"หญิงพิการตาบอด"
"ขอโทษนะครับ ขอทางหน่อยครับ" เสียงเจ้าหน้าที่ MRT กล่าวขณะพยุงหญิงสาวตาบอดเพื่อขึ้นขบวนรถ หลังเจ้าหน้าที่จัดแจงให้หญิงคนดังกล่าวยืนจับราวบริเวณประตูขึ้นลงเสร็จ ก็เดินจากไปเพื่อไปทำหน้าที่อื่นต่อ ไม่นานขบวนรถก็เคลื่อนพาผู้โดยสารจากอโศกมาถึงศูนย์ฯสิริกิต แน่นอนว่าหญิงสาวตาบอดเดินออกจากตู้ขบวนเป็นคนแรก พร้อมกับยืนเก้ๆกังๆหน้าประตูทางออก ผู้โดยสารในขบวนก็กรูออกไปโดยไม่มีใครสนใจหญิงสาวคนดังกล่าวเลย เสมือนว่าไม่มีใครมองเห็นหญิงพิการคนนี้ ครั้นจะเดินผ่านไปเฉยๆก็กลัวจะทำให้บรรพบุรุษก่นด่าจากปรโลก เลยช่วยเหลือพาเดินไปทางออกตามที่ต้องการและติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้
แต่ขณะเดินเลือกซื้อหนังสือในศูนย์ฯสิริกิต ก็คิดไม่ตกว่า ใครคือคนที่สายตามืดบอด หญิงพิการตาบอด ? หรือคนในขบวน ? เมื่อเหนื่อยที่จะคิดและเหนื่อยที่จะเดินแล้วจึงแวะไปร้านกาแฟเพื่อหาที่นั่งพัก
พลันตกใจ เมื่อคนที่ปรากฏตรงหน้าที่รอกาแฟ กลายเป็นคนที่ผมหนีห่างมากว่าสี่ปี คนที่ไม่เคยคิดว่าจะเจอ หรือไม่เคยคิดว่าจะคุยอีกเลยด้วยซ้ำ ขณะอยู่ในภวังค์การตัดสินใจว่าควรจะทักหรือถอย เธอก็เดินสวนผ่านไปเฉกเช่นผู้โดยสารในขบวน MRT ที่เดินผ่านหญิงสาวตาบอด
เหมือนภาพย้อนไปที่สถานีอโศกก่อนนี้ "ขอโทษนะครับ ขอทางหน่อยครับ" เสียงพนักงาน MRT กล่าว แต่คราวนี้ผมเป็น
"หญิงพิการตาบอด"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ป.ล.เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เจ็บจริง ที่ผมเจอเมื่อช่วงสัปดาห์หนังสือที่ผ่านมาครับ สมัยเรียนมหาลัยมีอาจารย์ท่านหนึ่งที่สอน ชอบใช้คำว่า "กัมปนาทแห่งความสงัด" อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยเข้าใจเลย ก็พึ่งมาเข้าใจจากเหตุการ์ณนี้นี่เองครับ
"หญิงพิการตาบอด"
"ขอโทษนะครับ ขอทางหน่อยครับ" เสียงเจ้าหน้าที่ MRT กล่าวขณะพยุงหญิงสาวตาบอดเพื่อขึ้นขบวนรถ หลังเจ้าหน้าที่จัดแจงให้หญิงคนดังกล่าวยืนจับราวบริเวณประตูขึ้นลงเสร็จ ก็เดินจากไปเพื่อไปทำหน้าที่อื่นต่อ ไม่นานขบวนรถก็เคลื่อนพาผู้โดยสารจากอโศกมาถึงศูนย์ฯสิริกิต แน่นอนว่าหญิงสาวตาบอดเดินออกจากตู้ขบวนเป็นคนแรก พร้อมกับยืนเก้ๆกังๆหน้าประตูทางออก ผู้โดยสารในขบวนก็กรูออกไปโดยไม่มีใครสนใจหญิงสาวคนดังกล่าวเลย เสมือนว่าไม่มีใครมองเห็นหญิงพิการคนนี้ ครั้นจะเดินผ่านไปเฉยๆก็กลัวจะทำให้บรรพบุรุษก่นด่าจากปรโลก เลยช่วยเหลือพาเดินไปทางออกตามที่ต้องการและติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้
แต่ขณะเดินเลือกซื้อหนังสือในศูนย์ฯสิริกิต ก็คิดไม่ตกว่า ใครคือคนที่สายตามืดบอด หญิงพิการตาบอด ? หรือคนในขบวน ? เมื่อเหนื่อยที่จะคิดและเหนื่อยที่จะเดินแล้วจึงแวะไปร้านกาแฟเพื่อหาที่นั่งพัก
พลันตกใจ เมื่อคนที่ปรากฏตรงหน้าที่รอกาแฟ กลายเป็นคนที่ผมหนีห่างมากว่าสี่ปี คนที่ไม่เคยคิดว่าจะเจอ หรือไม่เคยคิดว่าจะคุยอีกเลยด้วยซ้ำ ขณะอยู่ในภวังค์การตัดสินใจว่าควรจะทักหรือถอย เธอก็เดินสวนผ่านไปเฉกเช่นผู้โดยสารในขบวน MRT ที่เดินผ่านหญิงสาวตาบอด
เหมือนภาพย้อนไปที่สถานีอโศกก่อนนี้ "ขอโทษนะครับ ขอทางหน่อยครับ" เสียงพนักงาน MRT กล่าว แต่คราวนี้ผมเป็น
"หญิงพิการตาบอด"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้