ประมาณฮิตเลอร์ที่อยากจะสร้างอาณาจักรไรซ์ที่ 3 แล้วทีนี้จนไปกระชากคอ โปแลนด์เพื่อนบ้านมาตบทรัพย์ จนขยายอาณาเขตเพื่อที่จะยึดครองประเทศอื่นๆ จนกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 2
เพราะเห็นตอนนี้ฝรั่งในประเทศทางฝั่งยุโรปก็ไปเข้าร่วมกลุ่มด้วย ไม่ใช่มีแค่มุสสลิมเท่านั้น เพื่อนๆ คิดว่าจะเป็นไปในทิศทางไหนครับ
เมื่อสหรัฐฯรุกหนัก...IS ก็เริ่มรวน
กลุ่ม IS เริ่มเสียกระบวนทัพมากพอสมควร หลังจากที่สหรัฐฯและพันธมิตรโจมตีอย่างหนัก ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับการรุกคืบเพื่อยึดคืนเมืองบาอิจิ แหล่งกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ของกองทัพอิรัก และข่าวลือว่าผู้นำสูงสุดของกลุ่ม IS บาดเจ็บจากการถูกโจมตี ก็ยิ่งทำให้นักรบ IS เสียขวัญและกำลังใจมากขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว สหรัฐฯและพันธมิตรจะเอาชนะ IS ได้หรือไม่
การประกาศส่งทหารอเมริกันกว่า 1,500 นายเข้าไปในอิรักของนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้ทำให้หลายฝ่ายหันมาจับตาสถานการณ์การสู้รบกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ IS ของกองทัพสหรัฐฯและชาติพันธมิตรมากขึ้น เนื่องจากจำนวนของทหารที่ส่งเข้าไปเพิ่มเติมนั้น ได้ทำให้ยอดรวมของทหารอเมริกันในอิรักตอนนี้ มีทั้งหมดกว่า 3,100 นายแล้ว และถือเป็นการส่งทหารอเมริกันเข้าไปในอิรักในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีโอบามา ประกาศถอนทหารออกมาเมื่อปี 2554
จำนวนของทหารอเมริกันในตอนนี้ อาจจะไม่สำคัญเท่ากับยุทธศาสตร์ที่สหรัฐฯกำลังจะดำเนินการต่อจากนี้ นั่นก็คือการเพิ่มความเข้มข้นของปฏิบัติการภาคพื้นดิน ที่อาจจะเป็นหัวใจสำคัญ และเป็นกลยุทธที่จะช่วยให้สหรัฐฯ และพันธมิตรเอาชนะกองกำลังของกลุ่ม IS ได้ เพราะก่อนหน้านี้ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้นในอิรักและซีเรียตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ทำให้กลุ่ม IS หยุดการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด
ประธานาธิบดีโอบามาเชื่อว่า หลังจากนี้ การโจมตีทางอากาศควบคู่ไปกับการรุกกลับ โดยกองทัพอิรัก และกองกำลังเปชเมอร์กา ที่ผ่านการฝึกอบรมกับทหารอเมริกันผู้เชี่ยวชาญที่ถูกส่งเข้าไป จะทำให้เฟสใหม่ของการสู้รบในครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งระหว่างนี้ กองทัพสหรัฐฯและพันธมิตรก็จะเดินหน้าโจมตีทางอากาศต่อไป เพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนไหว และทำลายอาวุธยุทโธปกรณ์ของกลุ่ม IS
ดูเหมือนว่าตอนนี้ ยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯนั้นไม่ต่างอะไรกับการปิดประตูตีแมว เพื่อเอาชนะกลุ่ม IS อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ประกอบกับการรุกคืบของกองทัพอิรัก ที่ดูจะมีความคืบหน้ามากพอสมควร เมื่อสามารถยึดเมืองบาอิจิ เมืองสำคัญที่เป็นแหล่งกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ของอิรัก กลับคืนมาจากกลุ่ม IS ได้แล้วกว่าร้อยละ 70 โดยกองทัพอิรักได้เข้าปิดล้อมเมืองดังกล่าว ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนและสั่งการให้มีการเพิ่มกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคาดว่า อีกไม่นานหลังจากนี้ จะสามารถยึดบาอิจิกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์ได้
