โตขึ้นอยากทำงานเป็นอะไรกัน........................?
สมัยเป็นเด็กน้อย : หนูอยากเป็น หมอ ตำรวจ พยาบาล ทหาร นักร้อง นักแสดง ครู นักสืบ ฯลฯ ... ค่า/ครับ^0^
เมื่ออยู่ม.ปลาย : ก็.. อยากเป็น หมอ วิศวะ นักบัญชี ทนาย อัยการ (มั้ง)คะ/ครับ (เอาเป็นว่า ติดที่ไหนชั้นก็เรียนอ่ะนะ =w=)
เพราะอะไร?: ก็.. จบไปไม่ตกงาน เงินเดือนดี หางานง่าย พ่อแม่อยากให้เรียน...
แล้วชอบในสิ่งที่อยากเรียนใช่มั้ย: เอิ่ม.. อัม ..งืมม.. ง่ะ (ชั้นก็ไม่รู้ว่าชั้นชอบอะไร อยากเรียนจริงรึเปล่า สอบที่ไหนได้ก็เรียนไปเถอะ...)
เด็กม.ปลายส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ ไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร และที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ ระบบการศึกษาของเรามันไม่ได้เรื่องน่ะสิ!!
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เราได้มีโอกาสไปร่วมงานเสวนาเกี่ยวกับการปฏิรูปด้านการศึกษา เป็นห้องประชุมขนาดใหญ่เลย มีทั้งนักเรียน และส่วนใหญ๋เป็นอาจารย์ มาเข้าร่วมฟังการเสวนาในครั้งนี้ เขามีใบให้เราเขียนแสดงความคิดเห็นด้วยว่า เราควรจะปรับปรุง ปฏิรูป และปฏิวัติการศึกษาอย่างไร.. เราก็คิดในใจ "หุหุ ดีเลย มีเรื่องให้เขียนเยอะ 555555".. แต่เราก็อยากรู้ว่า วิทยากรเขาจะพูดเกี่ยวกับระบบการศึกษาอย่างไรบ้าง.....
......เราก็นั่งฟังไปเรื่อยอย่างมีสมาธิ(หลับบ้างเป็นบางครั้ง#ไม่ใช่) ....เท่าที่ฟังก็คือ เห้ย ผู้ใหญ่ก็รู้ปัญหากันหมดเปลือกอยู๋แล้ว(รู้เยอะกว่านักเรียนอย่างเราอีกอ่ะ) งั้นแสดงว่า...การจัดงานในครั้งนี้มาเพื่อระดมความเห็นของ"อาจารย์"เป็นส่วนใหญ่สินะ...ไม่รอช้านั่งฟังต่อไป ก็มีอาจารย์หลายท่าน ขึ้นมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าแย่งไมค์กินกันไม่ลงเลยแต่ละคน! อยากถามเหมือนกันนะว่าอ.อัดอั้นตันใจอะไรขนาดน้าน 555555
เอาล่ะ เราก็ขอสรุปจากที่ฟังมาจากวิทยากร ความเห็นและข้อเสนอของอาจารย์บางท่านที่มีต่อการศึกษานะ อาจจะนำเสนอไม่ทุกประเด็น(เพราะจำไม่ได้หมดหรอกเยอะเกิน TT) ก็ขอดึงประเด็นสำคัญๆ มาให้ทุกคนได้อ่านก็แล้วกัน
>>ทำไมคนเก่งๆ ถึงไม่มาเป็นครู<<
มีเหตุผลมากมายหลายประการ ส่วนใหญ่เราก็รู้ๆกันอยู่ คือ จากสมัยก่อนที่ครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติ แต่ทำไมปัจจุบันพ่อแม่ถึงไม่อยากให้เป็นครูล่ะ??..........