สวัสดีค่ะทุกท่าน .....
ก่อนอื่นอยากทราบว่า เวลาที่เขากู้บ้านผ่าน ธนาคาร ผ่อนกับทางธนาคารทุกๆเดือน จนหมดงวดที่กำหนด
ถึงจะโอนชื่อเป็นของเจ้าของบ้านรึเปล่าค่ะ ??? ....
แล้วในกรณีไม่ได้กู้ร่วมเนี่ย ชื่อบ้านต้องเป็นชื่อคนกู้แต่เพียงผู้เดียวรึป่าว ....
เรื่องราวมันเป็นงี้ค่ะ .....
บ้านที่ซื้อราคาค่อนข้างสูงเหมือนกันสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา 2 คน ซึ่งเงินเดือนไม่สูงมาก
ราคา 5,000,000 ++ คือช่วยกันดูบ้านหลายที่มาก แต่แฟนดันมาชอบที่โครงการนี้ ปรักใจชอบไปแล้ว
ตอนแรกทราบราคา คิดในใจไหวไม่เนี่ย กว่าจะผ่อนหมดนี่กี่ปีว่ะ ไหนจะรถอีกที่ยังผ่อนไม่หมดเหลือหลายงวดอยู่
ส่วนคอนโดตอนแรกอยากได้ แต่พอคิดๆไป อยากได้บ้านเดี่ยวเพราะมีบริเวณเนื้อที่ ให้ทำอะไรบ้าง
ถ้าจะได้บ้านเดี่ยวราคา 2,000,000 ต้นๆ นี่ต้องไปทาง ลำลูกกา รังสิต ไกลๆๆ ไปเลย
แต่ก็ไม่ได้เพราะ ที่ทำงานคนละเส้นทาง ถ้าซื้อแถวนั้นมีหวังได้เปลี่ยนที่ทำงานใหม่แน่ๆ
สรุป...สิ่งที่ได้มาเป็น Town Home 3 ชั้น ....
แฟนเป็นคนกู้บ้านยื่นเรื่องเป็นชื่อเขาดำเนินการคนเดียว และอนุมัติผ่านเป็นชื่อเขา .....
ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมไม่กูร่วม เรามีปัญหาในเรื่องของเครดิตการเงินนิดหน่อยค่ะ
แต่เพราะกู้คนเดียว เงินดาวน์บ้านเลยไม่พอ ต้องหาเงินมาดาวน์บ้าน 1 ล้าน บาท ... หือ ฟังผิดรึป่าวว
ทีนี้เครียดเลยซิค่ะ .... สรุปแฟนก็ไปยืมเงินดาวน์มาจากที่บ้านเขาค่ะ 1 ล้านบาท
หลังจากนี้ทุกงวดต้องผ่อนบ้านให้กับทางธนาคาร เดือนล่ะ 25,000 + ทุกเดือน ค่ารถ 10,000 + ทุกเดือน
รถเป็นชื่อเราค่ะเพราะเราเป็นคนซื้อตั้งแต่ยังไม่ครบกัน เราผ่อนมาคนเดียวตลอด ใกล้หมดล่ะค่ะไม่กี่งวด
เราก็ผ่อนรถ และก็ให้ที่บ้าน เงินจะหมดละค่ะ ต้องเอาเงินของอนาคตมาทบเดือนต่อเดือนตลอด เงินเก็บก็จะหมดล่ะ
สรุปเราเอาค่าใช้จ่ายทั้งบ้านล่ะรถมารวมกัน ก็เกือบๆ 40,000 บ้าน และออกคนละครึ่งค่ะ อันนี้โอเคค่ะแฟร์ดี
เพราะรถเราส่วนใหญ่เขาก็เป็นคนใช้ บ้านเราย้ายมาอยู่กับเขาก็ต้องจ่าย อันนี้สมเหตุสมผลดี
แต่หลังจากมีค่าผ่อนบ้านบวกมาด้วย เงินไม่มีให้เหลือเก็บเลยค่ะ แต่ไม่ได้เก็บมาเป็นปัญหานะค่ะ
ปัญหาคือ ทะเลาะกับแฟนเรื่องผู้หญิงคนเก่าๆของเขาเนี่ยแหละค่ะ ยังวนเวียนอยู่ไม่เลิก
และแฟนเป็นโรคตัดใครไม่เคยขาดเลยสักคน พอทะเลาะกันก็บอกว่าเรา งี่เง่าบ้างล่ะ ไม่ไว้ใจมั่งล่ะ
