ฝันกับฝน เรื่องสั้นตลกเสียดสี

ฝันกับฝน    ยิ้ม
              เข้าสู่ปลายเดือนมิถุนายนแล้วฝนยังไม่ตกเลยตั้งแต่กลางเดือนที่แล้วมีครั้งเดียวที่ตกตอนบุญบั้งไฟประจำปีของหมู่บ้าน ชาวไร่ชาวนาต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าอากาศร้อน  เขารอตกกล้าทำนามาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาแต่ถึงตอนนี้ยังไม่มีทีท่าว่าฝนจะตกลงในที่นาสักหยด      ซึ่งตามปกติทุกปีในช่วงนี้น้ำในนาคงเต็มปริ่มแปลงนาล้นคันคูให้ทำงานแล้ว แต่ปีนี้แปลก   เขาเป็นชาวนาธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องประสบชะตากรรมฝนแล้งกว่าทุกปี        ทุกวันได้ยินแต่เสียงประกาศทางวิทยุเรื่องฝนฟ้าอากาศ วิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องละสามร้อยบอกกับเขาว่าฝนจะตกในอีกไม่นาน  ประมาณวันที่สิบหกกลางเดือนนี้ ทำให้เขารู้สึกใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง

           มีกรรมกรผู้ใช้แรงงานเพื่อนบ้านของเขาหลายคนกำลังขนไม้มากองเรียง บ้างกำลังขุดหลุมเพื่อเป็นที่ลงเสา อยู่ข้างบ้านที่กำลังก่อสร้าง เขาคิดว่าคนเหล่านี้มีชีวิตที่ลำบากอยู่ในฐานะที่เขาไม่ประสงค์ เขาจึงไม่คิดจะทำงานที่หนักเช่นคนพวกนั้น
“แย่นะปีนี้ฝนยังไม่ตกเลย ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ปักดำเสียที”เขาบ่นให้คนที่สัญจรฟังด้วยใจระเหี่ย
“ฟังในวิทยุเขาบอกว่าอีก ไม่นานก็ตกแล้วไม่ใช่เหรอ” เพื่อนชาวนาคนหนึ่งที่คุ้นเคยกันดี   ขับมอเตอร์ไซค์เข้าไปท้ายหมู่บ้านซึ่งต้องผ่านหน้าบ้านเขาตอนเช้า แล้วรถชาวนาคนนั้นก็แล่นไป
“เฮ้ย อีจ้อยกับข้าวกับปลาเสร็จหรือยัง หิวจะแย่อยู่แล้ว มีอะไรกินเอาออกมาเร็ว” เขาตะโกนบอกเมีย    เมียรีบลุกลี้ลุกลนหาสำรับกับข้าวมาให้ มีเพียงข้าวเหนียวไข่ต้ม ชุบน้ำปลาเป็นอาหารมื้อเช้า
“เอ้า มีแค่นี้เองเร๊อะ! อะไรกัน ร้อนก็ร้อนแกมาทำให้ฉันโมโห คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย” ด้วยความโมโหและเครียดในความจน   จึงตะคอกเมียเมื่อเห็นกับข้าวมีเพียงไข่ต้มเป็นอาหารเช้า


                       ในระหว่างกินข้าวเหนียวกับไข่ต้มอยู่นั้นเขาคิดอยู่ในตลอดเวลาว่า   หากรัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยแล้งเขาคงมีเงินไว้ให้เมียซื้อกับข้าวกับปลามีกินดีกว่านี้ เขาคิดว่าการที่ฝนตกนั้นเป็นเพราะบั้งไฟของหมู่บ้านที่ทำปีนี้ขึ้นไปไม่สูงพอ    ผิดกับหลายปีที่ผ่านมาที่มีช่างทำบั้งไฟเก่งทำบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าลิบหายไปบนก้อนเมฆ    แต่ปีนี้ช่างทำบั้งไฟฝีมือดีประจำหมู่บ้านเกิดป่วยจึงเหลือเพียงเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ไม่มีความชำนาญเฉพาะด้านเป็นคนออกเรี่ยวแรงทำบั้งไฟเอง     ปีนี้จึงขาดแคลนบั้งไฟที่มีประสิทธิภาพ ในบุญประเพณี