เป็นเรื่องน่าเสียใจนะ ที่ค่านิยมของพ่อแม่สมัยนี้ ไม่อยากให้ลูกมาเป็นครู เพราะคิดว่าเงินเดือนน้อย คิดว่าจบมาอนาคตไม่ไกล แล้วคนที่จบครูส่วนใหญ๋ก็คือคนที่ไม่รู้จะเลือกเรียนอะไร ก็เลือกเรียนครู แต่ก็มีบางคนที่อยากมาเป็นครูด้วยใจจริง(คนแบบนี้ขอชื่นชมมากๆ#ชาบูวว) ถ้าคนที่ไม่เก่ง มาเป็นครู แล้วนักเรียนจะเก่งได้ยังไง แทนที่เด็กจะสำนึกบุญคุณของครู ที่ครูบางคนเป็นตัวอย่างที่ดี ให้ความรู้มากมาย แต่พ่อแม่กลับสอนให้ลูกดูถูกอาชีพครู ไม่สนับสนุนให้เรียนครูซะงั้น =.=บางคนจบมา มาเป็นครู ก็สอนไม่ตรงสายที่จบมาอีก เช่น จบวิศวะมาสอบเลข จบพละมาสอนอังกฤษ จบสอนมัธยมแต่ไปสอนประถม แล้วมันจะได้เรื่องม้ายยยย
อ.ท่านหนึ่งบอกว่า แล้วถ้าเราต้องการคนเก่งๆมาเป็นครู เราก็ต้องให้ผลตอบแทนครูที่มากกว่าอาชีพหมอ ซึ่งถ้าผลตอบแทนสูง จะมีส่วนดึงดูดคนเก่งก็จะหันมาเรียนครูกันมากขึ้น เมื่อครูเก่งและดี ก็จะเป็นตัวอย่างแก่นักเรียน ถ้าเราจะแก้ปัญหา ก็ต้องแก้ที่ผู้ใหญ๋นี่ล่ะ
>>การเรียนของนักเรียน<<
การเรียนในห้องเรียนอย่างเดียวในปัจจุบัน ไม่สามารถทำให้นักเรียนสอบกลางภาค ปลายภาค วัดระดับ หรือสอบเอ็นทรานซ์ได้ เพราะอะไร? ก็เพราะครูไม่ได้สอนสิ่งที่เหมาะกับผู้เรียน นักเรียนก็มีหลายแบบ นักเรียนอาชีวะ ปวช ปวส นักเรียนสายสามัญ สายวิทย์ สายศิลป์... นักเรียนคนละกลุ่ม การเรียนรู้ก็คนละแนวทาง แต่ถ้าใช้อาจารย์สอนคนเดียวกัน เช่น อาจารย์สอนเลขคนนึง ซึ่งอ. สอนเด็กสายวิทย์เข้าใจ แต่ไม่สามารถสอนเด็กสายศิลป์ให้เข้าใจได้ นักเรียนแต่ละคนมีความสามารถที่แตกต่างกันไปนะ แต่อาจารย์ไม่เข้าใจธรรมชาติของนักเรียน และก็โทดนักเรียนว่าคนนี้คนนั้นไม่เก่ง.. เราคิดว่าทุกคนมีความเก่งอยู่ตัวทั้งนั้น และสามารถเรียนรู้ได้ด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป ก็เหมือนกับการที่ให้ปลาไปปีนต้นไม้นั่นแหละ ถ้าปลามันไม่รู้ว่ามันว่ายน้ำได้ และสุดท้ายมันก็คงคิดว่ามันเกิดมาโง่ที่ปืนต้นไม้ไม่ได้... พอเรียนไม่เข้าใจก็ต้องไปพึ่งกวดวิชา จากเลิกสามสี่โมง เป็นเลิกสองสามทุ่ม ถ้าครูดีจริง กวดวิชาคงไม่ขึ้นเป็นดอกเห็ดขนาดนี้
แบบนี้ ถ้าคนที่ไม่เก่งมากและไม่มีเงินเรียนกวดวิชานี่ก็ไม่มีวันได้เกิด ทั้งๆที่เขาสามารถไปได้ไกลกว่านี้ถ้าเขามีผู้ชี้นำที่ถูกทาง
นอกจากนี้ การศึกษาของไทย สอนให้นักเรียน"จำ" เพื่อ"ไปสอบ" และเมื่อสอบเสร็จ ก็คืนความรู้ให้อาจารย์ ซึ่งอ.ไม่ได้สอนให้นักเรียนเข้าใจในบทเรียน ไม่ได้สอนให้นักเรียนต่อยอดความรู้ของตนเอง บังคับเรียนวิชานู้นนี้นั้น พอเรียนเสร็จก็ทิ้ง แล้วก็ไม่ได้เอาไปใช้ประโยชน์จริงๆ พอเอ็นติดเข้าไป.. กรี๊ด ดีใจชั้นติดคณะ___แล้ว แต่สุดท้ายก็โดนรีไทล์ออกมา เรียนไม่ไหว ทำไมหรอ? ก็เพราะเรียนเองไม่เป็นไง มีแต่คนมาป้อนความรู้ให้ หาเองไม่ได้ ชีวิต .__.
