มาเรียนออสเตรเลียอย่างฉลาด ไม่โดนเอเจ้นท์โกงตัง

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิป เราสิงอยู่ที่นี่นานแล้วค่ะ แต่ไม่ได้สมัครไอดีซักที พอดีวันก่อนเจอกระทู้คนนึงคล้ายจะโดนเอเจ้นท์โกงเงิน ทนไม่ไหวจริงๆ เลยสมัครมาตอบโดยเฉพาะ แล้วก็มาคิดได้ว่า อยากจะช่วยเหลือคนอื่นเพิ่มเติมค่ะ ช่วยก่อนที่จะโดนหลอก ดีกว่าโดนหลอกแล้วมาช่วยแก้ปัญหาเนอะ อมยิ้ม04

เดี๋ยวนี้คนมาออสเตรเลียมี
1. มาเที่ยวจริงๆ
2. มาเรียนจริงๆ
3. มาเที่ยวดูลู่ทางทำงาน
4. มาทำงาน ในคราบวีซ่านักเรียน -- จริงๆแล้วก็มีแค่นี้เนอะ หลังๆมานี้ มาทำงานกันซะเยอะด้วยซ้ำไป

เราทำงานในวงการเอเจ้นท์ ได้ยินคนโดนหลอกมาก็เยอะ ร้องห่มร้องไห้ ต้องมาทำงานใช้หนี้ แทนที่จะได้มาทำงานหาตัง เริ่มต้นชีวิต!
ดังนั้น เราจะขอบอก ขั้นตอนคร่าวๆในการขอวีซ่านักเรียน นะคะ
1. ศึกษาเมืองที่ต้องการมาด้วยตนเองก่อน ออสเตรเลียแต่ละเมือง อากาศความเป็นอยู่ต่างกัน เปิดเวปหาเมืองในแบบที่เราชอบ

2. ปรึกษาเอเจ้นท์ เวลาเล่าประวัติ เล่าให้หมดนะคะ เพราะเค้าจะได้เลือกคอร์สเรียนให้ถูก

3. สมัครเรียน บางเอเจ้นท์จะเก็บค่าบริการก่อนเลย เช่น 3000 บาท (เน้น ! เฉพาะค่าบริการ)
เพราะลูกค้าบางราย มาให้สมัครแล้วก็หาย.... เสียเวลา เสียชื่อเสียง และเสียความรู้สึกนะคะ

4. สมัครเรียนแล้ว ถ้าโรงเรียนรับเราเข้าเรียน เค้าจะออกจกหมายเรียกว่า Offer letter ในนั้นจะบอกรายละเอียดคอร์สเรียน + ค่าใช้จ่ายเรื่องเรียน
ใบนี้สำคัญนะคะ ขอให้อ่าน หลายๆคนไม่อ่าน แล้วแต่เอเจ้นท์ นี่หละคะ เปิดช่องให้เค้าโกง เพราะเราไม่รู้เลยว่าเค้าสมัครอะไรให้
ในนั้นโรงเรียนจะบอกหมดค่ะ ว่าค่าเรียน โรงเรียนเก็บเงินมัดจำเท่าไหร่ ค่าสมัครเท่าไหร่

5. จ่ายเงินค่าเรียน + ค่าประกันสุขภาพ​ + ค่าวีซ่า + ค่าบริการของเอเจ้นท์ในส่วนที่เหลือ
ประกันสุขภาพก็สำคัญ ต้องเช็คว่าเค้าสมัครให้เราตั้งแต่เมื่อไหร่ จบเมื่อไหร่ สามารถเริ่มสมัครในวันที่เราเปิดเทอมวันแรก จนถึงวันที่วีซ่าหมด
วีซ่าจะหมด 2 เดือนหลังจากวันที่คอร์สเรียนเราจบ เช่น เรียนจบวันที่ 15 มีนา 2016 ก็จะต้องสมัครประกันถึงวันที่ 15 พฤกษา 2016

6. เมื่อเอเจ้นท์จ่ายเงินค่าเรียนแล้ว จะได้ COE: confirmation of Enrollment จากโรงเรียน ซึ่งเอเจ้นท์ต้องส่งให้นักเรียน
ถ้าเอเจ้นท์ไม่มี ก็คือยังไม่ได้จ่ายเงิน  ใบนี้ใช้ยื่นวีซ่า

7. เมื่อรวบรวมเอกสารครบแล้ว ยื่นเรื่องเข้าสถานทูตไป จะได้รับจดหมายตอบกลับมาว่า ได้รับใบสมัครของเราแล้ว
ภายใน 1 อาทิตย์ สถานทูตจะเรียกให้ไปตรวจสุขภาพ หรือถ้ามีคำถามเพิ่มเติม ต้องการเอกสารอะไรเพิ่มเค้าก็จะตอบกลับมาค่ะ
อาจจะมีบ้างที่ตอบมาช้า แต่ปกติถ้าช้าเกิน 2 อาทิตย์ เอเจ้นท์ก็เครียดแล้วค่ะ
- เอเจ้นท์สามารถโทร หรือ อีเมลล์ไปตามเรื่องได้
- ผู้สมัครสามารถโทรไปติดตามเรื่องด้วยตนเองได้เช่นกัน ไม่ต้องกลัวค่ะ เกิน 2 อาทิตย์โทรไปโลด ถามไปเลย ที่ช้านี่รออะไร ต้องการอะไรเพิ่มไหม
ผู้สมัครตาม ดีกว่าเอเจ้นท์ตามอีกค่ะ อมยิ้ม16

