เนื่องจากมีคนรีวิวน้อย และมีบางคนบอกว่าดีบ้างไม่ดีบ้าง ทั้งคนใช้จริงและไม่เคยลองขี่สักกิโล
วันนี้ผมจะเอามอไซค์คันแรกของผมมารีวิวเองกับตัวทุกจุดเท่าที่จะทำได้ครับ + ขั้นตอนออกรถครั้งแรกของผม
*หากข้อมูลอะไรผิดพลาด ขออภัยด้วยนะครับ*
..สถานที่..
ศูนย์ Keeway แยกแคราย
ศูนย์จะอยู่ตรงมุมของแยกเลยครับ
(มุมฝั่งที่จะกลับไปทางติวานนนะครับ หรือง่ายๆคือมาจากเดอะมอล์งามวงวาน ถึงแยกแครายแล้วเลี้ยวซ้ายก็เจอครับ)
...เอกสารทั่วไปเลยครับ..
สำเนาทะเบียนบ้าน
สำเนาบัตรประชาชน
สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองเงินเดือน
(กรณีนี้ผมไม่มีสลิปครับ เลยใช้หนังสือรับรองเงินเดือน)
เสตทเมนต์ย้อนหลัง 6 เดือน
(ในที่นี้เค้าให้ผมใช้แค่บุ๊คแบงค์อย่างเดียวพอ เอาไปให้เค้า เค้าก็ไปถ่ายเอกสารเองครับ)
เงินดาวน์ตามที่ร้านกำหนด
*คนที่ไม่มีสลิป ก็แค่เอาเงินเข้าธนาคารบ่อยๆครับ*
..ขั้นตอน..
หลังจากที่เชคเกอร์แจกแจงรายละเอียดค่ารถ เงินดาวน์เงินผ่อน ก็ให้ผมเซ็นเอกสาร ยื่นเอกสาร
เค้าก็จัดการถ่ายเอกสารแล้วส่งให้สำนักงานใหญ่ แล้วก็นั่งรอผลไม่เกิน 2 ชม.ครับ
ระหว่างนั้นจะมีเจ้าหน้าที่โทรมาหาเรา สอบถามประวัติ ว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ทำงานที่ไหนยังไง มีภาระ หรือค้ำใครบ้างมั้ย?
ของผมมีภาระแค่ค่าหออย่างเดียวครับ (เงินเดือน 17,000)
..ค่าดาวน์+ผ่อน..
ผมดาวน์ไป 13+ กว่าๆได้ รวมทะเบียน พรบ. ค่าประกันเบ็ดเสร็จก็ 17+ กว่าๆ ผ่อนเดือนละ 3,453 18เดือนครับ
แต่จะจ่ายเกินก็ได้ เค้าบอกว่า "มันจะลดต้นนะ แต่ไม่ลดดอก”
หลังจากเสร็จเจ้าของร้านก็จะเอารถออกมาเทส บิดเต็มสปีดและเบรกจนถนนเป็นรอยยางเพื่อดูระบบเบรก
จากนั้นก็จะให้เราไปดูแฮนด์ว่าระดับไหนโอเค ก็ปรับได้จนพอใจครับเอาตามที่ถนัด แล้วก็แถมหมวก 1 ใบเสร็จก็กลับบ้านครับ
...ประสบการณ์ขี่มอไซค์มีครัทครั้งแรก...
ผมเชื่อว่าเป็นทุกคนครับ ที่แรกๆขี่แล้วจะกระตุกบ้าง ดับบ้าง ออกตัวแรงบ้าง
ผมนี่ขี่แรกๆเสียงครัทเสียงโซ่ตีกันดังแกรกๆๆๆๆๆ จนพักหลังพอเริ่มชินแล้วก็จับจังหวะถูก รู้ระยะปล่อย บิด ตอนนี้ขี่สบายแล้วครับ
เริ่มต้นที่ตัวรถเต็มๆก่อนดีกว่า
โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่ารถคันนี้เน้นเรื่องการขี่เรื่อยๆครับ
สบายๆไม่รีบ นั่งแล้วไม่เมื่อยเท่าไหร่ คล่องตัวดี เวลารถติดยังพอแทรกได้บ้าง คิดว่าระยะแฮนด์จะกว้างกว่ารถตลาดทั่วไปเล็กน้อยครับ แรกๆที่ยังไม่คุ้นมือก็จะกะระยะช้าหน่อย
หลังๆพอคล่องตัวแล้วแทรกได้สบายครับ นอกจากบางทีต้องจอดและหลบให้คันอื่นไปก่อน เนื่องจากแทรกไม่ได้ก็มีครับ
...มาเริ่มกันที่ข้อมูลพื้นๆก่อน...