และที่เด็กไทยยังไม่รู้จักตัวเองสักทีก็เพราะว่าพวกเราเอาแต่ เรียนๆๆๆ เรียนอยู่นั่นแหละ ถ้าไม่ใช่นักกิจกรรม ไม่เคยทำอย่างอื่นนอกจากเรียน ก็จะไม่รู้สักทีอ่ะว่าเราทำอะไรได้บ้าง แล้วชอบอะไร ถนัดอะไร จะได้ไปเรียนในสาขาที่ถูกต้อง ชีวิตมันไม่ได้หยุดอยู่แค่การเรียนนะโว้ยย
วิชาหลักสูตร จะเรียนวิชาอะไรกันไปเยอะแยะถ้าไม่ได้ใช้ จะเข้าบัญชี แต่สอบเข้าต้องใช้เลข....เมตริกซ์ อนุกรม เชิงซ้อน ฯลฯ ที่ไม่ได้ใช้ เป็นการประดับความรู้ที่รกหัวสมองเล่นๆดี -.- ถ้าเราสามารถเลือกเรียนเฉพาะวิชาที่อยากเรียนได้ก็คงดีเนอะ แล้วอีกอย่างน่าจะมีวิชาที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ แบบ..ชุมชนเป็นแบบไหนก็เรียนแบบนั้นอ่ะ เช่น ชุมชนบ้านใกล้ทะเล ก็สอนให้เด็กรู้จักปลา จับปลาเป็น ชุมชนเกษตร ก็มีสอนวิชาทำไร่ทำนา รู้จักควาย เป็นbuffalo expertไรงี้ไปเลย จะได้ช่วยชุมชนตรงนั้น ให้มีความเจริญในแบบของเขาได้ ไม่ต้องแห่กันเข้าเมือง แห่กันเรียนปริญญา สุดท้ายก็ต้องตกงาน แล้วไงอ่ะ นาก็ทำไม่เป็น ขายที่ไปแล้วด้วย เศร้ามั้ยล่ะ ทุกวันนี้ คนจบปริญญาตรี แต่ไปทำงานในสายที่ไม่ได้จบมา มีให้เห็นทั่วทั้งเมือง ไปให้ความสำคัญกับกระดาษใบนึง มากกว่าคำว่า อยากจะทำอะไร
การศึกษาก็เหมือนกับต้นไม้ใหญ่นะ เป็นสิ่งที่สำคัญรองจากครอบครัวเลย ถ้าเปรียบการศึกษาเป็นต้นไม้ ครอบครัวคงเป็นรากฐาน ถ้าต้นไม้มีแต่ราก ลำต้นเน่า แล้วจะมีใบ จะมีดอก จะมีผลออกมาให้ต่อยอดเป็นต้นไม้ต้นใหม่ได้อย่างไร การศึกษาที่ดี นำไปสู่ประเทศที่พัฒนา เมื่อประเทศพัฒนา ทุกๆอย่างก็จะดีตามมา
เราจะปฏิรูปการศึกษา...ต้องต่อด้วยคำว่า"อย่างจริงจัง"สักทีเถอะคะ ถึงแม้ว่าเราจะรณรงค์ ประกาศ เขียนบทความ หรือทำอะไรที่เกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษาไปกี่ครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนมันได้ เพราะเราไม่มีอำนาจใหญ่พอที่จะจัดการเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว แต่ก็มีความหวังเล็กๆ ที่จะฝากเรื่องเหล่านี้ให้ถึงผู้มีอำนาจที่จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ไม่อยากให้การศึกษาแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว สงสารคนรุ่นหลังมากถ้ายังไม่เปลี่ยนให้ดีกว่าเดิม
ที่จริงมีอีกหลายเรื่องนะ แต่ประเด็นหลักๆก็มีประมาณนี้แล..อยากฝากบทความนี้ให้อ่านกันเยอะๆนะ การศึกษาเป็นเรื่องใหญ๋ที่เราต้องช่วยก้น ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำอาชีพอะไร ไม่จำเป็นต้องเป็นอาจารย์ก็ได้ คุณก็สามารถมีบทบาท ช่วยเหลือในเรื่องการศึกษาได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็น เขียนหนังสือ อัดเสียง ทำคลิปวิดิโอ หรือวิทยากรเล่าเรื่องจากประสบการณ์ก็ยังได้ ประเทศเราจะได้กลับมามีหน้ามีตาที่ดีกับเขาสักที..
