ผมเคยสนทนาเรื่องไฟตั้งโต๊ะแอลอีดีเมื่อหลายเดือนก่อนซึ่งตอนนั้นวัตถุประสงค์หลักคือใช้เป็นโคมไฟไร้สายสำหรับโต๊ะทำงาน ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจซึ่งท่านสามารถติดตามได้จากกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/32184240
แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนมีพายุพัดที่บริเวณบ้านผมทำให้หม้อแปลงระเบิดไฟฟ้าดับไป 6 ชั่วโมง ผมจึงใช้ไฟตั้งโต๊ะนี้แทนเทียนและก็ใช้งานได้ดี แต่ก็ยังมีจุดบกพร่องให้ต้องคิดอะไรออกมาอีก ปัญหาที่เจอคือ
1. แท่นที่เป็นแบตหนักค่อนข้างมากในการถือย้าย ด้วยน้ำหนักเกือบกิโลทำให้ไม่สะดวกในการถือมือเดียว
2. ความสว่างมากเกินความจำเป็นสำหรับการส่องพื้นที่ธรรมดา เนื่องจากไฟถูกออกแบบมาสำหรับงานบนโต๊ะ ซึ่งในสถานการณ์นี้ผมต้องการแค่สว่างพอควรแต่อยู่ได้นาน และถ้าแบตหมดก็พร้อมที่จะเปลี่ยนอันใหม่ (ผมซื้อแบตก้อนนี้ลูกเดียวเพราะมีมากก็ต้องดูแลมาก แพงด้วย ใช้เวลาชาจน์ประมาณ 5-6 ชั่วโมงต่อครั้ง)
3. หลอดค่อนข้างร้อนที่ 75 องศาเซลเซียส ผมไม่ห่วงเรื่องความทนทานเพราะมันทนได้สบายอยู่แล้ว แต่ห่วงเรื่องความปลอดภัยในการจับถือ (อย่าลืมว่าในช่วงไฟดับ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา เช่นผิวหนังสัมผัสหลอด ร้อน ตกใจ ไฟหล่น มืด เผลอเหยียบซ้ำอีก มันจะเป็นอะไรที่วุ่นวายมาก ยิ่งถ้าให้เด็กถือ ก็ยิ่งน่ากลัว)
4. อยากให้มันทำอะไรได้มากกว่านี้ ไหนๆ ก็จะทำใหม่แล้ว เลยคิดว่าเพิ่มอรรถประโยชน์ เปลี่ยนโมดูลหลอดได้ทำนองนี้
หลังจากเอาปัญหามาวิเคราะห์ก็เลยออกแบบความต้องการมาเป็นเรื่องทางเทคนิค โดยมีหัวข้อความต้องการดังนี้
1. ต้องเบาพอทีจะใช้มือเดียวเป็นชั่วโมงได้โดยไม่ล้า
- เน้นที่ถ่านไฟฉาย AA เพราะหาง่ายเปลี่ยนสะดวก ทำได้ทั้งแบบครั้งเดียวทิ้ง หรือชาจน์ก็ได้
2. สว่างได้นานเกิน 10 ชั่วโมงต่อเนื่อง เปิดถึงเช้าเลย หลังจากนั้นจะค่อยเปลี่ยนแบตหรือชาจน์อะไรก็ว่ากันไป
- ถ่าน AA อัลคาไลค์มีความจุ 2700 mAH กะออกแบบให้กินกระแสที่ 150 มิลลิแอมป์หรือ อยู่ได้ 18 ชั่วโมง (ด้วยอัตราการจ่ายกระแสแค่ 5.5 เปอร์เซนต์ จึงไม่น่าเป็นห่วงว่าถ่านจะโหลดเกินไปทำให้อายุสั้นเร็วขึ้น)
3. ความสว่างให้เห็นบรรยากาศรอบข้างในห้องนั่งเล่นโดยสะดวก
