พวกเราคนไทยมักพูดกันเป็นเสียงเดียวว่ามาญี่ปุ่นแล้วต้องเดินกันเยอะเหลือเกิน อีกทั้งคนญี่ปุ่นก็เดินแสนเร็ว
จขกท.ผู้อยู่ญี่ปุ่นมาร่วมเสี้ยวศตวรรตได้เห็นชีวิตประจำวัน ความเป็นอยู่ การเลี้ยงดูเด็กตลอดมา ได้เรียนรู้ซึมซาบกับพฤติกรรมการเดินของคนที่นี่
จนทำให้กลายเป็นคนเดินเก่งคนหนึ่งไปโดยปริยาย(และโดยจำเป็น) ในที่สุดก็เป็นคนชอบเดินไปซะด้วยเลย
ทำไมคนไทยกับคนญี่ปุ่นถึงมีพฤติกรรมการเดินต่างกันนั้นมีให้เล่าได้เยอะมาก...
แต่กระทู้นี้จะเขียนเกี่ยวกับกิจกรรมการเดินของคนในชุมชนญี่ปุ่นให้ได้เห็นภาพสักมุมมองหนึ่งค่ะ
ก่อนอื่นขอแนะนำก่อนว่าจขกท.อาศัยอยู่ในตัวเมืองเซนได บ้านอยู่ห่างจากสถานีเซนไดแค่ประมาณ 8 กม. เดินเอายังได้
และเมืองโมเดิร์นๆอย่างเซนไดนี้เชื่อไหมล่ะคะว่าธรรมชาติแวดล้อมสวยงามจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือในตัวเมืองใหญ่
ถ้าเทียบกับของไทย เซนไดก็มีฐานะเท่าๆกับอำเภอหนี่งของจังหวัดมิยะกิเท่านั้น ในอำเภอใหญ่ที่มีประชากรกว่าล้านคนนี้มีภูเขา มีทะเลสาบ มีป่า...แล้วก็มีหมี..
นี่เป็นวิวทางเดินถนนธรรมดาๆแถวบ้าน หน้ามหาวิทยาลัยMiyagi Gakuin University ระหว่างทางจากสถานีเซนไดไป Izumi Premium Outlet
ถนนเรียบไม่มีหลุมบ่อ ไม่มีสิ่งกีดขวาง สะอาดสะอ้าน ทางเดินทำไว้ให้ทั้งคนพิการและไม่พิการเดินได้อย่างปลอดภัยและสบายใจ
ทำให้การเดินไม่ใช่สิ่งลำบากยากเย็นของคนที่นี่ เป็นสิ่งหนึ่งที่คิดว่าทำให้คนญี่ปุ่นนิยมการเดิน
ทุกๆปีในช่วงฤดูใบไม้เปลียนสี ราวๆปลายเดือนตค.-กลางพย. หมู่บ้านที่จขกท.อยู่ก็จะมีการเดินด้วยกันของคนเป็นหมู่คณะ
เป็นการสร้างสัมพันธุ์และออกกำลังกายไปด้วย ความจริงกิจกรรมนี้ก็มีทั่วไปในญี่ปุนในนามที่เรียกกันว่า Aruke Aruke Taikai (Walk! Walk! Rally)
ก็เพราะช่วงนี้ (ตค.-พย.) ที่เซนไดอากาศกำลังเย็นสบาย ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี ฝนไม่ค่อยตก จึงมีกิจกรรมOutdoor กันเยอะ
หากใครมาเซนไดในวันสุดสัปดาห์ของช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนี้ มักจะได้เห็นคนเดินกันอย่างกระฉับกระเฉงกันเป็นหมู่คณะ
จขกท.ไปร่วมเดินกับเขาเหมือนกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9 พย.) พวกเรานัดเจอกันที่รร.ในหมู่บ้านเพื่อเดินไปในสวนป่าใกล้ๆด้วยกัน
ระยะทางเดินทั้งสิ้นสัก 3 กม.ได้ คนที่มาเดินเป็นผู้สูงอายุก็เยอะ เด็กๆก็ไม่น้อย นี่คือภาพในสวนป่าหลังหมู่บ้านค่ะ
