จุลปทุมชาดก

กระทู้สนทนา


จุลปทุมชาดก ข้อสังเกตเกี่ยวกับบทบาทและความนิยมที่ปรากฏในจิตรกรรมสมัยรัชกาลที่ ๔

วรลักษณ์ ผ่องสุขสวัสดิ์
นักศึกษาบัณฑิตวิทยาลัย สาขาประวัติศาสตร์ศิลปะ มหาวิทยาลัยศิลปากร

จิตรกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น “ขนบและรูปแบบ” ยังคงสืบเนื่องจากงานช่างในราชธานีเก่า ล่วงมาถึงปลายรัชกาลที่ ๓ กระแสการปรับเปลี่ยนทางสังคมและวัฒนธรรมอันเกิดจากการหลั่งไหลเข้ามาของวัฒนธรรมจากโลกตะวันตกได้ส่งผลกระทบหลายประการต่องานช่างไทย ดังปรากฏในแนวคิดและการแสดงออก ซึ่งเริ่มปรับเปลี่ยนเข้าสู่ “ความสมจริง” มากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน “ปรัมปราคติ” แม้ยังมีบทบาทอยู่บ้าง แต่ก็ลดน้อยลงทุกที

ชาดกยังคงเป็นขนบเรื่องที่นิยม ทั้งในชุดทศชาติชาดกและชาดกบางเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จุลปทุมชาดก ซึ่งช่างได้นำมาแทรกร่วมอยู่ในชุดทศชาติชาดก ลักษณะเช่นนี้พบทั้งวัดในและนอกราชธานี (กรุงเทพมหานคร) โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตรกรรมในช่วงปลายรัชกาลที่ ๓ - รัชกาลที่ ๔ จึงเป็นที่น่าสนใจถึงบทบาท ความสำคัญของเนื้อเรื่อง ตลอดจนรูปแบบการแสดงออก ความนิยม และความมุ่งหมายในการเขียน

สังเขปเนื้อเรื่อง “จุลปทุมชาดก”

จุลปทุมชาดก เป็นชาดกเรื่องที่ ๑๙๓ ในนิบาตชาดก หมวดทุกนิบาต รุหกวรรคที่ ๕ มีเนื้อเรื่องสังเขป ดังนี้

พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระปทุมกุมาร มีพระอนุชาหกองค์ ครั้นเมื่อพระราชกุมารทั้งเจ็ดเจริญวัย พระราชบิดาเกิดระแวงเกรงว่าลูกๆ จะคิดร้ายชิงราชสมบัติ จึงเนรเทศพระราชกุมารทั้งเจ็ดพร้อมพระชายาออกจากเมือง ระหว่างรอนแรมกันไป หนทางแสนกันดารนัก ขาดแคลนอาหาร พระราชกุมารทั้งหมดจึงตกลงฆ่าพระชายาคราละองค์ เพื่อนำมาเป็นอาหารแจกจ่ายกันกินประทังชีวิต

ครั้นถึงคราต้องฆ่าพระชายาของพระปทุมกุมาร พระองค์ได้นำเนื้อส่วนที่เก็บไว้มาแจกจ่ายให้แก่บรรดาพระอนุชาแทน และเฝ้ารอจนเหล่าพระอนุชาหลับ จึงพาพระชายาแยกหนีไป ระหว่างทางนั้น พระชายาเกิดกระหายน้ำ พระองค์จึงกรีดพระโลหิตให้ดื่มแทน ก่อนจะเดินทางรอนแรมกันต่อไป จนในที่สุดเมื่อทั้งสองได้เดินทางมาถึงบึงน้ำใหญ่ จึงปลูกเรือนพักขึ้น ณ ที่นั้น พระปทุมกุมารได้ช่วยเหลือรักษาโจรผู้หนึ่งจนหายจากอาการบาดเจ็บและให้อาศัยร่วมด้วย ต่อมาภายหลัง พระชายาเกิดมีใจปฏิพัทธ์รักใคร่โจร จึงหมายฆ่าพระปทุมกุมารโดยผลักให้ตกลงมาจากยอดเขา หากแต่พระปทุมกุมารกลับรอดชีวิตโดยการช่วยเหลือของพระยา ยิ้ม และต่อมาพระยายิ้มนั้นก็ได้ช่วยนำพระปทุมกุมารกลับขึ้นครองราชย์อีกครั้ง

