สวัสดีค่ะ เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้ อาจจะค่อนข้างยาว แต่ตอนนี้เราหาทางออกไม่ได้จริงๆค่ะ เพราะปัจจุบันนี้เรารู้สึกว่าครอบครัวเราไม่ปกติรวมทั้งตัวเราด้วย
ในครอบครัวเรามี 4 คน คือพ่อแม่ลูก โดยเราเป็นพี่คนโต พื้นเพของแม่เรา แม่เรานั้นเป็นคนต่างจังหวัดที่มาแต่งงานกับพ่อที่เป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิด เราจำได้คร่าวๆว่า แม่เราจบการศึกษาระดับ ป.6 แต่ได้ทำงานโฮสเตสโรงแรม ( เห็นแม่เราบอกว่างั้นนะ ) ทว่าไม่รู้ว่าสาเหตุอะไรทำให้แม่ไปทำงานเป็นสาวโรงงานแทนและนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แม่เราได้พบกับพ่อ
พ่อเราเปิดร้านค้าขายธรรมดาในซอยเล็กๆเป็นคนมีฐานะปานกลาง ตอนที่แม่มาซื้อของก็ได้เจอกับพ่อ ก็ได้คุยกันได้รู้จักกันจนทำให้ทั้งสองแต่งงานกันและมีลูกด้วยกันคนหนึ่งนั่นก็คือเรา ซึ่งก่อนหน้านั้นแม่เราได้เลิกทำงานโรงงานแล้ว พ่อเราไปเปิดร้านค้าขายที่อื่นและให้แม่ทำตรงที่เดิมนั่นก็คือร้านในซอยเล็กๆนั้น พ่อยกให้แม่ทำเพื่อเก็บเงินอะไรก็ว่าไป พอแม่มีเรา แม่ก็เลี้ยงดูเราตามปกติ แต่ว่าพวกค่าเลี้ยงดูเรา แม่จะเป็นคนออก ค่ากินแม่ ค่าเลี้ยงดูเรา ค่าไฟที่บ้าน ส่วนพ่อออกแค่ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำเท่านั้นเพราะพ่อให้เหตุผลว่ายกกิจการให้ไปแล้วและพ่อเองก็มีบ้านให้คนเช่าอยู่ประมาณ 2-3 หลัง แต่พ่อยกค่าเช่าให้แม่ 1 หลังทุกเดือนเพื่อให้แม่เอาเงินตรงนั้นมาใช้จ่ายตามที่เราได้บอกไปนั่นก็คือ ค่ากินแม่ ค่าเลี้ยงดูเรา ค่าไฟที่บ้าน ( ถ้าจำไม่ผิดค่าเช่าจะอยู่ที่ 4 – 5 พันต่อหลัง )
ช่วงนั้นกิจการที่บ้านบูมมาก ถ้าเก็บเงินเก่งๆมีใช้ได้สบายๆเลยค่ะ แต่แม่เราก็เอาเงินตรงนั้นไปเข้าสปา ทำหน้า ซื้อชุดเพราะเหมือนให้รางวัลตัวเองจนไม่ค่อยมีเงินเหลือเท่าไหร่ แต่ก็พอหมุนเงินได้บ้านได้ สมัยก่อนได้วันละ 2-3 พันยังสบายๆเลยค่ะ ( กิจการค้าขายขอไม่บอกนะคะว่าเป็นอะไร )
ตอนเราเด็กๆ สมัยอนุบาลเราจำได้ว่าเรากลัวแม่มาก เพราะเวลาแม่โกรธแม่อารมณ์รุนแรง เคยเอาไม้กวาดฟาดหลังเราเป็นรอยห่อเลือดบ้างก็มี บางครั้งตีเราก่อนไปโรงเรียนจนครูทักเราเลยกลัวแม่มาก เพราะถ้าทำผิดแม่จะลงโทษรุนแรงหรือไม่ก็พังข้าวของเช่น หักพัดลม ทุบกระจก ตะคอกและด่าแรงๆใส่หน้าเรา เช่น _ึงไม่น่าเกิดมาเลยวะ อย่าง_ึงอยู่สถานสงเคราะห์น่าจะดีที่สุด เลี้ยงเปลืองเงินกูอีก แต่พอเราอยู่นุบาล 2 แม่เราก็มีลูกอีกคน สมมุติชื่อ ครีมล่ะกันค่ะ
