=== เห็นหลายท่านบอกว่า LVG ให้รูนีย์เล่นในตำแหน่งตัวกลาง (4-1-4-1) ผมก็ขอแย้งไว้ตรงนี้เลยนะครับว่า เกมนี้เราเล่นกับพาเลซ ทีมอันดับ 17 ของตาราง EPL ในโอลด์ แทร๊ฟฟอร์ด LVG ต้องให้ทีมเล่นเพื่อ 3 แต้มสถานเดียวตั้งแต่ต้นเกมส์เท่านั้น
ดังนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเล่นหน้าเดี่ยว หรือให้แค่เฟไลนี่คนเดียวมา support RVP
หรือต่อให้เกรงว่า แผงหลังไม่เสถียร แต่เมื่อจบครึ่งแรก ก็น่าจะเห็นได้ว่า พาเลซแทบคุกคามอะไรเดเกอาไม่ได้เลย ครึ่งหลังก็เปลี่ยนตำแหน่งรูนีย์ได้แล้ว ===
1. ช่วงนี้ก็น่าเห็นใจ LVG ทีเดียว เพราะนักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีกหลายคน จนต้องใช้แผงรับชุดใหม่ ที่มีชอว์, บลินท์, แม็คแนร์ และวาเลนเซีย แต่การคงระบบ 4-4-2 แบบมีปีกครั้งที่ 2 ติดต่อกันก็เป็นเรื่องที่น่าให้ความหวังได้ถึง formation ที่ชัดเจนของทีม
2. อย่างไรก็ดี ความสามารถในการทำประตูของพาเลซซึ่งเป็นทีมอันดับ 17 แทบไม่สร้างปัญหาใด ยกเว้นทการหลุดเดี่ยวเข้าไปของเฟล็ทเชอร์ระหว่างความสับสนของบลินด์กับแม็คแนร์ แต่ก็ยิงพลาดเป้าไปไกล
3. แดนกลาง คาริกพยายามจ่ายบอลคล้ายๆ ช่วงเฟอร์กี้แต่ประสิทธิภาพยังด้อยอยู่ เฟไลนี่เล่นเกมรับได้ดี แต่เกมรุก ลูกพัก ลูกโหม่งยังมีไม่มาก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการลงมาต่ำของรูนีย์เกือบตลอดเกม (อีกแล้ว) ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า ทำไม LVG ไม่แก้ไขเสียที เพราะมันทำให้ประสิทธิภาพในเกมรุกหายไปมาก โดยเฉพาะกับทีมระดับพาเลซที่น่าจะเน้นการยิงประตูอย่างเข้มข้น (รูนหันมายิงบ้างในช่วงท้ายๆ)
4. พาเลซมาตั้งรับ 2 ชั้นอย่างเต็มที่ ทั้งซ้อนปีกและกลาง นอกจาก 10 นาทีสุดท้ายที่โดนนำไป โค้ชจึงเปลี่ยน 2 ตัว แต่ก็แก้ไขสถานการณ์ไม่ได้
5. แต่การตั้งรับ 2 ชั้นแบบนี้ ก็ทำให้ทีมเราทำเกมรุกได้ไม่ดีนัก ยานาไซด์หลังจากตัดเข้ากลางเพื่อยิงไปครั้งหนึ่ง ก็กลับมาเลี้ยงเดี่ยวตามเคย (การประสานงานกับแบ็คขวาวาเลนเซียเกือบ = 0) จนโดนเปลี่ยนตัวออกให้มาต้าลงมาเป็นปีกขวาแทน ซึ่งมาต้าก็ฉวยโอกาสรับบอลกลับมาจากดิมาเรีย ตัดเข้าในแล้วยิงจากนอกกรอบเขตโทษเข้าประตูไปอย่างงดงาม ซึ่งหวังว่าประตูนี้จะทำให้มาต้าคืนฟอร์มที่เคยทำให้ได้รับรางวัลผู้เล่นแห่งปีของเชลซีถึง 2 สมัย (2011-12, 2012-13) กลับมา
6. ส่วนดิมาเรียเกมนี้ก็มีความพยายามตัดใน ยิงไกล และประสานงานกับแบ็คซ้ายชอว์ แต่ส่วนใหญ่ก็สามารถได้แค่ cross บอลจากปีกซ้าย (ด้านที่ถนัด) จนโดนเปลี่ยนตัวให้วิลสันลงมาแทนใน 20 นาทีสุดท้าย
7. ตอนนั้น LVG ได้เปลี่ยนตำแหน่งให้รูนมาเล่นปีกซ้าย วิลสันเล่นเป็นหน้าคู่กับ RVP แต่ก็ไม่มีผลอะไรมากนัก เช่นเดียวกับในช่วงต่อเวลา LVG เปลี่ยนเฟล็ทเชอร์มาแทนแม็คแนร์ ก็ช่วยกันกับเฟไลนี่ในการป้องกันหน้าแผงหลังได้ดี
โดยสรุป เกมนี้ การเล่นกับทีมอันดับ 17 การทำเกมรุกยังไม่น่าประทับใจมากนัก ส่วนเกมรับที่ดูจะมีปัญหาการประสานงานกันอยู่บ้าง น่าจะดีขึ้น ? เมื่อสมอลลิ่งพ้นโทษกลับมา ก็ได้แต่หวังว่า มีเบรคให้ทีมชาติเล่นรอบคัดเลือกบอลยูโร 2016 จะทำให้ตัวหลักบางตัวหายเจ็บลงช่วยทีมได้ และมีโอกาสซ้อมทีมด้วยกันระยะหนึ่ง ก่อนจะต้องเจอศึกหนักกับอาร์เซน่อลในอีก 2 สัปดาห์หน้า
