"กระทู้รีวิลหนังครั้งแรก ถือเป็นการแชร์ความรู้สึกหลังชมละกันนะครับ"
Rurouni Kenshin : The Legend Ends - ปิดตำนาน ซามูไรพเนจร
(ชื่อไทยตั้งเอง เพราะเกลียดชื่อที่ทางค่ายตั้งมาก 55)
เดินทางมาถึงภาคสุดท้ายแล้ว สำหรับภาพยนต์ไตรภาคสุดมันส์เรื่องนี้ สู่บทสรุปของการต่อสู้สุดระทึก
ของเหล่ายอดนักดาบแห่งยุคสมัยปฏิวัติ
ซึ่งภาคนี้เคนชิน และสหายต้องช่วยกันจัดการกับชิชิโอและเหล่าสมุน เพื่อยับยั้งแผนการยึดครองญี่ปุ่น ที่จะทำให้ประเทศเข้าสู่กลียุค
หนังเรียกได้ว่าจัดเต็มกับฉากแอ๊คชั่นเต็มที่ ยิ่งตอนท้ายๆนี่ใส่ไม่ยั้งกันเลยทีเดียว
ดีไซน์การต่อสู้ด้วยเพลงดาบต่างๆ ยังคงเป็นเอกลักษ์ (ผมยกให้เป็นหนังที่มีฉากต่อสู้ด้วยดาบที่มันส์และเท่ห์ที่สุดแล้ว)
การประดาบดูรวดเร็วฉับใว ทั้งมุมกล้องและการเคลื่อนที่สลับไปมา ทำได้อย่างน่าตื่นเต้น
ผมตื่นตาทุกครั้ง ที่เห็นเคนชินใช้เพลงดาบล่องนภา วิ่งโยกตัวและสไลด์กับพื้นไปมา หลบการจู่โจมและเข้าฟาดฟันศัตรู (อย่างเท่ห์ 555)
บทดีขึ้นกว่าภาคสอง คงเพราะผมเริ่มชินกับบทของอาโอชิมากขึ้นแล้ว (เอาจริงๆคือ ภาคสองนี่ผมหงุดหงิดกับบทของหมอนี่มาก)
การดำเนินเรื่อง ช่วงแรกแม้ดูเรื่อยๆเอื่อยๆไปนิด แต่พอทุกอย่างเข้าที่ เรื่องก็ใหลลื่นและสนุกขึ้นเรื่อยๆ
ฉากศึกสุดท้ายระหว่างเคนชินกับชิชิโอ ทำออกได้สุดยอดมาก รู้สึกเลยว่าชิชิโอ แข็งแกร่งและน่าเกรงขามจริงๆ
ดูแล้วรู้สึกว่าจะเก่งกว่าในการ์ตูนด้วยซ้ำ
เรียกว่าฝั่งพระเอกที่ว่าเก่งๆ ทั้งไซโต, อาโอชิ, ซาโนะสุเกะ, หรือแม้แต่เคนชิน ต่างโดนสอยร่วงกันระนาว
ถ้าตัวเคนชินไม่มีแรงฮึด บวกกับข้อจำกัดบางอย่างของตัวชิชิโอเอง (แฟนๆการ์ตูนคงรู้ว่าคืออะไร)
ก็อาจจะไม่สามารถโค่นอสุรกายนักฆ่าตนนี้ลงก็เป็นได้
หนังสื่อให้เห็นสัจจะธรรมในเปลี่ยนถ่ายของยุคสมัย ว่าบางสิ่งบางอย่างที่อาจเคยสำคัญ
แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป สิ่งนั้นอาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไป และบางครั้งก็ต้องถูกกำจัดไปพร้อมกับยุคสมัยเก่าๆ อย่างเช่น....