ผมสูงราวๆ 170 ครับ ร่างกายไม่ผอมไม่อ้วนเกินไป
ระดับความสูงของรถจะต่ำกว่ารถตลาดทั่วๆไปนิดหน่อยครับ (Fino Wave ฯลฯ)
ยืนได้เต็มเท้า
(จากเบาะถึงแฮนด์)
ระยะการนั่งระหว่างเบาะกับแฮนไม่ตึงเกินไปครับ แต่ถ้าเมื่อยก็มีพื้นที่เหลือให้ขยับตูดถอยไปอีกนิด
เวลาขี่แขนจะโก่งเล็กน้อย เวลาขี่เร็วๆจะต้านลม ต้องประครองรถให้ดีๆ (กรณีที่ยังไม่มีชิวกันลม)
เวลาที่ลมปะทะแรงๆและคิดว่าจะคุมไม่อยู่ต้องลดความเร็วแล้วหดแขนนิดนึงครับ
เพราะตัวเราเวลาจับแฮนด์เหมือนร่มดีๆนี่เอง ถ้าจับไม่อยู่เสียหลักล้มได้ครับ
ข้อเสีย : ระยะการกดปุ่มๆต่างๆค่อนข้างลำบาก เพราะปลอกแฮนด์ยาวเกิน
ต้องเอื้อมบ่อยๆ นอกจากจะกระเทิบๆเข้ามาต้นปลอก แต่ก็กำครัทเมื่อยนิดนึง (หรือผมนิ้วสั้นก็ไม่แน่ใจ)
(ปุ่มต่างๆของแฮนด์)
แฮนด์ซ้าย : แตร ไฟสูงต่ำ ไฟแล้วครับ
แฮนด์ขวา : สวิทซ์On/off ปุ่มสตาร์ท ไฟเลี้ยว
(ระยะที่พักเท้า)
วางได้พอดีขาครับ บางคนบอกว่า “มันใกล้เกินไป เข้าเกียร์ลำบาก เมื่อยขา”
อันนั้นผมว่าคงจะสูงกว่าผมแน่นอน (หรือแล้วแต่คนก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ)
โดยส่วนตัวผมก็ขี่สบายๆครับไม่เมื่อยเท่าไหร่
(ไฟเลี้ยว)
ไฟเลี้ยงแรกๆผมก็ค่อนข้างงงและอยากถามคนผลิตว่า “เมิงจะผลิตให้มันยุ่งยากทำไมฟวะ!!!”
แต่พอใช้ไปสักพักก็ชินครับ เคยเจอคอมเม้นนึงว่า “กดเปิดไฟ 1 ครั้ง กดปิด 2 ครั้ง” อันนี้จะเป็นกรณีที่ว่า
เวลาเปิดไฟเลี้ยวกระพริบไม่กี่ทีแล้วกดปิดมันจะไม่ปิดทันทีครับ ต้องกดอีกครั้ง
เหมือนรถคนนี้สร้างไฟเลี้ยวขึ้นมาเพื่อให้เราใช้เวลาในการเปิดไฟเลี้ยวให้นานขึ้นเพื่อความปลอดภัย(มั้ง)
จะไม่เหมือนทั่วไปที่เปิดแล้วเลี้ยวแล้วปิดเลย วิธีใช้ก็คือแค่กดเปิด 1 ครั้ง
ให้มันกระพริบสักแปบประมาณ 4-5 ทีแล้วกดปิด 1 ครั้งก็ได้แล้วครับ
(รูปหน้าปัดไมล์)
ข้อเสียอย่างนึงที่เชื่อมโยงกับไฟเลี้ยวคือ เวลาที่ขี่ในเวลาที่แดดออกจัดๆจะมองไม่ค่อยเห็น
ว่าเปิด-ปิด ไฟเลี้ยวรึยัง ผมเลยต้องชำเรืองมองบ่อยๆ มันจะมีเขียวๆออกมาให้เห็นนิดนึง
ผมออกรถมาเมื่อวันที่ 18 เดือนที่แล้ว ตอนนี้ก็เดือนกว่าๆใช้มา 1000 กว่าโลแล้ว เครื่องยังโอเคไม่มีปัญหาอะไรมากครับ
(ยังคงงงๆว่าไอ้ตัวนับไมล์ด้านล่างคืออะไร แต่เท่าที่อ่านมาเหมือนจะเป็นไมล์วัดระยะทางสั้นๆ
ปรับเปลี่ยนได้ ผมก็ไม่กล้าบิดเปลี่ยนมัน)
(แตร)
เสียงแตรดังดีครับ เสียงจะคล้ายแตรรถบรรทุกกึ่งแตรพวกเวฟ
ฟีโน่ (ง่ายๆคือเสียงเหมือนจะแตก แต่ไม่ใช่ครับ ผมยังชอบเสียงแตรมันเลยจริงๆ)
(เกียร์)
ข้อเสียหนักๆเลยเข้าเกียร์ว่างยากครับ จะเข้าได้ก็ต่อเมื่อเวลาลดเกียร์ขณะที่รถยังวิ่งอยู่
หรือดับเครื่องตอนจอดจะเข้าง่ายขึ้นมาหน่อย
ถ้าเวลารถติดนานๆก็ดับเครื่องได้ครับ จะได้ไม่เมื่อยมือบีบครัทตลอด
(เบรก)
เบรกโอเคครับ แต่อาจใช้ระยะการเบรกนิดนึงแต่รวมๆถือว่าหนึบครับ
(รูปถังน้ำมัน)
สีตัวรถจะด่างง่าย แต่ก็ขึ้นอยู่ที่การดูแลครับ (สังเกตุดีๆจะเห็นความด่าง)
ผมขี่ไปทำงานทุกวัน ตากแดดตากฝนก็เป็นธรรมดาที่สีจะซีดเร็ว
ทุกวันนี้ยังไม่ได้ล้าง ฝนตกทุกวันให้ฝนล้างไปก่อนไม่อยากแย่งหน้าที่
...ความเร็ว...