ทะเลสาบก็มี
ลำน้ำสีมรกตในสวนป่า ภาพนี้โหลดยังไงก็ออกมาตะแคงอยู่เรื่อย กรุณาเอียงคอดูหน่อยนะคะ
สวนหลังหมู่บ้านนี้เมื่อสัก 10 กว่าปีที่ผ่านมาได้มีการบุกเบิกทำให้ส่วนหนึ่งเป็นลานกว้างสำหรับผู้คนมาตั้งเต๊นต์ ทำบาร์บีคิว หรือกิจกรรมกลางแจ้งกันค่ะ ทั้งๆที่เป็นสังคมทันสมัยและไฮเทคอย่างสุดๆ แต่การบำรุงรักษาธรรมชาติอยู่ใกล้ตัวเช่นนี้ เสริมสร้างปลูกฝังให้ชาวญี่ปุ่นรักและละเอียดอ่อนต่อธรรมชาติและฤดุกาลไปโดยจิตใต้สำนึก
พวกเราเดินมาถึงลานนี้ ก็มีอาสาสมัครกลุ่มหนึ่งที่มาถึงล่วงหน้าก่อนแล้ว ทำซุปอุ่นๆเตรียมไว้ แต่ละคนก็ถ้วยที่พกมาจากบ้านมาต่อคิวรับซุปอุ่นนี้กัน
และเอาข้าวปั้นและตะเกียบที่พกมาจากบ้านออกมาจากกระเป๋า รวมกลุ่มนั่งทานด้วยกัน
(ซึ่งในจดหมายเวียน ได้เขียนบอกล่วงหน้าก่อนแล้วว่า ให้ต่างคนต่างเอาถ้วย ตะเกียบและข้าวปั้นมากันเอง)
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ทานเสร็จก็ช่วยกันเก็บ แล้วมุ่งหน้าเดินกลับหมู่บ้านด้วยกันค่ะ
นี่แหละค่ะ การเดินเล่นด้วยกันของคนในหมู่บ้าน กิจกรรมที่ทำให้ได้เห็นวิธีการใช้เวลาวันสุดสัปดาห์แบบง่ายๆของคนในชุมชนญี่ปุ่น และทำให้เห็นว่าการเดินเยอะๆเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันคนญี่ปุ่นอย่างไร เด็กตัวเล็กตัวน้อยก็คุ้นเคยกับการเดินเป็นกิโลๆ จนเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดา
Walk ! Walk! in Sendai การเดินด้วยกันของผู้คนในชุมชนญี่ปุ่น
จขกท.ผู้อยู่ญี่ปุ่นมาร่วมเสี้ยวศตวรรตได้เห็นชีวิตประจำวัน ความเป็นอยู่ การเลี้ยงดูเด็กตลอดมา ได้เรียนรู้ซึมซาบกับพฤติกรรมการเดินของคนที่นี่
จนทำให้กลายเป็นคนเดินเก่งคนหนึ่งไปโดยปริยาย(และโดยจำเป็น) ในที่สุดก็เป็นคนชอบเดินไปซะด้วยเลย
ทำไมคนไทยกับคนญี่ปุ่นถึงมีพฤติกรรมการเดินต่างกันนั้นมีให้เล่าได้เยอะมาก...
แต่กระทู้นี้จะเขียนเกี่ยวกับกิจกรรมการเดินของคนในชุมชนญี่ปุ่นให้ได้เห็นภาพสักมุมมองหนึ่งค่ะ
ก่อนอื่นขอแนะนำก่อนว่าจขกท.อาศัยอยู่ในตัวเมืองเซนได บ้านอยู่ห่างจากสถานีเซนไดแค่ประมาณ 8 กม. เดินเอายังได้
และเมืองโมเดิร์นๆอย่างเซนไดนี้เชื่อไหมล่ะคะว่าธรรมชาติแวดล้อมสวยงามจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือในตัวเมืองใหญ่
ถ้าเทียบกับของไทย เซนไดก็มีฐานะเท่าๆกับอำเภอหนี่งของจังหวัดมิยะกิเท่านั้น ในอำเภอใหญ่ที่มีประชากรกว่าล้านคนนี้มีภูเขา มีทะเลสาบ มีป่า...แล้วก็มีหมี..