แล้วเพื่อนๆ หล่ะครับ มีความเห็นอย่างไรมาแลกเปลี่ยนกัน
[กระทู้สนทนาผีแดง 2014-11-09] มาสนทนาหลังเกมส์แมนฯยู 1-0 คริสตัล พาเลซ กัน
ดังนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเล่นหน้าเดี่ยว หรือให้แค่เฟไลนี่คนเดียวมา support RVP
หรือต่อให้เกรงว่า แผงหลังไม่เสถียร แต่เมื่อจบครึ่งแรก ก็น่าจะเห็นได้ว่า พาเลซแทบคุกคามอะไรเดเกอาไม่ได้เลย ครึ่งหลังก็เปลี่ยนตำแหน่งรูนีย์ได้แล้ว ===
1. ช่วงนี้ก็น่าเห็นใจ LVG ทีเดียว เพราะนักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีกหลายคน จนต้องใช้แผงรับชุดใหม่ ที่มีชอว์, บลินท์, แม็คแนร์ และวาเลนเซีย แต่การคงระบบ 4-4-2 แบบมีปีกครั้งที่ 2 ติดต่อกันก็เป็นเรื่องที่น่าให้ความหวังได้ถึง formation ที่ชัดเจนของทีม
2. อย่างไรก็ดี ความสามารถในการทำประตูของพาเลซซึ่งเป็นทีมอันดับ 17 แทบไม่สร้างปัญหาใด ยกเว้นทการหลุดเดี่ยวเข้าไปของเฟล็ทเชอร์ระหว่างความสับสนของบลินด์กับแม็คแนร์ แต่ก็ยิงพลาดเป้าไปไกล
3. แดนกลาง คาริกพยายามจ่ายบอลคล้ายๆ ช่วงเฟอร์กี้แต่ประสิทธิภาพยังด้อยอยู่ เฟไลนี่เล่นเกมรับได้ดี แต่เกมรุก ลูกพัก ลูกโหม่งยังมีไม่มาก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการลงมาต่ำของรูนีย์เกือบตลอดเกม (อีกแล้ว) ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า ทำไม LVG ไม่แก้ไขเสียที เพราะมันทำให้ประสิทธิภาพในเกมรุกหายไปมาก โดยเฉพาะกับทีมระดับพาเลซที่น่าจะเน้นการยิงประตูอย่างเข้มข้น (รูนหันมายิงบ้างในช่วงท้ายๆ)
4. พาเลซมาตั้งรับ 2 ชั้นอย่างเต็มที่ ทั้งซ้อนปีกและกลาง นอกจาก 10 นาทีสุดท้ายที่โดนนำไป โค้ชจึงเปลี่ยน 2 ตัว แต่ก็แก้ไขสถานการณ์ไม่ได้
5. แต่การตั้งรับ 2 ชั้นแบบนี้ ก็ทำให้ทีมเราทำเกมรุกได้ไม่ดีนัก ยานาไซด์หลังจากตัดเข้ากลางเพื่อยิงไปครั้งหนึ่ง ก็กลับมาเลี้ยงเดี่ยวตามเคย (การประสานงานกับแบ็คขวาวาเลนเซียเกือบ = 0) จนโดนเปลี่ยนตัวออกให้มาต้าลงมาเป็นปีกขวาแทน ซึ่งมาต้าก็ฉวยโอกาสรับบอลกลับมาจากดิมาเรีย ตัดเข้าในแล้วยิงจากนอกกรอบเขตโทษเข้าประตูไปอย่างงดงาม ซึ่งหวังว่าประตูนี้จะทำให้มาต้าคืนฟอร์มที่เคยทำให้ได้รับรางวัลผู้เล่นแห่งปีของเชลซีถึง 2 สมัย (2011-12, 2012-13) กลับมา
6. ส่วนดิมาเรียเกมนี้ก็มีความพยายามตัดใน ยิงไกล และประสานงานกับแบ็คซ้ายชอว์ แต่ส่วนใหญ่ก็สามารถได้แค่ cross บอลจากปีกซ้าย (ด้านที่ถนัด) จนโดนเปลี่ยนตัวให้วิลสันลงมาแทนใน 20 นาทีสุดท้าย
7. ตอนนั้น LVG ได้เปลี่ยนตำแหน่งให้รูนมาเล่นปีกซ้าย วิลสันเล่นเป็นหน้าคู่กับ RVP แต่ก็ไม่มีผลอะไรมากนัก เช่นเดียวกับในช่วงต่อเวลา LVG เปลี่ยนเฟล็ทเชอร์มาแทนแม็คแนร์ ก็ช่วยกันกับเฟไลนี่ในการป้องกันหน้าแผงหลังได้ดี
โดยสรุป เกมนี้ การเล่นกับทีมอันดับ 17 การทำเกมรุกยังไม่น่าประทับใจมากนัก ส่วนเกมรับที่ดูจะมีปัญหาการประสานงานกันอยู่บ้าง น่าจะดีขึ้น ? เมื่อสมอลลิ่งพ้นโทษกลับมา ก็ได้แต่หวังว่า มีเบรคให้ทีมชาติเล่นรอบคัดเลือกบอลยูโร 2016 จะทำให้ตัวหลักบางตัวหายเจ็บลงช่วยทีมได้ และมีโอกาสซ้อมทีมด้วยกันระยะหนึ่ง ก่อนจะต้องเจอศึกหนักกับอาร์เซน่อลในอีก 2 สัปดาห์หน้า
แล้วเพื่อนๆ หล่ะครับ มีความเห็นอย่างไรมาแลกเปลี่ยนกัน