สวัสดีครับ ทุกๆคน ผมชื่อ หมอธีร์
ถ้าดึกๆแบบนี้ ไม่รู้จะทำอะไร มาฟังเรื่องเล่าสนุกๆของผมสิครับ มันเหมาะมาก! ผมขอเล่าไป ตัดเล็บไปด้วยนะครับ
(ค่อยๆแกะใบมีดผ่าตัดเบอร์ 15 ออกจากซอง แล้วใช้มีดผ่าตัด ค่อยๆเล็มเล็บที่ยาวออกทีละนิด ทีละนิด)
เรื่องแรกที่ผมจะเล่า ผมขอตั้งชื่อว่า ... “ห้องตรวจ2”
อุย... บาดนิ้วเอาซะแล้ว ...ถึงกระดูกเลย
...........................................................................
ปึ้ง!!
“โอยยยย งานตัวเองก็เหนื่อยจะแย่ ต้องทำงานคนอื่นวุ่นวายอีก เฮช-อง HA อะไรไม่รู้ บ้าบอคอแตก” พี่วิ พยาบาลวิชาชีพหัวหน้าโอพีดีบ่น ขณะกระแทกกองหนังสือและเอกสารเตรียมตรวจประเมินHAลงบนโต๊ะตรวจ
“ใจเย็นๆครับพี่วิ ทำๆไปเดี๋ยวมันก็ผ่านเอง” หมอเอก หมอหนุ่มประจำโอพีดี(ผู้ป่วยนอก)พูดขึ้น ขณะยืนพิงประตูห้องตรวจ2อยู่
“แหม หมอเอก ตั้งแต่มีน้องๆมาช่วยตรวจเนี่ย ยึดห้องตรวจ2เป็นห้องประจำเลยนะคะ สบายเลยสิ ไม่ต้องวนไปตรวจERที วอร์ดที”
“แหงล่ะ ห้อง1ของพี่ผอ. ห้อง2ก็ต้องของผมสิ น้องๆก็ไปราวน์วอร์ดไปER แล้วกัน ยังหนุ่มยังแน่น ไฟแรงต้องเดินบ้างไรบ้าง แก่แล้วให้อยู่กับที่ เนาะ ฮ่าๆๆ” หมอเอกหัวเราะพลางจิบกาแฟในมือ
“หมอเอกเค้าอายุ 35 ปี และอีกไม่นานก็คงจะได้เป็นผอ.แทนผอ.คนเดิมที่ใกล้เกษียณแล้ว แกเป็นคนเก่ง ขยัน แปดโมงครึ่ง ต้องถึงห้องตรวจ2ละ ไม่เคยสายเลยนะ “ พี่วิ เล่าให้น้องเอ๋ พยาบาลโอพีดีคนใหม่ฟัง
“หน้าตาก็หล่อ ขยันก็ขยัน แถมยังเก่งอีก หมอเค้ามีแฟนยังพี่”
“บร้าหรอ หมอเค้าเป็นแบบว่าล่ะจะบอกให้” พี่วิพูดไปพลางทำมือสะดีดสะดิ้งไป
“อร๊าย จริงหรอคะ เสียดายอ่ะ”
“นี่เธอ เห็นข้อดีเยอะ ข้อเสียก็มีนะ”
“ยังไงอ่ะคะ” เอ๋ถามด้วยความอยากรู้
“หมอแกเป็นคนใจร้อน อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย ขี้ร้อน ในห้องนี่ต้องเปิดแอร์ 23 องศาไว้ให้แกเลยนะ ก่อนแกจะมาตรวจน่ะ ไม่งั้นมาถึงเจอห้องร้อนๆแกจะพาลไม่ตรวจเอา แล้วต้องรอให้ห้องเย็นฉ่ำก่อนแกถึงจะตรวจ อีกอย่างแต่ละห้อง ทั้ง3ห้อง จะมีกระดิ่งเรียกพยาบาล ถ้ามีอะไร หมอเค้าจะกดกระดิ่งเรียก เช่น