ความเร็วของรถเต็มที่ 100Km ครับ เครื่องไม่ค่อยสั่น
อันนี้ผมต้องบอกก่อนว่าถ้าคิดจะแข่งกับรถบิ๊กไบค์ เลิกคิดเลยครับ การออกตัวเร็วนิดหน่อ แต่ก็แรงปลายครับ
บอกตรงๆว่ารถคันนี้เน้นขี่เรื่อยๆครับ ไม่เน้นเร็ว เก็บบรรยากาศครับ ไม่รีบ
(คนชอบบ่นเยอะแยะเรื่องความเร็ว แบบนี้ไปซื้อบิ๊กไบค์น่าจะตอบโจทย์ได้มากกว่า)
...น้ำมัน...
เติมเต็มถังประมาณ 400+ ครับ ผมเติมเต็มถังขี่ไปทำงาน 50 กิโลไปกลับทุกวัน
(จากลาดพร้าว87 ไปสุพรีมบางกระบือ ใช้เส้นเกษตรนวมิน-ประชาชื่น-บางซื่อ)
เว้นวันหยุดวันอาทิตย์บางทีก็ไม่ได้ขี่ไปไหน ความเร็วในการขี่ไม่เกิน 80Km
ใช้ได้ประมาณอาทิตย์กว่าๆ ถ้าตกเป็นเดือนค่าน้ำมันก็ไม่เกิน 1,200 ครับ
ถามว่ากินน้ำมันมั้ยก็ไม่เท่าไหร่ไม่ถึงกับลดฮวบฮาบ
..ตีวงเลี้ยว..
ค่อนข้างกว้างๆ ประมาณ 45 องศา ถ้าจะแทรกระหว่างคันตรงไหนต้องดูความกว้างดีๆ
เพราะรถค่อนข้างยาว เวลาหาที่จอดอย่างในห้างที่ต้องเข้าไปในนอกคอก
หรือที่แคบๆอย่าหวังครับ เข้าไปหาที่จอดไม่ได้ไม่พอ จะเลี้ยวลำบากด้วยครับ
เพราะงั้นควรจอดนอกคอกหรือมั่นใจว่าที่จอดนั้นกว้างพอสำหรับรถเราจริงๆเท่านั้น
..ความนุ่มของรถ..
ตกหลุมไม่ค่อยกระเทือนครับ โช๊คนิ่ม แฟนนั่งยังบอกว่ารู้สึกสบาย
กระแทกลูกระนาด หลุมเนิน ก็ไม่สะเทือนถึงหลังเท่าไหร่
(คนที่เป็นหมอนรองกระดูกอย่างผมไม่ต้องกังวลครับ รถนุ่มรับกระดูกสันหลังดีครับ)
..ขี่ตากฝน..
ยังโอเคครับ ล่าสุดผมขี่ฝ่าพายุรถไม่สั่นไม่เป๋ เบรกยังคงหนึบเช่นเดิม คงเพราะยางด้วยแหล่ะครับ
..อะไหล่..
บางชิ้นส่วนเทียบกับยี่ห้ออื่นได้ครับ แต่ผมว่าเข้าศูนย์จะดีกว่าเพราะไม่ไว้ใจช่างทั่วไปครับ
เกรงว่าจะทำอะไรเสียหายแล้วมันจะหนัก อะไหล่จากศูนย์ไม่ค่อยแพง
...ความสว่างของไฟ...
ขี่ตอนกลางคืนมองเห็นชัดครับ แต่ไฟจะไม่ได้แผ่กระจายเป็นวงกว้าง จะโฟกัสจุดเดียวไกลๆมากกว่า
(ไม่ได้ถ่ายตอนกลางคืนให้ ไว้จะมาลงใหม่)
...รูปเพิ่มเติม...
