คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
สัมพัทธภาพ
- กาลอวกาศและของทุกอย่างในนั้นเป็นเป็นแบบต่อเนื่อง (continuum)
- ทฤษฎีแสดงความคงที่แม่นยำ (elegant -?ผมหาคำภาษาไทยแปลตรงๆไม่ถูกครับ)
- จะเห็นผลได้ชัดเจนในสเกลขนาดใหญ่มากๆ (macroscopic) เช่นระยะทางมากๆ หรือมวลบิดกาลอวกาศมากๆ หรือความเร็วมากๆ
ควอนตัม
- ของมีความไม่ต่อเนื่อง ประกอบด้วยยูนิตเล็กๆ มีค่าต่างๆได้เฉพาะบางค่า(quantized)
- ทฤษฎีให้ผลออกมาเป็นความน่าจะเป็นที่จะได้ค่าต่างๆ(probability distribution)
- เห็นผลได้ชัดเจนกับของเล็กๆ (microscopic)
ทั้งนี้ ทั้งสองทฤษฎีก็ตรงกับผลการทดลองทั้งคู่ แสดงว่าใช้ได้ในขอบเขตของทฤษฎีนั้นๆ
แต่พอมาเจอบางกรณี ที่มันต้องใช้ทั้ง2ร่วมกัน เช่น ตรงกลางหลุมดำ(ขนาดเล็ก บิดอวกาศมาก)
หรือการทำนายสภาวะในช่วง กำเนิดเอกภพ มันก็จะเจ๊ง เข้าด้วยกันไม่ได้
มี ทฤษฎี/สมมติฐาน หลายๆแบบ พยายามจะรวมเข้าด้วยกันให้ได้ แต่ก็ต้องกำหนดเงื่อนไขขอบเขตค่อนข้างเฉพาะ
Albert Einstein:
I am comviced that He - God does not play dice with the universe.
Neils Bohr:
Einstein, don't tell God what He can do and can't do.
- กาลอวกาศและของทุกอย่างในนั้นเป็นเป็นแบบต่อเนื่อง (continuum)
- ทฤษฎีแสดงความคงที่แม่นยำ (elegant -?ผมหาคำภาษาไทยแปลตรงๆไม่ถูกครับ)
- จะเห็นผลได้ชัดเจนในสเกลขนาดใหญ่มากๆ (macroscopic) เช่นระยะทางมากๆ หรือมวลบิดกาลอวกาศมากๆ หรือความเร็วมากๆ
ควอนตัม
- ของมีความไม่ต่อเนื่อง ประกอบด้วยยูนิตเล็กๆ มีค่าต่างๆได้เฉพาะบางค่า(quantized)
- ทฤษฎีให้ผลออกมาเป็นความน่าจะเป็นที่จะได้ค่าต่างๆ(probability distribution)
- เห็นผลได้ชัดเจนกับของเล็กๆ (microscopic)
ทั้งนี้ ทั้งสองทฤษฎีก็ตรงกับผลการทดลองทั้งคู่ แสดงว่าใช้ได้ในขอบเขตของทฤษฎีนั้นๆ
แต่พอมาเจอบางกรณี ที่มันต้องใช้ทั้ง2ร่วมกัน เช่น ตรงกลางหลุมดำ(ขนาดเล็ก บิดอวกาศมาก)
หรือการทำนายสภาวะในช่วง กำเนิดเอกภพ มันก็จะเจ๊ง เข้าด้วยกันไม่ได้
มี ทฤษฎี/สมมติฐาน หลายๆแบบ พยายามจะรวมเข้าด้วยกันให้ได้ แต่ก็ต้องกำหนดเงื่อนไขขอบเขตค่อนข้างเฉพาะ
Albert Einstein:
I am comviced that He - God does not play dice with the universe.
Neils Bohr:
Einstein, don't tell God what He can do and can't do.
แสดงความคิดเห็น
กลศาสตร์ควอนตัม แตกต่างจาก ทฤษฎีสัมพัทธภาพอย่างไร