ขอจบแต่เพียงเท่านี้#
ฝากด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
การศึกษาไทยแบบนี้ ควรเปลี่ยนได้หรือยัง?
สมัยเป็นเด็กน้อย : หนูอยากเป็น หมอ ตำรวจ พยาบาล ทหาร นักร้อง นักแสดง ครู นักสืบ ฯลฯ ... ค่า/ครับ^0^
เมื่ออยู่ม.ปลาย : ก็.. อยากเป็น หมอ วิศวะ นักบัญชี ทนาย อัยการ (มั้ง)คะ/ครับ (เอาเป็นว่า ติดที่ไหนชั้นก็เรียนอ่ะนะ =w=)
เพราะอะไร?: ก็.. จบไปไม่ตกงาน เงินเดือนดี หางานง่าย พ่อแม่อยากให้เรียน...
แล้วชอบในสิ่งที่อยากเรียนใช่มั้ย: เอิ่ม.. อัม ..งืมม.. ง่ะ (ชั้นก็ไม่รู้ว่าชั้นชอบอะไร อยากเรียนจริงรึเปล่า สอบที่ไหนได้ก็เรียนไปเถอะ...)
เด็กม.ปลายส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ ไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร และที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ ระบบการศึกษาของเรามันไม่ได้เรื่องน่ะสิ!!
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เราได้มีโอกาสไปร่วมงานเสวนาเกี่ยวกับการปฏิรูปด้านการศึกษา เป็นห้องประชุมขนาดใหญ่เลย มีทั้งนักเรียน และส่วนใหญ๋เป็นอาจารย์ มาเข้าร่วมฟังการเสวนาในครั้งนี้ เขามีใบให้เราเขียนแสดงความคิดเห็นด้วยว่า เราควรจะปรับปรุง ปฏิรูป และปฏิวัติการศึกษาอย่างไร.. เราก็คิดในใจ "หุหุ ดีเลย มีเรื่องให้เขียนเยอะ 555555".. แต่เราก็อยากรู้ว่า วิทยากรเขาจะพูดเกี่ยวกับระบบการศึกษาอย่างไรบ้าง.....
......เราก็นั่งฟังไปเรื่อยอย่างมีสมาธิ(หลับบ้างเป็นบางครั้ง#ไม่ใช่) ....เท่าที่ฟังก็คือ เห้ย ผู้ใหญ่ก็รู้ปัญหากันหมดเปลือกอยู๋แล้ว(รู้เยอะกว่านักเรียนอย่างเราอีกอ่ะ) งั้นแสดงว่า...การจัดงานในครั้งนี้มาเพื่อระดมความเห็นของ"อาจารย์"เป็นส่วนใหญ่สินะ...ไม่รอช้านั่งฟังต่อไป ก็มีอาจารย์หลายท่าน ขึ้นมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าแย่งไมค์กินกันไม่ลงเลยแต่ละคน! อยากถามเหมือนกันนะว่าอ.อัดอั้นตันใจอะไรขนาดน้าน 555555
เอาล่ะ เราก็ขอสรุปจากที่ฟังมาจากวิทยากร ความเห็นและข้อเสนอของอาจารย์บางท่านที่มีต่อการศึกษานะ อาจจะนำเสนอไม่ทุกประเด็น(เพราะจำไม่ได้หมดหรอกเยอะเกิน TT) ก็ขอดึงประเด็นสำคัญๆ มาให้ทุกคนได้อ่านก็แล้วกัน
>>ทำไมคนเก่งๆ ถึงไม่มาเป็นครู<<
