โรคย้ำคิดย้ำทำ ? สอบถามหน่อยครับ

สวัสดีครับ
ก่อนอื่น ผมขออธิบายอาการผมนะครับ อาจจะยาวหน่อย ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเหมือนกัน
อยากจะขอสอบถามว่าอย่างงี้ ถือว่าเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำไหม เพราะทุกวันนี้กังวลมาก จนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันเป็นปกติได้ครับ
ผมไม่แน่ใจว่าเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประถมครับ ตอนนี้อายุ 24 แล้ว ลองคิดย้อนกลับไปก็นานครับ ระหว่างนั้น เป็นบ้างหายบ้าง แต่ตอนกำเริบ จะรู้สึกห่อเหี่ยว ไม่มีกำลัง ไม่อยากเจอคน อยากอยู่เงียบๆ เฉยๆ ไม่อยากทำอะไรเลยครับ เวลาฟังคนอื่นคุยกันเรื่องนู้นเรื่องนี้ที่ดีดี เราก็รู้สึกว่าอยากมีอิสระอย่างในชีวิต และความคิดอย่างงั้นบ้างจัง สำหรับโรคนัตอนเด็กๆเริ่มตั้งแต่การพยายามจำและนับว่าแต่ละวันที่โรงเรียนทำอะไรบ้าง แล้วก็นับอย่างนี้ทั้งวันครับ หลังจากนั้น ก็เริ่มกลัวว่าเราจะไปขโมยกระเป๋าตังคนอื่น ก็ตั้งนั่งคิดวนไปวนมา ว่าเราไม่ได้เอาของเค้าไปนะ เผื่อให้เราสบายใจ
พอช่วงมัธยม ด้วยความที่ว่าบ้านเราเป็นคนเข้าวัดบ่อยมากๆ จะไหว้พระเป็นประจำเลยครับ ความคิดที่เกิดขึ้นคือการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แบบลบหลู่ไปทั่ว แล้วก็ต้องมาค่อยขอโทษ กังวลว่าจะบาป ชีวิตจะไม่เจริญ หลังจากนั้น เริ่มข้ามขั้นนี้ไป จะเริ่มกลายเป็นการบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครับ จริงๆ แล้วเวลาเราไหว้พระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็มักจะขอพร แล้วหลังจากนั้นความคิดก็จะแว่บมาว่า "ขอให้.... แล้วผมจะ.... " แล้วก็ต้องคอยมาไหว้อธิษฐานต่อว่าที่คิดไปไม่ได้ตั้งใจนะครับ ตอนนั้นจะเป็นช่วงที่ความคิดต่อสู้กันรุนแรงมาก หลังจากเสร็จก็จะคอยมาคิดกังวลว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะรับรู้ว่าเราไม่ได้ตั้งใจหรือเปล่า หรือยึดถือตามการบนบานสานกล่าว แบบไม่ได้ตั้งใจไปแล้ว ถ้าไม่ได้กลับมาแก้บน ชีวิตจะต้องรู้สึกติดค้าง หรือไม่เจริญแน่ๆ เลย หลังจากนั้นก็เป็นมาเรื่อยๆ เบามาก รุนแรงบ้าง ก็ค่อนข้างที่จะกระทบกับชีวิตประจำวันในบางครั้ง หรือบางทีที่เรารู้สึกว่าเราโชคร้าย ความคิดมักจะไปผูกโยงว่าเราไปติดค้างอะไรใครอยู่หรือเปล่า แล้วคิดซ้ำๆ จนไม่เป็นอันทำอะไร บางทีเราก็เผลอไปด่าคนรอบข้างที่เจอ บุพการี ทำให้บางทีเราควบคุมพฤติกรรมตัวเองไม่ค่อยได้ ไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง พอช่วงอายุ 22 เป็นช่วงที่เราทำงานได้สักพัก จึงขอลางานไปบวช