รูปนี้เป็นสายไฟตรงแผงคอครับ พันยั้ยเยี้ยไปหมด กลัวๆเหมือนกันว่าถ้ามีโจรมาตัดสายต่อไฟคงเสร็จมันแน่ๆ
ข้อเสียทั้งหมด
- สนิมกินง่ายครับ เรื่องธรรมดาอยู่ที่ดูแลรักษา แต่ก็ไม่ได้ขึ้นจนหน้าเกลียดครับ
- โซ่หย่อนง่าย ต้องตั้งโซ่บ่อยๆครับ ตอนนี้ผมยังไม่ได้ตั้งกะว่าจะไปตั้งตอนเช็คระยะครบ 1000
- เร่งแรงๆ ขับเร็วๆจะมีเสียงจากแฟริ่งอยู่บ้างแต่ไม่ได้ดังครับ แค่สั่นๆธรรมดา
- มีบางครั้งขี่ จอด เครื่องดับเอง (ช่วงที่ไม่ได้เบิ้ลเครื่อง) แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ
ก็แค่บีบครัทแล้วกดปุ่มสตาร์ทมือก็บิดต่อได้เลยครับ ของผมนี่บางทีช่วงเข้าโค้งบีบคลัทไว้ไม่ได้เบิ้ลเครื่อง
รถดับเฉ๊ย! แต่ก็สตาร์ทแล้วไปต่อไม่ซีเรียสครับ (คงเพราะผมก็ไม่ได้เบิ้ลเลี้ยงเกียร์ด้วยแหล่ะมั้งครับ)
...สรุปโดยรวม...
รถนี้ถือว่าดีพอสมควรครับ เหมาะสมราคาดี ทางฝั่งยุโรปใช้กันเยอะแยะ ผมยืนยันว่าไม่ใช่รถจีนกระโหลกกระลาแน่นอน
สำหรับคนที่อยากมีไว้เท่ๆผมแนะนำคันนี้ครับ จอดติดไฟแดงคนมองกันเยอะแยะ แต่ถ้าขี่เอาความเร็วผมไม่แนะนำคันนี้นครับ
เคยโดนสบประมาทกลางถนนเหมือนกันครับว่า “รถก็เท่ ขี่โคตรช้า” ผมบอกตรงๆ ผมไม่รีบครับ ผมออกรถมาเพื่อ
"แข่งกับตัวเอง ผมไม่ได้แข่งกับคนอื่น"
ใครรีบก่อนเชิญแซงและซิ่งไปเลยครับผมหลบให้ พอวันนึงผมลองกลับมาขี่เวฟของแฟนรู้สึกขี่ไม่คล่องไปเลยครับ 5555
แฟนยังบอกเลยว่า “อะไรจะขนาดนั้น” แต่เอาจริงๆครับ มันคนละเรื่องกันเลยเหมือนเราถีบจักรยานแม่บ้านจนชิน
แล้ววันนึงลองมาขี่เสือหมอบมันก็ไม่ใช่ง่ายๆนะครับ เข้าโค้งทียังกลัวจะล้มเลยคงเพราะแบกน้ำหนักรถจนชิน
พอมาค่อมอะไรเบาๆเลยรู้สึกโครงๆไปเลย 5555
ข้อแนะนำ
ทางร้านบอกว่าไม่จำเป็นต้องใส่กันล้ม เพราะที่พักเท้ากับแฮนด์จะค้ำไว้อยู่ ติดไว้ก็เปลืองเปล่าๆแถมยังเกะกะกว่าเดิม
(ทดลองตะแคงรถเองแล้วกับตัว)
ปล1. ย้ำอีกครั้งว่า “รถคันนี้เน้นขี่กินบรรยากาศครับ”
ปล2. คำว่า “รถตลาด” ผมไม่ได้ว่ามันไม่ดีครับ ผมแค่กระชับประโยคเฉยๆจะได้ไม่ต้องมานั่งพิมพ์ เวฟ ฟีโน่ สกู๊ปปี้ (นั่นไง! พิมไปแล้ว)
กลัวคนจะเข้าใจความหมายผมผิด ถึงยังไงรถแต่ละรุ่นก็ดีคนละแบบครับ
ปล3. ผมนับถือ Phantom และช้อปเปอร์ ครุยเซอร์ ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อครับ เพราะรถเหล่านั้นจุดประกายให้ผมชอบรถแบบครุยเซอร์
เวลาที่ผมเห็นตามท้องถนนผมยังนับถือว่าเป็นรุ่นเก๋าและเป็นรุ่นพี่เสมอ
ปล4. ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับรถยี่ห้อนี้ครับ เห็นว่าใช้ดีไม่ดีก็บอกต่อเท่านั้นครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ มีอะไรติแนะนำได้ครับ
อีกไม่นานผมจะเอารถไปเทสระยะไกล ถ้าเป็นยังไงต่อผมจะเอามาลงให้ครับ เผื่อจะมีใครสนใจ
[CR] ++ รีวิวเล็กๆ KEEWAY SUPERLIGHT 200 มอไซค์คันแรกในชีวิตและขั้นตอนการออกรถ (มีรูป) ละเอียด++
วันนี้ผมจะเอามอไซค์คันแรกของผมมารีวิวเองกับตัวทุกจุดเท่าที่จะทำได้ครับ + ขั้นตอนออกรถครั้งแรกของผม
*หากข้อมูลอะไรผิดพลาด ขออภัยด้วยนะครับ*
..สถานที่..