ต้องการอุปกรณ์ส่องก้นตรวจทวารหนัก ต้องการให้อยู่ด้วยเวลาตรวจเต้านม ไม้กดลิ้นหมด คนไข้มีปัญหา อะไรพวกเนี้ยะ หมอเค้าก็จะกดกระดิ่งเรียก ถ้าหมอคนอื่นเรียก เราไปช้าไม่เท่าไร แต่ถ้าเป็นหมอเอกนะ กิ๊งแรกนี่ต้องลุกไปหาแกแล้วนะ ถ้าไปช้า แกจะกดกระดิ่ง รัวๆ ถี่ขึ้น ถี่ขึ้น อยู่อย่างนั้นล่ะ จนกว่าเราจะไปหาแก ถึงจะหยุดกด”
“ขนาดนั้นเลยหรอคะ”
“ช่ายยย อ้อ แล้วก็คอมในห้องตรวจ2ของแก ห้ามใครเคลื่อนย้าย ห้ามไปยุ่ง หน้าจอแกเซฟอะไรยังไงไว้ ก็ต้องตามนั้น ถ้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรของแกนะ มีเรื่อง”
“เอ่อ พี่วิคะ หนูว่าชักจะเยอะละนะคะ”
“แหม น้อยไปสิ จะบอกอะไรให้ อีกอย่างเลยนะ คือ แกเป็นคนกลัวที่แคบ ประตูห้องตรวจแกห้ามปิดเด็ดขาด ถ้าเผลอปิดนะ แกก็จะลุกมาเปิด ไม่ยอมให้ปิด”
“อ้าว แล้วงี้ตรวจเต้านมยังไง”
“ก็แง้มประตูไว้นิดนึง” “อ่อ ค่ะๆๆ”
“สุดท้าย แกชอบกาแฟ แม่บ้านจะเอากาแฟ3in1มาวางไว้ให้ที่ในห้อง เดี๋ยวแกจะชงกินของแกเอง แค่อย่าให้กาแฟพร่อง เดี๋ยวคุณเธอจะวีนเอา จำได้ใช่มะ ที่พูดมาทั้งหมดเนี่ย”
“ค่ะๆๆ” พยาบาลใหม่พยักหน้ารับทราบ
“ป่ะ ประจำที่ มานู่นแล้ว”
..........................................
หมอเอกยังคงทำงาน และก็ตรวจคนไข้ที่ห้องตรวจ2เป็นประจำ จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง
“พี่วิ!” “พี่วิ พี่วิ ... พี่วิรู้ข่าวยัง” น้องเอ๋ วิ่งกระหืดกระหอบ มาที่โต๊ะตรวจโอพีดี
“อะไรล่ะเธอนี่ คนไข้ตกใจหมดแล้ว เดี๋ยวความดันคนไข้ก็ขึ้นกันพอดี” พี่วิพูดพลางวัดความดันคนไข้ต่อ
“พี่วิ หมอเอกรถคว่ำ หมอที่รพศ.โทรมาเมื่อกี๊ ว่าเสียแล้ว ศพอยู่ที่รพ.”
“ห๊า!” พี่วิตกใจหน้าถอดสี ท่ามกลางเสียงคนไข้ที่พากันวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เอ๋ เธอรีบไปบอกพี่ผอ.เลยนะ เดี๋ยวพี่จะหาทางโทรหาญาติหมอเค้าก่อน ไม่รู้ทราบเรื่องรึยัง โอยๆๆ”
..........................................
วันที่2
ซ่า ซ่า ซ่า
มันเป็นวันที่ฝนตกหนักอีกวันหนึ่ง ฟ้ามืดครึ้ม แม้ว่าจะเลยเวลาพระอาทิตย์ขึ้นมาแล้วก็ตาม พี่วิและเอ๋มาเตรียมโอพีดีแต่เช้า
“เอ๋ ...”
