การไปเที่ยว แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่หลายๆคนชอบกันมากมาย ไม่ว่าจะเที่ยวใกล้หรือไกล แค่ได้ออกเดินทางเราก็เชื่อได้ว่าจะช่วยเติมเต็มความสุข เปิดประสบการณ์ชีวิตให้ใครหลายคน และเราก็เป็นหนึ่งในนั้น
เราชอบเที่ยวมาก เรียกได้ว่าความฝันของเราคือการเดินทางไปรอบโลก หรือไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะสามารถไปได้ เรามีความสุขที่ได้อ่านเรื่องราว ได้ดูรูปสถานที่ต่างๆ ทั้งไทยและเทศ และเมื่อใดที่เรากำลังจะก้าวออกไปยังสถานที่ที่เราคิดไว้ เราจะตื่นเต้น ดีใจ มีกำลังใจ และยิ่งได้ไปกับคนที่เรารัก เพื่อนรู้ใจ หรือครอบครัว หลายคนก็คงสัมผัสได้ว่ามันจะมีความสุขมากขึ้นขนาดไหน
แต่เราดันเป็นคนเดียวในครอบครัวที่คิดแบบนี้ ความเศร้าจึงมาเยือนเพราะนั้นหมายความว่าไม่ว่าเราจะพยายามสักแค่ไหน เราก็ไม่มีวันได้เที่ยวกับครอบครัวสักที หลายครั้งที่เราเพียรพยายามที่จะวางแผน หาที่พักราคาถูก ตั๋วเครื่องบินช่วงโปร ทำทุกสิ่งอย่างเพื่อให้สักครั้งหนึ่งเราได้ไปเที่ยวร่วมกัน (ครอบครัวเรามี 6 คนค่ะ ทุกคนทำงานหมดค่ะ มีเพียงแม่ที่ทำงานอิสระอยู่) แต่เชื่อไหมว่าเราพยายามมา 4 ปีแล้ว แต่มันไม่เคยประสบความสำเร็จเลย พอจะชวนไปช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลก็จะให้เหตุผลว่าไม่อยากลางานเพิ่ม แต่หากจะให้ไปช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาวๆ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ ก็ไม่เอาเพราะคนเยอะ แย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว
มันเป็นความฝังใจมากๆ เพราะตอนเด็กครอบครัวเราค่อนข้างยากจน เรื่องไปเที่ยวเนี่ยพับเก็บได้เลย ต่างประเทศเป็นอะไรที่เราไม่คิดฝัน ครอบครัวเราอดทน และสู้ จนถึงวันที่พวกเราเติบใหญ่ มีการมีงานทำ มีบ้านเป็นของเราเอง ไม่มีหนี้สิน ทุกคนช่วยกันทำงานเก็บเงิน ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเรียกได้ว่าครอบครัวเราสบายขึ้นเยอะ แม้จะไม่รวยล้นฟ้า แต่ก็ไม่ลำบาก และแน่นอนพ่อกับแม่ก็แก่ขึ้นเยอะเหมือนกัน เราบอกตัวเองเสมอว่าเราจะพาพ่อแม่ไปเที่ยวไกลๆสักครั้ง (เพราะคิดว่าหากรอให้ครบทั้งครอบครัวอาจจะยากมาก และไม่รู้อีกกี่ปี) ให้เค้าได้ผ่อนคลาย ได้เปิดโลกทัศน์ และก่อนที่วันหนึ่งเค้าจะไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว
มีตั้งหลายที่ที่เราอยากพาท่านไป ถึงขั้นเราเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง และตั้งใจว่าปีหน้าที่จะถึงนี้แหล่ะจะพาพ่อกะแม่ไปต่างประเทศสักครั้งช่วงต้นเดือนมกราคม เราเลือกทัวร์ เลือกประเทศที่คิดว่าน่าจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ไม่ลำบากจนเกินไป มีทั้งธรรมชาติ ตลาด ภูเขา ทะเล น้ำตก และต้องไม่แพงจนเกินไปนักเพราะเราต้องเป็นเจ้ามือออกคูณสาม เราคุยกะทัวร์จนได้วัน และราคาที่โอเคแล้ว พอทำงานเสร็จจึงรีบกลับบ้านมาบอกพ่อกะแม่
พ่อกะแม่ก็รับฟังนะ พอเค้าถามว่าจะไปไหน เราก็บอกไปว่าไปต่างประเทศ วันที่ไปดูแล้วว่างชัวร์ ราคาไม่แพง สวยนะ อากาศดี อ้างทุกสิ่งอย่าง แต่เค้ากลับบอกเราว่าไม่อ่ะเสียดายเงิน เงินตั้งหลายหมื่น อยากให้เราเก็บไว้ ไม่ต้องไปหรอก (คือครอบครัวเราเค้ามองเสมอว่าการไปเที่ยวเป็นเรื่องสิ้นเปลือง เรายังไม่มีเงินมากขนาดนั้น ให้รอให้มีเงินเยอะๆ ค่อยว่ากัน ซึ่งเราไม่เคยเข้าใจว่าต้องเยอะขนาดไหนจึงจะพอ)
แถมพ่อกะแม่ถามเรากลับว่าทำไมถึงชอบเที่ยวนัก หากมีเงินจะเที่ยวขนาดนั้นได้ก็เอามาให้เค้าเถอะ เค้าเก็บให้เอง บลาๆ บลาๆ พร้อมบอกว่าแต่ถ้าอยากจะไปจริงๆ ให้รอไปพร้อมกันทั้งครอบครัว (ซึ่งก็คือไม่รู้เมื่อไหร่)
จบความพยายามในปีที่ 5 ของเรา บอกตามตรงเราเศร้ามาก
สรุปคือเราควรหยุดความพยายาม และต้องทำใจแล้วใช่ไหม และก็ได้แต่รอต่อไป หรือใครมีวิธีเด็ดๆ ที่จะได้เที่ยวกับครอบครัวสักที แนะนำเราด้วยค่ะ ขอบคุณที่ให้พื้นที่ระบายค่ะ
แค่อยากเที่ยวกับครอบครัวสักครั้ง ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน บอกที!!!
เราชอบเที่ยวมาก เรียกได้ว่าความฝันของเราคือการเดินทางไปรอบโลก หรือไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะสามารถไปได้ เรามีความสุขที่ได้อ่านเรื่องราว ได้ดูรูปสถานที่ต่างๆ ทั้งไทยและเทศ และเมื่อใดที่เรากำลังจะก้าวออกไปยังสถานที่ที่เราคิดไว้ เราจะตื่นเต้น ดีใจ มีกำลังใจ และยิ่งได้ไปกับคนที่เรารัก เพื่อนรู้ใจ หรือครอบครัว หลายคนก็คงสัมผัสได้ว่ามันจะมีความสุขมากขึ้นขนาดไหน
แต่เราดันเป็นคนเดียวในครอบครัวที่คิดแบบนี้ ความเศร้าจึงมาเยือนเพราะนั้นหมายความว่าไม่ว่าเราจะพยายามสักแค่ไหน เราก็ไม่มีวันได้เที่ยวกับครอบครัวสักที หลายครั้งที่เราเพียรพยายามที่จะวางแผน หาที่พักราคาถูก ตั๋วเครื่องบินช่วงโปร ทำทุกสิ่งอย่างเพื่อให้สักครั้งหนึ่งเราได้ไปเที่ยวร่วมกัน (ครอบครัวเรามี 6 คนค่ะ ทุกคนทำงานหมดค่ะ มีเพียงแม่ที่ทำงานอิสระอยู่) แต่เชื่อไหมว่าเราพยายามมา 4 ปีแล้ว แต่มันไม่เคยประสบความสำเร็จเลย พอจะชวนไปช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลก็จะให้เหตุผลว่าไม่อยากลางานเพิ่ม แต่หากจะให้ไปช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาวๆ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ ก็ไม่เอาเพราะคนเยอะ แย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว
มันเป็นความฝังใจมากๆ เพราะตอนเด็กครอบครัวเราค่อนข้างยากจน เรื่องไปเที่ยวเนี่ยพับเก็บได้เลย ต่างประเทศเป็นอะไรที่เราไม่คิดฝัน ครอบครัวเราอดทน และสู้ จนถึงวันที่พวกเราเติบใหญ่ มีการมีงานทำ มีบ้านเป็นของเราเอง ไม่มีหนี้สิน ทุกคนช่วยกันทำงานเก็บเงิน ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเรียกได้ว่าครอบครัวเราสบายขึ้นเยอะ แม้จะไม่รวยล้นฟ้า แต่ก็ไม่ลำบาก และแน่นอนพ่อกับแม่ก็แก่ขึ้นเยอะเหมือนกัน เราบอกตัวเองเสมอว่าเราจะพาพ่อแม่ไปเที่ยวไกลๆสักครั้ง (เพราะคิดว่าหากรอให้ครบทั้งครอบครัวอาจจะยากมาก และไม่รู้อีกกี่ปี) ให้เค้าได้ผ่อนคลาย ได้เปิดโลกทัศน์ และก่อนที่วันหนึ่งเค้าจะไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว
มีตั้งหลายที่ที่เราอยากพาท่านไป ถึงขั้นเราเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง และตั้งใจว่าปีหน้าที่จะถึงนี้แหล่ะจะพาพ่อกะแม่ไปต่างประเทศสักครั้งช่วงต้นเดือนมกราคม เราเลือกทัวร์ เลือกประเทศที่คิดว่าน่าจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ไม่ลำบากจนเกินไป มีทั้งธรรมชาติ ตลาด ภูเขา ทะเล น้ำตก และต้องไม่แพงจนเกินไปนักเพราะเราต้องเป็นเจ้ามือออกคูณสาม เราคุยกะทัวร์จนได้วัน และราคาที่โอเคแล้ว พอทำงานเสร็จจึงรีบกลับบ้านมาบอกพ่อกะแม่
พ่อกะแม่ก็รับฟังนะ พอเค้าถามว่าจะไปไหน เราก็บอกไปว่าไปต่างประเทศ วันที่ไปดูแล้วว่างชัวร์ ราคาไม่แพง สวยนะ อากาศดี อ้างทุกสิ่งอย่าง แต่เค้ากลับบอกเราว่าไม่อ่ะเสียดายเงิน เงินตั้งหลายหมื่น อยากให้เราเก็บไว้ ไม่ต้องไปหรอก (คือครอบครัวเราเค้ามองเสมอว่าการไปเที่ยวเป็นเรื่องสิ้นเปลือง เรายังไม่มีเงินมากขนาดนั้น ให้รอให้มีเงินเยอะๆ ค่อยว่ากัน ซึ่งเราไม่เคยเข้าใจว่าต้องเยอะขนาดไหนจึงจะพอ)
แถมพ่อกะแม่ถามเรากลับว่าทำไมถึงชอบเที่ยวนัก หากมีเงินจะเที่ยวขนาดนั้นได้ก็เอามาให้เค้าเถอะ เค้าเก็บให้เอง บลาๆ บลาๆ พร้อมบอกว่าแต่ถ้าอยากจะไปจริงๆ ให้รอไปพร้อมกันทั้งครอบครัว (ซึ่งก็คือไม่รู้เมื่อไหร่)
จบความพยายามในปีที่ 5 ของเรา บอกตามตรงเราเศร้ามาก
สรุปคือเราควรหยุดความพยายาม และต้องทำใจแล้วใช่ไหม และก็ได้แต่รอต่อไป หรือใครมีวิธีเด็ดๆ ที่จะได้เที่ยวกับครอบครัวสักที แนะนำเราด้วยค่ะ ขอบคุณที่ให้พื้นที่ระบายค่ะ