ขอเกริ่นไว้ก่อนนะครับว่าผมยังเรียนอยู่ ม.6 ยังไม่ได้รับการศึกษาที่มหาวิทยาลัย
เรื่องมันมีอยู่ว่าผมส่งใบสมัครรับตรงโครงการพิเศษไปที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
เป็นการส่งทางไปรษณีย์และชำระเงินค่าสมัครเรียบร้อย จากนั้นก่อนวันประกาศ
รายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ (ไม่ใช่ผลสอบนะครับเพราะยังไม่ได้สอบ gat-pat)
ประมาณ 1 เดือนต่อมาผมคาดว่าน่าจะเป็นฝ่ายวิชาการของมหาวิทยาลัย
เพราะเรียกแทนตัวเองว่าพี่ และเกณฑ์การยื่นคะแนนสอบคณะนี้คือ
1.gat - pat 2 60 เปอร์เซ็น
2.ความสามารถทางด้านกีฬา 40 เปอร์เซ็น (แม่เจ้าโหดมากใครนี่อยู่ทีมชาติสบายอะผมพูดเลย)
และในเที่ยงวันนึงเค้าก็โทรมา
? : สวัสดีค่ะใช่น้อง....รึเปล่าค่ะ พี่โทรมาจากคณะ.....
ผม : อ่อใช่ครับ (เห้ยเรื่องไรอ่ะเค้าโทรมาทำไม?)
? : หลักฐานความสามารถทางด้านกีฬาที่น้องส่งมาอ่ะค่ะ
ผม : อ่อครับ ทำไมหรอครับมีอะไรรึเปล่าครับ
? : แน่ใจนะค่ะว่าเป็นประกาศนียบัตรไม่ใช่กระดาษปริ้นมา
ผม : ใช่ครับ ผมสแกนสีมาครับ ผมมีเกียรติบัตรครับ
? : อ่อ ค่ะๆ แต่ที่ระบุในใบสมัครมันต้องตั้งแต่ปี 2555 นะค่ะ (ของผมปี2554)
ผม :.....T....T.......ครับ
? : งั้นเอางี้พี่จะประกาศรายชื่อให้น้องมีสิทธิ์สอบแต่หลังจากน้องยื่นคะแนน gat-pat ไปแล้วก็ต้องแล้วแต่กรรมการพิจารณานะค่ะ
ผม :......T....T......ครับ (โห 40 เปอร์เซ็นเลยอะต่อให้คะแนนgat-patดีแค่ไหนถ้ามาเจออันนี้แล้วเค้าไม่สนใจแต่แรกความหวังผมจบเลย)
? : น้องรับสภาพได้มั้ย
ผม :......T.....T....ครับๆ
? : งั้นตามนี้นะถ้าน้องรับสภาพได้แต่พี่จะเขียนไปว่าเป็นของปี 54
ผม : ....T_T...ขอบคุณมากครั.....
? : ตู๊ด.....ตู๊ดด....(วางสาย)
ผมเลยอยากจะถามทุกคนนะครับถ้าคุณเป็นกรรมการคุณจะมีความเห็นว่ายังไงครับ?
เอาจริงๆนะครับที่พี่เค้าถามว่ารับสภาพได้มั้ย ผมถึงกับเสียดายโอกาสของตัวเองมากๆครับ
ถึงแม้มันจะมีแอดมิชชั่นรออยู่ก็ตาม
ตอนผม ม.ต้น ผมลงแข่งทุกรายการเลยที่ รร. เสนอมา แต่พอ ม.ปลายอะไรๆมันก็ต้องเปลี่ยนครับ
เรียนสายวิทย์ถ้าจะเล่นกีฬาไปด้วยผมคงไม่ไหวอะครับ ม.ปลายเลยพัก กิจกรรมที่ รร. ก็เยอะมากด้วย
ม.ปลายเลยประคองเกรดที่จะมาเข้าคณะนี้ ขอบคุณที่อ่านจบครับ..; )
เมื่อฝ่ายวิชาการมหาวิทยาลัยโทรมาถามว่ารับสภาพได้มั้ย?