วันหนึ่งพระองค์ได้พบกับพระชายาและชายชู้ที่มาเฝ้ารอรับทาน ทรงพิโรธเป็นอย่างยิ่งและคิดจะลงโทษหญิงชั่วชายชู้อย่างสาสม หากแต่เมื่อคลายพิโรธลง จึงรับสั่งให้เอาชายชู้ใส่ลงตะกร้าผูกติดกับศีรษะของหญิงชั่วชนิดมิให้ปลงลงจากศีรษะได้ แล้วจึงโปรดฯ ให้เนรเทศคนทั้งคู่ออกจากเมืองไป๑

ความสำคัญ
_________________________________

๑เก็บความจาก “จุลปทุมชาดก” นิบาตชาดก เล่ม ๒ เอกนิบาต ทุกนิบาต, มปท.
(คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี จัดพิมพ์เป็นที่ระลึกเนื่องในมหามงคลสมัยฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี พุทธศักราช ๒๕๓๙), หน้า ๒๔๔ - ๒๔๘.


ประเด็นสำคัญของชาดกเรื่องนี้ คือการบำเพ็ญทานบารมี (การให้) ๒ และแฝงเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ คือความซื่อสัตย์

เมื่อพิจารณาชาดกทั้ง ๕๔๗ เรื่อง พบว่า นอกจากจะแสดงถึงการบำเพ็ญบารมี ๑๐ ประการของพระโพธิสัตว์เป็นสำคัญแล้วนั้น เรื่องชาดกส่วนหนึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตคู่ โดยนำเสนอทั้งด้านที่ดีและไม่ดีจำนวนกว่า ๑๐ เรื่อง ๓ โดยกว่าครึ่งเป็นเรื่องทำนองหญิงไม่มีความซื่อสัตย์ต่อสามี (นอกใจและคบชู้) ดังตัวอย่างเรื่องที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป เช่นกากาติชาดก หรือที่เมื่อนำมาแต่งเป็นวรรณคดี รู้จักกันในชื่อ กากีคำกลอน หากแต่กลับไม่ได้รับความนิยมในงานจิตรกรรม เมื่อเทียบกับจุลปทุมชาดก

ด้วยเหตุดังกล่าว จึงสันนิษฐานว่าเนื้อหาน่าจะเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยไม่เพียงการดำเนินเรื่องแบบนิทานพื้นบ้านซึ่งบางครั้งบางตอนมักแสดงความเกินจริง ตลอดจนประเด็นสำคัญที่แสดงถึงความชั่วของฝ่ายหญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา คือแม้จะเป็นที่รักยิ่งของสามี โดยสามีสามารถสละให้ได้ทุกอย่างแม้กระทั่งยอมกรีดเนื้อตัวเอง เพื่อเอาเลือดให้ภรรยาดื่มแก้กระหาย หากแต่ต่อมาผู้เป็นภรรยากลับตอบแทนความรักของสามีด้วยการนอกใจ หรือคบชู้ และคิดฆ่าสามีในที่สุด

การสร้างตัวละครพระยา ยิ้มขึ้นเพื่อสร้างบทบาทเชิงเปรียบเทียบกับการกระทำของฝ่ายหญิง ในแง่ว่าแม้กระทั่งสัตว์เดรัจฉาน เช่น ยิ้ม หากกลับมีความรู้ผิดชอบชั่วดีมากกว่าหญิงชั่วซึ่งเป็นมนุษย์ ในส่วนนี้ก็เป็นเหตุสำคัญให้เรื่องราวมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น

ที่มา: http://www.muangboranjournal.com/modules.php?name=Sections&op=printpage&artid=169
ที่มา 2 : จากข้อสังเกตเพจเฟสบุ๊ค "ลักษณะไทย"

**อ่านแล้วได้คิดว่าในแต่ละยุคสมัยถึงจะเป็นเรื่องเล่าแต่ก็มีความสมจริงในการเอาตัวรอด ละโมภโลภมาก หรือราคะแรง ซึ่งก็ยังเป็นเรื่องที่เห็นกันอยู่ปกติในปัจจุบันได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ศาสนาพุทธ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่