ศูนย์ Keeway แยกแคราย
ศูนย์จะอยู่ตรงมุมของแยกเลยครับ
(มุมฝั่งที่จะกลับไปทางติวานนนะครับ หรือง่ายๆคือมาจากเดอะมอล์งามวงวาน ถึงแยกแครายแล้วเลี้ยวซ้ายก็เจอครับ)
...เอกสารทั่วไปเลยครับ..
สำเนาทะเบียนบ้าน
สำเนาบัตรประชาชน
สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองเงินเดือน
(กรณีนี้ผมไม่มีสลิปครับ เลยใช้หนังสือรับรองเงินเดือน)
เสตทเมนต์ย้อนหลัง 6 เดือน
(ในที่นี้เค้าให้ผมใช้แค่บุ๊คแบงค์อย่างเดียวพอ เอาไปให้เค้า เค้าก็ไปถ่ายเอกสารเองครับ)
เงินดาวน์ตามที่ร้านกำหนด
*คนที่ไม่มีสลิป ก็แค่เอาเงินเข้าธนาคารบ่อยๆครับ*
..ขั้นตอน..
หลังจากที่เชคเกอร์แจกแจงรายละเอียดค่ารถ เงินดาวน์เงินผ่อน ก็ให้ผมเซ็นเอกสาร ยื่นเอกสาร
เค้าก็จัดการถ่ายเอกสารแล้วส่งให้สำนักงานใหญ่ แล้วก็นั่งรอผลไม่เกิน 2 ชม.ครับ
ระหว่างนั้นจะมีเจ้าหน้าที่โทรมาหาเรา สอบถามประวัติ ว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ทำงานที่ไหนยังไง มีภาระ หรือค้ำใครบ้างมั้ย?
ของผมมีภาระแค่ค่าหออย่างเดียวครับ (เงินเดือน 17,000)
..ค่าดาวน์+ผ่อน..
ผมดาวน์ไป 13+ กว่าๆได้ รวมทะเบียน พรบ. ค่าประกันเบ็ดเสร็จก็ 17+ กว่าๆ ผ่อนเดือนละ 3,453 18เดือนครับ
แต่จะจ่ายเกินก็ได้ เค้าบอกว่า "มันจะลดต้นนะ แต่ไม่ลดดอก”
หลังจากเสร็จเจ้าของร้านก็จะเอารถออกมาเทส บิดเต็มสปีดและเบรกจนถนนเป็นรอยยางเพื่อดูระบบเบรก
จากนั้นก็จะให้เราไปดูแฮนด์ว่าระดับไหนโอเค ก็ปรับได้จนพอใจครับเอาตามที่ถนัด แล้วก็แถมหมวก 1 ใบเสร็จก็กลับบ้านครับ
...ประสบการณ์ขี่มอไซค์มีครัทครั้งแรก...
ผมเชื่อว่าเป็นทุกคนครับ ที่แรกๆขี่แล้วจะกระตุกบ้าง ดับบ้าง ออกตัวแรงบ้าง
ผมนี่ขี่แรกๆเสียงครัทเสียงโซ่ตีกันดังแกรกๆๆๆๆๆ จนพักหลังพอเริ่มชินแล้วก็จับจังหวะถูก รู้ระยะปล่อย บิด ตอนนี้ขี่สบายแล้วครับ
เริ่มต้นที่ตัวรถเต็มๆก่อนดีกว่า
โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่ารถคันนี้เน้นเรื่องการขี่เรื่อยๆครับ
สบายๆไม่รีบ นั่งแล้วไม่เมื่อยเท่าไหร่ คล่องตัวดี เวลารถติดยังพอแทรกได้บ้าง คิดว่าระยะแฮนด์จะกว้างกว่ารถตลาดทั่วไปเล็กน้อยครับ แรกๆที่ยังไม่คุ้นมือก็จะกะระยะช้าหน่อย
หลังๆพอคล่องตัวแล้วแทรกได้สบายครับ นอกจากบางทีต้องจอดและหลบให้คันอื่นไปก่อน เนื่องจากแทรกไม่ได้ก็มีครับ
...มาเริ่มกันที่ข้อมูลพื้นๆก่อน...