มีเหตุผลมากมายหลายประการ ส่วนใหญ่เราก็รู้ๆกันอยู่ คือ จากสมัยก่อนที่ครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติ แต่ทำไมปัจจุบันพ่อแม่ถึงไม่อยากให้เป็นครูล่ะ??..........เป็นเรื่องน่าเสียใจนะ ที่ค่านิยมของพ่อแม่สมัยนี้ ไม่อยากให้ลูกมาเป็นครู เพราะคิดว่าเงินเดือนน้อย คิดว่าจบมาอนาคตไม่ไกล แล้วคนที่จบครูส่วนใหญ๋ก็คือคนที่ไม่รู้จะเลือกเรียนอะไร ก็เลือกเรียนครู แต่ก็มีบางคนที่อยากมาเป็นครูด้วยใจจริง(คนแบบนี้ขอชื่นชมมากๆ#ชาบูวว) ถ้าคนที่ไม่เก่ง มาเป็นครู แล้วนักเรียนจะเก่งได้ยังไง แทนที่เด็กจะสำนึกบุญคุณของครู ที่ครูบางคนเป็นตัวอย่างที่ดี ให้ความรู้มากมาย แต่พ่อแม่กลับสอนให้ลูกดูถูกอาชีพครู ไม่สนับสนุนให้เรียนครูซะงั้น =.=บางคนจบมา มาเป็นครู ก็สอนไม่ตรงสายที่จบมาอีก เช่น จบวิศวะมาสอบเลข จบพละมาสอนอังกฤษ จบสอนมัธยมแต่ไปสอนประถม แล้วมันจะได้เรื่องม้ายยยย
อ.ท่านหนึ่งบอกว่า แล้วถ้าเราต้องการคนเก่งๆมาเป็นครู เราก็ต้องให้ผลตอบแทนครูที่มากกว่าอาชีพหมอ ซึ่งถ้าผลตอบแทนสูง จะมีส่วนดึงดูดคนเก่งก็จะหันมาเรียนครูกันมากขึ้น เมื่อครูเก่งและดี ก็จะเป็นตัวอย่างแก่นักเรียน ถ้าเราจะแก้ปัญหา ก็ต้องแก้ที่ผู้ใหญ๋นี่ล่ะ
>>การเรียนของนักเรียน<<
การเรียนในห้องเรียนอย่างเดียวในปัจจุบัน ไม่สามารถทำให้นักเรียนสอบกลางภาค ปลายภาค วัดระดับ หรือสอบเอ็นทรานซ์ได้ เพราะอะไร? ก็เพราะครูไม่ได้สอนสิ่งที่เหมาะกับผู้เรียน นักเรียนก็มีหลายแบบ นักเรียนอาชีวะ ปวช ปวส นักเรียนสายสามัญ สายวิทย์ สายศิลป์... นักเรียนคนละกลุ่ม การเรียนรู้ก็คนละแนวทาง แต่ถ้าใช้อาจารย์สอนคนเดียวกัน เช่น อาจารย์สอนเลขคนนึง ซึ่งอ. สอนเด็กสายวิทย์เข้าใจ แต่ไม่สามารถสอนเด็กสายศิลป์ให้เข้าใจได้ นักเรียนแต่ละคนมีความสามารถที่แตกต่างกันไปนะ แต่อาจารย์ไม่เข้าใจธรรมชาติของนักเรียน และก็โทดนักเรียนว่าคนนี้คนนั้นไม่เก่ง.. เราคิดว่าทุกคนมีความเก่งอยู่ตัวทั้งนั้น และสามารถเรียนรู้ได้ด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป ก็เหมือนกับการที่ให้ปลาไปปีนต้นไม้นั่นแหละ ถ้าปลามันไม่รู้ว่ามันว่ายน้ำได้ และสุดท้ายมันก็คงคิดว่ามันเกิดมาโง่ที่ปืนต้นไม้ไม่ได้... พอเรียนไม่เข้าใจก็ต้องไปพึ่งกวดวิชา จากเลิกสามสี่โมง เป็นเลิกสองสามทุ่ม ถ้าครูดีจริง กวดวิชาคงไม่ขึ้นเป็นดอกเห็ดขนาดนี้
แบบนี้ ถ้าคนที่ไม่เก่งมากและไม่มีเงินเรียนกวดวิชานี่ก็ไม่มีวันได้เกิด ทั้งๆที่เขาสามารถไปได้ไกลกว่านี้ถ้าเขามีผู้ชี้นำที่ถูกทาง
นอกจากนี้ การศึกษาของไทย สอนให้นักเรียน"จำ" เพื่อ"ไปสอบ" และเมื่อสอบเสร็จ ก็คืนความรู้ให้อาจารย์ ซึ่งอ.ไม่ได้สอนให้นักเรียนเข้าใจในบทเรียน ไม่ได้สอนให้นักเรียนต่อยอดความรู้ของตนเอง บังคับเรียนวิชานู้นนี้นั้น พอเรียนเสร็จก็ทิ้ง แล้วก็ไม่ได้เอาไปใช้ประโยชน์จริงๆ พอเอ็นติดเข้าไป.. กรี๊ด ดีใจชั้นติดคณะ___แล้ว แต่สุดท้ายก็โดนรีไทล์ออกมา เรียนไม่ไหว ทำไมหรอ? ก็เพราะเรียนเองไม่เป็นไง มีแต่คนมาป้อนความรู้ให้ หาเองไม่ได้ ชีวิต .__.
