่วนกรุ๊ปเลือดถ้าให้ผมเดาน่าจะเป็น B และนี่ก็คือกราฟความสามารถของเค้าครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่