คุณ ATL มาเกี่ยวด้วยนิด ตามทู้นี้ครับ
http://pantip.com/topic/32810532
ซึ่งผมว่าคุณ ATL คงหมายถึงที่ศรอรชุนโพสต์ไว้ว่า
เด๋วผมจะขอนำเสนอไปพร้อม ๆ กันเลยนะครับ
......
ที่ศรอรชุนบอกว่า สนช. มีอำนาจในเรื่องการถอดถอน แม้ รธน.50 จะถูกยกเลิกไปแล้วนั้น ด้วยเหตุผล
1. พรบ. ป.ป.ช. ยังมีผลบังคับใช้
2. รธน.57 มาตรา 6 ที่ให้ สนช. ทำหน้าที่ ส.ว. ฉะนั้น หากกฎหมายใดระบุถึง ส.ว. นั่นหมายถึงให้ สนช. ทำหน้าที่แทน
ซึ่งผมว่า เป็นการตีความที่หลุดโลก มั่ว ตะแบง
ดังนี้ครับ
1. เรื่องกฎหมาย ป.ป.ช. ที่ คสช. ประกาศให้มีผลบังคับใช้ แม้จะยกเลิก รธน.50
ตรงนี้ ต้องเข้าใจนะครับ ว่าการให้กฎหมาย ป.ป.ช. มีผลบังคับใช้ มันคนละเรื่องกับอำนาจถอดถอนของ ส.ว.
จะไปตีความว่า กฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 58 มีผล แล้วจะหมายถึง สนช. มีอำนาจถอดถอนไม่ได้ มันคนละเรื่อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังรัฐประหาร คสช.เป็นกฎหมาย ยกเลิก รธน.
เพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อ เขาก็ประกาศให้กฎหมายต่าง ๆ ยังใช้ได้ ศาลยังมีอำนาจพิจารณาคดี
การให้กฎหมาย ป.ป.ช. ยังใช้ได้ ก็เพื่อให้คดีที่ค้างใน ป.ป.ช. ยังเดินต่อไป
ไม่ว่าเรื่องวินัยข้าราชการ ที่ชี้มูลแล้ว ส่งไปให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการ
เรื่องอาญาที่ไปสู่ศาล
ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจลงโทษใครเอง ต้องส่งต่อ
ทีนี้ เรื่องการถอดถอนนี่ มันไม่เหมือนเรื่องอื่น
เรื่องอื่น มันเดินต่อได้ เรื่องวินัย หน่วยงานต้นสังกัดก็อยู่ เรื่องอาญา ศาลก็อยู่
แต่เรื่องถอดถอน ที่ต้องส่งต่อวุฒิสภาเพื่อดำเนินตาม รธน.50 บัญญัติไว้ มันไม่มีแล้ว ด้วยเหตุ รธน.50 ถูกยกเลิก
อำนาจการถอดถอนของ สนช. ที่ทำหน้าที่แทน ส.ว. จึงไม่มี ไม่มีเพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ให้
รธน.50 ยกเลิก รธน.57 ไม่ได้ระบุให้อำนาจไว้
2. เรื่อง รธน.57 มาตรา 6 ที่ให้ สนช. ทำหน้าที่ ส.ว. แล้วศรอรชุนตีความว่า อำนาจ สนช. ก็คืออำนาจ ส.ว. นั่นเอง
หากกฎหมายระบุถึง ส.ว. ก็หมายถึงให้ สนช.ทำหน้าที่แทน
มั่วครับ
สถาปนาอำนาจเอาเองดื้อ ๆ โดยไม่มีกฎหมายรองรับ
ศรอรชุนบอกว่า
อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของวุฒิสภา ยังคงอยู่ ไม่หายสาบสูญ หรือสะดุด หยุดลงแต่ประการใด
เพียงแต่มีบุคคล หรือ คณะบุคคลอื่นเป็นผู้ดำเนินการแทนตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
ซึ่งในปัจจุบันคณะบุคคลที่ใช้อำนาจของวุฒิสภา คือ สนช.