ผมสูงราวๆ 170 ครับ ร่างกายไม่ผอมไม่อ้วนเกินไป
ระดับความสูงของรถจะต่ำกว่ารถตลาดทั่วๆไปนิดหน่อยครับ (Fino Wave ฯลฯ)
ยืนได้เต็มเท้า
(จากเบาะถึงแฮนด์)
ระยะการนั่งระหว่างเบาะกับแฮนไม่ตึงเกินไปครับ แต่ถ้าเมื่อยก็มีพื้นที่เหลือให้ขยับตูดถอยไปอีกนิด
เวลาขี่แขนจะโก่งเล็กน้อย เวลาขี่เร็วๆจะต้านลม ต้องประครองรถให้ดีๆ (กรณีที่ยังไม่มีชิวกันลม)
เวลาที่ลมปะทะแรงๆและคิดว่าจะคุมไม่อยู่ต้องลดความเร็วแล้วหดแขนนิดนึงครับ
เพราะตัวเราเวลาจับแฮนด์เหมือนร่มดีๆนี่เอง ถ้าจับไม่อยู่เสียหลักล้มได้ครับ
ข้อเสีย : ระยะการกดปุ่มๆต่างๆค่อนข้างลำบาก เพราะปลอกแฮนด์ยาวเกิน
ต้องเอื้อมบ่อยๆ นอกจากจะกระเทิบๆเข้ามาต้นปลอก แต่ก็กำครัทเมื่อยนิดนึง (หรือผมนิ้วสั้นก็ไม่แน่ใจ)
(ปุ่มต่างๆของแฮนด์)
แฮนด์ซ้าย : แตร ไฟสูงต่ำ ไฟแล้วครับ
แฮนด์ขวา : สวิทซ์On/off ปุ่มสตาร์ท ไฟเลี้ยว
(ระยะที่พักเท้า)
วางได้พอดีขาครับ บางคนบอกว่า “มันใกล้เกินไป เข้าเกียร์ลำบาก เมื่อยขา”
อันนั้นผมว่าคงจะสูงกว่าผมแน่นอน (หรือแล้วแต่คนก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ)
โดยส่วนตัวผมก็ขี่สบายๆครับไม่เมื่อยเท่าไหร่
(ไฟเลี้ยว)
ไฟเลี้ยงแรกๆผมก็ค่อนข้างงงและอยากถามคนผลิตว่า “เมิงจะผลิตให้มันยุ่งยากทำไมฟวะ!!!”
แต่พอใช้ไปสักพักก็ชินครับ เคยเจอคอมเม้นนึงว่า “กดเปิดไฟ 1 ครั้ง กดปิด 2 ครั้ง” อันนี้จะเป็นกรณีที่ว่า
เวลาเปิดไฟเลี้ยวกระพริบไม่กี่ทีแล้วกดปิดมันจะไม่ปิดทันทีครับ ต้องกดอีกครั้ง
เหมือนรถคนนี้สร้างไฟเลี้ยวขึ้นมาเพื่อให้เราใช้เวลาในการเปิดไฟเลี้ยวให้นานขึ้นเพื่อความปลอดภัย(มั้ง)
จะไม่เหมือนทั่วไปที่เปิดแล้วเลี้ยวแล้วปิดเลย วิธีใช้ก็คือแค่กดเปิด 1 ครั้ง
ให้มันกระพริบสักแปบประมาณ 4-5 ทีแล้วกดปิด 1 ครั้งก็ได้แล้วครับ
(รูปหน้าปัดไมล์)
ข้อเสียอย่างนึงที่เชื่อมโยงกับไฟเลี้ยวคือ เวลาที่ขี่ในเวลาที่แดดออกจัดๆจะมองไม่ค่อยเห็น
ว่าเปิด-ปิด ไฟเลี้ยวรึยัง ผมเลยต้องชำเรืองมองบ่อยๆ มันจะมีเขียวๆออกมาให้เห็นนิดนึง
ผมออกรถมาเมื่อวันที่ 18 เดือนที่แล้ว ตอนนี้ก็เดือนกว่าๆใช้มา 1000 กว่าโลแล้ว เครื่องยังโอเคไม่มีปัญหาอะไรมากครับ
(ยังคงงงๆว่าไอ้ตัวนับไมล์ด้านล่างคืออะไร แต่เท่าที่อ่านมาเหมือนจะเป็นไมล์วัดระยะทางสั้นๆ
ปรับเปลี่ยนได้ ผมก็ไม่กล้าบิดเปลี่ยนมัน)
(แตร)
เสียงแตรดังดีครับ เสียงจะคล้ายแตรรถบรรทุกกึ่งแตรพวกเวฟ
ฟีโน่ (ง่ายๆคือเสียงเหมือนจะแตก แต่ไม่ใช่ครับ ผมยังชอบเสียงแตรมันเลยจริงๆ)
(เกียร์)
ข้อเสียหนักๆเลยเข้าเกียร์ว่างยากครับ จะเข้าได้ก็ต่อเมื่อเวลาลดเกียร์ขณะที่รถยังวิ่งอยู่
หรือดับเครื่องตอนจอดจะเข้าง่ายขึ้นมาหน่อย
ถ้าเวลารถติดนานๆก็ดับเครื่องได้ครับ จะได้ไม่เมื่อยมือบีบครัทตลอด
(เบรก)
เบรกโอเคครับ แต่อาจใช้ระยะการเบรกนิดนึงแต่รวมๆถือว่าหนึบครับ
(รูปถังน้ำมัน)
สีตัวรถจะด่างง่าย แต่ก็ขึ้นอยู่ที่การดูแลครับ (สังเกตุดีๆจะเห็นความด่าง)
ผมขี่ไปทำงานทุกวัน ตากแดดตากฝนก็เป็นธรรมดาที่สีจะซีดเร็ว
ทุกวันนี้ยังไม่ได้ล้าง ฝนตกทุกวันให้ฝนล้างไปก่อนไม่อยากแย่งหน้าที่
...ความเร็ว...
