คำเตือน: เนื้อหาในกระทู้นี้เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญของ PSYCHO-PASS 2 ตอนที่ 5 แบบหมดเปลือก



เป็นสปอยล์ที่ได้มาจากคนญี่ปุ่นที่ไปดูการฉายล่วงหน้าที่ noitaminA Cafe เช่นเคยครับ ดังนั้นต้องบอกไว้ก่อนว่านี่เป็นแค่บทสปอยล์ ซึ่งผมเองก็รับประกันไม่ได้ว่าจะตรงกับเนื้อหาจริงที่จะฉายในคืนพฤหัสนี้ทุกประการหรือไม่

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เปิดฉากเริ่มมาก็ฉายให้เห็นชิซุยที่อยู่ในแหล่งกบดานของคามุย
พอคามุยกลับมาถึงก็เอาโดมิเนเตอร์เล็งไปที่ชิซุยเพื่อเช็คไซโคพาส ตาซ้ายของชิซุยกับตาขวาของคามุยส่องประกาศเป็นสีเดียวกัน
เมื่อรวมกับที่ชิงมาจากอาโอยานางิ ก็นับว่าตอนนี้คามุยมีโดมีเนเตอร์ 2 กระบอกแล้ว เขาบอกว่าจากนี้ไปจะเป็นการต่อต้านโค่นล้มซิบิลเต็มรูปแบบ
ดูเหมือนว่าชิซุยจะหลงไหลในตัวคามุยแบบโงหัวไม่ขึ้น เธอเฝ้าแต่พูดพร่ำขอให้คามุยอยู่เคียงข้างเธอแบบนี้ตลอดไป

หลังจบ OP ชิโมทสึกิที่รู้สึกไม่ดีจากการที่ต้องเห็นผู้คนโดน Lethal Eliminator ต่อหน้ามากมายก็เข้าไปอ้วกในห้องน้ำหญิงยกใหญ่
ในระหว่างการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ โทกาเนะก็บอกกับอาคาเนะว่า "ผมขอไปดูที่ประตูหลังสักหน่อยนะครับ" แล้วเดินจากไป แต่เขากลับเข้าไปหลบอยู่ในเงามืดแล้วหยิบโดมิเนเตอร์ขึ้นมาเตรียมพร้อม (มีแสงสีฟ้าส่องประกายขึ้นที่ดวงตาอันเป็นการยืนยันอนุมัติสถานะการใช้งาน)
พอโดมิเนเตอร์เล็งไปที่อาคาเนะ ก็ตรวจวัดค่าอาชญากรรมได้ที่ประมาณ 20 กว่าๆ ก่อนที่แสงในดวงตาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะไกปืนถูกล็อคไว้ไม่ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการใช้ได้กับเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ชิโมทสึกิที่เพิ่งกลับมาห้องน้ำก็เห็นเหตุการณ์พอดี
ชิโมทสึกิรายงานกับหัวหน้ากรมว่าอาคาเนะมีพฤติกรรมที่ผิดปกติและไม่สมควร แต่ไม่ได้รายานถึงเรื่องที่โทกาเนะเอาโดมิเนเตอร์เล็งไปที่เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์

ศจ.ไซกะเข้ามาร่วมในแผนกวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นทางการ มีฉากบทสนทนาระหว่างเขากับอาคาเนะนิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องเมื่อตอนที่อาคาเนะสอบสวนนักการเมืองในตอนที่แล้ว

เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ของหน่วยสองคนนึงก็หายสาปสูญ อีกคนนึงก็ถูกกำจัดจากการตัดสินโทษ เจ้าหน้าที่ปฎิบัติที่เหลือจึงต้องแยกกันไปทำงานร่วมกับหน่วยหนึ่งกับหน่วยสาม
คาเอเดะที่มาถึงออฟฟิศของหน่วยหนึ่งก็เอ่ยทักทาย ฮินาคาว่าที่วิเคราะห์โฮโลแกรมอยู่ก็หันมาเหลือบมองแล้วพยักหน้าให้โดยไม่พูดอะไร

เทปเปที่ออกมาจากห้องให้คำปรึกษาก็พบว่ากิโนสะยืนรอเขาอยู่หน้าห้อง
เทปเปพยายามอธิบายว่ามันเป็นสถานการณ์บีบบังคับที่ตัวเขาไม่รู้จริงๆว่าเป้าหมายที่ตัวเองยิงไปนั้นคืออาโอยานางิ
กิโนสะบอกว่า แม้ตัวจะถูกลดสถานะมาเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการแต่ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนสนิทระหว่างเขากับอาโอยานางิที่มีมาตลอดก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ตัวเขาที่ไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นก็บอกกับเท็ปเปว่าอย่าเสนอหน้ามาให้เขาเห็นสักพักหนึ่ง ก่อนที่จะเดินจากไป

ในระหว่างสืบข้อมูลของนักการเมืองที่ห้องทำงานของชิอง พอได้ค้นดูบันทึกวีดิโอการปราศรัยในปีก่อนๆที่ผ่านมา ศจ.ไซกะก็พูดว่า "นี่มันแสดงตลกชัดๆ" แล้วก็เดินออกไปโดยที่ไม่ทันดูจนจบ
ไซกะที่ตระหนักได้ถึงการเปลี่ยนแปลงตัวตนจากเมื่อไม่กี่ปีก่อนแบบหน้ามือเป็นหลังมือราวกับเป็นคนละคนของนักการเมืองแล้ว ก็เอ่ยถามเจ้าตัวว่า "นายเป็นใครกัน" นักการเมืองก็โพล่งหัวเราะออกมาแบบไม่ยำเกรง

