ประเด็นการถอดถอนอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในที่ประชุม สนช. ท่ามกลางความขัดแย้งทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง มีความพยายามที่จะเชื่อมโยงข้อมูลที่มีความจริงเป็นบางส่วน เข้าไปเป็นประเด็นการเมือง มีการออกมาแถลงข้อมูลจาก ทีดีอาร์ไอ ถึงความเสียหายจาก โครงการรับจำนำข้าวอีกกระทอก ที่คาดว่า อาจเสียหายกว่า 7 แสนล้านบาท รวมทั้งกระทรวงการคลังของรัฐบาลชุดนี้ออกมาตอกย้ำถึงภาระหนี้สินจำนวนมหาศาล
ตีปี๊บให้โครงการรับจำนำข้าวเน่าสุดๆ
ความจริงที่ต้องยอมรับคือโครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมา มีการดำเนินการไม่ครบวงจร ไม่ได้มืออาชีพเข้ามารับผิดชอบและมีคนเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์หลายทอดหลายตอน ซึ่ง นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีต รมว.พาณิชย์ ที่เข้าไปรับหน้าเสื่อตอนปลายเหตุ อธิบายความถึงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปี 2557 ซึ่งยังไม่ครบกำหนด ก็มาถูกยึดอำนาจเสียก่อน แต่รวมๆแล้วมีข้าวอยู่ในโครงการกว่า 18 ล้านตัน และมีข้าวที่สามารถจะขายได้จำนวน 16.2 ล้านตัน เฉลี่ยแล้วถ้าขายข้าวได้ตันละ 15,000 บาท ก็จะได้เงินคืนมาประมาณ 4.8 แสนล้าน
เมื่อหักจากต้นทุนของโครงการนี้ที่ใช้เงินไปประมาณ 8.6 แสนล้าน ก็จะมีตัวเลขขาดทุนประมาณ 3.8 แสนล้าน ดำเนินการมา 3 ปี เฉลี่ยใช้จ่ายเงินปีละ 1.26 แสนล้าน และ ปัจจุบันมีตัวเลขเงินกู้ในโครงการนี้อยู่ประมาณ 4.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการที่รัฐบาลชุดนี้ใช้เงินไปอุดหนุนเกษตรกร ทั้งยอดเงินอุดหนุนชาวนาและชาวสวนยางรวมดอกเบี้ยอยู่ที่ 2 แสนล้าน ก็ไม่น่าจะต่างกันนัก
อีกทั้งรัฐบาลปัจจุบัน มีการกู้เงินมาใช้ในโครงการรับจำนำข้าวอีก 9.4 หมื่นล้าน ภาระหนี้จึงเพิ่มขึ้นเป็น 6.35 ล้านบาท ที่ไปโฆษณาว่าได้แก้ปัญหาให้ชาวนาเป็นที่เรียบร้อย ก็ไม่พ้นเป็นภาระหนี้สินของประเทศอยู่ดี
เมื่อพิจารณาจากเม็ดเงินของโครงการ ระยะเวลา จำนวน หน่วยงาน บุคลากรที่เกี่ยวข้อง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการคลัง ต้องเข้ามารับผิดชอบร่วมกัน จึงถือว่ามีรายละเอียดที่มากและซับซ้อน การที่จะออกมาโจมตีว่า รัฐบาลชุดนั้นทำเจ๊ง รัฐบาลชุดนี้ทำดี จึงเป็นการพูดความจริงเพียงด้านเดียว
ในทางตรงกันข้าม ส่วนดีของโครงการที่ชาวนาได้รับ ประโยชน์จากราคาข้าวที่สูงขึ้น ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวมากขึ้น การบริโภคมากขึ้น จนกระทั่งยกเลิกโครงการ ทำให้เกิดผลกระทบกับชาวนาอย่างไรบ้าง และเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศเสียหายอย่างไรบ้าง
ไม่มีใครพูดถึง
หรือแต่ละรัฐบาลที่เข้ามาใช้เงินอุดหนุนเกษตรกรไปเท่าไหร่ หรือโครงการที่ทำความเสียหายให้กับประเทศประเภทลดแลกแจกแถมโดยไม่มีเป้าหมายต้องใช้เงินไปมหาศาลแค่ไหน โครงการไทยเข้มแข็งที่อื้อฉาวสุดๆ ทำไมถึงได้เงียบเข้ากลีบเมฆ นี่คือความไม่มีมาตรฐานและพยายามที่จะใช้ความจริงเพียงครึ่งเดียวทำลายชาติ
ไม่ต้องไปเขียนรัฐธรรมนูญป้องกันการปฏิวัติไว้ให้เมื่อยตุ้ม.
