อ่านเจอในหลายๆความเห็น แล้วมีคนต่อว่าภรรยาที่อยู่ในรถว่า กดดัน ทำให้เสียสติ สมาธิ มากขึ้น
เราขอแชร์ประสบการณ์ของเรานะคะ
เรื่องก็ค่อนข้างนานมาแล้ว เมื่อก่อนยังไม่นิยมมีกล้องติดรถแบบนี้ ไม่งั้น คงได้ยินแต่เสียงเรากรี๊ดดดดด
แฟนเก่าเรา เป็นคนยอมใครไม่ได้เลย โดยเฉพาะเรื่องบนท้องถนน มีเรื่องราวที่เป็นคล้ายในคลิป หลายครั้งมาก
จนคิดว่า ชั้นจะตายมั๊ย เวลาของขึ้นนี่ มือเกร็ง จับพวงมาลัยแน่น หน้าแดง ตั้งใจบังคับรถ แบบตัดขาดจากโลกภายนอก
โดยสิ้นเชิง
1.ครั้งที่หนักสุด ปาดกันตอน 7 โมงเช้า แถวถนนสามเสน ปาดกันแบบกระจกหูช้างฝั่งเรา (ข้างคนขับ) ไปกระทบกึกๆๆๆๆ
กับกระจกหูช้างของอีกคันฝั่งคนขับค่ะ ความเร็วรถ ประมาณ 100 +-
เราสติแตกแบบ ร้องกรี๊ดดดดดดด ร้องไห้ ขอให้หยุดเถอะ เรากลัวมากกกกกก แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเขาก็สติหลุดอยู่
แต่สุดท้ายก็แยกย้ายกัน โดยไม่ได้มีการลงมาหาเรื่องชกต่อย
จำได้ว่า พอเข้าสู่ปกติ เราก็คุย ต่อว่า ว่าเรากลัวมากนะ อย่าทำอีก เขาก็ว่า เขาควบคุมรถได้ ใครจะมาหยามเขา
บนถนนไม่ได้
2.ครั้งรองลงมา คือ ไป ตจว กัน ขับตามกัน 3-4 คัน ครั้งนี้ ปาดกันไปมา จนมาเบรคกึกที่ท้ายรถสิบล้อ แบบระยะประชิดค่ะ
ความเร็วรถ ประมาณ 100 +- เหมือนเดิม
เป็นการเฉียดตาย ครั้งที่ 2 ของเรา กว่าจะเจอเพื่อนที่ตามกันมา เพื่อนยังบอก นึกว่าจะอัดท้ายสิบล้อแล้ว
ยังมีอีกประปรายหลายครั้ง แต่ก็รอดมาได้ทุกครั้ง
อยากจะบอกว่า คนที่นั่งอยู่ในรถตอนที่เขากำลังปะทะความเร็วกัน มันทรมานมากนะคะ
กลัวสารพัด รถจะชนมั๊ย รถจะคว่ำมั๊ย อีกคันจะมีปืนหรือเปล่า คือ ความตายรออยู่ตรงหน้าเลย
ตอนนี้ เราก็เลิกกับคนๆนั้นไปแล้ว แต่ความหลอนจากเหตุการณ์ต่างๆนั้น ยังไม่ลืม แม้ว่าจะผ่านมานานเท่าไหร่
ฝากบอกคุณผู้ชายว่า อย่ามั่นใจ หรือยึดกับศักดิ์ศรี กันมากนักเลย ประเภท ฆ่าได้หยามไม่ได้
ถ้าเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้เป็นกับคนขับคนเดียวแน่ๆ ไหนจะ แฟน ภรรยา ลูก เคสก่อนก็ แม่
เหตุการณ์แป๊ปเดียว อาจจะทำให้เสียใจไปตลอดชีวิตก็ได้ค่ะ
จากคดีนักแทรกในตำนาน คุณเคยมีประสบการณ์เป็นผู้ร่วมโดยสารในรถคันที่เกิดเหตุ บ้างมั๊ยคะ
เราขอแชร์ประสบการณ์ของเรานะคะ
เรื่องก็ค่อนข้างนานมาแล้ว เมื่อก่อนยังไม่นิยมมีกล้องติดรถแบบนี้ ไม่งั้น คงได้ยินแต่เสียงเรากรี๊ดดดดด
แฟนเก่าเรา เป็นคนยอมใครไม่ได้เลย โดยเฉพาะเรื่องบนท้องถนน มีเรื่องราวที่เป็นคล้ายในคลิป หลายครั้งมาก
จนคิดว่า ชั้นจะตายมั๊ย เวลาของขึ้นนี่ มือเกร็ง จับพวงมาลัยแน่น หน้าแดง ตั้งใจบังคับรถ แบบตัดขาดจากโลกภายนอก
โดยสิ้นเชิง
1.ครั้งที่หนักสุด ปาดกันตอน 7 โมงเช้า แถวถนนสามเสน ปาดกันแบบกระจกหูช้างฝั่งเรา (ข้างคนขับ) ไปกระทบกึกๆๆๆๆ
กับกระจกหูช้างของอีกคันฝั่งคนขับค่ะ ความเร็วรถ ประมาณ 100 +-
เราสติแตกแบบ ร้องกรี๊ดดดดดดด ร้องไห้ ขอให้หยุดเถอะ เรากลัวมากกกกกก แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเขาก็สติหลุดอยู่
แต่สุดท้ายก็แยกย้ายกัน โดยไม่ได้มีการลงมาหาเรื่องชกต่อย
จำได้ว่า พอเข้าสู่ปกติ เราก็คุย ต่อว่า ว่าเรากลัวมากนะ อย่าทำอีก เขาก็ว่า เขาควบคุมรถได้ ใครจะมาหยามเขา
บนถนนไม่ได้
2.ครั้งรองลงมา คือ ไป ตจว กัน ขับตามกัน 3-4 คัน ครั้งนี้ ปาดกันไปมา จนมาเบรคกึกที่ท้ายรถสิบล้อ แบบระยะประชิดค่ะ
ความเร็วรถ ประมาณ 100 +- เหมือนเดิม
เป็นการเฉียดตาย ครั้งที่ 2 ของเรา กว่าจะเจอเพื่อนที่ตามกันมา เพื่อนยังบอก นึกว่าจะอัดท้ายสิบล้อแล้ว
ยังมีอีกประปรายหลายครั้ง แต่ก็รอดมาได้ทุกครั้ง
อยากจะบอกว่า คนที่นั่งอยู่ในรถตอนที่เขากำลังปะทะความเร็วกัน มันทรมานมากนะคะ
กลัวสารพัด รถจะชนมั๊ย รถจะคว่ำมั๊ย อีกคันจะมีปืนหรือเปล่า คือ ความตายรออยู่ตรงหน้าเลย
ตอนนี้ เราก็เลิกกับคนๆนั้นไปแล้ว แต่ความหลอนจากเหตุการณ์ต่างๆนั้น ยังไม่ลืม แม้ว่าจะผ่านมานานเท่าไหร่
ฝากบอกคุณผู้ชายว่า อย่ามั่นใจ หรือยึดกับศักดิ์ศรี กันมากนักเลย ประเภท ฆ่าได้หยามไม่ได้
ถ้าเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้เป็นกับคนขับคนเดียวแน่ๆ ไหนจะ แฟน ภรรยา ลูก เคสก่อนก็ แม่
เหตุการณ์แป๊ปเดียว อาจจะทำให้เสียใจไปตลอดชีวิตก็ได้ค่ะ