มั่วครับ เพราะถ้าตีความอย่างนี้ ก็หมายความว่า รธน.50 ยังไม่ตาย
มาตรา 6 รธน.57 ให้ สนช. ทำหน้าที่ ส.ว. นั้น ไม่ได้หมายถึงหน้าที่ตาม รธน.50 นะครับ
แต่หมายถึงอำนาจหน้าที่ทางนิติบัญญัติ และหน้าที่ทั่วไป
ปกติ รัฐสภาจะประกอบด้วย ส.ส. และ ส.ว.
หน้าที่ของ ส.ส. ก็คือ ร่างกฎหมาย ควบคุมการทำงานรัฐบาล
หน้าที่ ส.ว. คือกลั่นกรองกฎหมายที่ผ่านมาจาก ส.ส. และหน้าที่อื่นตามที่ รธน.กำหนด
เป็นหน้าที่ทางนิติบัญญัติ หรือหน้าที่อื่นตามที่ รธน.กำหนดไว้
หน้าที่อื่นตามที่ รธน.กำหนด ก็เช่น การให้ความเห็นชอบบุคคลเช้าดำรงตำแหน่งต่าง ๆ เช่น กกต. ป.ป.ช. ฯลฯ
ซึ่งเป็นเรื่องหน้าที่ตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดวิธีการไว้
ไม่ใช่เรื่องอำนาจ
ต้องแยกให้ออกนะครับ ระหว่าง อำนาจ กับ หน้าที่
ไทยเรามีรัฐธรรมนูญหลายฉบับครับ
การบอกว่าให้ สนช. ทำหน้าที่ ส.ว. จึงหมายถึงหน้าที่ทางนิติบัญญัติ และหน้าที่โดยทั่วไป
ไม่ใช่หน้าที่ตาม รธน.50 ซึ่งระบุถึงอำนาจในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
การไปตีความว่า หมายถึง อำนาจของ ส.ว. ตาม รธน.50 ยังคงมีอยู่ จึงมั่วมากว์ว์ว์
ประเด็นมันง่าย ๆ ครับ
กฎหมาย ป.ป.ช. มีผล มีผลแล้วไม่ได้แปลว่าทำให้ สนช. มีอำนาจถอดถอนนะครับ
เพราะอำนาจถอดถอนนั้น รธน.50 บัญญัติให้ไว้ เมื่อถูกยกเลิก ก็แปลว่าเรื่องถอดถอนตกไป
รธน.57 ก็ไม่ได้ให้อำนาจเรื่องถอดถอนไว้ จะไปตีความว่า สนช. ทำหน้าที่ ส.ว. เมื่อบวกกับกฎหมาย ป.ป.ช.
จึงทำให้ สนช. มีอำนาจถอดถอน
ไม่ใช่เลยครับ
เพราะกฎหมายแม่ คือ รธน. ไม่มีแล้ว บทบัญญัติเรื่องอำนาจการถอดถอนของ ส.ว. ไม่มีแล้ว
กฎหมายลูก คือกฎหมาย ป.ป.ช. ถึงจะมีบทบัญญัติเรื่องการถอดถอน(มาตรา 58) ก็ไม่มีผล
ไม่มีผลเพราะตัวมันเองใช้ตามลำพังไม่ได้ ต้องอิง รธน. เมื่อไม่มี รธน. ก็ไม่มีผลใด ๆ
มันไม่เหมือนเรื่องอาญานะครับ ที่ใครทุจริต ป.ป.ช. ก็ส่งฟ้องต่อศาล
ทำได้ เพราะศาลมี กฎหมายวิธีพิจารณาความของศาลก็มี
แต่เรื่องถอดถอนน่ะ มันไม่มีแล้ว ถึงจะให้ สนช. ทำหน้าที่ ส.ว. แต่กฎหมายแม่เรื่องการถอดถอนมันไม่มีแล้ว
อย่างคุณ POE บอกไว้ครับ
ดึงคุณ POE มาเอี่ยวด้วย เผื่อจะได้เข้ามาปวดตับแทนผม
(ทู้บ้าก็บ้าว่ะ) ถึงคุณ ATL และศรอรชุน ในเรื่อง สนช. ไม่มีอำนาจในเรื่องการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ซึ่งผมว่าคุณ ATL คงหมายถึงที่ศรอรชุนโพสต์ไว้ว่า
เด๋วผมจะขอนำเสนอไปพร้อม ๆ กันเลยนะครับ
......