- ปกติผมใช้หลอดไส้ 5 วัตต์ (ประมาณ 60 ลูเมนส์) ในห้องนอนก็เห็นอะไรได้ชัดเจนดี ผมจะเอาตัวนี้มาอ้างอิง)
4. ต้องไม่ร้อนจนทำอันตรายผิวหนัง
5. ต่อหลอดแบบอื่นได้สะดวก เนื่องจากผมมีหลอดยูวีที่อยากจะนำมาใช้งานด้วย
พอได้ความต้องการแล้วก็จึงรื้อหาอุปกรณ์การสร้าง หลักๆ ก็มีรังถ่าน แผ่นปริ้นท์เอนกประสงค์(แบบเดิม) หลอดไฟ ตัวต้านทาน ปากคีบ .... จากนั้นก็มาเริ่มสร้างกันเลยนะครับ
ในส่วนฐาน ผมใช้แผ่นปริ้นท์เอนกประสงค์ทำเพื่อที่จะใส่คอนเนคเตอร์สำหรับจับยึดส่วนหลอด คอนเนคเตอร์ให้หาแบบที่มีระยะpitch 2.54 มม. นะครับ แล้วต่อสายไฟจากรังถ่านชนิดมีสวิทช์เปิดในตัวเข้ามา
บัดกรีคอนเนคเตอร์ลงไป
โชว์อีกด้านที่บัดกรีแล้ว
*** คำเตือน *** ทำงานพวกนี้ควรจะมีตัวดูดและกักควันด้วย
เสร็จแล้วก็จะมีจุกครอบขั้วต่อเวลาไม่ใช้งานเพื่อป้องกันการช้อต
การต่อไฟทำได้ 2 ลักษณะคือแนวเดียวกัน กับแนวทะแยง แบบแนวเดียวกันเหมาะสำหรับไฟถือส่องทำให้เราจับส่วนล่างของรังถ่านได้โดยไม่เกะกะมือ

ส่วนแนวทะแยงจะเหมาะกับการเป็นไฟฐานตั้ง ซึ่งจะมีความมั่นคงกว่า
จากนั้นก็ทำการยึดฐานปริ้นท์กับรังถ่าน ทำให้ผมนึกถึงกาวดินน้ำมัน

ตามสเปคเขาว่ารับน้ำหนักได้ 3 กิโลต่อ 6 แพด น้ำหนักของฐานไม่ถึงขีดจึงใช้ไป 1 แพดก็น่าจะเอาอยู่
ประกบเข้าไปแล้ว
ตอนนี้ฐานไฟก็เสร็จ
ตอนนี้ก็มาทำตัวหลอด ผมก็ใช้หลอดเดิมของโตชิบ้า เพราะว่าเหลืออยู่พอควร แต่คราวนี้ใช้แค่ 2 หลอดต่อขนานกันตามสเกลที่เล็กลงจากของเดิม หลอดฉีดยาที่เห็นก็คือซิลิโคนสำหรับทาใต้หลอดระบายความร้อนลงแผ่นปรินท์
ต่อตัวต้านทาน 2 ตัวอนุกรมที่ขาคนละข้างข้างนึง 10 โอห์ม 1 วัตต์ อีกข้าง 1.65 โอห์ม 0.25 วัตต์ รวมเป็น 11.65 โอห์ม ลองเอามาวัดกระแสดู ที่แรงดัน 4.5 โวลต์ (ผมใช้รังถ่านขนาด 3 ก้อน) จะกินกระแส 170 มิลลิแอมป์หรือถ้าเป็นแบตก็จะอยู่ได้นานเกือบ 16 ชั่วโมง ก็ถือว่ายอมรับได้
เสร็จแล้วก็ต่อปากคีบออกมาเหมือนกับของเดิมที่เคยทำไว้ (อนาคตผมว่าจะเปลี่ยนให้เสียบกับคอนเนคเตอร์เลยก็นะจะสะดวกขึ้นนะ)
ได้แล้วครับไฟส่องสว่าง