พี่วิทักขึ้นมา ขณะกำลังเตรียมข้าวของรอตรวจคนไข้
“ว่าไงคะ”
“พี่ว่า....พี่..... ได้กลิ่นกาแฟ”
“พี่วิ! อย่าสิ หนูขนลุกเลยนะ”
“จริงๆ เมื่อกี๊พี่เดินผ่านห้องตรวจ2 พี่ได้กลิ่นกาแฟจริงๆนะ.... เอ๋ เธอยังไม่ได้เอาป้ายชื่อหมอเค้าออกจากหน้าห้องนะ”
“พี่วิ ไม่เอา หนูกลัว พี่ไปเอาออกเองสิ”
“นี่.. ชั้นเตรียมของอยู่ ไปเถอะ ปิดประตูห้อง2ด้วย กลิ่นกาแฟจะได้ไม่ออกมา”
เอ๋เดินไปปิดประตูห้องตรวจ2อย่างรวดเร็ว แล้วเอาป้ายชื่อ นายแพทย์เอกพงษ์ ออกจากหน้าห้องตรวจ
“เสร็จแล้วก็มาประจำที่สิ วันนี้เหลือหมอผอ.ตรวจแค่คนเดียวนะ”
“ค่ะๆ”
คนไข้ทยอยเข้าตรวจที่ห้องตรวจ1 ทีละคน ทีละคน แม้วันนี้คนไข้จะเยอะ แต่ทุกอย่างดูเงียบงัน และคืนนี้เป็นคืนสวดวันที่2
...............
วันที่ 3
จั่กๆๆ เสียงฝนพรำยามเช้า พี่วิหุบร่มของเธอ สลัดๆน้ำออกแล้วตั้งวางไว้ที่ทางขึ้นตึกผู้ป่วยนอก
“โอยยย เอ๋ นี่เธอรู้ไม๊ เมื่อคืนพี่นอนไม่หลับทั้งคืนเลยนะ” พี่วิเดินคุย ระหว่างทางเดินมายังตึกโอพีดี เพื่อมาทำงานตอนเช้า
“ทำไมล่ะคะ กลัวหรอ”
“ไม่รู้สิ ได้กลิ่นกาแฟขึ้นมาทีไร ขนลุกเลย เมื่อเช้าเลยกินโอวัลตินเนี่ย” พูดพลางก็เดินมาถึงโอพีดีพอดี
“เอ๋... .... เธอได้กลิ่นใช่ไม๊ กลิ่นกาแฟอีกแล้ว”
“พี่วิ หนูกลัว...” ทั้งสองหยุดนิ่งอยู่หน้าห้องตรวจ
“ว๊ายยยย พี่วิดูนั่น!” ทั้งสองมองไปที่ประตูห้องตรวจ2 ก็พบว่า ป้าย นายแพทย์เอกพงษ์ ยังแปะอยู่หน้าห้องเหมือนเดิม
“เอ๋ ... เมื่อวานเธอเอาป้ายออกแล้วใช่ไม๊”
“พี่คะ หนูเอาเก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะพี่กับมือเลยค่ะ”
“ประตูก็เปิดอยู่ด้วย เอาแล้วไง...”
