"อำนวย" เล็งยุทธศาสตร์ยางพาราไทย เลิกยืมจมูกต่างชาติหายใจ ยกระดับเกษตรกร เข้าสู่อุตสาหกรรมยางเต็มระบบ เพิ่มใช้ยางในประเทศร้อยละ 10 ในปี 58
วันที่ 30 ต.ค. 57 นายอำนวย ปะติเส ที่ปรึษารมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อวางยุทธศาสตร์ยางพาราไทย มุ่งเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศ โดยรับฟังความคิดเห็นจากสถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร องค์การสวนยาง กลุ่มเอกชนผู้ใช้ยาง และเกษตรกรสวนยาง ซึ่งมีความเห็นว่า ภาครัฐต้องเร่งให้เกิดการใช้ยางภายในประเทศให้ต่อเนื่องในอัตราร้อยละ 10 ต่อปี ปัจจุบันมีการนำยางมาแปรรูปและใช้ในโครงการของรัฐเพียง 5 แสนตันต่อปีจากที่ประเทศไทยเริ่มปลูกยางพารามาเป็นเวลา 60 ปี ในขณะนี้เกษตรกรไทยสามารถเพิ่มปริมาณผลผลิตได้ถึงปีละ 4 ล้านตัน แต่ส่งออกถึง 3.5 ล้านตัน ซึ่งเฉลี่ยใช้ในประเทศร้อยละ 14 โดยมีสัดส่วนที่ต้องพึ่งพาการส่งออกในลักษณะของวัตถุดิบถึงร้อยละ 86 ทำให้เม็ดเงินที่ถึงมือเกษตรกรสวนยางในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศมาเลเซีย ได้หันไปแปรรูปยางมากกว่า การปลูกยาง ทำให้เกษตรกรของมาเลเซียไม่เดือดร้อนจากราคายางตกต่ำทั่วโลกมากนัก เพราะไม่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจเหมือนประเทศไทย
นายอำนวย กล่าวว่า เป้าหมายแรกในปี 58 คือ กำหนดสเปกให้ชัดเจนในการใช้ยางทำถนน เพิ่มอุตสาหกรรมล้อยาง ถุงมือยาง ผลิตน้ำยางข้น เพื่อแปรรูปผลิตภัฑณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมารัฐบาลและหน่วยงานราชการไม่เอาจริง โดยนายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้ปีหน้าเพิ่มใช้ยางในประเทศให้ได้ 5 หมื่นตัน หากทำได้จริงตามเป้าประเทศไทยก็จะก้าวไปสู่อุตสาหกรรมยางเต็มระบบ.
เนื้อหาข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/Content/politics ขอบคุณครับ
@@@ มุมกาแฟNONแดง(มุมนี้ไม่มีใครเป็นเสื้อแดง) พฤหัสที่30/10/2014 ปรับยุทธศาสตร์ยางพาราไทย @@@
"อำนวย" เล็งยุทธศาสตร์ยางพาราไทย เลิกยืมจมูกต่างชาติหายใจ ยกระดับเกษตรกร เข้าสู่อุตสาหกรรมยางเต็มระบบ เพิ่มใช้ยางในประเทศร้อยละ 10 ในปี 58
วันที่ 30 ต.ค. 57 นายอำนวย ปะติเส ที่ปรึษารมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อวางยุทธศาสตร์ยางพาราไทย มุ่งเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศ โดยรับฟังความคิดเห็นจากสถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร องค์การสวนยาง กลุ่มเอกชนผู้ใช้ยาง และเกษตรกรสวนยาง ซึ่งมีความเห็นว่า ภาครัฐต้องเร่งให้เกิดการใช้ยางภายในประเทศให้ต่อเนื่องในอัตราร้อยละ 10 ต่อปี ปัจจุบันมีการนำยางมาแปรรูปและใช้ในโครงการของรัฐเพียง 5 แสนตันต่อปีจากที่ประเทศไทยเริ่มปลูกยางพารามาเป็นเวลา 60 ปี ในขณะนี้เกษตรกรไทยสามารถเพิ่มปริมาณผลผลิตได้ถึงปีละ 4 ล้านตัน แต่ส่งออกถึง 3.5 ล้านตัน ซึ่งเฉลี่ยใช้ในประเทศร้อยละ 14 โดยมีสัดส่วนที่ต้องพึ่งพาการส่งออกในลักษณะของวัตถุดิบถึงร้อยละ 86 ทำให้เม็ดเงินที่ถึงมือเกษตรกรสวนยางในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศมาเลเซีย ได้หันไปแปรรูปยางมากกว่า การปลูกยาง ทำให้เกษตรกรของมาเลเซียไม่เดือดร้อนจากราคายางตกต่ำทั่วโลกมากนัก เพราะไม่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจเหมือนประเทศไทย
นายอำนวย กล่าวว่า เป้าหมายแรกในปี 58 คือ กำหนดสเปกให้ชัดเจนในการใช้ยางทำถนน เพิ่มอุตสาหกรรมล้อยาง ถุงมือยาง ผลิตน้ำยางข้น เพื่อแปรรูปผลิตภัฑณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมารัฐบาลและหน่วยงานราชการไม่เอาจริง โดยนายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้ปีหน้าเพิ่มใช้ยางในประเทศให้ได้ 5 หมื่นตัน หากทำได้จริงตามเป้าประเทศไทยก็จะก้าวไปสู่อุตสาหกรรมยางเต็มระบบ.
เนื้อหาข่าวจาก http://www.dailynews.co.th/Content/politics ขอบคุณครับ