เพื่อทดแทนบุญคุณ ตอนนั้น เป็นช่วงต้องข่มความคิดมากเลย เพราะรอบตัวมีแต่พระ จึงเกิดความคิดลบหลู่ ได้ง่าย เรียกว่าแทบจะทั้งวันเลยดีกว่า เสร็จแล้วก็ต้องมาคอยคิดขอโทษ หรือกังวลเรื่องบาปต่อไปอีก ปวดหัว และเหนื่อยมาก จนคิดว่าคงเป็นอุปสรรคในการบรรลุธรรมแน่ๆ (จุดที่จะเล่าต่อจากนี้ บางทีไม่แน่ใจว่าเราเกินไปหรือเปล่า) ช่วงบวช มีอยู่ตอนนึง เรากำลังสวดมนต์อยู่ แล้วความคิดก็แว่บขึ้นมาว่า "ผมจะบวชไปตลอด" เราก็เห้ยย นั่นความคิดที่เราไม่ได้ตั้งใจ เราก็เลยต้องรีบคิดต่อเพื่อบอกพระในใจว่า ที่ผมกล่าวไปเมื่อสักครู่ผมไม่ได้มีความคิดและความตั้งใจเช่นนั้น เกิดความคิดที่ว่าข่มกันไปข่มกันมา จนเริ่มเครียดมากๆ ไม่เป็นอันทำอะไร คิดอะไรเลย หลังจากสวดมนต์เสร็จคืนนั้น ก็เกิดพระจันทร์ทรงกลด เลยทำให้เราคิดว่า หรือว่าพระท่านรับรู้เรื่องนี้แล้ว ทีนี้เลยไปกันใหญ่เลย มีพระบางรูปท่านมาพูดเกี่ยวกับการตัดสินใจบวชตลอดชีวิต เราก็ยิ่งคิดไปใหญ่ กังวลว่าหากเราไม่ทำเราจะบาปไหม ชีวิตเราจะเจริญไหม พระท่านจะรับรู้ในความคิดที่เราบอกว่าเราบอกว่าไม่ได้ตั้งใจไหม ความคิดก็วนอยู่อย่างงี้ คิดหาเหตุผลเท่าไหร่ ก็หยุดคิดไม่ได้สักที ทุกวันนี้ ก็จะมีเรื่องการลบหลู่ด่าทอ และก็เรื่องนี้แหละที่บางทีก็กำเริบ ทำให้เสียเวลานานมากต่อวันในการคิดเพื่อแก้ไข คิดว่าจะทำยังไง จนไม่มีกำลังใจไปทำอย่างอื่น พยายามที่จะอยุ่กับปัจจุบัน แต่สักพักก้วนกลับมาคิดจนได้ บางครั้งเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เรานึกถึงการบวช เราก็รู้สึกว่าเหมือนเป็นการเตือนรึเปล่า ก็ยิ่งทำให้คิดขึ้นมา ทั้งๆที่ลืมไปแล้ว เราก็เลยคิดต่อว่า สรุปเราจะต้องกลับไปบวชไหมอะไรอย่างงี้ บางทีเราคิดได้ว่าหากคนที่ไม่ได้มีอาการอย่างงี้ เจอเหตุการณ์เหมือนกับเราก็คงไม่ได้เก็บมาคิดอะไร แล้วก้ใช้ได้ชีวิตอย่างปกติสุข ทุกวันนี้ ยอมรับว่าทรมานกับความคิดจนปวดหัว เสียเวลาเยอะมากในการคิดวนไปวนมาเพื่อที่จะหาทางออกให้เราสบายใจขึ้นมาก สุดท้ายก็วนกลับมาอีก แล้วก็อยากอยู่เฉยๆ ไม่อยากทำอะไร แต่งานก็ยังต้องทำ จึงเป็นการฝืนตัวเองบ้างในบางครั้ง ไม่ทราบว่าพอจะการปรับความคิด หรือคำแนะนำดีดี ช่วยให้ความรู้สึกอย่างงี้หายขาดไหม เรายังไม่ได้เคยไปหาหมอเพราะเห็นว่าหายก้แค่ตอนกินยา เลิกยาอาจกำเริบอีก ไม่เคยเล่าให้คนอื่นฟังขนาดนี้ เพราะคิดว่าคนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ ทุกวันนี้พยายามนั่งสมาธิด้วย ต้องขอโทษด้วยนะครับที่เขียนมายาวมาก
เพื่อนๆ คนไหนมีข้อคิดเห็นยังไง บอกหน่อยนะครับ อยากสบายใจมากครับ
ยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่