เมื่อสองสามวันทื่ผ่านมา...มีเรื่องให้ต้องแปลกใจ และงงงวยกับความคิดของคนๆหนึ่ง
เลยอึดอัดใจอยากจะระบาย...และอยากรับรู้ถึงความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง
เพราะมีทั้งคนที่โลกสวย และ โลกไม่สวย
เรื่องมีอยู่ว่า....พี่ชายของแฟนเรา มาขอร้องให้แฟนเรา รับลูกของเค้าที่กำลังจะเกิด เป็นบุตรบุญธรรม
เหตุผลเพราะ...เพื่อสิทธิ์ในการศึกษาของลูกเค้า
ก็คือ การได้เข้าเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในกทม. เพราะแฟนเราเป็นพนักงานที่นี่ สามารถใช้สิทธิ์พนักงานให้ลูกเข้าเรียนโรงเรียนนี้ได้เลย
เราได้ยินครั้งแรกเราก็ตกใจ และแปลกใจกับความคิดของพี่ชายเค้า
ในใจเราก็คิดต่างๆนานาว่า...คุณไม่คิดถึงอนาคตน้องชายของคุณเลยหรอว่า...เค้าจะต้องแต่งงานมีครอบครัว
ไม่เคยคิดที่จะถามอีกคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของน้องชายเลยหรอว่า...จะยินดีไหมกับสิ่งที่คุณต้องการ
>>พี่ชายเค้าวางแผนไว้แล้วว่า....เมื่อลูกออกมา ก็อยากจะให้ทางย่ากับอาเลี้ยง ไม่อยากให้ทางยายเลี้ยง
โดยจะเอาหลานมาไว้ที่ กทม. ส่วนภรรยาเค้ามีภาระต้องขายของ ส่วนตัวเค้าต้องทำงานหนักออกพื้นที่บ่อยๆ
อยากจะให้ลูกมาเรียนใน กทม. ตั้งแต่ อนุบาล - จบป.ตรี
(ลองคิดดูนะค่ะ...อันนี้จะว่าเราเห็นแก่ตัวก็ได้นะ)
สิ่งที่เราคิดก็คือ
- จะเอาลูกมาทิ้งไว้ที่ กทม. เพื่อให้ย่ากับอาเลี้ยง แล้วตัวเองก็ไปลั้ลลาหรอ
- คุณบอกว่า...ภรรยาคุณต้องทำงานขายของ ส่วนคุณต้องทำงานไม่มีเวลา ต้องออกพื้นที่บ่อยๆ
แล้วคุณไม่คิดถึงน้องชายและแม่ของคุณหรอว่า...เค้าก็ต้องทำงาน และจะต้องมีชีวิตส่วนตัวของเค้าเหมือนกัน
- คุณเกิดมาคุณได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องการจากแม่...ไม่ว่าการศึกษา และเงินทอง พอคุณมีชีวิตครอบครัว
คุณก็จะเอาเวลาส่วนตัวของของคนอื่นเค้าไปอีกหรอ
ถ้าคิดวางแผนขั้นตอนการใช้ชีวิตครอบครัวของคุณแบบนี้ มันเห็นแก่ตัวชัดๆ
เพราะไม่เคยคิดเลยว่า...น้องชายจะมีครอบครัว และต้องรับผิดชอบครอบครัวของตัวเอง
จบข่าว
อยากรู้ว่า...คนอื่นจะคิดยังไง...เมื่อเจอกับเหตุการแบบนี้
เมื่อพี่ชายของแฟนเรา มาขอร้องแฟนเราให้รับลูกของเค้า เป็นบุตรบุญธรรม
เลยอึดอัดใจอยากจะระบาย...และอยากรับรู้ถึงความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง
เพราะมีทั้งคนที่โลกสวย และ โลกไม่สวย
เรื่องมีอยู่ว่า....พี่ชายของแฟนเรา มาขอร้องให้แฟนเรา รับลูกของเค้าที่กำลังจะเกิด เป็นบุตรบุญธรรม
เหตุผลเพราะ...เพื่อสิทธิ์ในการศึกษาของลูกเค้า
ก็คือ การได้เข้าเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในกทม. เพราะแฟนเราเป็นพนักงานที่นี่ สามารถใช้สิทธิ์พนักงานให้ลูกเข้าเรียนโรงเรียนนี้ได้เลย
เราได้ยินครั้งแรกเราก็ตกใจ และแปลกใจกับความคิดของพี่ชายเค้า
ในใจเราก็คิดต่างๆนานาว่า...คุณไม่คิดถึงอนาคตน้องชายของคุณเลยหรอว่า...เค้าจะต้องแต่งงานมีครอบครัว
ไม่เคยคิดที่จะถามอีกคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของน้องชายเลยหรอว่า...จะยินดีไหมกับสิ่งที่คุณต้องการ
>>พี่ชายเค้าวางแผนไว้แล้วว่า....เมื่อลูกออกมา ก็อยากจะให้ทางย่ากับอาเลี้ยง ไม่อยากให้ทางยายเลี้ยง
โดยจะเอาหลานมาไว้ที่ กทม. ส่วนภรรยาเค้ามีภาระต้องขายของ ส่วนตัวเค้าต้องทำงานหนักออกพื้นที่บ่อยๆ
อยากจะให้ลูกมาเรียนใน กทม. ตั้งแต่ อนุบาล - จบป.ตรี
(ลองคิดดูนะค่ะ...อันนี้จะว่าเราเห็นแก่ตัวก็ได้นะ)
สิ่งที่เราคิดก็คือ
- จะเอาลูกมาทิ้งไว้ที่ กทม. เพื่อให้ย่ากับอาเลี้ยง แล้วตัวเองก็ไปลั้ลลาหรอ
- คุณบอกว่า...ภรรยาคุณต้องทำงานขายของ ส่วนคุณต้องทำงานไม่มีเวลา ต้องออกพื้นที่บ่อยๆ
แล้วคุณไม่คิดถึงน้องชายและแม่ของคุณหรอว่า...เค้าก็ต้องทำงาน และจะต้องมีชีวิตส่วนตัวของเค้าเหมือนกัน
- คุณเกิดมาคุณได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องการจากแม่...ไม่ว่าการศึกษา และเงินทอง พอคุณมีชีวิตครอบครัว
คุณก็จะเอาเวลาส่วนตัวของของคนอื่นเค้าไปอีกหรอ
ถ้าคิดวางแผนขั้นตอนการใช้ชีวิตครอบครัวของคุณแบบนี้ มันเห็นแก่ตัวชัดๆ
เพราะไม่เคยคิดเลยว่า...น้องชายจะมีครอบครัว และต้องรับผิดชอบครอบครัวของตัวเอง
จบข่าว