Review -- Interstellar -- ทะยานดาวกู้โลก

ดวงดาวอันยิ่งใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา
จะมีดาวดวงอื่นอีกซักดวงมั้ย
ที่จะใช้เป็นที่พักพิงของสิ่งมีชีวิต
นอกจากโลกใบนี้?


นี่คือคำนิยามสั้นๆของผลงานเรื่องใหม่ของผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลน เจ้าของผลงานอันโดดเด่นอย่าง Memento, The Dark Knight และ Inception เป็นอาทิ

Interstellar กล่าวถึงการอยู่รอดในโลกที่เปลี่ยนแปลงไป จากปัจจุบันที่โลกใบนี้มีพร้อมแทบทุกอย่าง กลายไปเป็นโลกกำลังตกอยู่ในสภาวะอดอยาก ขาดแคลนอาหารการกิน มนุษย์จึงเริ่มโครงการค้นหาแหล่งอาศัยใหม่ กำเนิดโครงการเดินทางไปอวกาศหาโลกที่สองอย่างลับๆ เพื่อเป็นแหล่งอาศัยใหม่อย่างถาวร เพราะนอกจากการขาดแคลนอาหาร โลกใบนี้ยังต้องเจอกับภัยธรรมชาติที่เขยิบความรุนแรงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

เรื่องราวของหนังนำเสนอด้วยการนำทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์มาบอกเล่าเพื่อให้สมเหตุผล ไม่ว่าจะเป็น ทฤษฎีสัมพันธภาพ, มิติเวลา, กฎควอนตั้ม, กฎฟิสิกส์ และอีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งลึกลับในอวกาศ โดยประเด็นที่กินใจจริงๆ คือการอยู่รอดที่แลกด้วยการสูญเสีย คิดลึกๆแล้ว การจะได้มาบางสิ่ง ต้องแลกกับการสูญเสียหลายสิ่ง หนังเรื่องนี้ไม่เพียงนำเสนอเอฟเฟกต์ตระการตา แต่สิ่งที่สำคัญที่ทำให้ประเด็นทรงพลังขึ้นมา คือการนำประเด็นมาเล่าได้อย่างมีชั้นเชิง

เนื้อหาในหนังไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด มีนักเขียนหลายท่านที่สนใจเรื่องนี้ และสร้างเรื่องราวขึ้นมาให้ผู้อ่านได้ถกคิดกันมานานแล้ว ผลงานเรื่องหนึ่งที่ถือว่าเป็นที่สนใจสำหรับคอหนังแนวไซไฟ ที่พอนึกถึง Interstellar อาจคิดถึงหนังเก่าเรื่องนี้ทันที เรื่องที่ว่าคือ Contact ผลงานกำกับของโรเบิร์ต เซเม็คคิส ที่มีโจดี้ ฟอสเตอร์ และแมทธิว แม็คคอนาเฮย์ แสดงนำ



Contact ให้อารมณ์ที่คล้ายคลึงกับ Interstellar ในเรื่องของความรัก จะเห็นได้ว่าในผลงานของโนแลน ความรักเป็นประเด็นหนึ่งที่ตัวละครอย่าง ดร.แบรนด์ (แอนน์ แฮทธาเวย์) เอ่ยถึง โดยเธอบอกประมาณว่า ความรักเป็นสิ่งเดียวที่รู้สึกได้แม้อยู่กันคนละมิติ เธอเดินตามทฤษฎีวิทยาศาสตร์แต่ผลลัพธ์ก็ยังล้มเหลว เธอจึงลองเลือกทางที่ต่างออกไป ใช้หัวใจเป็นเครื่องนำทาง เหตุผลเดียวกับตัวละคร ดร.เอลลี่ (โจดี้ ฟอสเตอร์) ที่ใช้ความรักเป็นเครื่องนำทาง หลังจากพ่อเสียชีวิตไป ก็เดินหน้าติดต่อกับสิ่งมีชีวิตในดวงดาวอื่น เพราะหวังว่าจะมีดาวซักดวงที่ติดต่อกลับมา

หนัง Contact เข้าฉายเมื่อปี 1997 ซึ่งเป็นปีเดียวกับหนังเรื่อง Event Horizon ที่กล่าวถึงการช่วยเหลือลูกเรือของยานที่หายไปในหลุมดำ ก่อนที่ยานนั้นจะกลับมา พร้อมกับอะไรบางอย่างที่น่ากลัว โดยเรื่องหลังสุดเป็นหนังสยองลุ้นระทึกกลางอวกาศ ซึ่งต่างจากสองเรื่องแรกที่เน้นดราม่าอารมณ์

นอกจากผลงานสองเรื่องที่กล่าวมา ยังมีผลงานการ์ตูนไซไฟเรื่องหนึ่งจากผู้เขียน “โดราเอมอน” อันโด่งดังอย่าง ฟูจิโกะ ฟุจิโอะ ชุด Path of Fujiko ที่หนึ่งในนั้นมีเรื่อง “นักเดินทางบูมเมอแรง” กล่าวถึงการเดินทางข้ามดวงดาว การผ่านเข้าสู่มิติเวลาที่ต่างกัน



อ่านต่อในความเห็น 1-3 ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่