โดยกลุ่ม IS ได้บุกยึดเมืองบาอิจิเอาไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และประกาศเป็นชัยชนะเหนือรัฐบาลและกองทัพอิรัก เนื่องจากเมืองดังกล่าวถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ เพราะเป็นที่ตั้งของโรงงานกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ทางการอิรักยืนยันว่า แม้กลุ่ม IS จะยึดเมืองบาอิจิเอาไว้ได้ แต่โรงกลั่นน้ำมันยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลอิรัก
นอกจากนี้ ข่าวการโจมตีขบวนรถของแกนนำกลุ่ม IS จนทำให้ผู้ช่วยคนใกล้ชิดของนายอาบูร์ บักร์ อัล-บักฮ์ดาดี ผู้นำสูงสุดของกลุ่ม IS เสียชีวิต ก็ยิ่งทำให้ขวัญและกำลังใจของนักรบ IS สูญเสียไปไม่น้อย แถมยังไม่มีการยืนยันด้วยว่า ขบวนรถที่ถูกโจมตีนั้น มีนายอัล-แบกฮ์ดาดีโดยสารมาด้วยหรือไม่ แม้ว่าทางการอิรักจะออกมายืนยันแล้วว่า นายอัล-แบกฮ์ดาดีบาดเจ็บจากการถูกโจมตีในครั้งนี้ แต่กลุ่ม IS ยังคงไม่ยืนยันข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด และหากว่านายอัล-แบกฮ์ดาดี บาดเจ็บจริง หลายฝ่ายก็มั่นใจว่า การจัดขบวนทัพของ IS จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
ดูเหมือนว่า โชคชะตาเริ่มเข้าข้างกองทัพสหรัฐฯและพันธมิตรมากขึ้น หลังจากที่สู้รบกันมานานหลายเดือน แต่นักวิเคราะห์ทั้งหลายก็ยังไม่อยากฟันธงว่า หลังจากนี้ สหรัฐฯและพันธมิตรจะเอาชนะกลุ่ม IS ได้หรือไม่ เพราะหากสงครามยังไม่จบก็ยังไม่ควรนับศพทหารในตอนนี้ และสงครามนี้ ก็ดูจะยืดเยื้อยาวนาน ไม่ต่างอะไรกับสงครามปราบกลุ่มอัลกออิดะฮ์ ที่ยังดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
http://news.voicetv.co.th/world/130787.html
เพื่อนๆ คิดว่า หากกลุ่ม IS สามารถจัดตั้งรัฐอิสลามได้สำเร็จ จะมีสงครามเกิดขึ้นไหมครับ ??
เพราะเห็นตอนนี้ฝรั่งในประเทศทางฝั่งยุโรปก็ไปเข้าร่วมกลุ่มด้วย ไม่ใช่มีแค่มุสสลิมเท่านั้น เพื่อนๆ คิดว่าจะเป็นไปในทิศทางไหนครับ
เมื่อสหรัฐฯรุกหนัก...IS ก็เริ่มรวน
กลุ่ม IS เริ่มเสียกระบวนทัพมากพอสมควร หลังจากที่สหรัฐฯและพันธมิตรโจมตีอย่างหนัก ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับการรุกคืบเพื่อยึดคืนเมืองบาอิจิ แหล่งกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ของกองทัพอิรัก และข่าวลือว่าผู้นำสูงสุดของกลุ่ม IS บาดเจ็บจากการถูกโจมตี ก็ยิ่งทำให้นักรบ IS เสียขวัญและกำลังใจมากขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว สหรัฐฯและพันธมิตรจะเอาชนะ IS ได้หรือไม่
การประกาศส่งทหารอเมริกันกว่า 1,500 นายเข้าไปในอิรักของนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้ทำให้หลายฝ่ายหันมาจับตาสถานการณ์การสู้รบกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ IS ของกองทัพสหรัฐฯและชาติพันธมิตรมากขึ้น เนื่องจากจำนวนของทหารที่ส่งเข้าไปเพิ่มเติมนั้น ได้ทำให้ยอดรวมของทหารอเมริกันในอิรักตอนนี้ มีทั้งหมดกว่า 3,100 นายแล้ว และถือเป็นการส่งทหารอเมริกันเข้าไปในอิรักในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีโอบามา ประกาศถอนทหารออกมาเมื่อปี 2554
