1.1 รายได้จากการขายและการให้บริการ
รายได้จากการขายและการให้บริการรวมสาหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2557 มีจานวน 240.76 ล้านบาท สูงกว่างวดก่อน (28.69 ล้านบาท) เป็นจานวนเงิน 212.08 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 739.18 มีสาเหตุหลัก ดังต่อไปนี้
บริษัท สยาม โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จากัด ซึ่งเป็นกิจการที่ควบคุมร่วมกัน ได้เริ่มจาหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เข้าระบบเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นจากปี 2556 อีก 8 แห่ง จากเดิม 2 แห่ง ส่งผลให้รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจานวน 212.08 ล้านบาท
1.2 ต้นทุนขายและการให้บริการ
ต้นทุนขายและการให้บริการรวมสาหรับไตรมาสที่ 3 มีจานวน 76.56 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน (17.24 ล้านบาท) เป็นจานวน 59.32 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 344.08 ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของจานวนโรงไฟฟ้าที่สร้างเสร็จและเริ่มจาหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของรายได้
ทั้งนี้ บริษัทมีอัตรากาไรขั้นต้นสาหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 เท่ากับร้อยละ 68 สูงกว่างวดเดียวกันของปี 2556 ที่เท่ากับร้อยละ 40 อันเป็นผลมาจากจานวนโรงไฟฟ้าที่เริ่มจาหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น
1.3 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
ค่าใช้จ่ายในการบริหารสาหรับไตรมาสที่ 3 มีจานวน 16.74 ล้านบาท ต่ากว่างวดเดียวกันของปีก่อน (31.50 ล้านบาท) เป็นจานวน 14.75 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.83 ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการลดลงของหนี้สงสัยจะสูญที่มีการตั้งในปี 2556 จานวน 12.14 ล้านบาท
1.4 ค่าใช้จ่ายทางการเงิน
ค่าใช้จ่ายทางการเงินสาหรับไตรมาสที่ 3 มีจานวน 42.48 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน (36.23 ล้านบาท) เป็นจานวน 6.26 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.28 ซึ่งมีสาเหตุหลักจากนโยบายและวิธีปฏิบัติทางบัญชีที่ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมมาเพื่อก่อสร้างสามารถบันทึกรวมเป็นต้นทุนโรงไฟฟ้าระหว่างก่อสร้างได้ ต่อมาเมื่อโรงไฟฟ้าดังกล่าวพร้อมใช้งาน จึงบันทึกดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายทางการเงินในงบกาไรขาดทุน โดยดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมาจากดอกเบี้ยของโครงการโรงไฟฟ้า PV ประเภท Solar Farm ที่เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ภายหลังไตรมาส 3 ปี 2556
1.5 กาไร (ขาดทุน) สุทธิสาหรับงวด
ผลประกอบการของกลุ่มบริษัทฯ ตามงบการเงินรวมสาหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 มีกาไรสุทธิ 111.50 ล้านบาท คิดเป็นกาไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.08 บาทต่อหุ้น เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2556 ซึ่งมีขาดทุนสุทธิ 516.85 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 0.51 บาทต่อหุ้น กาไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นจานวน 628.35 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 121.57
งบ TSE
1.1 รายได้จากการขายและการให้บริการ
รายได้จากการขายและการให้บริการรวมสาหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2557 มีจานวน 240.76 ล้านบาท สูงกว่างวดก่อน (28.69 ล้านบาท) เป็นจานวนเงิน 212.08 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 739.18 มีสาเหตุหลัก ดังต่อไปนี้
บริษัท สยาม โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จากัด ซึ่งเป็นกิจการที่ควบคุมร่วมกัน ได้เริ่มจาหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เข้าระบบเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นจากปี 2556 อีก 8 แห่ง จากเดิม 2 แห่ง ส่งผลให้รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจานวน 212.08 ล้านบาท
1.2 ต้นทุนขายและการให้บริการ
ต้นทุนขายและการให้บริการรวมสาหรับไตรมาสที่ 3 มีจานวน 76.56 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน (17.24 ล้านบาท) เป็นจานวน 59.32 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 344.08 ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของจานวนโรงไฟฟ้าที่สร้างเสร็จและเริ่มจาหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของรายได้
ทั้งนี้ บริษัทมีอัตรากาไรขั้นต้นสาหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 เท่ากับร้อยละ 68 สูงกว่างวดเดียวกันของปี 2556 ที่เท่ากับร้อยละ 40 อันเป็นผลมาจากจานวนโรงไฟฟ้าที่เริ่มจาหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น
1.3 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
ค่าใช้จ่ายในการบริหารสาหรับไตรมาสที่ 3 มีจานวน 16.74 ล้านบาท ต่ากว่างวดเดียวกันของปีก่อน (31.50 ล้านบาท) เป็นจานวน 14.75 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.83 ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการลดลงของหนี้สงสัยจะสูญที่มีการตั้งในปี 2556 จานวน 12.14 ล้านบาท
1.4 ค่าใช้จ่ายทางการเงิน
ค่าใช้จ่ายทางการเงินสาหรับไตรมาสที่ 3 มีจานวน 42.48 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน (36.23 ล้านบาท) เป็นจานวน 6.26 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.28 ซึ่งมีสาเหตุหลักจากนโยบายและวิธีปฏิบัติทางบัญชีที่ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมมาเพื่อก่อสร้างสามารถบันทึกรวมเป็นต้นทุนโรงไฟฟ้าระหว่างก่อสร้างได้ ต่อมาเมื่อโรงไฟฟ้าดังกล่าวพร้อมใช้งาน จึงบันทึกดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายทางการเงินในงบกาไรขาดทุน โดยดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมาจากดอกเบี้ยของโครงการโรงไฟฟ้า PV ประเภท Solar Farm ที่เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ภายหลังไตรมาส 3 ปี 2556
1.5 กาไร (ขาดทุน) สุทธิสาหรับงวด
ผลประกอบการของกลุ่มบริษัทฯ ตามงบการเงินรวมสาหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 มีกาไรสุทธิ 111.50 ล้านบาท คิดเป็นกาไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.08 บาทต่อหุ้น เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2556 ซึ่งมีขาดทุนสุทธิ 516.85 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 0.51 บาทต่อหุ้น กาไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นจานวน 628.35 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 121.57