“พี่วิ คราวนี้หนูไม่ไปเก็บป้ายแล้วนะ พี่เก็บเองเลยนะ”
“ไม่เอา พี่ก็ไม่เก็บ ... ก็แปะมันไว้อย่างงั้นแล้วกัน”
“แล้วประตูล่ะ”
“ก็ปิดสิ เปิดไว้ทำไมล่ะ เกิดมองเข้าไปเจอหมอเอกนั่งอยู่ทำไง”
“งือ พี่วิพูดอะไรเนี่ย หนูกลัวนะ พี่ไปปิดเองเลย”
“ปิดเองก็ได้” พี่วิพูดแล้วเดินไปเพื่อจะปิดประตู
เมื่อพี่วิเดินไปที่ห้องตรวจ2 ก็ถึงกับผงะ “โอย เอ๋ พี่ไม่ไหวละนะ”
“ทำไมล่ะคะพี่”
“ขาพี่สั่นหมดแล้ว ...” “แอร์ ... แอร์มันเปิดอยู่ด้วยล่ะ” “เย็นเจี๊ยบเลย”
“พี่วิ เอาไงดีล่ะ”
“เอ๋ เธอเดินไปห้องตรวจ1นะ แล้วเอารีโมทแอร์ห้องตรวจ1มาปิดแอร์ห้องตรวจ2ที พี่ไม่กล้าเข้าไปข้างในห้องตรวจ2”
“ค่ะๆ” หลังจากปิดแอร์ พี่วิก็ปิดประตูห้องตรวจ2ไว้ แล้วทั้งคู่ก็กลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานตัวเองอย่างรวดเร็ว
“พี่วิ พี่วิว่าหมอเอกจะรู้ตัวไม๊ว่าเค้าตายแล้ว”
“บร้า แกพูดไรเนี่ย หยุดพูดเลยนะ”
“ก็หนูเคยได้ยินว่า คนตายด้วยอุบัติเหตุจะไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว ถ้าเราไม่บอกเค้า”
“จะบ้าหรอ แกก็ไปบอกหมอเอกเองสิ”
“พี่วิ ลองคิดดูนะ หมอเอกขับรถมา จะมาทำงานที่นี่ตอนเช้าวันที่เกิดเหตุนะ แล้วแกรู้ตัวไม๊ หรือว่าแกยังคงมาทำงานที่นี่ทุกวัน”
“งือออ ชั้นกลัวนะ หยุดพูดเลย”
“แล้วถ้าเราไม่บอกเค้า เราก็จะต้องทำงานกับหมอเอกแบบนี้ไปเรื่อยๆหรอ”
“ชั้นไม่คุยกับเธอละ บรื๋อ ทำงานดีกว่า”
โลงพยาบาล (ปฐมบท)
ถ้าดึกๆแบบนี้ ไม่รู้จะทำอะไร มาฟังเรื่องเล่าสนุกๆของผมสิครับ มันเหมาะมาก! ผมขอเล่าไป ตัดเล็บไปด้วยนะครับ
(ค่อยๆแกะใบมีดผ่าตัดเบอร์ 15 ออกจากซอง แล้วใช้มีดผ่าตัด ค่อยๆเล็มเล็บที่ยาวออกทีละนิด ทีละนิด)
เรื่องแรกที่ผมจะเล่า ผมขอตั้งชื่อว่า ... “ห้องตรวจ2”
อุย... บาดนิ้วเอาซะแล้ว ...ถึงกระดูกเลย
...........................................................................
ปึ้ง!!