ถ้าดูจากการออกแบบ หลอดนี้แต่ละหลอดรับกระแสใช้งานได้ 350 มิลลิแอมป์ และได้ความสว่าง 112 ลูเมนส์ แต่ว่าตอนนี้ใน 1 หลอดใช้กระแสแค่ 85 มิลลิแอมป์ ซึ่งดูจากกราฟ มันจะให้แสงประมาณ 0.27 เปอร์เซนต์ของ 112 ลูเมนส์ หรือ 30 ลูเมนส์ต่อหลอด รวมกันก็ 60 ลูเมนส์ บางท่านสงสัยว่าทำไมไม่ใช้หลอดเดียวไปเลย ผมก็บอกตรงนี้ว่าเพื่อให้แน่ใจว่าความร้อนเกิดขึ้นน้อยพอไม่ทำอันตรายนั่นเอง
การหยิบถือทำได้สบายเพราะสามารถวางในอุ้งมือสบายๆ
น้ำหนักก็แค่ขีดเดียว ลดลงจากแบบเดิมกว่า 7 เท่า
มาดูความสว่างกันบ้าง เมื่อเทียบกับหลอดไส้ 5 วัตต์ และหลอดแอลอีดีฟิลิปส์ 3 วัตต์ (เทียบให้พอรู้ว่าสว่างแค่ไหน ไม่ได้แข่งขันกันเพราะมันคนละวัตตถุประสงค์)
ฐานไฟที่ทำขึ้น

หลอดไส้ 5 วัตต์
หลอดแอลอีดีฟิลิปส์ 3 วัตต์
จะเห็นว่าไฟที่ทำนั้นมีความสว่างเพียงพอสำหรับส่องฉุกเฉิน ใช้งานได้จริง
มาดูความร้อนที่เกิดขึ้นบ้าง ไม่ต้องใช้เครื่องอะไรครับ นิ้วมือนี่แหละหนีบไปเลย หนีบแนานๆ จนแสงเป็นสีแดงก็แค่อุ่นนิดหน่อย ถ้าให้เดาก็ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ดังนั้นปลอดภัยแน่นอน
เพื่อแก้ปัญหาลืมทิ้งหัวปิดขั้วต่อเวลาเปิดใช้งาน ผมเลยทำขั้วดัมมี่สำหรับเป็นที่วางขึ้นมา ซึ่งเสียบได้ 2 หัวปิดเพราะในความจริงเราก็ใช้แค่ทีละ 2 จุดอยู่แล้ว
สรุป ไฟส่องฉุกเฉินนี้ใช้งานได้ดีจริง มีความสว่างพอเพียง เบา อยู่ได้นาน ปลอดภัย
DIY : ไฟโมดูลแอลอีดีกับฐานตั้ง
http://pantip.com/topic/32184240
แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนมีพายุพัดที่บริเวณบ้านผมทำให้หม้อแปลงระเบิดไฟฟ้าดับไป 6 ชั่วโมง ผมจึงใช้ไฟตั้งโต๊ะนี้แทนเทียนและก็ใช้งานได้ดี แต่ก็ยังมีจุดบกพร่องให้ต้องคิดอะไรออกมาอีก ปัญหาที่เจอคือ
1. แท่นที่เป็นแบตหนักค่อนข้างมากในการถือย้าย ด้วยน้ำหนักเกือบกิโลทำให้ไม่สะดวกในการถือมือเดียว
2. ความสว่างมากเกินความจำเป็นสำหรับการส่องพื้นที่ธรรมดา เนื่องจากไฟถูกออกแบบมาสำหรับงานบนโต๊ะ ซึ่งในสถานการณ์นี้ผมต้องการแค่สว่างพอควรแต่อยู่ได้นาน และถ้าแบตหมดก็พร้อมที่จะเปลี่ยนอันใหม่ (ผมซื้อแบตก้อนนี้ลูกเดียวเพราะมีมากก็ต้องดูแลมาก แพงด้วย ใช้เวลาชาจน์ประมาณ 5-6 ชั่วโมงต่อครั้ง)
3. หลอดค่อนข้างร้อนที่ 75 องศาเซลเซียส ผมไม่ห่วงเรื่องความทนทานเพราะมันทนได้สบายอยู่แล้ว แต่ห่วงเรื่องความปลอดภัยในการจับถือ (อย่าลืมว่าในช่วงไฟดับ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา เช่นผิวหนังสัมผัสหลอด ร้อน ตกใจ ไฟหล่น มืด เผลอเหยียบซ้ำอีก มันจะเป็นอะไรที่วุ่นวายมาก ยิ่งถ้าให้เด็กถือ ก็ยิ่งน่ากลัว)