ที่ศรอรชุนบอกว่า สนช. มีอำนาจในเรื่องการถอดถอน แม้ รธน.50 จะถูกยกเลิกไปแล้วนั้น ด้วยเหตุผล
1. พรบ. ป.ป.ช. ยังมีผลบังคับใช้
2. รธน.57 มาตรา 6 ที่ให้ สนช. ทำหน้าที่ ส.ว. ฉะนั้น หากกฎหมายใดระบุถึง ส.ว. นั่นหมายถึงให้ สนช. ทำหน้าที่แทน
ซึ่งผมว่า เป็นการตีความที่หลุดโลก มั่ว ตะแบง
ดังนี้ครับ
1. เรื่องกฎหมาย ป.ป.ช. ที่ คสช. ประกาศให้มีผลบังคับใช้ แม้จะยกเลิก รธน.50
ตรงนี้ ต้องเข้าใจนะครับ ว่าการให้กฎหมาย ป.ป.ช. มีผลบังคับใช้ มันคนละเรื่องกับอำนาจถอดถอนของ ส.ว.
จะไปตีความว่า กฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 58 มีผล แล้วจะหมายถึง สนช. มีอำนาจถอดถอนไม่ได้ มันคนละเรื่อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังรัฐประหาร คสช.เป็นกฎหมาย ยกเลิก รธน.
เพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อ เขาก็ประกาศให้กฎหมายต่าง ๆ ยังใช้ได้ ศาลยังมีอำนาจพิจารณาคดี
การให้กฎหมาย ป.ป.ช. ยังใช้ได้ ก็เพื่อให้คดีที่ค้างใน ป.ป.ช. ยังเดินต่อไป
ไม่ว่าเรื่องวินัยข้าราชการ ที่ชี้มูลแล้ว ส่งไปให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการ
เรื่องอาญาที่ไปสู่ศาล
ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจลงโทษใครเอง ต้องส่งต่อ
ทีนี้ เรื่องการถอดถอนนี่ มันไม่เหมือนเรื่องอื่น
เรื่องอื่น มันเดินต่อได้ เรื่องวินัย หน่วยงานต้นสังกัดก็อยู่ เรื่องอาญา ศาลก็อยู่
แต่เรื่องถอดถอน ที่ต้องส่งต่อวุฒิสภาเพื่อดำเนินตาม รธน.50 บัญญัติไว้ มันไม่มีแล้ว ด้วยเหตุ รธน.50 ถูกยกเลิก
อำนาจการถอดถอนของ สนช. ที่ทำหน้าที่แทน ส.ว. จึงไม่มี ไม่มีเพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ให้
รธน.50 ยกเลิก รธน.57 ไม่ได้ระบุให้อำนาจไว้
2. เรื่อง รธน.57 มาตรา 6 ที่ให้ สนช. ทำหน้าที่ ส.ว. แล้วศรอรชุนตีความว่า อำนาจ สนช. ก็คืออำนาจ ส.ว. นั่นเอง
หากกฎหมายระบุถึง ส.ว. ก็หมายถึงให้ สนช.ทำหน้าที่แทน
มั่วครับ
สถาปนาอำนาจเอาเองดื้อ ๆ โดยไม่มีกฎหมายรองรับ
ศรอรชุนบอกว่า
อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของวุฒิสภา ยังคงอยู่ ไม่หายสาบสูญ หรือสะดุด หยุดลงแต่ประการใด
เพียงแต่มีบุคคล หรือ คณะบุคคลอื่นเป็นผู้ดำเนินการแทนตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
ซึ่งในปัจจุบันคณะบุคคลที่ใช้อำนาจของวุฒิสภา คือ สนช.