                 ตกสายเขานอนพักเอาแรงงีบหนึ่งใต้ถุนบ้านไม้ที่มีชั้นบนเป็นตัวบ้านส่วนชั้นล่างเป็นใต้ถุนโล่ง
เขาหลับไปงีบใหญ่ เห็นสัตว์ชนิดหนึ่งคล้ายงูตัวสีขาวขนาดใหญ่    มีรัศมีให้รู้ว่าเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์บางอย่าง เลื้อยเข้ามาในบ้าน   เกิดร่องรอยที่พื้นเหมือนคมของล้อรถไถนาเดินตามปักเป็นทาง แล้วพลางกลายร่างเป็นสิ่งหนึ่งที่มีราศีจรัสบนเรือนร่าง   ใส่ชุดคล้ายกับเทวดาเดินไปเดินมา เห็นแสงเปล่งปลั่งวูบวาบรอบตัว    ดูเป็นร่างคนที่พูดได้บอกเขาว่าอีกไม่นานฝนก็จะตก ไม่เชื่อลองดู    ทันใดนั้นลมพัดกระหน่ำนำเอาเมฆดำทมิฬก้อนมหึมาลอยทั่วฟ้าปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ   แล้วเม็ดฝนก็ค่อยๆหยาดลงมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นพายุฝนกระหน่ำห่าใหญ่ เขามองออกไปนอกบ้านเห็นน้ำเจิ่งนองทั่วท้องทุ่ง เขาคิดในใจว่าคงจะถึงเวลาที่ฟ้าฝนเป็นใจให้เขาทำนา   เขารีบไปบอกชาวบ้านคนอื่นทันที

                
                 ชาวบ้านทุกคนต่างหลั่งไหลมาที่บ้านเขา   ยังเห็นงูใหญ่ที่กลายร่างเป็นเทวดาแล้วตอนนี้    กำลังนั่งที่แคร่ไม้ไผ่ใต้ถุนบ้านเขา พูดเสียงดังประกาศให้ชาวบ้านรู้โดยทั่วกันบอกว่าถ้าหากอยากให้ฝนตกทุกปีให้หาดอกไม้ธูปเทียนไปถวายเก้าช่อเก้าดอก   ที่ใต้ต้นกระโดนใหญ่ที่กลางหมู่บ้านแล้วรักษาต้นกระโดนไว้ให้ดี อย่าให้ใครไปรบกวน     ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้ยินดังนั้นจึงพากันไปที่ต้นกระโดน ต่างพากันหาดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้บูชา ข่าวกระจายไปยังหมู่บ้านใกล้เคียงในตำบล ชาวบ้านนับร้อยแห่มาชุมนุมไปทั่วทั้งย่านกลางหมู่บ้าน   เห็นบางคนเอาของมีคมบ้างเป็นมีดพร้ามาขูดเปลือกไม้เป็นแถบให้เห็นเนื้อไม้ขาว บางคนที่ขูดต้นไม้ปรากฎเห็นรูปปลาสามตัวจึงทายเอาว่าคงเป็นเทวดาจะบอกใบ้เป็นตัวเลขแปดมีสามตัว    ต่างลือกันไปทั่วว่าต้องเป็นเลขหวยรัฐบาลที่มีเลขสามกับเลขแปดงวดต่อไป


                ส่วนเทวดาที่บ้านเขายังอยู่ยังถามเขาว่าอายุเท่าไหร่ เขาตอบอย่างเกรงขามว่าสามสิบห้า    แล้วมีเมียอายุสามสิบ ยังไม่มีลูกเพราะความยากจนจึงให้เมียทำหมันกับอนามัยตำบลไว้ก่อน    ถ้ารวยแล้วค่อยช่วยกันสร้างทายาท เขาบอกว่าถ้ามีลูกจะส่งลูกเรียนสูงๆจนจบปริญญาได้ทำงานมีเงินเดือน   จะได้ไม่ลำบากยากจนเหมือนพ่อกับแม่ แล้วลุกขึ้นพาร่างกายที่กำยำของตัวเองเข้าไปใกล้ๆท่านเทวดา เขาก้มหัวลงแล้วบอกไหว้วานให้เทวดาเอาเท้าลูบหัวเพื่อเป็นสิริมงคล เทวดายกเท้าที่มีทองคำเป็นรองเท้าประดับประดาด้วยหินสีเปล่งประกายระยิบระยับ    ลูบไปที่หน้าผากไล่ไปตั้งแต่ด้านหน้าถูไปเรื่อยจนสุดไท้ทอยจนเสร็จ เขายกมือพนมไหว้ขึ้นสูง     พลางบอกให้ชาวบ้านคนอื่นๆทำตามเขา ด้วยบอกว่าจะได้โชคดีมีวาสนาร่ำรวยเสียที เป็นมงคลแก่ชีวิต คนอื่นๆจึงเข้าแถวรอคิวกันยาวเหยียดให้ท่านเทวดาเอาเท้าลูบหัวที่ใต้ถุนบ้านเขานั้น    บางคนหาน้ำแดง น้ำเขียว น้ำสีสันสดใสพร้อมด้วยผ้าสีสันต่างๆมาถวายมัดกับต้นเสาบ้านของเขาทุกเสา  บางคนถือขวดน้ำแดงน้ำเขียวมาวางบนตะเคร่ใกล้กับที่ท่านเทวดานั่ง เพื่อให้ท่านดื่มแก้กระหาย