ชิโมทสึกิเข้าไปปรับทุกข์ในห้องของยาโยย
ยาโยยที่เห็นว่ายังไงซะชิโมทสึกิก็ยังเป็นแค่เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจึงไม่แปลกที่จะต้องรู้สึกกลัวบ้าง ยาโยยจึงพยายามที่จะปลอบขวัญเธอ
ชิโมทสึกิเอ่ยถามยาโยยว่าคิดยังไงกับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการโทกาเนะ ยาโยยก็ตอบแต่เพียงว่าเธอคิดว่าเขาเป็นคนที่น่าจะสามารถทำหน้าที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการได้ดี

พอหลังจากที่สืบจนพบว่าแหล่งกบดานของคามุยนั้นอยู่ที่โรงงานผลิตหุ่นร้าง อาคาเนะ, กิโนสะ, โทกาเนะ รวมถึงคาเอดะ และเท็ปเปที่เพิ่งเข้ามาร่วมหน่วยหนึ่งก็รีบมุ่งหน้าไปยังที่แห่งนั้นพร้อมกันกับหน่วยสาม
แม้จะมีบางส่วนที่ถูกทิ้งร้างให้เสียหาย แต่ก็สถานที่ที่ดูเหมือยเป็นซากตึกปรักหักพังนี้ก็ยังถูกใช้เป็นโรงงานรีไซเคิลอยู่
ในที่แห่งนั้น เท็ปเปก็ได้พบกับอดีตเพื่อนร่วมงานเข้า เขาจึงถูกเปิดเผยตัวตนแบบไม่ได้ตั้งใจว่าตนเองนั้นกำลังทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของแผนกสืบสวนสอบสวนอยู่
ขณะนั้นเอง กิโนสะที่มองอยู่ใกล้ๆก็เกิดความสงสัยขึ้นว่านี่คงจะเป็นสถานที่ที่เท็ปเปเคยทำงานมาก่อน

ในอีกด้านหนึ่ง หน่วยสามที่แม้จะได้รับคำสั่งมาจากหัวหน้ากรมโดยตรงแต่ก็ดูท่าทางจะไม่กะจิตกะใจกันซะเลย
พอบอกว่าไหนๆยัยอาคาเนะคนโปรดของหัวหน้ากรมก็ดูจะมีไฟกับคดีนี้เต็มที่อยู่แล้วก็ปล่อยให้ทางโน้นจัดการเถอะก็กลับรถไปดื้อๆ
จากนั้นชินปาจิก็ยกเอาอุปกรณ์เคลื่อนที่ขึ้นมาแล้วพูดว่า "เกมตัวใหม่ออกแล้วนี่นา" เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์อีกคนก็ตำหนิว่าเวลางานแท้ๆยังจะเล่นเกมอีก
เกมที่ว่านั้นก็คือเกมที่ให้คนเล่นสวมบทบาทเป็นหุ่นสงครามบุกเข้าไปสังหารหมู่บรรดาคนในโรงงาน
นอกจากชินปาจิเองแล้ว บรรดาคนทั่วไปก็เริ่มเล่นเกมนี้แล้วบังคับให้หุ่นสงครามเริ่มไล่ฆ่าผู้คน
ผู้คนในโรงงานพยายามที่จะหยุดหุ่นเหล่านั้นแต่ระบบก็ถูกแฮ็คไปโดยสมบูรณ์แล้ว จึงไม่อาจทำอะไรได้และถูกฆ่าตายไปในที่สุด
ท่ามกลางสถานการณ์นั้น หนึ่งในพนักงานก็เปลี่ยนร่างกลายเป็นคามุยก่อนที่จะเดินลับสายตาคนไป

อาคาเนะกับโทกาเนะที่พบบริเวณพื้นที่ที่น่าสงสัยก็หยุดสำรวจกัน จนพบห้องที่มีชิ้นส่วนที่คิดว่าน่าจะเป็นเหมือนวัตถุรองส่วนใบหน้าของร่างกายประดิษฐ์มากมายก่ายกอง
หนำซ้ำยังมีข้อความ WC? อยู่ในที่แห่งนั้นด้วย แสดงว่าคามุยคำนวณไว้อยู่แล้วว่าพวกเธอจะต้องตามกลิ่นของเขามาถึงที่นี่
พอทั้งสองคนกลับออกมาข้างนอก ในส่วนของโรงงานก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน และฉากก็ถูกตัดไปโดยที่เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ชิโมทสึกิใช้สิทธิ์ของเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์เข้าไปในห้องของโทกาเนะ ข้างในนั้นมีรูปของอาคาเนะเต็มไปหมด
ในกองเอกสารข้อมูลต่างๆนั้นเธอก็พบรูปถ่ายของอาคาเนะที่ยืนอยู่เคียงข้างกับคนที่ดูเหมือนว่าจะเป็นแม่กับยายของเธอแล้วเพลง ED ก็เริ่มบรรเลง

อำลาอาลัยแด่อาโอยานางิ ริสะ


ส่วนโทกาเนะนี่สรุปก็...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นสตอล์กเกอร์อาคาเนะจริงๆด้วย (หัวเราะ)