มั่วครับ เพราะถ้าตีความอย่างนี้ ก็หมายความว่า รธน.50 ยังไม่ตาย
มาตรา 6 รธน.57 ให้ สนช. ทำหน้าที่ ส.ว. นั้น ไม่ได้หมายถึงหน้าที่ตาม รธน.50 นะครับ
แต่หมายถึงอำนาจหน้าที่ทางนิติบัญญัติ และหน้าที่ทั่วไป
ปกติ รัฐสภาจะประกอบด้วย ส.ส. และ ส.ว.
หน้าที่ของ ส.ส. ก็คือ ร่างกฎหมาย ควบคุมการทำงานรัฐบาล
หน้าที่ ส.ว. คือกลั่นกรองกฎหมายที่ผ่านมาจาก ส.ส. และหน้าที่อื่นตามที่ รธน.กำหนด
เป็นหน้าที่ทางนิติบัญญัติ หรือหน้าที่อื่นตามที่ รธน.กำหนดไว้
หน้าที่อื่นตามที่ รธน.กำหนด ก็เช่น การให้ความเห็นชอบบุคคลเช้าดำรงตำแหน่งต่าง ๆ เช่น กกต. ป.ป.ช. ฯลฯ
ซึ่งเป็นเรื่องหน้าที่ตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดวิธีการไว้
ไม่ใช่เรื่องอำนาจ
ต้องแยกให้ออกนะครับ ระหว่าง อำนาจ กับ หน้าที่
ไทยเรามีรัฐธรรมนูญหลายฉบับครับ
การบอกว่าให้ สนช. ทำหน้าที่ ส.ว. จึงหมายถึงหน้าที่ทางนิติบัญญัติ และหน้าที่โดยทั่วไป
ไม่ใช่หน้าที่ตาม รธน.50 ซึ่งระบุถึงอำนาจในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
การไปตีความว่า หมายถึง อำนาจของ ส.ว. ตาม รธน.50 ยังคงมีอยู่ จึงมั่วมากว์ว์ว์
ประเด็นมันง่าย ๆ ครับ
กฎหมาย ป.ป.ช. มีผล มีผลแล้วไม่ได้แปลว่าทำให้ สนช. มีอำนาจถอดถอนนะครับ
เพราะอำนาจถอดถอนนั้น รธน.50 บัญญัติให้ไว้ เมื่อถูกยกเลิก ก็แปลว่าเรื่องถอดถอนตกไป
รธน.57 ก็ไม่ได้ให้อำนาจเรื่องถอดถอนไว้ จะไปตีความว่า สนช. ทำหน้าที่ ส.ว. เมื่อบวกกับกฎหมาย ป.ป.ช.
จึงทำให้ สนช. มีอำนาจถอดถอน
ไม่ใช่เลยครับ
เพราะกฎหมายแม่ คือ รธน. ไม่มีแล้ว บทบัญญัติเรื่องอำนาจการถอดถอนของ ส.ว. ไม่มีแล้ว
กฎหมายลูก คือกฎหมาย ป.ป.ช. ถึงจะมีบทบัญญัติเรื่องการถอดถอน(มาตรา 58) ก็ไม่มีผล
ไม่มีผลเพราะตัวมันเองใช้ตามลำพังไม่ได้ ต้องอิง รธน. เมื่อไม่มี รธน. ก็ไม่มีผลใด ๆ
มันไม่เหมือนเรื่องอาญานะครับ ที่ใครทุจริต ป.ป.ช. ก็ส่งฟ้องต่อศาล
ทำได้ เพราะศาลมี กฎหมายวิธีพิจารณาความของศาลก็มี
แต่เรื่องถอดถอนน่ะ มันไม่มีแล้ว ถึงจะให้ สนช. ทำหน้าที่ ส.ว. แต่กฎหมายแม่เรื่องการถอดถอนมันไม่มีแล้ว
อย่างคุณ POE บอกไว้ครับ
ดึงคุณ POE มาเอี่ยวด้วย เผื่อจะได้เข้ามาปวดตับแทนผม