4. อยากให้มันทำอะไรได้มากกว่านี้ ไหนๆ ก็จะทำใหม่แล้ว เลยคิดว่าเพิ่มอรรถประโยชน์ เปลี่ยนโมดูลหลอดได้ทำนองนี้
หลังจากเอาปัญหามาวิเคราะห์ก็เลยออกแบบความต้องการมาเป็นเรื่องทางเทคนิค โดยมีหัวข้อความต้องการดังนี้
1. ต้องเบาพอทีจะใช้มือเดียวเป็นชั่วโมงได้โดยไม่ล้า
- เน้นที่ถ่านไฟฉาย AA เพราะหาง่ายเปลี่ยนสะดวก ทำได้ทั้งแบบครั้งเดียวทิ้ง หรือชาจน์ก็ได้
2. สว่างได้นานเกิน 10 ชั่วโมงต่อเนื่อง เปิดถึงเช้าเลย หลังจากนั้นจะค่อยเปลี่ยนแบตหรือชาจน์อะไรก็ว่ากันไป
- ถ่าน AA อัลคาไลค์มีความจุ 2700 mAH กะออกแบบให้กินกระแสที่ 150 มิลลิแอมป์หรือ อยู่ได้ 18 ชั่วโมง (ด้วยอัตราการจ่ายกระแสแค่ 5.5 เปอร์เซนต์ จึงไม่น่าเป็นห่วงว่าถ่านจะโหลดเกินไปทำให้อายุสั้นเร็วขึ้น)
3. ความสว่างให้เห็นบรรยากาศรอบข้างในห้องนั่งเล่นโดยสะดวก
- ปกติผมใช้หลอดไส้ 5 วัตต์ (ประมาณ 60 ลูเมนส์) ในห้องนอนก็เห็นอะไรได้ชัดเจนดี ผมจะเอาตัวนี้มาอ้างอิง)
4. ต้องไม่ร้อนจนทำอันตรายผิวหนัง
5. ต่อหลอดแบบอื่นได้สะดวก เนื่องจากผมมีหลอดยูวีที่อยากจะนำมาใช้งานด้วย
พอได้ความต้องการแล้วก็จึงรื้อหาอุปกรณ์การสร้าง หลักๆ ก็มีรังถ่าน แผ่นปริ้นท์เอนกประสงค์(แบบเดิม) หลอดไฟ ตัวต้านทาน ปากคีบ .... จากนั้นก็มาเริ่มสร้างกันเลยนะครับ
ในส่วนฐาน ผมใช้แผ่นปริ้นท์เอนกประสงค์ทำเพื่อที่จะใส่คอนเนคเตอร์สำหรับจับยึดส่วนหลอด คอนเนคเตอร์ให้หาแบบที่มีระยะpitch 2.54 มม. นะครับ แล้วต่อสายไฟจากรังถ่านชนิดมีสวิทช์เปิดในตัวเข้ามา
บัดกรีคอนเนคเตอร์ลงไป
โชว์อีกด้านที่บัดกรีแล้ว
*** คำเตือน *** ทำงานพวกนี้ควรจะมีตัวดูดและกักควันด้วย
เสร็จแล้วก็จะมีจุกครอบขั้วต่อเวลาไม่ใช้งานเพื่อป้องกันการช้อต
การต่อไฟทำได้ 2 ลักษณะคือแนวเดียวกัน กับแนวทะแยง แบบแนวเดียวกันเหมาะสำหรับไฟถือส่องทำให้เราจับส่วนล่างของรังถ่านได้โดยไม่เกะกะมือ
ส่วนแนวทะแยงจะเหมาะกับการเป็นไฟฐานตั้ง ซึ่งจะมีความมั่นคงกว่า
จากนั้นก็ทำการยึดฐานปริ้นท์กับรังถ่าน ทำให้ผมนึกถึงกาวดินน้ำมัน