“โอยยยย งานตัวเองก็เหนื่อยจะแย่ ต้องทำงานคนอื่นวุ่นวายอีก เฮช-อง HA อะไรไม่รู้ บ้าบอคอแตก” พี่วิ พยาบาลวิชาชีพหัวหน้าโอพีดีบ่น ขณะกระแทกกองหนังสือและเอกสารเตรียมตรวจประเมินHAลงบนโต๊ะตรวจ
“ใจเย็นๆครับพี่วิ ทำๆไปเดี๋ยวมันก็ผ่านเอง” หมอเอก หมอหนุ่มประจำโอพีดี(ผู้ป่วยนอก)พูดขึ้น ขณะยืนพิงประตูห้องตรวจ2อยู่
“แหม หมอเอก ตั้งแต่มีน้องๆมาช่วยตรวจเนี่ย ยึดห้องตรวจ2เป็นห้องประจำเลยนะคะ สบายเลยสิ ไม่ต้องวนไปตรวจERที วอร์ดที”
“แหงล่ะ ห้อง1ของพี่ผอ. ห้อง2ก็ต้องของผมสิ น้องๆก็ไปราวน์วอร์ดไปER แล้วกัน ยังหนุ่มยังแน่น ไฟแรงต้องเดินบ้างไรบ้าง แก่แล้วให้อยู่กับที่ เนาะ ฮ่าๆๆ” หมอเอกหัวเราะพลางจิบกาแฟในมือ
“หมอเอกเค้าอายุ 35 ปี และอีกไม่นานก็คงจะได้เป็นผอ.แทนผอ.คนเดิมที่ใกล้เกษียณแล้ว แกเป็นคนเก่ง ขยัน แปดโมงครึ่ง ต้องถึงห้องตรวจ2ละ ไม่เคยสายเลยนะ “ พี่วิ เล่าให้น้องเอ๋ พยาบาลโอพีดีคนใหม่ฟัง
“หน้าตาก็หล่อ ขยันก็ขยัน แถมยังเก่งอีก หมอเค้ามีแฟนยังพี่”
“บร้าหรอ หมอเค้าเป็นแบบว่าล่ะจะบอกให้” พี่วิพูดไปพลางทำมือสะดีดสะดิ้งไป
“อร๊าย จริงหรอคะ เสียดายอ่ะ”
“นี่เธอ เห็นข้อดีเยอะ ข้อเสียก็มีนะ”
“ยังไงอ่ะคะ” เอ๋ถามด้วยความอยากรู้
“หมอแกเป็นคนใจร้อน อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย ขี้ร้อน ในห้องนี่ต้องเปิดแอร์ 23 องศาไว้ให้แกเลยนะ ก่อนแกจะมาตรวจน่ะ ไม่งั้นมาถึงเจอห้องร้อนๆแกจะพาลไม่ตรวจเอา แล้วต้องรอให้ห้องเย็นฉ่ำก่อนแกถึงจะตรวจ อีกอย่างแต่ละห้อง ทั้ง3ห้อง จะมีกระดิ่งเรียกพยาบาล ถ้ามีอะไร หมอเค้าจะกดกระดิ่งเรียก เช่น ต้องการอุปกรณ์ส่องก้นตรวจทวารหนัก ต้องการให้อยู่ด้วยเวลาตรวจเต้านม ไม้กดลิ้นหมด คนไข้มีปัญหา อะไรพวกเนี้ยะ หมอเค้าก็จะกดกระดิ่งเรียก ถ้าหมอคนอื่นเรียก เราไปช้าไม่เท่าไร แต่ถ้าเป็นหมอเอกนะ กิ๊งแรกนี่ต้องลุกไปหาแกแล้วนะ ถ้าไปช้า แกจะกดกระดิ่ง รัวๆ ถี่ขึ้น ถี่ขึ้น อยู่อย่างนั้นล่ะ จนกว่าเราจะไปหาแก ถึงจะหยุดกด”
“ขนาดนั้นเลยหรอคะ”
“ช่ายยย อ้อ แล้วก็คอมในห้องตรวจ2ของแก ห้ามใครเคลื่อนย้าย ห้ามไปยุ่ง หน้าจอแกเซฟอะไรยังไงไว้ ก็ต้องตามนั้น ถ้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรของแกนะ มีเรื่อง”
“เอ่อ พี่วิคะ หนูว่าชักจะเยอะละนะคะ”
“แหม น้อยไปสิ จะบอกอะไรให้ อีกอย่างเลยนะ คือ แกเป็นคนกลัวที่แคบ ประตูห้องตรวจแกห้ามปิดเด็ดขาด ถ้าเผลอปิดนะ แกก็จะลุกมาเปิด ไม่ยอมให้ปิด”
“อ้าว แล้วงี้ตรวจเต้านมยังไง”
“ก็แง้มประตูไว้นิดนึง” “อ่อ ค่ะๆๆ”
“สุดท้าย แกชอบกาแฟ แม่บ้านจะเอากาแฟ3in1มาวางไว้ให้ที่ในห้อง เดี๋ยวแกจะชงกินของแกเอง แค่อย่าให้กาแฟพร่อง เดี๋ยวคุณเธอจะวีนเอา จำได้ใช่มะ ที่พูดมาทั้งหมดเนี่ย”
“ค่ะๆๆ” พยาบาลใหม่พยักหน้ารับทราบ
“ป่ะ ประจำที่ มานู่นแล้ว”
..........................................