นี่เป็นวิวทางเดินถนนธรรมดาๆแถวบ้าน หน้ามหาวิทยาลัยMiyagi Gakuin University ระหว่างทางจากสถานีเซนไดไป Izumi Premium Outlet
ถนนเรียบไม่มีหลุมบ่อ ไม่มีสิ่งกีดขวาง สะอาดสะอ้าน ทางเดินทำไว้ให้ทั้งคนพิการและไม่พิการเดินได้อย่างปลอดภัยและสบายใจ
ทำให้การเดินไม่ใช่สิ่งลำบากยากเย็นของคนที่นี่ เป็นสิ่งหนึ่งที่คิดว่าทำให้คนญี่ปุ่นนิยมการเดิน
ทุกๆปีในช่วงฤดูใบไม้เปลียนสี ราวๆปลายเดือนตค.-กลางพย. หมู่บ้านที่จขกท.อยู่ก็จะมีการเดินด้วยกันของคนเป็นหมู่คณะ
เป็นการสร้างสัมพันธุ์และออกกำลังกายไปด้วย ความจริงกิจกรรมนี้ก็มีทั่วไปในญี่ปุนในนามที่เรียกกันว่า Aruke Aruke Taikai (Walk! Walk! Rally)
ก็เพราะช่วงนี้ (ตค.-พย.) ที่เซนไดอากาศกำลังเย็นสบาย ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี ฝนไม่ค่อยตก จึงมีกิจกรรมOutdoor กันเยอะ
หากใครมาเซนไดในวันสุดสัปดาห์ของช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนี้ มักจะได้เห็นคนเดินกันอย่างกระฉับกระเฉงกันเป็นหมู่คณะ
จขกท.ไปร่วมเดินกับเขาเหมือนกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9 พย.) พวกเรานัดเจอกันที่รร.ในหมู่บ้านเพื่อเดินไปในสวนป่าใกล้ๆด้วยกัน
ระยะทางเดินทั้งสิ้นสัก 3 กม.ได้ คนที่มาเดินเป็นผู้สูงอายุก็เยอะ เด็กๆก็ไม่น้อย นี่คือภาพในสวนป่าหลังหมู่บ้านค่ะ
ทะเลสาบก็มี
ลำน้ำสีมรกตในสวนป่า ภาพนี้โหลดยังไงก็ออกมาตะแคงอยู่เรื่อย กรุณาเอียงคอดูหน่อยนะคะ
สวนหลังหมู่บ้านนี้เมื่อสัก 10 กว่าปีที่ผ่านมาได้มีการบุกเบิกทำให้ส่วนหนึ่งเป็นลานกว้างสำหรับผู้คนมาตั้งเต๊นต์ ทำบาร์บีคิว หรือกิจกรรมกลางแจ้งกันค่ะ ทั้งๆที่เป็นสังคมทันสมัยและไฮเทคอย่างสุดๆ แต่การบำรุงรักษาธรรมชาติอยู่ใกล้ตัวเช่นนี้ เสริมสร้างปลูกฝังให้ชาวญี่ปุ่นรักและละเอียดอ่อนต่อธรรมชาติและฤดุกาลไปโดยจิตใต้สำนึก
พวกเราเดินมาถึงลานนี้ ก็มีอาสาสมัครกลุ่มหนึ่งที่มาถึงล่วงหน้าก่อนแล้ว ทำซุปอุ่นๆเตรียมไว้ แต่ละคนก็ถ้วยที่พกมาจากบ้านมาต่อคิวรับซุปอุ่นนี้กัน
และเอาข้าวปั้นและตะเกียบที่พกมาจากบ้านออกมาจากกระเป๋า รวมกลุ่มนั่งทานด้วยกัน
(ซึ่งในจดหมายเวียน ได้เขียนบอกล่วงหน้าก่อนแล้วว่า ให้ต่างคนต่างเอาถ้วย ตะเกียบและข้าวปั้นมากันเอง)
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ทานเสร็จก็ช่วยกันเก็บ แล้วมุ่งหน้าเดินกลับหมู่บ้านด้วยกันค่ะ
นี่แหละค่ะ การเดินเล่นด้วยกันของคนในหมู่บ้าน กิจกรรมที่ทำให้ได้เห็นวิธีการใช้เวลาวันสุดสัปดาห์แบบง่ายๆของคนในชุมชนญี่ปุ่น และทำให้เห็นว่าการเดินเยอะๆเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันคนญี่ปุ่นอย่างไร เด็กตัวเล็กตัวน้อยก็คุ้นเคยกับการเดินเป็นกิโลๆ จนเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดา