บทที่ 1
บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ในปัจจุบันได้มีเกษตรกรหันมาเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ หรือไก่ที่เลี้ยงสำหรับการขยายพันธุ์ แต่เกษตรกรส่วนมากไม่ค่อยมีความชำนาญทางด้านนี้มากนักและยังใช้วิธีเดิมๆทำให้ผลผลิตที่ได้มานั้นค่อนข้างน้อย เราจึงศึกษาเรื่องนี้เพื่อแสดงให้เกษตรกรได้เห็นว่าในปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่จะช่วยให้การฟักไข่ไก่ให้มีประสิทธิภาพ และทำให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีปัจจัยที่จะต้องนำมาพิจารณาร่วมกัน อยู่หลายปัจจัย การประเมินผลของการฟักไข่ หรือประสิทธิภาพของการฟักไข่จะต้องพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้ประกอบคือ สภาพแวดล้อม,อายุของแม่พันธ์ไก่,อาหารที่ใช้เลี้ยงไก่ และอุณหภูมิในการ ฟักไข่ไก่ ที่จะต้องปรับให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และในปัจจุบันได้มีการนำวีธีการทางเทคโนโลยี มาปรับใช้โดยการสร้างเครื่องฟักไข่ไก่ หรือตู้ใช้ฟักไข่ไก่ที่ทำให้ประสิทธิภาพในการฟักไข่ไก่เพิ่มมากขึ้น และการที่จะฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีนั้นแม่ไก่เองก็จะต้องมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง และไม่เกิด โรคระบาด ซึ่งหากไม่ป้องกันก็อาจจะทำให้การฟักไข่ไก่นั้นไม่ได้ประสิทธิภาพและข้อมูลนี้น่าจะเป็นข้อมูลเสริมให้กับเกษตรกรที่เลี้ยงไก่อีกอย่างหนึ่ง
วัตถุประสงค์ของปัญหา
1. เพื่อให้ทราบถึงวิธีการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดี และมีประสิทธิภาพ
2. เพื่อให้ทราบถึงวิธีการป้องกันการเกิดโรคระบาดของแม่ไก่
ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า
1. ระยะเวลา วันที่1 กรกฎาคม 2557 – 30 กันยายน2557
2. เนื้อหา การฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ จากข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ
1. ทำให้ทราบถึงวิธีการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดี และมีประสิทธิภาพ
2. ทำให้ทราบถึงวิธีการป้องกันโรคระบาดของแม่ไก่
3. สามารถนำมาปรับใช้กับแม่ไก่ที่บ้านของเราได้
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้จัดทำโครงงาน ได้ศึกษาเอกสาร แนวคิด และข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ ตามลำดับดังนี้
1. การฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ
2. โรคระบาดที่เกิดกับไก่ และวิธีป้องกัน
1. การฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ
ในการฟักไข่จะให้ได้ผลนั้นมีปัจจัยที่จะต้องนำมาพิจารณาร่วมกันอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน การประเมินผลของการฟักไข่ หรือประสิทธิภาพของการฟักไข่จะต้องพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้ประกอบคือ อายุของพ่อแม่ไก่ ,อาหารที่ใช้เลี้ยงไก่,การเก็บและคัดไข่ ,ตู้ฟักไข่และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งการฟักไข่ไก่นั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่ การฟักไข่โดยวิธีธรรมชาติ หรือการฟักไข่โดยแม่ไก่ และการฟักไข่โดยใช้เครื่องฟัก
1. การฟักไข่โดยวิธีธรรมชาติ หรือการฟักไข่โดยแม่ไก่ เป็นการฟักไข่โดยแม่ไก่ในรังวางไข่ หลังจากแม่ไก่วางไข่ในรังวางไข่ได้จำนวน 8-10 ฟอง จำนวนและอุณหภูมิของไข่จะกระตุ้นบริเวณท้องไก่ส่งความรู้สึกผ่านเส้นประสาทไปยังต่อมใต้สมอง ปลดปล่อยฮอร์โมนโปรแลคตินออกมาสู่
กระแสเลือดทำให้แม่ไก่เกิดรอยฟักบนหน้าอก 3 รอยฟัก คือหนึ่งรอยตรงกลาง และสองรอยด้านข้าง บริเวณดังกล่าวขนจะร่วง มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงมาก บวมคล้ายฟองน้ำเมื่อสัมผัสจะรู้สึกร้อน การฟักไข่โดยวิธีนี้คือการถ่ายเทความร้อนจากตัวแม่ไก่ไปสู่ไข่โดยผ่านทางรอยฟัก ในขณะฟักไข่ระยะแรกแม่ไก่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในรังวางไข่ ระยะกลางและระยะท้ายแม่ไก่จึงใช้เวลานอกรังวางไข่เพิ่มขึ้น ขณะฟักไข่แม่ไก่จะทำการเขี่ยไข่ (กลับไข่) วันละประมาณ 96 ครั้ง เพื่อให้ไข่ทุกฟองได้รับความอบอุ่นจากการฟักใกล้เคียงกัน หลังจากฟักไข่ได้ 21 วัน ลูกไก่จะเริ่มเจาะเปลือกน้ำแม่ไก่
และลูกลงจากรังวางไข่ในวันที่ 22 และขังสุ่มให้อาหารและน้ำอย่างน้อย 7 วัน จึงปล่อยให้แม่ และลูกหากินตามธรรมชาติต่อไป
2. การฟักไข่โดยใช้เครื่องฟัก หลังจากผสมพันธุ์และทำการเก็บไข่ได้ 7 วัน (รวบรวมไข่) ก่อนนำไข่เข้าฟักต้องตรวจเช็คเครื่องฟักไข่ให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีเช่นอุณหภูมิตู้ฟัก 99.5องศาฟาเรน-ไฮต์ ความชื้นสัมพัทธ์ 60% อุณหภูมิตู้เกิด 98-99.5 องศาฟาเรนไฮต์ ความชื้นสัมพัทธ์ 70% เมื่อเก็บไข่สะสมได้ 7 วัน ก็นำมาจัดเข้าเครื่องฟัก (setter) ซึ่งกลับไข่ (Turning) วันละ 6 ครั้ง (6 ครั้ง/24 ชั่วโมง) ส่องไข่ (candling) เมื่อนำไข่เข้าฟัก 7 วันและ 18 วัน เพื่อนำไข่ไม่มีเชื้อและไข่เชื้อตายออกจากการฟัก การส่องไข่เมื่อนำเข้าฟัก 18 วัน เป็นการส่องไข่ก่อนนำลงตู้เกิด (Hatcher) หลังจากอยู่ในตู้เกิด 3 วัน (วันที่ 21) ลูกไก่ก็เจาะเปลือกไข่ออกมาได้ เก็บไว้ในตู้เกิด 1 วัน จากนั้นในวันที่ 22
นำลูกไก่ออกจากตู้เกิด ติดเบอร์ขา ชั่งน้ำหนักตัว ซึ่งนำไปลงในทะเบียนประวัติต่อไป 2.การเกิดโรคระบาดกับแม่ไก่ และวิธีป้องกัน
โรคที่อาจเกิดขึ้นกับแม่ไก่ได้แก่โรคบิด,โรคไข่หวัดนก เป็นต้น ซึ่งแต่ละโรคก็มีวิธีป้องกันหรือรักษาแตกต่างกันไปอย่างเช่น โรคบิด จะมีวิธีป้อองกันดังนี้
วิธีแรก เป็นการใช้วัคซีน
วิธีต่อมา ก็เป็นการเอายาผสมลงไปในอาหารให้ไก่กิน วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด ได้ผลดีมากด้วย เนื่องจากมียาชนิดที่ใช้ทำลายเชื้อโรคได้ดีก็ได้แก่ยาจำพวก เค็กคอก คอยเคน และไซโคสเต็ด แล้วก็มียาชนิดอ่อนที่ใช้ป้องกันอีกคือ แอมโปรลพลัส คอแบน และอาวาเท็กซึ่งจะไม่ทำลายเชื้อหมดแต่จะเหลือไว้จำนวนหนึ่งในปริมาณมากพอที่จะ กระตุ้นให้ไก่สร้างภูมิคุ้มกันโรคไก่ได้การใช้ยาป้องกัน โรคบิด ก็ต้องมีปัจจัยหลายอย่างที่จะต้องพิจารณาถึงข้อดีกันอย่างถี่ถ้วนก่อนเพื่อความแน่นอนเพื่อความถูกต้อง เนื่องจากว่าการให้ไก่กินยา ป้องกันโรคนี้ จะต้องให้ไก่กินโดยตลอดเวลาด้วยในระยะเวลาที่เลี้ยงไก่ 7-8