และที่เด็กไทยยังไม่รู้จักตัวเองสักทีก็เพราะว่าพวกเราเอาแต่ เรียนๆๆๆ เรียนอยู่นั่นแหละ ถ้าไม่ใช่นักกิจกรรม ไม่เคยทำอย่างอื่นนอกจากเรียน ก็จะไม่รู้สักทีอ่ะว่าเราทำอะไรได้บ้าง แล้วชอบอะไร ถนัดอะไร จะได้ไปเรียนในสาขาที่ถูกต้อง ชีวิตมันไม่ได้หยุดอยู่แค่การเรียนนะโว้ยย
วิชาหลักสูตร จะเรียนวิชาอะไรกันไปเยอะแยะถ้าไม่ได้ใช้ จะเข้าบัญชี แต่สอบเข้าต้องใช้เลข....เมตริกซ์ อนุกรม เชิงซ้อน ฯลฯ ที่ไม่ได้ใช้ เป็นการประดับความรู้ที่รกหัวสมองเล่นๆดี -.- ถ้าเราสามารถเลือกเรียนเฉพาะวิชาที่อยากเรียนได้ก็คงดีเนอะ แล้วอีกอย่างน่าจะมีวิชาที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ แบบ..ชุมชนเป็นแบบไหนก็เรียนแบบนั้นอ่ะ เช่น ชุมชนบ้านใกล้ทะเล ก็สอนให้เด็กรู้จักปลา จับปลาเป็น ชุมชนเกษตร ก็มีสอนวิชาทำไร่ทำนา รู้จักควาย เป็นbuffalo expertไรงี้ไปเลย จะได้ช่วยชุมชนตรงนั้น ให้มีความเจริญในแบบของเขาได้ ไม่ต้องแห่กันเข้าเมือง แห่กันเรียนปริญญา สุดท้ายก็ต้องตกงาน แล้วไงอ่ะ นาก็ทำไม่เป็น ขายที่ไปแล้วด้วย เศร้ามั้ยล่ะ ทุกวันนี้ คนจบปริญญาตรี แต่ไปทำงานในสายที่ไม่ได้จบมา มีให้เห็นทั่วทั้งเมือง ไปให้ความสำคัญกับกระดาษใบนึง มากกว่าคำว่า อยากจะทำอะไร
การศึกษาก็เหมือนกับต้นไม้ใหญ่นะ เป็นสิ่งที่สำคัญรองจากครอบครัวเลย ถ้าเปรียบการศึกษาเป็นต้นไม้ ครอบครัวคงเป็นรากฐาน ถ้าต้นไม้มีแต่ราก ลำต้นเน่า แล้วจะมีใบ จะมีดอก จะมีผลออกมาให้ต่อยอดเป็นต้นไม้ต้นใหม่ได้อย่างไร การศึกษาที่ดี นำไปสู่ประเทศที่พัฒนา เมื่อประเทศพัฒนา ทุกๆอย่างก็จะดีตามมา
เราจะปฏิรูปการศึกษา...ต้องต่อด้วยคำว่า"อย่างจริงจัง"สักทีเถอะคะ ถึงแม้ว่าเราจะรณรงค์ ประกาศ เขียนบทความ หรือทำอะไรที่เกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษาไปกี่ครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนมันได้ เพราะเราไม่มีอำนาจใหญ่พอที่จะจัดการเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว แต่ก็มีความหวังเล็กๆ ที่จะฝากเรื่องเหล่านี้ให้ถึงผู้มีอำนาจที่จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ไม่อยากให้การศึกษาแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว สงสารคนรุ่นหลังมากถ้ายังไม่เปลี่ยนให้ดีกว่าเดิม
ที่จริงมีอีกหลายเรื่องนะ แต่ประเด็นหลักๆก็มีประมาณนี้แล..อยากฝากบทความนี้ให้อ่านกันเยอะๆนะ การศึกษาเป็นเรื่องใหญ๋ที่เราต้องช่วยก้น ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำอาชีพอะไร ไม่จำเป็นต้องเป็นอาจารย์ก็ได้ คุณก็สามารถมีบทบาท ช่วยเหลือในเรื่องการศึกษาได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็น เขียนหนังสือ อัดเสียง ทำคลิปวิดิโอ หรือวิทยากรเล่าเรื่องจากประสบการณ์ก็ยังได้ ประเทศเราจะได้กลับมามีหน้ามีตาที่ดีกับเขาสักที..
ขอจบแต่เพียงเท่านี้#
ฝากด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