เรื่องมันมีอยู่ว่าผมส่งใบสมัครรับตรงโครงการพิเศษไปที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
เป็นการส่งทางไปรษณีย์และชำระเงินค่าสมัครเรียบร้อย จากนั้นก่อนวันประกาศ
รายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ (ไม่ใช่ผลสอบนะครับเพราะยังไม่ได้สอบ gat-pat)
ประมาณ 1 เดือนต่อมาผมคาดว่าน่าจะเป็นฝ่ายวิชาการของมหาวิทยาลัย
เพราะเรียกแทนตัวเองว่าพี่ และเกณฑ์การยื่นคะแนนสอบคณะนี้คือ
1.gat - pat 2 60 เปอร์เซ็น
2.ความสามารถทางด้านกีฬา 40 เปอร์เซ็น (แม่เจ้าโหดมากใครนี่อยู่ทีมชาติสบายอะผมพูดเลย)
และในเที่ยงวันนึงเค้าก็โทรมา
? : สวัสดีค่ะใช่น้อง....รึเปล่าค่ะ พี่โทรมาจากคณะ.....
ผม : อ่อใช่ครับ (เห้ยเรื่องไรอ่ะเค้าโทรมาทำไม?)
? : หลักฐานความสามารถทางด้านกีฬาที่น้องส่งมาอ่ะค่ะ
ผม : อ่อครับ ทำไมหรอครับมีอะไรรึเปล่าครับ
? : แน่ใจนะค่ะว่าเป็นประกาศนียบัตรไม่ใช่กระดาษปริ้นมา
ผม : ใช่ครับ ผมสแกนสีมาครับ ผมมีเกียรติบัตรครับ
? : อ่อ ค่ะๆ แต่ที่ระบุในใบสมัครมันต้องตั้งแต่ปี 2555 นะค่ะ (ของผมปี2554)
ผม :.....T....T.......ครับ
? : งั้นเอางี้พี่จะประกาศรายชื่อให้น้องมีสิทธิ์สอบแต่หลังจากน้องยื่นคะแนน gat-pat ไปแล้วก็ต้องแล้วแต่กรรมการพิจารณานะค่ะ
ผม :......T....T......ครับ (โห 40 เปอร์เซ็นเลยอะต่อให้คะแนนgat-patดีแค่ไหนถ้ามาเจออันนี้แล้วเค้าไม่สนใจแต่แรกความหวังผมจบเลย)
? : น้องรับสภาพได้มั้ย
ผม :......T.....T....ครับๆ
? : งั้นตามนี้นะถ้าน้องรับสภาพได้แต่พี่จะเขียนไปว่าเป็นของปี 54
ผม : ....T_T...ขอบคุณมากครั.....
? : ตู๊ด.....ตู๊ดด....(วางสาย)
ผมเลยอยากจะถามทุกคนนะครับถ้าคุณเป็นกรรมการคุณจะมีความเห็นว่ายังไงครับ?
เอาจริงๆนะครับที่พี่เค้าถามว่ารับสภาพได้มั้ย ผมถึงกับเสียดายโอกาสของตัวเองมากๆครับ
ถึงแม้มันจะมีแอดมิชชั่นรออยู่ก็ตาม
ตอนผม ม.ต้น ผมลงแข่งทุกรายการเลยที่ รร. เสนอมา แต่พอ ม.ปลายอะไรๆมันก็ต้องเปลี่ยนครับ
เรียนสายวิทย์ถ้าจะเล่นกีฬาไปด้วยผมคงไม่ไหวอะครับ ม.ปลายเลยพัก กิจกรรมที่ รร. ก็เยอะมากด้วย
ม.ปลายเลยประคองเกรดที่จะมาเข้าคณะนี้ ขอบคุณที่อ่านจบครับ..; )