ความเร็วของรถเต็มที่ 100Km ครับ เครื่องไม่ค่อยสั่น
อันนี้ผมต้องบอกก่อนว่าถ้าคิดจะแข่งกับรถบิ๊กไบค์ เลิกคิดเลยครับ การออกตัวเร็วนิดหน่อ แต่ก็แรงปลายครับ
บอกตรงๆว่ารถคันนี้เน้นขี่เรื่อยๆครับ ไม่เน้นเร็ว เก็บบรรยากาศครับ ไม่รีบ
(คนชอบบ่นเยอะแยะเรื่องความเร็ว แบบนี้ไปซื้อบิ๊กไบค์น่าจะตอบโจทย์ได้มากกว่า)
...น้ำมัน...
เติมเต็มถังประมาณ 400+ ครับ ผมเติมเต็มถังขี่ไปทำงาน 50 กิโลไปกลับทุกวัน
(จากลาดพร้าว87 ไปสุพรีมบางกระบือ ใช้เส้นเกษตรนวมิน-ประชาชื่น-บางซื่อ)
เว้นวันหยุดวันอาทิตย์บางทีก็ไม่ได้ขี่ไปไหน ความเร็วในการขี่ไม่เกิน 80Km
ใช้ได้ประมาณอาทิตย์กว่าๆ ถ้าตกเป็นเดือนค่าน้ำมันก็ไม่เกิน 1,200 ครับ
ถามว่ากินน้ำมันมั้ยก็ไม่เท่าไหร่ไม่ถึงกับลดฮวบฮาบ
..ตีวงเลี้ยว..
ค่อนข้างกว้างๆ ประมาณ 45 องศา ถ้าจะแทรกระหว่างคันตรงไหนต้องดูความกว้างดีๆ
เพราะรถค่อนข้างยาว เวลาหาที่จอดอย่างในห้างที่ต้องเข้าไปในนอกคอก
หรือที่แคบๆอย่าหวังครับ เข้าไปหาที่จอดไม่ได้ไม่พอ จะเลี้ยวลำบากด้วยครับ
เพราะงั้นควรจอดนอกคอกหรือมั่นใจว่าที่จอดนั้นกว้างพอสำหรับรถเราจริงๆเท่านั้น
..ความนุ่มของรถ..
ตกหลุมไม่ค่อยกระเทือนครับ โช๊คนิ่ม แฟนนั่งยังบอกว่ารู้สึกสบาย
กระแทกลูกระนาด หลุมเนิน ก็ไม่สะเทือนถึงหลังเท่าไหร่
(คนที่เป็นหมอนรองกระดูกอย่างผมไม่ต้องกังวลครับ รถนุ่มรับกระดูกสันหลังดีครับ)
..ขี่ตากฝน..
ยังโอเคครับ ล่าสุดผมขี่ฝ่าพายุรถไม่สั่นไม่เป๋ เบรกยังคงหนึบเช่นเดิม คงเพราะยางด้วยแหล่ะครับ
..อะไหล่..
บางชิ้นส่วนเทียบกับยี่ห้ออื่นได้ครับ แต่ผมว่าเข้าศูนย์จะดีกว่าเพราะไม่ไว้ใจช่างทั่วไปครับ
เกรงว่าจะทำอะไรเสียหายแล้วมันจะหนัก อะไหล่จากศูนย์ไม่ค่อยแพง
...ความสว่างของไฟ...
ขี่ตอนกลางคืนมองเห็นชัดครับ แต่ไฟจะไม่ได้แผ่กระจายเป็นวงกว้าง จะโฟกัสจุดเดียวไกลๆมากกว่า
(ไม่ได้ถ่ายตอนกลางคืนให้ ไว้จะมาลงใหม่)
...รูปเพิ่มเติม...
