รู้ไว้ใช่ว่า . . . Positive Psychology สาขาใหม่ของศาสตร์จิตวิทยา

สาขาวิชาที่เกิดจากแนวคิด "ให้ความสำคัญกับคนปกติ"

แต่เดิมนั้น ศาสตร์จิตวิทยาสมัยก่อน มุ่งเน้นศึกษา "กลุ่มคนที่มีปัญหาทางจิต" (Abnormal) เพื่อค้นหาว่าบุคคลผู้นั้น "ป่วยเป็นอะไร" และนั่นคือกำเนิดของสาขาวิชาจิตวิทยาคลินิก (Clinical Psychology) ที่จะมาตอบโจทย์ โดยศึกษาเรื่องโรคจิต หรือพยาธิสภาพทางจิต เพื่อรักษาบำบัดอาการผิดปรกติให้กลับมาเป็นปรกติ และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสมได้ ซึ่งจะมีการวินิจฉัยโรคต่างๆ จัดแบ่งเป็นประเภท รวมถึงมีการคิดค้นวิธีการเยียวยาข้นไข้มากมาย เช่น ทำจิตบำบัด/จิตวิเคราะห์ รวมถึงจิตวิทยาการปรึกษา (Counseling Psychology) เป็นต้น

ต่อมา ในยุคหลังๆ จากนั้น นักจิตวิทยาตั้งคำถามว่า เพราะอะไรเราจึงไม่ลองมาใช้จิตวิทยากับ "คนปกติทั่วไป" ในสังคมดูบ้างล่ะ!? เพื่อให้คนเราตระหนักถึงปัญหาสุขภาวะทางจิตของตัวเอง ซึ่งมีประโยชน์ในการเสริมสร้างให้มนุษย์มี "ภูมิคุ้มกัน" ป้องกันปัญหาที่จะมารบกวนจิตใจในหลายรูปแบบที่อาจเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่เนิ่นๆ (โดยไม่ต้องรอให้ป่วยเสียก่อนแล้วถึงจะไปเยียวยากันในเชิงคลินิก) รวมถึงในชีวิตประจำวัน เราสามารถนำองค์ความรู้ทางจิตวิทยามาผสมผสานกับศาสตร์อื่นๆ เพื่อในใช้การดำรงชีวิตได้ ตัวอย่างเช่น การจูงใจในที่ทำงาน (motivation at work), การรู้จักและเข้าใจตนเอง, การมองโลกในแง่ดีบนพื้นฐานของความเป็นไปได้ (possible) เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่, การปรับทัศนคติเพื่อแก้ไขสถานการณ์ขัดแย้งอันไม่พึงประสงค์ (win-win solution), วิธีดูแลรักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง, การเสริมสร้างความรู้สึกดีต่อตนเอง (self-esteem) ฯลฯ

และด้วยแนวคิดดังกล่าวนี้เอง สมาคมนักจิตวิทยาอเมริกัน หรือ APA จึงได้ยกให้สาขา Positive Psychology เป็นส่วนหนึ่ง (division) ของศาสตร์จิตวิทยาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มีบันทึกสถิติพบว่า สาขานี้แพร่หลายอย่างมากประมาณปี 2000 อย่างเช่นใน USA เมื่อมีเหตุการณ์ความไม่สงบต่างๆเกิดขึ้น เช่น เหตุการณ์ 911 หรือช่วงสภาพทางเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้คนจึงให้ความสำคัญกับพลังอำนาจของการคิดบวก ทำให้นักจิตวิทยา/จิตแพทย์ชื่อดังมากมายเขียนหนังสือ/ตำราเกี่ยวกับ จิตวิทยาเชิงบวกขายกันเป็นจำนวนมาก ตามแต่ละวิธีการของแต่ละท่านโดยอิงจิตวิทยาประยุกต์ ผลก็คือมีผู้คนสนใจอ่านมากมาย บางเล่มขายดิบขายดีข้ามทศวรรษเลยก็มี และเกิดเป็นเทรนด์ของการ "คิดบวก" ตั้งแต่นั้นมาจวบจนปัจจุบัน

สำหรับในประเทศไทย มีการแปลงานเขียนเกี่ยวกับจิตวิทยาเชิงบวกจากต่างประเทศมากมาย รวมถึงก็มีหนังสือที่คนไทยเป็นผู้เขียนขึ้นเองด้วย (ซึ่งโดยมากจะอิงไปในเชิงศาสนาเสียมากกว่า ซึ่งหนังสือประเภทนี้ไม่ถือว่าเป็น Positive Psych. เสียทีเดียว) เมื่อไปเดินดูจะพบว่าหลายเล่มมีทั้งสอนวิธีการคิดบวกเพื่อการใช้ชีวิต การทำงาน และแม้กระทั่งการเรียน อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการเรียนการสอนสาขาวิชาจิตวิทยาเชิงบวกในประเทศไทยยังไม่มีมหาวิทยาลัยใดที่เปิดสอนขึ้นมาเป็นหลักสูตร (major) ดังนั้นถ้าหากใครสนใจจะศึกษาทางด้านนี้โดยตรงในระดับอุดมศึกษา แอดมินขอแนะนำให้ไปสมัครตามมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างประเทศทั่วไป (โดยเฉพาะอเมริกา) จะมีเปิดสอนอยู่ครับ ลองศึกษาดูจากเว็บไซต์ของสถาบันต่างๆ

จากที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าจิตวิทยาสาขานี้กำลังเติบโตมากขึ้นในยุคสมัยนี้ที่คนธรรมดาอย่างเราๆ จำต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่อาจจะมากระทบต่ออารมณ์-ความคิด-ความรู้สึกของเราเมื่อไหร่ก็ได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหานั้นให้ได้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

อ้างอิง:
https://www.facebook.com/PsychologistCafe/posts/1524207797819959
ดูเพิ่มเติม:
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=473123936159329&id=220036768134715

เยี่ยม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่