ตามสเปคเขาว่ารับน้ำหนักได้ 3 กิโลต่อ 6 แพด น้ำหนักของฐานไม่ถึงขีดจึงใช้ไป 1 แพดก็น่าจะเอาอยู่
ประกบเข้าไปแล้ว
ตอนนี้ฐานไฟก็เสร็จ
ตอนนี้ก็มาทำตัวหลอด ผมก็ใช้หลอดเดิมของโตชิบ้า เพราะว่าเหลืออยู่พอควร แต่คราวนี้ใช้แค่ 2 หลอดต่อขนานกันตามสเกลที่เล็กลงจากของเดิม หลอดฉีดยาที่เห็นก็คือซิลิโคนสำหรับทาใต้หลอดระบายความร้อนลงแผ่นปรินท์
ต่อตัวต้านทาน 2 ตัวอนุกรมที่ขาคนละข้างข้างนึง 10 โอห์ม 1 วัตต์ อีกข้าง 1.65 โอห์ม 0.25 วัตต์ รวมเป็น 11.65 โอห์ม ลองเอามาวัดกระแสดู ที่แรงดัน 4.5 โวลต์ (ผมใช้รังถ่านขนาด 3 ก้อน) จะกินกระแส 170 มิลลิแอมป์หรือถ้าเป็นแบตก็จะอยู่ได้นานเกือบ 16 ชั่วโมง ก็ถือว่ายอมรับได้
เสร็จแล้วก็ต่อปากคีบออกมาเหมือนกับของเดิมที่เคยทำไว้ (อนาคตผมว่าจะเปลี่ยนให้เสียบกับคอนเนคเตอร์เลยก็นะจะสะดวกขึ้นนะ)
ได้แล้วครับไฟส่องสว่าง
ถ้าดูจากการออกแบบ หลอดนี้แต่ละหลอดรับกระแสใช้งานได้ 350 มิลลิแอมป์ และได้ความสว่าง 112 ลูเมนส์ แต่ว่าตอนนี้ใน 1 หลอดใช้กระแสแค่ 85 มิลลิแอมป์ ซึ่งดูจากกราฟ มันจะให้แสงประมาณ 0.27 เปอร์เซนต์ของ 112 ลูเมนส์ หรือ 30 ลูเมนส์ต่อหลอด รวมกันก็ 60 ลูเมนส์ บางท่านสงสัยว่าทำไมไม่ใช้หลอดเดียวไปเลย ผมก็บอกตรงนี้ว่าเพื่อให้แน่ใจว่าความร้อนเกิดขึ้นน้อยพอไม่ทำอันตรายนั่นเอง
การหยิบถือทำได้สบายเพราะสามารถวางในอุ้งมือสบายๆ
น้ำหนักก็แค่ขีดเดียว ลดลงจากแบบเดิมกว่า 7 เท่า
มาดูความสว่างกันบ้าง เมื่อเทียบกับหลอดไส้ 5 วัตต์ และหลอดแอลอีดีฟิลิปส์ 3 วัตต์ (เทียบให้พอรู้ว่าสว่างแค่ไหน ไม่ได้แข่งขันกันเพราะมันคนละวัตตถุประสงค์)
ฐานไฟที่ทำขึ้น
หลอดไส้ 5 วัตต์
หลอดแอลอีดีฟิลิปส์ 3 วัตต์
จะเห็นว่าไฟที่ทำนั้นมีความสว่างเพียงพอสำหรับส่องฉุกเฉิน ใช้งานได้จริง
มาดูความร้อนที่เกิดขึ้นบ้าง ไม่ต้องใช้เครื่องอะไรครับ นิ้วมือนี่แหละหนีบไปเลย หนีบแนานๆ จนแสงเป็นสีแดงก็แค่อุ่นนิดหน่อย ถ้าให้เดาก็ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ดังนั้นปลอดภัยแน่นอน
เพื่อแก้ปัญหาลืมทิ้งหัวปิดขั้วต่อเวลาเปิดใช้งาน ผมเลยทำขั้วดัมมี่สำหรับเป็นที่วางขึ้นมา ซึ่งเสียบได้ 2 หัวปิดเพราะในความจริงเราก็ใช้แค่ทีละ 2 จุดอยู่แล้ว
สรุป ไฟส่องฉุกเฉินนี้ใช้งานได้ดีจริง มีความสว่างพอเพียง เบา อยู่ได้นาน ปลอดภัย