ขอสำคัญ อย่ารีบโอนเงิน โอนอะไรไป จดให้เรียบร้อย พยายามคอนเฟิร์มรายละเอียดให้เป็นลายลักษณ์อักษร จะทางอีเมลล์ ไลน์ กระดาษ อะไรก็ว่าไป แต่อย่าพึ่งแต่การคุยกันทางโทรศัพท์ เพราะลิ้นคนมันพลิกได้ตลอด โอนเงินแล้วเก็บใบเสร็จไว้

พยายามอย่าทำธุรกรรมการเงินผ่านคนกลาง ที่ไม่ใช่ญาติ เช่น มีเพื่อนที่ออสเตรเลีย โอนผ่านเพื่อน เพราะเวลาตามเงิน มันตามยากค่ะ เรื่องเงินๆทองๆไว้ใจใครไม่ได้เลย เพื่อนกันหลายปี แต่โอนค่าวีซ่า โอนเป็นแสนบาท มันก็มีแอบหวั่นไหวกันได้ค่ะ

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ แต่ละโรงเรียนค่าเรียนไม่เท่ากันจริงๆค่ะ เราจะพยายามบอกคร่าวๆนะคะ
- ค่าเรียนภาษา ที่ออสเค้าคิดกันเป็นรายอาทิตย์ อาทิตย์ละ $150 - 400, แต่คนที่จะมาทำงาน ส่วนใหญ่เรียนไม่เกินอาทิตย์ละ $200 หรอกค่ะ
- ค่าหนังสือเรียนภาษา $70 - 250 เรายังไม่เคยเห็นแพงกว่านี้นะ ค่าใช้จ่ายตรงนี้เช็คใน offer letter ก่อนจ่ายเงินได้
- ค่าสมัครเรียน $150- $250
- ค่าเรียน Diploma หรืออนุปริญญา ประมาณ $1300-$1500/ 3 เดือน โรงเรียนส่วนใหญ่ เค้าให้มัดจำแค่ 3 เดือน บางที่ 6 เดือน
- ค่าเรียน ป.ตรี ป.โท ของสถาบัน ที่ไม่ใช่มหาลัย $2000 - $5000
- ค่าเรียน ป.ตรี ป.โท ของมหาลัย ส่วนใหญ่ให้จ่าย 1 เทอมเต็ม $10,000 ++ คนที่มาเน้นทำงาน จะไม่ลงคอร์สแบบนี้มา
- ค่าประกันสุขภาพ ตรงนี้เป็นข้อบังคับจาก Immigration ว่านักเรียนต่างชาติต้องมีประกันสุขภาพครอบคลุมระยะวีซ่าทุกคน ซึ่งค่าใช้จ่ายตรงนี้เค้าคิดเป็นรายเดือน แต่ถ้าเป็นเศษ เช่น 3 เดือน 5 วัน เค้าก็คำนวณเป็นวันด้วยนะคะ คือ ไม่มีทางขาดทุน
แต่! เพื่อป้องกันการโดนโกง เราสามารถเช็คค่าประกันคร่าวๆได้ จากเวปไซต์บริษัทที่เอเจ้นท์เราจะสมัคร
ถามเลยค่า ว่าจะสมัครของอะไรให้ หลักๆ ในออสจะเป็น Ahm, Medibank, Bupa
      - ahm สมัครแบบเดี่ยวถูกสุด มาวีซ่านักเรียนคนเดียว
      - Bupa สมัครแบบครอบครัวถูกสุด เช่นมาเป็นคู่สามี-ภรรยา หรือมีลูกมาด้วย
ลองเข้าไปประเมินราคาเองได้เลย   http://www.ahmoshc.com.au/content/oshcquote.php
- ค่าวีซ่า ประมาณ 17,500 บาท หรือ $535
- ค่าบริการ แล้วแต่เอเจ้นท์จะคิด ประมาณ 3000 - 6000 บาท
- ค่าแปลเอกสาร เอกสารทุกอย่างที่ใช้ยื่น เป็นภาษาอังกฤษนะคะ
ถ้าใครแต่งงานแล้ว เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล ก็บอกเอเจ้นท์ให้หมดนะคะ

รวมๆแล้ว มาคนเดียว ค่าใช้จ่ายเบื้องต้น อยู่ที่ประมาณ
- เรียนภาษา 6 เดือน 120,000 - 150,000
- เรียนภาษา + Diploma 220,000 - 300,000
- เรียนภาษา + Higher education 240,000 - 400,000

ถ้ามาแล้วมีคนติดตามเพิ่มด้วยอีกคน ค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มมาคือ ค่าวีซ่าคนติดตาม + ค่าประกันสุขภาพ + ค่าแปลเอกสาร
ไม่เกินแสนหรอกค่ะ