              พอตกเที่ยงเขาพลิกตัวไปมา เหลือบตามองก็เห็นเมียยืนอยู่ปลุกเขาให้รีบตื่นเพราะได้เวลาอาหารเที่ยง    เมียเดินถือผักสดกับแจ่มมาถ้วยหนึ่ง เขาบอกกับเมียขณะที่กินข้าวกันว่ามีอะไรมาเข้าฝันสงสัยจะเป็นพญานาคหรือเทวดา    เขาคิดว่าถึงเวลาที่เขาจะร่ำรวยมีเงินมีทองใช้เสียที กับเลขที่ปรากฎเห็นที่ต้นกระโดนในฝันเป็นเลขสามกับแลขแปด   เขากำชับเมียให้ไปหาผู้ใหญ่บ้าน ขอยืมเงินแกสักสองพันไปซื้อเลขเด็ดที่ว่า
“สามแปดกับแปดสามตัวละพัน”      เขาสั่งแบบฟันธง กินข้าวเสร็จเมียของเขาก็รีบเดินจ้ำอ้าวไปที่บ้านผู้ใหญ่ในตอนบ่าย   แล้วก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องนอนเอาแรงต่อ แอบคิดในใจว่าคืนนี้เอาแรงไว้เล่นสนุกกับเมียตอนกลางคืนดีกว่า    เขาขำยิ้มที่มุมปากขณะนอนเอามือก่ายหน้าผากในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว    ปลายเดือนมิถุนายนเขาคิดเล่นๆไปสักพักว่าถ้าหวยออกงวดนี้จะเอาเงินไปทำบุญแล้วจะเอาเงินไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เมียและตัวเองใส่ จะผ่อนรถไถนาเดินตามสักคัน    เอาไว้ผ่อนแรงทำนา เขาเห็นกรรมกรหลายคนทำงานรับจ้างขมักเขม้นที่บ้านใหม่ที่กำลังสร้างอยู่ข้างบ้าน เขาคิดในหัวว่าชีวิตพวกเขาช่างลำบากต้องสละหยาดเหงื่อแรงกายเพื่อแลกกับเงินวันละไม่กี่ร้อย    เขาอยากเห็นตัวเองใส่ชุดใหม่เอี่ยมนุ่งกางเกงขายาวสวมรองเท้าแตะที่ทำด้วยหนังไปขายข้าวที่โรงสี แบบคนที่มาจากในเมืองเขาใส่มาอวดตัวกันตอนบุญบั้งไฟของหมู่บ้านเมื่อเดือนที่แล้ว

            
                 กรรมกรกลุ่มหนึ่งเดินรุ่ยร่ายมาหาเขาพร้อมมาบอกว่าตอนนี้ บั้งไฟบั้งใหญ่ที่เขาลงทุนจ้างช่างฝีมือดีทำด้วยราคาหลายพัน เสร็จแล้ว กำลังจะขึ้นแท่นจุด เขานั่งมองคนกลุ่มนั้นถือหามบั้งไฟที่มีน้ำหนักมากโข ขึ้นคานไม้ มีคนจุดไฟที่ปลายชนวนดังซู่ๆ ด้วยเสียงประกายไฟไหม้ชนวนจากปลายหนึ่งไปยังตัวบั้งไฟ   เห็นควันขโมงพุ่งออกจากก้นของตัวบั้งคลุ้งไปทั่วทั้งบริเวณ   จนลำเหล็กอัดดินประสิวผูกก้านไม้ไผ่ค่อยๆทะยานขึ้นเหนือปลายต้นไผ่ บั้งไฟค่อยๆลอยสูงขึ้นเหมือนยานอพอลโลที่กำลังจะอวดชาวโลกที่จับจ้องมองกันทั่วลานจุดบั้งไฟของหมู่บ้าน   บั้งไฟลอยสูงขึ้นจนลับก้อนเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ทันใดนั้นเม็ดฝนก็ค่อยๆหยาดลงมา เม็ดน้ำค่อยเปลี่ยนสภาพกลายเป็นแบงค์เงินหลากสี   ทั้งเหรียญทั้งธนบัตรปลิวว่อน ไปทั่วอากาศ ชาวบ้านทุกคนรวมทั้งเขาแห่กรูกันวิ่งไปเก็บแบงค์ บางคนหากระบุงมาเป็นภาชนะไว้รอง      