โมโหมากๆ ก็จะใช้กำลัง และก็จะบอกถ้าอยู่กับเขามันอึดอัดมากขนาดนั้น เขาจะยินดีให้เราไปก็ได้นะ ... เห้ยง่ายๆเลยเหรอ
แล้วไอ้ที่ช่วยกันออกค่าผ่อนบ้าน ออกค่าตกแต่ง โน่นนี่นั่น เพื่ออะไร ... ไม่ใช่อนคตเราเหรอ ... ทิ้งง่ายไป่ะ
ค่ารถเขาช่วยเราผ่อน 4 งวดสุดท้ายของการผ่อนค่ะ หลังจากนั้นเราก็ช่วยเขาผ่อนบ้านล้านๆ จะเป็นปีๆล่ะค่ะ
งี้ถ้าเลิกกันไปเท่ากับเราช่วยผ่อนบ้านฟรีอ่ะดิ ... ผ่อนเสร็จไม่รู้บ้านจะได้มีชื่อเรารึเปล่าด้วย
ทางบ้านเรารับรู้ทั้ง 2 ฝ่ายว่าย้ายมาอยู่ด้วย แต่เราตกลงกันแล้วค่ะว่า เราจะไม่แต่งงาน
เพราะเราชอบ เหมือนๆกันคือ ไม่ชอบพิธีรีตรอง ไม่อยากตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
แต่เราไม่ได้มีการจดทะเบียนเพื่อเป็นหลักฐาน สามี-ภรรยา กันเหมือนคู่อื่นๆ (จริงๆล่ะเราอยาก) แต่เขาไม่เอ่ยปาก --"
ไม่ใช่ไม่รักนะค่ะ แต่เราเป็นผู้หญิง เลิกกันไปนี่ก็จุกเหมือนกันนะค่ะ เงินเก็บก็ไม่มี เดินออกไปนี่ต้องเริ่มรับหนึ่งใหม่หมด
เครียดจังเลยค่ะ เหมือนลอยๆ ไม่ค่อยมีหลักประกันอะไรเลย เลิกกันไปทุกอย่างเป็นศูนย์ อย่างเดียว .........
เพื่อนๆ คนไหน มีประสบการณ์แบบนี้บ้างค่ะ ?!!!?
ใครเคยเครียด 'เรื่องผ่อนบ้านร่วมกับแฟน'กันบ้างค่ะ .... ปวดหัวจัง???!!?
ก่อนอื่นอยากทราบว่า เวลาที่เขากู้บ้านผ่าน ธนาคาร ผ่อนกับทางธนาคารทุกๆเดือน จนหมดงวดที่กำหนด
ถึงจะโอนชื่อเป็นของเจ้าของบ้านรึเปล่าค่ะ ??? ....
แล้วในกรณีไม่ได้กู้ร่วมเนี่ย ชื่อบ้านต้องเป็นชื่อคนกู้แต่เพียงผู้เดียวรึป่าว ....
เรื่องราวมันเป็นงี้ค่ะ .....
บ้านที่ซื้อราคาค่อนข้างสูงเหมือนกันสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา 2 คน ซึ่งเงินเดือนไม่สูงมาก
ราคา 5,000,000 ++ คือช่วยกันดูบ้านหลายที่มาก แต่แฟนดันมาชอบที่โครงการนี้ ปรักใจชอบไปแล้ว
ตอนแรกทราบราคา คิดในใจไหวไม่เนี่ย กว่าจะผ่อนหมดนี่กี่ปีว่ะ ไหนจะรถอีกที่ยังผ่อนไม่หมดเหลือหลายงวดอยู่
ส่วนคอนโดตอนแรกอยากได้ แต่พอคิดๆไป อยากได้บ้านเดี่ยวเพราะมีบริเวณเนื้อที่ ให้ทำอะไรบ้าง
ถ้าจะได้บ้านเดี่ยวราคา 2,000,000 ต้นๆ นี่ต้องไปทาง ลำลูกกา รังสิต ไกลๆๆ ไปเลย
แต่ก็ไม่ได้เพราะ ที่ทำงานคนละเส้นทาง ถ้าซื้อแถวนั้นมีหวังได้เปลี่ยนที่ทำงานใหม่แน่ๆ
สรุป...สิ่งที่ได้มาเป็น Town Home 3 ชั้น ....
แฟนเป็นคนกู้บ้านยื่นเรื่องเป็นชื่อเขาดำเนินการคนเดียว และอนุมัติผ่านเป็นชื่อเขา .....
ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมไม่กูร่วม เรามีปัญหาในเรื่องของเครดิตการเงินนิดหน่อยค่ะ
แต่เพราะกู้คนเดียว เงินดาวน์บ้านเลยไม่พอ ต้องหาเงินมาดาวน์บ้าน 1 ล้าน บาท ... หือ ฟังผิดรึป่าวว
ทีนี้เครียดเลยซิค่ะ .... สรุปแฟนก็ไปยืมเงินดาวน์มาจากที่บ้านเขาค่ะ 1 ล้านบาท
หลังจากนี้ทุกงวดต้องผ่อนบ้านให้กับทางธนาคาร เดือนล่ะ 25,000 + ทุกเดือน ค่ารถ 10,000 + ทุกเดือน
รถเป็นชื่อเราค่ะเพราะเราเป็นคนซื้อตั้งแต่ยังไม่ครบกัน เราผ่อนมาคนเดียวตลอด ใกล้หมดล่ะค่ะไม่กี่งวด
เราก็ผ่อนรถ และก็ให้ที่บ้าน เงินจะหมดละค่ะ ต้องเอาเงินของอนาคตมาทบเดือนต่อเดือนตลอด เงินเก็บก็จะหมดล่ะ
สรุปเราเอาค่าใช้จ่ายทั้งบ้านล่ะรถมารวมกัน ก็เกือบๆ 40,000 บ้าน และออกคนละครึ่งค่ะ อันนี้โอเคค่ะแฟร์ดี
เพราะรถเราส่วนใหญ่เขาก็เป็นคนใช้ บ้านเราย้ายมาอยู่กับเขาก็ต้องจ่าย อันนี้สมเหตุสมผลดี
แต่หลังจากมีค่าผ่อนบ้านบวกมาด้วย เงินไม่มีให้เหลือเก็บเลยค่ะ แต่ไม่ได้เก็บมาเป็นปัญหานะค่ะ
ปัญหาคือ ทะเลาะกับแฟนเรื่องผู้หญิงคนเก่าๆของเขาเนี่ยแหละค่ะ ยังวนเวียนอยู่ไม่เลิก
และแฟนเป็นโรคตัดใครไม่เคยขาดเลยสักคน พอทะเลาะกันก็บอกว่าเรา งี่เง่าบ้างล่ะ ไม่ไว้ใจมั่งล่ะ
โมโหมากๆ ก็จะใช้กำลัง และก็จะบอกถ้าอยู่กับเขามันอึดอัดมากขนาดนั้น เขาจะยินดีให้เราไปก็ได้นะ ... เห้ยง่ายๆเลยเหรอ
แล้วไอ้ที่ช่วยกันออกค่าผ่อนบ้าน ออกค่าตกแต่ง โน่นนี่นั่น เพื่ออะไร ... ไม่ใช่อนคตเราเหรอ ... ทิ้งง่ายไป่ะ
ค่ารถเขาช่วยเราผ่อน 4 งวดสุดท้ายของการผ่อนค่ะ หลังจากนั้นเราก็ช่วยเขาผ่อนบ้านล้านๆ จะเป็นปีๆล่ะค่ะ
งี้ถ้าเลิกกันไปเท่ากับเราช่วยผ่อนบ้านฟรีอ่ะดิ ... ผ่อนเสร็จไม่รู้บ้านจะได้มีชื่อเรารึเปล่าด้วย
ทางบ้านเรารับรู้ทั้ง 2 ฝ่ายว่าย้ายมาอยู่ด้วย แต่เราตกลงกันแล้วค่ะว่า เราจะไม่แต่งงาน
เพราะเราชอบ เหมือนๆกันคือ ไม่ชอบพิธีรีตรอง ไม่อยากตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
แต่เราไม่ได้มีการจดทะเบียนเพื่อเป็นหลักฐาน สามี-ภรรยา กันเหมือนคู่อื่นๆ (จริงๆล่ะเราอยาก) แต่เขาไม่เอ่ยปาก --"
ไม่ใช่ไม่รักนะค่ะ แต่เราเป็นผู้หญิง เลิกกันไปนี่ก็จุกเหมือนกันนะค่ะ เงินเก็บก็ไม่มี เดินออกไปนี่ต้องเริ่มรับหนึ่งใหม่หมด
เครียดจังเลยค่ะ เหมือนลอยๆ ไม่ค่อยมีหลักประกันอะไรเลย เลิกกันไปทุกอย่างเป็นศูนย์ อย่างเดียว .........
เพื่อนๆ คนไหน มีประสบการณ์แบบนี้บ้างค่ะ ?!!!?