- อดีตกลุ่มซามูไรฝ่ายโชกุนอย่างกลุ่มโอนิวาบัง
- อดีตนักสู้กลุ่มชิเซ็น
- อดีตนักฆ่าของรัฐบาลอย่างชิชิโอ หรือแม้แต่ตัวบัตโตไซเอง (เหลือเพียง ฮิมูระ เคนชิน)
ีส่วนที่ชอบของหนัง
-งานสร้างด้านโปรดั๊กชั่นอลังกาลสมศักดิ์ศรี
-ฉากแอ๊คชั่นจัดเต็ม
-กระบวนท่าต่างๆดีไซน์ออกมาได้ดี
-ชิชิโอ เก่งและเท่ห์โคตรๆ (จากที่ภาคสองเฉยๆ )
-ยูมิ หญิงข้างกายชิชิโอ คงไม่มีใครรักและเข้าใจอสูรตนนี้ ไปมากกว่าเธออีกแล้ว (T T)
-โฮจิ เสนาธิการของชิชิโอ (เป็นคนเดียวในกลุ่มจุปกาตานะในภาคนี้ที่บทเด่นมาก)
-บทสรุปสุดท้ายของหนัง
-เพลงประกอบเทพทุกภาค (อันนี้แหงหล่ะ ก็วงเทพมาทำนี่ 555)
ส่วนที่ไม่ชอบ
-รายละเอียดบางอย่างที่ดูเหมือนถูกละเลย อย่างดาบของชิชิโอ ติดไฟได้ยังใง / นาคาอัตสุนีบาตทะยานฟ้า ที่ไม่มีดาบสอง ฯลฯ
-แอ๊คติ้งบางตัว บางครั้งยังเหมือนละครเวที
-จุปปงกาตานะถ้าไม่นับ ยูมิ,โฮจิ,เซจูโร่... ที่เหลือนี่เหมือนตัวประกอบชัดๆ
-คาโอรุบทน้อยโคตรๆ (T T) ทำให้เรื่องราวความรักของทั้งคู่ดูมีผลกระทบต่อเรื่องน้อยมากๆ
ทั้งๆที่จริงๆแล้วเคนชินมีคาโอรุเป็นดั่งแสงสว่าง ทำให้ไม่ยอมแพ้ และยอมตายง่ายๆ
ผมให้ 9/10
เป็นภาคที่ชอบมากที่สุดในสามภาค (ภาคหนึ่งให้ 8.5/ภาคสองให้ 6.5)
และไตรภาคเรื่องนี้ ขึ้นแท่นเป็นหนังที่สร้างจากมังง่ะ(การ์ตูนญี่ปุ่น) ที่ดีสุดไปแล้ว สำหรับข้าน้อย
คิดว่าแฟนพันธ์แท้ ไม่ควรพลาดครับ
[SR] Rurouni Kenshin : The Legend Ends (สปอยล์น้อยมาก เพื่อไม่ให้เสียอรรถรสในการรับชม)
Rurouni Kenshin : The Legend Ends - ปิดตำนาน ซามูไรพเนจร
(ชื่อไทยตั้งเอง เพราะเกลียดชื่อที่ทางค่ายตั้งมาก 55)
เดินทางมาถึงภาคสุดท้ายแล้ว สำหรับภาพยนต์ไตรภาคสุดมันส์เรื่องนี้ สู่บทสรุปของการต่อสู้สุดระทึก
ของเหล่ายอดนักดาบแห่งยุคสมัยปฏิวัติ
ซึ่งภาคนี้เคนชิน และสหายต้องช่วยกันจัดการกับชิชิโอและเหล่าสมุน เพื่อยับยั้งแผนการยึดครองญี่ปุ่น ที่จะทำให้ประเทศเข้าสู่กลียุค
หนังเรียกได้ว่าจัดเต็มกับฉากแอ๊คชั่นเต็มที่ ยิ่งตอนท้ายๆนี่ใส่ไม่ยั้งกันเลยทีเดียว
ดีไซน์การต่อสู้ด้วยเพลงดาบต่างๆ ยังคงเป็นเอกลักษ์ (ผมยกให้เป็นหนังที่มีฉากต่อสู้ด้วยดาบที่มันส์และเท่ห์ที่สุดแล้ว)
การประดาบดูรวดเร็วฉับใว ทั้งมุมกล้องและการเคลื่อนที่สลับไปมา ทำได้อย่างน่าตื่นเต้น
ผมตื่นตาทุกครั้ง ที่เห็นเคนชินใช้เพลงดาบล่องนภา วิ่งโยกตัวและสไลด์กับพื้นไปมา หลบการจู่โจมและเข้าฟาดฟันศัตรู (อย่างเท่ห์ 555)