                 บ้างเก็บได้เหรียญบ้างเก็บได้แบงค์ บางคนได้เงินหาบใหญ่ รวมทั้งเขาได้เงินมากเช่นกัน จนถึงขั้นเอาไปซ่อนไว้ในโอ่งหลังบ้านปิดฝาแน่น เขาคิดว่าจะเอาเงินไปฝากธนาคาร     ตั้งใจไว้มั่นเหมาะว่าจะเอาเงินที่ได้ซื้อรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ เล่นไปให้ทั่วหมู่บ้าน พาเมียและลูกในอนาคต เที่ยวไปทั่วทั้งตำบล แล้วเทวดาก็ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง     คราวนี้เขารู้แล้วว่าท่านเทวดาจะนำโชคมาให้เหมือนครั้งก่อน     จึงรีบเดินไปตามเมียและชาวบ้านที่กำลังตั้งวงคุยประชุมเรื่องเงินกองทุนที่รัฐบาลกู้ยืมมาจากต่างประเทศเพื่อเป็นเงินให้ประชาชนนำไปเป็นทุนเลี้ยงชีพ     ทุกคนในที่ประชุมจึงพากันแยกย้ายไปหาธูปเทียนบ้างดอกไม้บ้างพร้อมทั้งหาน้ำแดง น้ำเขียว ไปถวายที่บ้านของเขาอีกครั้ง     เทวดานั่งสง่าน่าเกรงขามตรงแคร่ไม้ไผ่ที่ใต้ถุนบ้านของเขาเช่นเดิม ชาวบ้านต่างพากันยกมือไหว้สูงท่วมหัวพลางพากันขอบคุณท่านเทวดาที่ทำให้เม็ดฝนเปลี่ยนเป็นเงิน ปลิวทั่วฟ้า      บางคนแต่งเนื้อแต่งตัวเหมือนเศรษฐีใหญ่หวีผมเรียบแปล้    

                  ท่านเทวดาบอกกับชาวบ้านว่าปีหน้าจะทำให้ชาวบ้านทุกหมู่บ้านทุกตำบลมีที่อยู่อาศัยเป็นตึกที่ทำด้วยปูนซีเมนต์ทุกหลังคาเรือน ทุกครอบครัวมีรถกระบะใช้รวมถึงวัยรุ่นจะมีมอเตอร์ไซค์ขับขี่ไปโรงเรียน       ข้าวในนาของชาวบ้านที่ปลูกจะออกรวงเป็นเงินเม็ดใหญ่ทุกรวง ถนนทุกสายในหมู่บ้านจะเทด้วยทองคำปูเป็นทางโรยด้วยหินสีแวววาวให้ชาวบ้านใช้เดินทางสะดวกสบาย เขาได้ฟังดังนั้นถึงกับอึ้ง แล้วก้มหัวลงให้ท่านเทวดาเอาเท้าขึ้นลูบหัวอีกครั้ง