บทที่ 3
ขั้นตอนและวิธีดำเนินงาน
การศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้มีขั้นตอนและวิธีการดำเนินงาน ดังนี้
1. ศึกษาและค้นคว้า การฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ
2. รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล
3. นำข้อมูลที่ได้มาสรุปผล
4. นำข้อมูลมาจัดพิมพ์ให้เป็นระเบียบและอ่านง่าย
บทที่ 4
ผลการศึกษาค้นคว้า
ผลการศึกษาค้นคว้า
จากการศึกษาเรื่องการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง มีวิธีดังนี้
1.วิธีการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดี และมีประสิทธิภาพมีวิธีดังนี้
1.1 การดูแล การให้อาหาร และการให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม หรืออยู่ในบริเวณ
ที่มีอุณหภูมิที่เหมาะกับการฟักไข่ของแม่ไก่
1.2 การใช้ตู้ฟักไข่ไก่ในการฟักไข่จะทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น และทำให้การฟักไข่
ของแม่ไก่ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
2. วิธีการป้องกันการเกิดโรคระบาดของแม่ไก่มีวิธีดังนี้
2.1 ทำความสะอาดเล้าไก่ หรือที่ที่เลี้ยงไก่ อยู่เสมอ และควรฉีดยา หรือพ่นยาที่ใช้สำหรับ
ฆ่าเชื้อโรคต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาด แต่ควรใช้ยาที่เหมาะสมกับไก่ และไม่เป็นอันตรายต่อคน และไม่ควรใช้บ่อยๆ
บทที่ 5
สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
สรุปผลการศึกษา
จากการศึกษาถึงวิธีการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดี และมีประสิทธิภาพทำให้ทราบว่า วิธีการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดี และมีประสิทธิภาพคือ การดูแล การให้อาหาร และการให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม หรืออยู่ในบริเวณที่มีอุณหภูมิที่เหมาะกับการฟักไข่ของแม่ไก่ และการใช้ตู้ฟักไข่ไก่ในการฟักไข่จะทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น และทำให้การฟักไข่ของแม่ไก่ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธีการป้องกันการเกิดโรคระบาดของแม่ไก่คือ การทำความสะอาดเล้าไก่ หรือที่ที่เลี้ยงไก่
อยู่เสมอ และควรฉีดยา หรือพ่นยาที่ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาด แต่ควรใช้ยาที่เหมาะสมกับไก่ และไม่เป็นอันตรายต่อคน และไม่ควรใช้บ่อยๆ
ข้อเสนอแนะ
1. ทำให้ทราบถึงวิธีการฟักไข่ไก่ให้ได้ประสิทธิภาพ
2. ทำให้ทราบถึงวิธีการใช้เครื่องฟักไข่ หรือตู้ฟักไข่ที่ทำให้การฟักไข่ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ทำให้ทราบถึงวิธีการป้องกันไม่ให้แม่ไก่เกิดโรคระบาด
โครงงานการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ
บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ในปัจจุบันได้มีเกษตรกรหันมาเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ หรือไก่ที่เลี้ยงสำหรับการขยายพันธุ์ แต่เกษตรกรส่วนมากไม่ค่อยมีความชำนาญทางด้านนี้มากนักและยังใช้วิธีเดิมๆทำให้ผลผลิตที่ได้มานั้นค่อนข้างน้อย เราจึงศึกษาเรื่องนี้เพื่อแสดงให้เกษตรกรได้เห็นว่าในปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่จะช่วยให้การฟักไข่ไก่ให้มีประสิทธิภาพ และทำให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีปัจจัยที่จะต้องนำมาพิจารณาร่วมกัน อยู่หลายปัจจัย การประเมินผลของการฟักไข่ หรือประสิทธิภาพของการฟักไข่จะต้องพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้ประกอบคือ สภาพแวดล้อม,อายุของแม่พันธ์ไก่,อาหารที่ใช้เลี้ยงไก่ และอุณหภูมิในการ ฟักไข่ไก่ ที่จะต้องปรับให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และในปัจจุบันได้มีการนำวีธีการทางเทคโนโลยี มาปรับใช้โดยการสร้างเครื่องฟักไข่ไก่ หรือตู้ใช้ฟักไข่ไก่ที่ทำให้ประสิทธิภาพในการฟักไข่ไก่เพิ่มมากขึ้น และการที่จะฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีนั้นแม่ไก่เองก็จะต้องมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง และไม่เกิด โรคระบาด ซึ่งหากไม่ป้องกันก็อาจจะทำให้การฟักไข่ไก่นั้นไม่ได้ประสิทธิภาพและข้อมูลนี้น่าจะเป็นข้อมูลเสริมให้กับเกษตรกรที่เลี้ยงไก่อีกอย่างหนึ่ง
วัตถุประสงค์ของปัญหา
1. เพื่อให้ทราบถึงวิธีการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดี และมีประสิทธิภาพ
2. เพื่อให้ทราบถึงวิธีการป้องกันการเกิดโรคระบาดของแม่ไก่
ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า
1. ระยะเวลา วันที่1 กรกฎาคม 2557 – 30 กันยายน2557
2. เนื้อหา การฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ จากข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ
1. ทำให้ทราบถึงวิธีการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดี และมีประสิทธิภาพ
2. ทำให้ทราบถึงวิธีการป้องกันโรคระบาดของแม่ไก่
3. สามารถนำมาปรับใช้กับแม่ไก่ที่บ้านของเราได้
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้จัดทำโครงงาน ได้ศึกษาเอกสาร แนวคิด และข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ ตามลำดับดังนี้
1. การฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ
2. โรคระบาดที่เกิดกับไก่ และวิธีป้องกัน
1. การฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ
ในการฟักไข่จะให้ได้ผลนั้นมีปัจจัยที่จะต้องนำมาพิจารณาร่วมกันอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน การประเมินผลของการฟักไข่ หรือประสิทธิภาพของการฟักไข่จะต้องพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้ประกอบคือ อายุของพ่อแม่ไก่ ,อาหารที่ใช้เลี้ยงไก่,การเก็บและคัดไข่ ,ตู้ฟักไข่และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งการฟักไข่ไก่นั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่ การฟักไข่โดยวิธีธรรมชาติ หรือการฟักไข่โดยแม่ไก่ และการฟักไข่โดยใช้เครื่องฟัก
1. การฟักไข่โดยวิธีธรรมชาติ หรือการฟักไข่โดยแม่ไก่ เป็นการฟักไข่โดยแม่ไก่ในรังวางไข่ หลังจากแม่ไก่วางไข่ในรังวางไข่ได้จำนวน 8-10 ฟอง จำนวนและอุณหภูมิของไข่จะกระตุ้นบริเวณท้องไก่ส่งความรู้สึกผ่านเส้นประสาทไปยังต่อมใต้สมอง ปลดปล่อยฮอร์โมนโปรแลคตินออกมาสู่
กระแสเลือดทำให้แม่ไก่เกิดรอยฟักบนหน้าอก 3 รอยฟัก คือหนึ่งรอยตรงกลาง และสองรอยด้านข้าง บริเวณดังกล่าวขนจะร่วง มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงมาก บวมคล้ายฟองน้ำเมื่อสัมผัสจะรู้สึกร้อน การฟักไข่โดยวิธีนี้คือการถ่ายเทความร้อนจากตัวแม่ไก่ไปสู่ไข่โดยผ่านทางรอยฟัก ในขณะฟักไข่ระยะแรกแม่ไก่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในรังวางไข่ ระยะกลางและระยะท้ายแม่ไก่จึงใช้เวลานอกรังวางไข่เพิ่มขึ้น ขณะฟักไข่แม่ไก่จะทำการเขี่ยไข่ (กลับไข่) วันละประมาณ 96 ครั้ง เพื่อให้ไข่ทุกฟองได้รับความอบอุ่นจากการฟักใกล้เคียงกัน หลังจากฟักไข่ได้ 21 วัน ลูกไก่จะเริ่มเจาะเปลือกน้ำแม่ไก่
และลูกลงจากรังวางไข่ในวันที่ 22 และขังสุ่มให้อาหารและน้ำอย่างน้อย 7 วัน จึงปล่อยให้แม่ และลูกหากินตามธรรมชาติต่อไป
2. การฟักไข่โดยใช้เครื่องฟัก หลังจากผสมพันธุ์และทำการเก็บไข่ได้ 7 วัน (รวบรวมไข่) ก่อนนำไข่เข้าฟักต้องตรวจเช็คเครื่องฟักไข่ให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีเช่นอุณหภูมิตู้ฟัก 99.5องศาฟาเรน-ไฮต์ ความชื้นสัมพัทธ์ 60% อุณหภูมิตู้เกิด 98-99.5 องศาฟาเรนไฮต์ ความชื้นสัมพัทธ์ 70% เมื่อเก็บไข่สะสมได้ 7 วัน ก็นำมาจัดเข้าเครื่องฟัก (setter) ซึ่งกลับไข่ (Turning) วันละ 6 ครั้ง (6 ครั้ง/24 ชั่วโมง) ส่องไข่ (candling) เมื่อนำไข่เข้าฟัก 7 วันและ 18 วัน เพื่อนำไข่ไม่มีเชื้อและไข่เชื้อตายออกจากการฟัก การส่องไข่เมื่อนำเข้าฟัก 18 วัน เป็นการส่องไข่ก่อนนำลงตู้เกิด (Hatcher) หลังจากอยู่ในตู้เกิด 3 วัน (วันที่ 21) ลูกไก่ก็เจาะเปลือกไข่ออกมาได้ เก็บไว้ในตู้เกิด 1 วัน จากนั้นในวันที่ 22
นำลูกไก่ออกจากตู้เกิด ติดเบอร์ขา ชั่งน้ำหนักตัว ซึ่งนำไปลงในทะเบียนประวัติต่อไป 2.การเกิดโรคระบาดกับแม่ไก่ และวิธีป้องกัน
โรคที่อาจเกิดขึ้นกับแม่ไก่ได้แก่โรคบิด,โรคไข่หวัดนก เป็นต้น ซึ่งแต่ละโรคก็มีวิธีป้องกันหรือรักษาแตกต่างกันไปอย่างเช่น โรคบิด จะมีวิธีป้อองกันดังนี้
วิธีแรก เป็นการใช้วัคซีน