**** มันคือเรื่องจริงครับสังคมไทย โดยเฉพาะเพื่อนสลิ่มศรีของผม มักพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว อะไรเป็นประโยชน์แก่ตนเอง
ฝ่ายตนเองมักจะพูดมากเสียงดัง แต่อะไรที่เป็นความผิดของตนมักจะเลี่ยง หรือไม่พูดเลย ที่ประเทศชาติเสียหายอยู่ทุกวันนี้
ก็เพราะมีบางพรรคการเมืองพรรคหนึ่งเอาแต่เล่นการเมือง เพื่อผลประโยชน์ฝ่ายตน โดยไม่สนใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
จากการกระทำของตนเองเลย อนิจาพวก กระลาแลนด์......****
ความจริงเพียงครึ่งเดียวทำลายชาติ "หมัดเหล็ก"
ตีปี๊บให้โครงการรับจำนำข้าวเน่าสุดๆ
ความจริงที่ต้องยอมรับคือโครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมา มีการดำเนินการไม่ครบวงจร ไม่ได้มืออาชีพเข้ามารับผิดชอบและมีคนเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์หลายทอดหลายตอน ซึ่ง นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีต รมว.พาณิชย์ ที่เข้าไปรับหน้าเสื่อตอนปลายเหตุ อธิบายความถึงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปี 2557 ซึ่งยังไม่ครบกำหนด ก็มาถูกยึดอำนาจเสียก่อน แต่รวมๆแล้วมีข้าวอยู่ในโครงการกว่า 18 ล้านตัน และมีข้าวที่สามารถจะขายได้จำนวน 16.2 ล้านตัน เฉลี่ยแล้วถ้าขายข้าวได้ตันละ 15,000 บาท ก็จะได้เงินคืนมาประมาณ 4.8 แสนล้าน
เมื่อหักจากต้นทุนของโครงการนี้ที่ใช้เงินไปประมาณ 8.6 แสนล้าน ก็จะมีตัวเลขขาดทุนประมาณ 3.8 แสนล้าน ดำเนินการมา 3 ปี เฉลี่ยใช้จ่ายเงินปีละ 1.26 แสนล้าน และ ปัจจุบันมีตัวเลขเงินกู้ในโครงการนี้อยู่ประมาณ 4.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการที่รัฐบาลชุดนี้ใช้เงินไปอุดหนุนเกษตรกร ทั้งยอดเงินอุดหนุนชาวนาและชาวสวนยางรวมดอกเบี้ยอยู่ที่ 2 แสนล้าน ก็ไม่น่าจะต่างกันนัก
อีกทั้งรัฐบาลปัจจุบัน มีการกู้เงินมาใช้ในโครงการรับจำนำข้าวอีก 9.4 หมื่นล้าน ภาระหนี้จึงเพิ่มขึ้นเป็น 6.35 ล้านบาท ที่ไปโฆษณาว่าได้แก้ปัญหาให้ชาวนาเป็นที่เรียบร้อย ก็ไม่พ้นเป็นภาระหนี้สินของประเทศอยู่ดี
เมื่อพิจารณาจากเม็ดเงินของโครงการ ระยะเวลา จำนวน หน่วยงาน บุคลากรที่เกี่ยวข้อง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการคลัง ต้องเข้ามารับผิดชอบร่วมกัน จึงถือว่ามีรายละเอียดที่มากและซับซ้อน การที่จะออกมาโจมตีว่า รัฐบาลชุดนั้นทำเจ๊ง รัฐบาลชุดนี้ทำดี จึงเป็นการพูดความจริงเพียงด้านเดียว
ในทางตรงกันข้าม ส่วนดีของโครงการที่ชาวนาได้รับ ประโยชน์จากราคาข้าวที่สูงขึ้น ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวมากขึ้น การบริโภคมากขึ้น จนกระทั่งยกเลิกโครงการ ทำให้เกิดผลกระทบกับชาวนาอย่างไรบ้าง และเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศเสียหายอย่างไรบ้าง
ไม่มีใครพูดถึง
หรือแต่ละรัฐบาลที่เข้ามาใช้เงินอุดหนุนเกษตรกรไปเท่าไหร่ หรือโครงการที่ทำความเสียหายให้กับประเทศประเภทลดแลกแจกแถมโดยไม่มีเป้าหมายต้องใช้เงินไปมหาศาลแค่ไหน โครงการไทยเข้มแข็งที่อื้อฉาวสุดๆ ทำไมถึงได้เงียบเข้ากลีบเมฆ นี่คือความไม่มีมาตรฐานและพยายามที่จะใช้ความจริงเพียงครึ่งเดียวทำลายชาติ
ไม่ต้องไปเขียนรัฐธรรมนูญป้องกันการปฏิวัติไว้ให้เมื่อยตุ้ม.
**** มันคือเรื่องจริงครับสังคมไทย โดยเฉพาะเพื่อนสลิ่มศรีของผม มักพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว อะไรเป็นประโยชน์แก่ตนเอง
ฝ่ายตนเองมักจะพูดมากเสียงดัง แต่อะไรที่เป็นความผิดของตนมักจะเลี่ยง หรือไม่พูดเลย ที่ประเทศชาติเสียหายอยู่ทุกวันนี้
ก็เพราะมีบางพรรคการเมืองพรรคหนึ่งเอาแต่เล่นการเมือง เพื่อผลประโยชน์ฝ่ายตน โดยไม่สนใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
จากการกระทำของตนเองเลย อนิจาพวก กระลาแลนด์......****