รูปนี้เป็นสายไฟตรงแผงคอครับ พันยั้ยเยี้ยไปหมด กลัวๆเหมือนกันว่าถ้ามีโจรมาตัดสายต่อไฟคงเสร็จมันแน่ๆ
ข้อเสียทั้งหมด
- สนิมกินง่ายครับ เรื่องธรรมดาอยู่ที่ดูแลรักษา แต่ก็ไม่ได้ขึ้นจนหน้าเกลียดครับ
- โซ่หย่อนง่าย ต้องตั้งโซ่บ่อยๆครับ ตอนนี้ผมยังไม่ได้ตั้งกะว่าจะไปตั้งตอนเช็คระยะครบ 1000
- เร่งแรงๆ ขับเร็วๆจะมีเสียงจากแฟริ่งอยู่บ้างแต่ไม่ได้ดังครับ แค่สั่นๆธรรมดา
- มีบางครั้งขี่ จอด เครื่องดับเอง (ช่วงที่ไม่ได้เบิ้ลเครื่อง) แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ
ก็แค่บีบครัทแล้วกดปุ่มสตาร์ทมือก็บิดต่อได้เลยครับ ของผมนี่บางทีช่วงเข้าโค้งบีบคลัทไว้ไม่ได้เบิ้ลเครื่อง
รถดับเฉ๊ย! แต่ก็สตาร์ทแล้วไปต่อไม่ซีเรียสครับ (คงเพราะผมก็ไม่ได้เบิ้ลเลี้ยงเกียร์ด้วยแหล่ะมั้งครับ)
...สรุปโดยรวม...
รถนี้ถือว่าดีพอสมควรครับ เหมาะสมราคาดี ทางฝั่งยุโรปใช้กันเยอะแยะ ผมยืนยันว่าไม่ใช่รถจีนกระโหลกกระลาแน่นอน
สำหรับคนที่อยากมีไว้เท่ๆผมแนะนำคันนี้ครับ จอดติดไฟแดงคนมองกันเยอะแยะ แต่ถ้าขี่เอาความเร็วผมไม่แนะนำคันนี้นครับ
เคยโดนสบประมาทกลางถนนเหมือนกันครับว่า “รถก็เท่ ขี่โคตรช้า” ผมบอกตรงๆ ผมไม่รีบครับ ผมออกรถมาเพื่อ"แข่งกับตัวเอง ผมไม่ได้แข่งกับคนอื่น"
ใครรีบก่อนเชิญแซงและซิ่งไปเลยครับผมหลบให้ พอวันนึงผมลองกลับมาขี่เวฟของแฟนรู้สึกขี่ไม่คล่องไปเลยครับ 5555
แฟนยังบอกเลยว่า “อะไรจะขนาดนั้น” แต่เอาจริงๆครับ มันคนละเรื่องกันเลยเหมือนเราถีบจักรยานแม่บ้านจนชิน
แล้ววันนึงลองมาขี่เสือหมอบมันก็ไม่ใช่ง่ายๆนะครับ เข้าโค้งทียังกลัวจะล้มเลยคงเพราะแบกน้ำหนักรถจนชิน
พอมาค่อมอะไรเบาๆเลยรู้สึกโครงๆไปเลย 5555
ข้อแนะนำ
ทางร้านบอกว่าไม่จำเป็นต้องใส่กันล้ม เพราะที่พักเท้ากับแฮนด์จะค้ำไว้อยู่ ติดไว้ก็เปลืองเปล่าๆแถมยังเกะกะกว่าเดิม
(ทดลองตะแคงรถเองแล้วกับตัว)
ปล1. ย้ำอีกครั้งว่า “รถคันนี้เน้นขี่กินบรรยากาศครับ”
ปล2. คำว่า “รถตลาด” ผมไม่ได้ว่ามันไม่ดีครับ ผมแค่กระชับประโยคเฉยๆจะได้ไม่ต้องมานั่งพิมพ์ เวฟ ฟีโน่ สกู๊ปปี้ (นั่นไง! พิมไปแล้ว)
กลัวคนจะเข้าใจความหมายผมผิด ถึงยังไงรถแต่ละรุ่นก็ดีคนละแบบครับ
ปล3. ผมนับถือ Phantom และช้อปเปอร์ ครุยเซอร์ ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อครับ เพราะรถเหล่านั้นจุดประกายให้ผมชอบรถแบบครุยเซอร์
เวลาที่ผมเห็นตามท้องถนนผมยังนับถือว่าเป็นรุ่นเก๋าและเป็นรุ่นพี่เสมอ
ปล4. ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับรถยี่ห้อนี้ครับ เห็นว่าใช้ดีไม่ดีก็บอกต่อเท่านั้นครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ มีอะไรติแนะนำได้ครับ
อีกไม่นานผมจะเอารถไปเทสระยะไกล ถ้าเป็นยังไงต่อผมจะเอามาลงให้ครับ เผื่อจะมีใครสนใจ