                    ตอนนี้บรรยากาศทั่วทั้งหมู่บ้านเอิกเกริกครึกโครมเต็มที่ เพราะวิทยุประกาศตัวเลขรางวัลหวยดังลั่น “แปดสาม” เขายังจำเสียงนั้นได้ไม่ลืม ผู้ใหญ่บ้านจัดงานเลี้ยงบูชาท่านเทวดา     มีเวทีดนตรีวงใหญ่ตั้งอยู่กลางลานวัด กำลังทำการแสดงส่งเสียงดังเอ็ดตะโรไปทั่วทั้งหมู่บ้าน
  นักร้องหางเครื่องร้องเต้นรำกันยั่วยวนเอาใจวัยรุ่นเยาวชนที่กำลังสนุกสนานด้วยมีเงินที่เก็บได้จากท้องฟ้าทำให้มีเงินซื้อสุรายาเมาเสพกันเอิกเกริกไปทั่วทั้งหมู่บ้าน   พ่อค้าแม่ขายที่ตั้งร้านขายของในงานบุญต่างดีอกดีใจที่ขายของได้ราคาแพงโดยเฉพาะน้ำมัน เพราะทุกคนร่ำรวย         มีลูกค้าคนหนึ่งซื้อเหล้าขาวสี่สิบดีกรีด้วยเงินแบงค์ห้าพันโดยบอกกำชับกับแม่ค้าว่า “ไม่ต้องทอน” พ่อค้าแม่ค้ามีรายได้เป็นกอบเป็นกำตอนนี้ฝนไม่ตกแล้วแต่ทุกคนดีใจที่ท่านเทวดา เสกเม็ดฝนให้ตกลงมาเป็นเงินมหาศาลแทน        

              จนชาวบ้านบางคนเป็นเจ้าของที่ดินในป่าบนภูเขาเพื่อเอาไว้เป็นที่ปลูกยางพารา อ้อย และมันสำปะหลังคนละหลายร้อยไร่ ทุกคนพากันใช้จ่ายเงินที่มีตัวเลขสูงลิ่วอย่าเมามันเหมือนกับประเทศบรรพบุรุษของพวกเขา อันเป็นนิสัยเก่าแก่ รวมทั้งเขาตอนนี้กลายเป็นเศรษฐีใหญ่ที่มีวาสนาได้ซื้อไข่ไก่ฟองละหนึ่งพันโดยมีโอกาสบอกกับแม่ค้าว่า "ไม่ต้องทอน" เหมือนคนที่ซื้อเหล้าขาวคนนั้น พร้อมกับมีขับรถบิ๊คอัพขับเคลื่อนสี่ล้อที่ซื้อมาในราคาสองร้อยล้าน  ปลูกบ้านเป็นตึกใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่า พร้อมกับเห็นบ้านเรือนทุกหลังในหมู่บ้านเป็นตึกสูงระฟ้า มีเครื่องบินบินผ่านเหนือหลังคาบ้านของเขาบนท้องฟ้า    ด้วยมีสนามบินนานาชาติที่เพิ่งสร้างเสร็จโดยท่านเทวดาเพียงคนเดียว เครื่องบินเสียงแผดดังได้ยินแว่วเข้าโสตประสาทหูจนเขาต้องตื่น   เหลือบตามองเห็นชาวบ้านหลายคนขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมาทางบ้านเขา     เขานึกได้ว่าตัวเองตื่นนอนรอบบ่ายแล้วต้องไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวสำหรับมื้อเย็น   ลุกขึ้นมองไปที่หน้าบ้านเห็นชาวบ้านที่สัญจรไปมานั้นต่างถือแบงค์เงินสดอยู่ในมือกันทุกคน
           เขาสงสัยนึกอยากรู้ในใจคิดว่าเป็นเงินที่ได้จากท่านเทวดาที่ท่านหว่านเงินมาให้ชาวบ้าน แต่รู้ตัวว่าคื่นแล้ว  จึงเดินออกไปดูก็เห็นชาวบ้านทุกคนยกเว้นเขากับเมีย ต่างพากันขายของป่าที่เก็บมาจากไร่นาของตัวเองทั้งเห็ด หน่อไม้ กิ้งก่า แมลงที่กินได้   บางคนมีปลาที่ได้จากสระน้ำที่ขุดเลี้ยงไว้เองมาขายจนมีเงิน

                    ขณะที่เขากำลังรอฝนหรือถ้ามีวาสนาหน่อยก็คงได้เงินเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งจากรัฐบาล

          นคเรศ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
แหม่ ใช้ได้ครับ แต่ทำไมผมอ่านแล้วมันยังรู้สึกไม่สุดยังไงไม่รู้ 5555
แต่ตอนจบนี่ก็ หักมุม แต่ไม่ถึงกับสะดุ้ง 555
ชอบครับๆ แต่นึกว่าจะจบแบบดราม่าๆ แบบรวยแล้วใช้เงินไม่คิดสุดท้ายก็เหมือนเดิม อ้อลืมไป เป็นฝัน 5555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่