วิธีต่อมา ก็เป็นการเอายาผสมลงไปในอาหารให้ไก่กิน วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด ได้ผลดีมากด้วย เนื่องจากมียาชนิดที่ใช้ทำลายเชื้อโรคได้ดีก็ได้แก่ยาจำพวก เค็กคอก คอยเคน และไซโคสเต็ด แล้วก็มียาชนิดอ่อนที่ใช้ป้องกันอีกคือ แอมโปรลพลัส คอแบน และอาวาเท็กซึ่งจะไม่ทำลายเชื้อหมดแต่จะเหลือไว้จำนวนหนึ่งในปริมาณมากพอที่จะ กระตุ้นให้ไก่สร้างภูมิคุ้มกันโรคไก่ได้การใช้ยาป้องกัน โรคบิด ก็ต้องมีปัจจัยหลายอย่างที่จะต้องพิจารณาถึงข้อดีกันอย่างถี่ถ้วนก่อนเพื่อความแน่นอนเพื่อความถูกต้อง เนื่องจากว่าการให้ไก่กินยา ป้องกันโรคนี้ จะต้องให้ไก่กินโดยตลอดเวลาด้วยในระยะเวลาที่เลี้ยงไก่ 7-8
ขั้นตอนและวิธีดำเนินงาน
การศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้มีขั้นตอนและวิธีการดำเนินงาน ดังนี้
1. ศึกษาและค้นคว้า การฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ
2. รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล
3. นำข้อมูลที่ได้มาสรุปผล
4. นำข้อมูลมาจัดพิมพ์ให้เป็นระเบียบและอ่านง่าย
ผลการศึกษาค้นคว้า
ผลการศึกษาค้นคว้า
จากการศึกษาเรื่องการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง มีวิธีดังนี้
1.วิธีการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดี และมีประสิทธิภาพมีวิธีดังนี้
1.1 การดูแล การให้อาหาร และการให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม หรืออยู่ในบริเวณ
ที่มีอุณหภูมิที่เหมาะกับการฟักไข่ของแม่ไก่
1.2 การใช้ตู้ฟักไข่ไก่ในการฟักไข่จะทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น และทำให้การฟักไข่
ของแม่ไก่ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
2. วิธีการป้องกันการเกิดโรคระบาดของแม่ไก่มีวิธีดังนี้
2.1 ทำความสะอาดเล้าไก่ หรือที่ที่เลี้ยงไก่ อยู่เสมอ และควรฉีดยา หรือพ่นยาที่ใช้สำหรับ
ฆ่าเชื้อโรคต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาด แต่ควรใช้ยาที่เหมาะสมกับไก่ และไม่เป็นอันตรายต่อคน และไม่ควรใช้บ่อยๆ
สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
สรุปผลการศึกษา
จากการศึกษาถึงวิธีการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดี และมีประสิทธิภาพทำให้ทราบว่า วิธีการฟักไข่ไก่ให้ได้ผลดี และมีประสิทธิภาพคือ การดูแล การให้อาหาร และการให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม หรืออยู่ในบริเวณที่มีอุณหภูมิที่เหมาะกับการฟักไข่ของแม่ไก่ และการใช้ตู้ฟักไข่ไก่ในการฟักไข่จะทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น และทำให้การฟักไข่ของแม่ไก่ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธีการป้องกันการเกิดโรคระบาดของแม่ไก่คือ การทำความสะอาดเล้าไก่ หรือที่ที่เลี้ยงไก่
อยู่เสมอ และควรฉีดยา หรือพ่นยาที่ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาด แต่ควรใช้ยาที่เหมาะสมกับไก่ และไม่เป็นอันตรายต่อคน และไม่ควรใช้บ่อยๆ
ข้อเสนอแนะ
1. ทำให้ทราบถึงวิธีการฟักไข่ไก่ให้ได้ประสิทธิภาพ
2. ทำให้ทราบถึงวิธีการใช้เครื่องฟักไข่ หรือตู้ฟักไข่ที่ทำให้การฟักไข่ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ทำให้ทราบถึงวิธีการป้องกันไม่ให้แม่ไก่เกิดโรคระบาด