รวมๆ แล้ว ยังไงก็ไม่น่าเกิน 500,000 ถ้าจะเกินมีกรณีเดียว คือ มาเรียนมหาลัยดีๆจริงๆ อันนั้น เฉพาะมหาลัยก็ $12,000 หรือ 3แสนกว่าแล้ว
บางคนโดนหลอกไป 8 แสน เราได้ยินแล้ว งง จ่ายค่าอะไรกันมาบ้างเนี่ย อมยิ้ม20

ส่วนเงื่อนไขการเลือกประเภทวีซ่า
- เรียนภาษาอย่างเดียว Student visa sub-class 570 เหมาะกับคนเพิ่งจบ หรือ คนที่ทำงานอยู่แล้วมีใบรับรองการทำงาน ส่วนมากลงเรียนไม่เกิน 1 ปี
- เรียนภาษา + Diploma อันนี้ เป็นวีซ่ายอดนิยมของคนมาทำงาน แต่!! ขอแบบนี้มาจากไทยยาก เพราะ คนที่มาด้วยวีซ่านี้ควรจะเป็นคนที่ อายุน้อย Statement ดี และทำงานมาตรงสายกับสิ่งที่จะมาเรียน ส่วนใหญ่จะได้วีซ่า 2-3 ปี
- เรียนภาษา + Higher education เช่น ป.ตรี ป.โท เหมาะกับ
1. ตั้งใจมาเรียนจริงๆ
2. จะมาทำงาน แต่ไม่มี Statement มีแต่เงินสดเป็นก้อนๆ ผู้สมัครอายุ 28 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่จะมีคนติดตามมาด้วย

Statement
เรื่องนี้สำคัญมาก เอเจ้นท์จะถามตรงนี้ก่อนเลย เพราะ ยื่นเรียนภาษาอย่างเดียว หรือ ภาษา + Diploma จะต้องมี Statement โชว์ ถ้าไม่มีก็มาไม่ได้นะจ๊ะ
ยอดเงินขั้นต่ำ สำหรับวีซ่า 1 ปี คือ 750,000 บาท ดูการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
ถ้าเรียน 6 เดือน ประมาณ 4-5 แสน

แต่ถ้าสมัครมาเรียนกับมหาลัย จะไม่ต้องโชว์ บางคนถึงยอม สมัครมหาลัยมา จ่ายครั้งแรกแพง ก็เพราะจุดนี้ วีซ่าผ่านไง

ผู้ติดตาม
หลายคนอ่านแล้วอาจจะ งง
ผู้ติดตามที่จะสามารถขอมาจากไทยได้ จะต้องเป็นสามี ภรรยากัน เท่านั้น, เพื่อนกัน พี่น้องกัน ญาติกัน ขอติดตามมาไม่ได้นะคะ
ง่ายๆคือ เป็นคู่รักกัน ภรรยามาเรียน สามีก็อยากมาดูแล มาอยู่ด้วย

ต้องจดทะเบียนสมรส และมีเอกสารยืนยันว่าเป็นคู่กันจริงๆ เก็บหลักฐานเป็นคู่กันขั้นต่ำ 6 เดือน

เดี๋ยวนี้มีทั้ง แต่งจริง แต่งหลอก อันนี้เราไม่ว่ากัน เพราะคนเราก็ต้องดิ้นรนเนอะ แต่ละคนมีปัญหาต่างกัน เอาเป็นว่าตกลงกันให้ดี ติดตามมาแล้ว คนนึงต้องเรียน อีกคนก็ตั้งใจทำงานเยอะกว่า ใครจะจ่ายค่าเรียนกันเท่าไหร่ ก็สุดแล้วแต่ตกลง ปกติ 70:30 หรือ 80:20

กระทู้นี้ก็พอแค่นี้ก่อนเนอะ เพราะต้องการแนะนำแค่ตอนก่อนมา ส่วนมาแล้วทำยังไงต่อ ไว้ถ้าเราว่างจะมาตั้งอีกกระทู้
ข้อมูลแอบเยอะ ไม่รู้ลืมพิมพ์อะไรไปบ้าง ติชมได้นะคะ ท้วงได้เลยถ้าเราลืมตรงไหน
ใครมีคำถามอะไร ก็คอมเม้นท์ไว้ได้เลย เราว่างจะมาตอบให้ เลิกงานแล้วจะพยายามแวะมาตอบให้ทุกวัน
ลืมตอบของใครก็หลังไมค์มาได้ค่ะ

ปล. ขอนอกเรื่อง เรื่องวีซ่านักเรียนนิดนึง ค่าวีซ่าท่องเที่ยว มันอยู่ที่ประมาณ 4250 บาท เท่านั้นนะ (แอบจำตัวเลขแน่ๆไม่ได้) ไม้ใช่หลักหมื่นแบบที่หลายคนโดนหลอกมา ถ้ารวมค่าบริการ + ค่าแปลเอกสารแล้ว ยังไงก็ไม่เกิน หมื่นหรอก  ใครไปถามเอเจ้นท์ไหนแล้วโดนชาร์จมาแพง ถอยด่วนนะจ๊ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่