บทดีขึ้นกว่าภาคสอง คงเพราะผมเริ่มชินกับบทของอาโอชิมากขึ้นแล้ว (เอาจริงๆคือ ภาคสองนี่ผมหงุดหงิดกับบทของหมอนี่มาก)
การดำเนินเรื่อง ช่วงแรกแม้ดูเรื่อยๆเอื่อยๆไปนิด แต่พอทุกอย่างเข้าที่ เรื่องก็ใหลลื่นและสนุกขึ้นเรื่อยๆ
ฉากศึกสุดท้ายระหว่างเคนชินกับชิชิโอ ทำออกได้สุดยอดมาก รู้สึกเลยว่าชิชิโอ แข็งแกร่งและน่าเกรงขามจริงๆ
ดูแล้วรู้สึกว่าจะเก่งกว่าในการ์ตูนด้วยซ้ำ
เรียกว่าฝั่งพระเอกที่ว่าเก่งๆ ทั้งไซโต, อาโอชิ, ซาโนะสุเกะ, หรือแม้แต่เคนชิน ต่างโดนสอยร่วงกันระนาว
ถ้าตัวเคนชินไม่มีแรงฮึด บวกกับข้อจำกัดบางอย่างของตัวชิชิโอเอง (แฟนๆการ์ตูนคงรู้ว่าคืออะไร)
ก็อาจจะไม่สามารถโค่นอสุรกายนักฆ่าตนนี้ลงก็เป็นได้
หนังสื่อให้เห็นสัจจะธรรมในเปลี่ยนถ่ายของยุคสมัย ว่าบางสิ่งบางอย่างที่อาจเคยสำคัญ
แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป สิ่งนั้นอาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไป และบางครั้งก็ต้องถูกกำจัดไปพร้อมกับยุคสมัยเก่าๆ อย่างเช่น....
- อดีตกลุ่มซามูไรฝ่ายโชกุนอย่างกลุ่มโอนิวาบัง
- อดีตนักสู้กลุ่มชิเซ็น
- อดีตนักฆ่าของรัฐบาลอย่างชิชิโอ หรือแม้แต่ตัวบัตโตไซเอง (เหลือเพียง ฮิมูระ เคนชิน)
ีส่วนที่ชอบของหนัง
-งานสร้างด้านโปรดั๊กชั่นอลังกาลสมศักดิ์ศรี
-ฉากแอ๊คชั่นจัดเต็ม
-กระบวนท่าต่างๆดีไซน์ออกมาได้ดี
-ชิชิโอ เก่งและเท่ห์โคตรๆ (จากที่ภาคสองเฉยๆ )
-ยูมิ หญิงข้างกายชิชิโอ คงไม่มีใครรักและเข้าใจอสูรตนนี้ ไปมากกว่าเธออีกแล้ว (T T)
-โฮจิ เสนาธิการของชิชิโอ (เป็นคนเดียวในกลุ่มจุปกาตานะในภาคนี้ที่บทเด่นมาก)
-บทสรุปสุดท้ายของหนัง
-เพลงประกอบเทพทุกภาค (อันนี้แหงหล่ะ ก็วงเทพมาทำนี่ 555)
ส่วนที่ไม่ชอบ
-รายละเอียดบางอย่างที่ดูเหมือนถูกละเลย อย่างดาบของชิชิโอ ติดไฟได้ยังใง / นาคาอัตสุนีบาตทะยานฟ้า ที่ไม่มีดาบสอง ฯลฯ
-แอ๊คติ้งบางตัว บางครั้งยังเหมือนละครเวที
-จุปปงกาตานะถ้าไม่นับ ยูมิ,โฮจิ,เซจูโร่... ที่เหลือนี่เหมือนตัวประกอบชัดๆ
-คาโอรุบทน้อยโคตรๆ (T T) ทำให้เรื่องราวความรักของทั้งคู่ดูมีผลกระทบต่อเรื่องน้อยมากๆ
ทั้งๆที่จริงๆแล้วเคนชินมีคาโอรุเป็นดั่งแสงสว่าง ทำให้ไม่ยอมแพ้ และยอมตายง่ายๆ
ผมให้ 9/10
เป็นภาคที่ชอบมากที่สุดในสามภาค (ภาคหนึ่งให้ 8.5/ภาคสองให้ 6.5)
และไตรภาคเรื่องนี้ ขึ้นแท่นเป็นหนังที่สร้างจากมังง่ะ(การ์ตูนญี่ปุ่น) ที่ดีสุดไปแล้ว สำหรับข้าน้อย
คิดว่าแฟนพันธ์แท้ ไม่ควรพลาดครับ