หมอเอกยังคงทำงาน และก็ตรวจคนไข้ที่ห้องตรวจ2เป็นประจำ จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง
“พี่วิ!” “พี่วิ พี่วิ ... พี่วิรู้ข่าวยัง” น้องเอ๋ วิ่งกระหืดกระหอบ มาที่โต๊ะตรวจโอพีดี
“อะไรล่ะเธอนี่ คนไข้ตกใจหมดแล้ว เดี๋ยวความดันคนไข้ก็ขึ้นกันพอดี” พี่วิพูดพลางวัดความดันคนไข้ต่อ
“พี่วิ หมอเอกรถคว่ำ หมอที่รพศ.โทรมาเมื่อกี๊ ว่าเสียแล้ว ศพอยู่ที่รพ.”
“ห๊า!” พี่วิตกใจหน้าถอดสี ท่ามกลางเสียงคนไข้ที่พากันวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เอ๋ เธอรีบไปบอกพี่ผอ.เลยนะ เดี๋ยวพี่จะหาทางโทรหาญาติหมอเค้าก่อน ไม่รู้ทราบเรื่องรึยัง โอยๆๆ”
..........................................
วันที่2
ซ่า ซ่า ซ่า
มันเป็นวันที่ฝนตกหนักอีกวันหนึ่ง ฟ้ามืดครึ้ม แม้ว่าจะเลยเวลาพระอาทิตย์ขึ้นมาแล้วก็ตาม พี่วิและเอ๋มาเตรียมโอพีดีแต่เช้า
“เอ๋ ...”
พี่วิทักขึ้นมา ขณะกำลังเตรียมข้าวของรอตรวจคนไข้
“ว่าไงคะ”
“พี่ว่า....พี่..... ได้กลิ่นกาแฟ”
“พี่วิ! อย่าสิ หนูขนลุกเลยนะ”
“จริงๆ เมื่อกี๊พี่เดินผ่านห้องตรวจ2 พี่ได้กลิ่นกาแฟจริงๆนะ.... เอ๋ เธอยังไม่ได้เอาป้ายชื่อหมอเค้าออกจากหน้าห้องนะ”
“พี่วิ ไม่เอา หนูกลัว พี่ไปเอาออกเองสิ”
“นี่.. ชั้นเตรียมของอยู่ ไปเถอะ ปิดประตูห้อง2ด้วย กลิ่นกาแฟจะได้ไม่ออกมา”
เอ๋เดินไปปิดประตูห้องตรวจ2อย่างรวดเร็ว แล้วเอาป้ายชื่อ นายแพทย์เอกพงษ์ ออกจากหน้าห้องตรวจ
“เสร็จแล้วก็มาประจำที่สิ วันนี้เหลือหมอผอ.ตรวจแค่คนเดียวนะ”
“ค่ะๆ”
คนไข้ทยอยเข้าตรวจที่ห้องตรวจ1 ทีละคน ทีละคน แม้วันนี้คนไข้จะเยอะ แต่ทุกอย่างดูเงียบงัน และคืนนี้เป็นคืนสวดวันที่2
...............