จำนวนของทหารอเมริกันในตอนนี้ อาจจะไม่สำคัญเท่ากับยุทธศาสตร์ที่สหรัฐฯกำลังจะดำเนินการต่อจากนี้ นั่นก็คือการเพิ่มความเข้มข้นของปฏิบัติการภาคพื้นดิน ที่อาจจะเป็นหัวใจสำคัญ และเป็นกลยุทธที่จะช่วยให้สหรัฐฯ และพันธมิตรเอาชนะกองกำลังของกลุ่ม IS ได้ เพราะก่อนหน้านี้ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้นในอิรักและซีเรียตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ทำให้กลุ่ม IS หยุดการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด
ประธานาธิบดีโอบามาเชื่อว่า หลังจากนี้ การโจมตีทางอากาศควบคู่ไปกับการรุกกลับ โดยกองทัพอิรัก และกองกำลังเปชเมอร์กา ที่ผ่านการฝึกอบรมกับทหารอเมริกันผู้เชี่ยวชาญที่ถูกส่งเข้าไป จะทำให้เฟสใหม่ของการสู้รบในครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งระหว่างนี้ กองทัพสหรัฐฯและพันธมิตรก็จะเดินหน้าโจมตีทางอากาศต่อไป เพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนไหว และทำลายอาวุธยุทโธปกรณ์ของกลุ่ม IS
ดูเหมือนว่าตอนนี้ ยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯนั้นไม่ต่างอะไรกับการปิดประตูตีแมว เพื่อเอาชนะกลุ่ม IS อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ประกอบกับการรุกคืบของกองทัพอิรัก ที่ดูจะมีความคืบหน้ามากพอสมควร เมื่อสามารถยึดเมืองบาอิจิ เมืองสำคัญที่เป็นแหล่งกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ของอิรัก กลับคืนมาจากกลุ่ม IS ได้แล้วกว่าร้อยละ 70 โดยกองทัพอิรักได้เข้าปิดล้อมเมืองดังกล่าว ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนและสั่งการให้มีการเพิ่มกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคาดว่า อีกไม่นานหลังจากนี้ จะสามารถยึดบาอิจิกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์ได้
โดยกลุ่ม IS ได้บุกยึดเมืองบาอิจิเอาไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และประกาศเป็นชัยชนะเหนือรัฐบาลและกองทัพอิรัก เนื่องจากเมืองดังกล่าวถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ เพราะเป็นที่ตั้งของโรงงานกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ทางการอิรักยืนยันว่า แม้กลุ่ม IS จะยึดเมืองบาอิจิเอาไว้ได้ แต่โรงกลั่นน้ำมันยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลอิรัก
นอกจากนี้ ข่าวการโจมตีขบวนรถของแกนนำกลุ่ม IS จนทำให้ผู้ช่วยคนใกล้ชิดของนายอาบูร์ บักร์ อัล-บักฮ์ดาดี ผู้นำสูงสุดของกลุ่ม IS เสียชีวิต ก็ยิ่งทำให้ขวัญและกำลังใจของนักรบ IS สูญเสียไปไม่น้อย แถมยังไม่มีการยืนยันด้วยว่า ขบวนรถที่ถูกโจมตีนั้น มีนายอัล-แบกฮ์ดาดีโดยสารมาด้วยหรือไม่ แม้ว่าทางการอิรักจะออกมายืนยันแล้วว่า นายอัล-แบกฮ์ดาดีบาดเจ็บจากการถูกโจมตีในครั้งนี้ แต่กลุ่ม IS ยังคงไม่ยืนยันข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด และหากว่านายอัล-แบกฮ์ดาดี บาดเจ็บจริง หลายฝ่ายก็มั่นใจว่า การจัดขบวนทัพของ IS จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
ดูเหมือนว่า โชคชะตาเริ่มเข้าข้างกองทัพสหรัฐฯและพันธมิตรมากขึ้น หลังจากที่สู้รบกันมานานหลายเดือน แต่นักวิเคราะห์ทั้งหลายก็ยังไม่อยากฟันธงว่า หลังจากนี้ สหรัฐฯและพันธมิตรจะเอาชนะกลุ่ม IS ได้หรือไม่ เพราะหากสงครามยังไม่จบก็ยังไม่ควรนับศพทหารในตอนนี้ และสงครามนี้ ก็ดูจะยืดเยื้อยาวนาน ไม่ต่างอะไรกับสงครามปราบกลุ่มอัลกออิดะฮ์ ที่ยังดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
http://news.voicetv.co.th/world/130787.html