วันที่ 3
จั่กๆๆ เสียงฝนพรำยามเช้า พี่วิหุบร่มของเธอ สลัดๆน้ำออกแล้วตั้งวางไว้ที่ทางขึ้นตึกผู้ป่วยนอก
“โอยยย เอ๋ นี่เธอรู้ไม๊ เมื่อคืนพี่นอนไม่หลับทั้งคืนเลยนะ” พี่วิเดินคุย ระหว่างทางเดินมายังตึกโอพีดี เพื่อมาทำงานตอนเช้า
“ทำไมล่ะคะ กลัวหรอ”
“ไม่รู้สิ ได้กลิ่นกาแฟขึ้นมาทีไร ขนลุกเลย เมื่อเช้าเลยกินโอวัลตินเนี่ย” พูดพลางก็เดินมาถึงโอพีดีพอดี
“เอ๋... .... เธอได้กลิ่นใช่ไม๊ กลิ่นกาแฟอีกแล้ว”
“พี่วิ หนูกลัว...” ทั้งสองหยุดนิ่งอยู่หน้าห้องตรวจ
“ว๊ายยยย พี่วิดูนั่น!” ทั้งสองมองไปที่ประตูห้องตรวจ2 ก็พบว่า ป้าย นายแพทย์เอกพงษ์ ยังแปะอยู่หน้าห้องเหมือนเดิม
“เอ๋ ... เมื่อวานเธอเอาป้ายออกแล้วใช่ไม๊”
“พี่คะ หนูเอาเก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะพี่กับมือเลยค่ะ”
“ประตูก็เปิดอยู่ด้วย เอาแล้วไง...”
“พี่วิ คราวนี้หนูไม่ไปเก็บป้ายแล้วนะ พี่เก็บเองเลยนะ”
“ไม่เอา พี่ก็ไม่เก็บ ... ก็แปะมันไว้อย่างงั้นแล้วกัน”
“แล้วประตูล่ะ”
“ก็ปิดสิ เปิดไว้ทำไมล่ะ เกิดมองเข้าไปเจอหมอเอกนั่งอยู่ทำไง”
“งือ พี่วิพูดอะไรเนี่ย หนูกลัวนะ พี่ไปปิดเองเลย”
“ปิดเองก็ได้” พี่วิพูดแล้วเดินไปเพื่อจะปิดประตู
เมื่อพี่วิเดินไปที่ห้องตรวจ2 ก็ถึงกับผงะ “โอย เอ๋ พี่ไม่ไหวละนะ”
“ทำไมล่ะคะพี่”
“ขาพี่สั่นหมดแล้ว ...” “แอร์ ... แอร์มันเปิดอยู่ด้วยล่ะ” “เย็นเจี๊ยบเลย”
“พี่วิ เอาไงดีล่ะ”
“เอ๋ เธอเดินไปห้องตรวจ1นะ แล้วเอารีโมทแอร์ห้องตรวจ1มาปิดแอร์ห้องตรวจ2ที พี่ไม่กล้าเข้าไปข้างในห้องตรวจ2”
“ค่ะๆ” หลังจากปิดแอร์ พี่วิก็ปิดประตูห้องตรวจ2ไว้ แล้วทั้งคู่ก็กลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานตัวเองอย่างรวดเร็ว
“พี่วิ พี่วิว่าหมอเอกจะรู้ตัวไม๊ว่าเค้าตายแล้ว”
“บร้า แกพูดไรเนี่ย หยุดพูดเลยนะ”
“ก็หนูเคยได้ยินว่า คนตายด้วยอุบัติเหตุจะไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว ถ้าเราไม่บอกเค้า”
“จะบ้าหรอ แกก็ไปบอกหมอเอกเองสิ”
“พี่วิ ลองคิดดูนะ หมอเอกขับรถมา จะมาทำงานที่นี่ตอนเช้าวันที่เกิดเหตุนะ แล้วแกรู้ตัวไม๊ หรือว่าแกยังคงมาทำงานที่นี่ทุกวัน”
“งือออ ชั้นกลัวนะ หยุดพูดเลย”
“แล้วถ้าเราไม่บอกเค้า เราก็จะต้องทำงานกับหมอเอกแบบนี้ไปเรื่อยๆหรอ”
“ชั้นไม่คุยกับเธอละ บรื๋อ ทำงานดีกว่า”