ต่อมาพอเราขึ้นชั้นประถม 1 มีเหตุการณ์หนึ่งที่เราจำได้ดี เราไม่ลืมเลยค่ะ เราทะเลาะกับแม่เสร็จ เราเลยขอเงินพ่อไปซื้อขนมแถวบ้าน เราก็คุยกับเจ้าของร้านไปสนุกๆ ทว่าแม่เราก็เดินเข้ามาหาเราพร้อมไม้แขวนเสื้อแล้วตีเราไม่ยั้ง เราจำประโยคที่แม่พูดได้นั่นก็คือ ‘_ึงคิดจะนินทากูใช่มั้ย!? _ึงมานี่เลย!’ เราร้องไห้หนักมาก คือแม่ตีเราต่อหน้าเจ้าของร้าน เราทั้งเจ็บ ทั้งเสียใจทั้งอาย พูดไม่ถูกเลยค่ะ เรารีบวิ่งกลับบ้านทันที ขึ้นข้างบนแล้วล็อกห้อง
แม่เราเป็นคนอารมณ์รุนแรง ถ้าไม่พอใจจะด่า อาละวาดและทำลายข้าวของก่อนเลย เราไม่รู้ว่าทำไม แต่รู้แค่ว่าแม่เราเป็นคนทะเยอทะยานพอตัว มีครั้งหนึ่งเราจะสอบเข้าโรงเรียนตอน ม.1 ญาติเราจะให้เข้าโรงเรียนแถวบ้านซึ่งสังคมไม่ดีเท่าไหร่ แต่แม่เราห้ามและให้เข้าโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเท่านั้น ซึ่งโชคดีที่เราสอบเข้าได้ นั่นถือว่าเป็นข้อดี
แต่กับน้องเรา น้องเราไม่ค่อยทันคน น้องเราโดนด่าโดนว่าแบบเราทุกประการ แต่เรื่องการทำร้ายร่างกายโดนไม่บ่อยเท่าเรา แต่พอน้องเราทำอะไรไม่ถูกใจแม่ แม่จะด่าว่า ไอ้โง่ เกิดมาทำสัตว์อะไร ในเมื่อเกิดมาจะโง่ขนาดนี้

ไอ้บลาๆ นี่คือส่วนหนึ่งที่แม่ด่าน้องเราตั้งแต่ยังเด็ก แค่ส่วนหนึ่งจริงๆเพราะความจริงมันเยอะกว่านี้อีกแต่เราจำไม่ได้
ตอนเราขึ้นมัธยมนั้น ครอบครัวเราทะเลาะกันบ่อยมาก น่าจะเรื่องเงิน กิจการไม่บูมเหมือนเมื่อก่อน แม่เราพูดกับพ่อบ่อยๆว่าแม่เป็นผู้หญิง ควรจะได้ทรัพย์สมบัติจากสามีเช่น รถเช่นบ้านเพราะอุตสาห์จากพ่อจากแม่มากรุงเทพ แต่พ่อเราก็ไม่ให้จนทำให้แม่เราเกลียดพ่อไป ซึ่งมีครั้งนึงเราผิดใจกับพ่อ แม่ก็บอกเราว่า พ่อเอาเรื่องที่เราผิดใจกับพ่อไปเล่าให้ย่าฟังแบบบิดเบือน คือพ่อดูเป็นคนถูกอยู่ฝ่ายเดียวน่ะค่ะ ตอนนั้นเราโกรธมากเนื่องจากถ้าพ่อพูดให้ย่าฟัง น้าเราก็ต้องรู้ ซึ่งน้าเราเป็นคนเกลียดอะไรแรงมากกก จนลืมฉุกคิดอะไรหลายๆอย่าง เช่น แม่รู้ได้ไง? ในเมื่อแม่กับย่าไม่ได้คุยกันเลย ไม่ได้ไปหากันเลยไม่สนิทกันด้วย? ( ย่าคือแม่ของพ่อนะคะ ) ตอนนั้นเรายังเด้กมากจริงๆ
จนปัจจุบันเราก็ยังสงสัยว่าแม่รู้ได้ยังไง??? ว่าพ่อพูดแบบนั้น?? นิสัยพ่อยังไงก็ไม่น่าเล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟังอยู่แล้ว
นอกจากนั้นแม่ก็ยังพูดกับเราว่า แม่สมควรได้นะ แม่เป็นผู้หญิง แม่เลี้ยงดูลูก แม่มาอยู่ที่นี่ทะเบียนก็ไม่ได้จด แล้วนี่เขายังงกไม่ให้อีกเหรอ? หน้าเงิน บลาๆ จนเราไม่ชอบหน้าพ่อเราไปด้วย โดยนับตั้งแต่นั้นมาเราก็ไม่ค่อยได้คุยกับพ่ออีกเลย อยู่บ้านเดียวกันแต่ไม่ได้คุยกันเลยจนปัจจุบันเราอยู่ ม.5 แล้วค่ะ
นั่นแหละค่ะ อย่างที่บอกไปกิจการแม่ไม่บูม แม่บอกว่าต้องใช้เงินไปทำงานบุญอะไรสักอย่าง จัดงานจ้างหมอลำอะไรทำนองนี้มาด้วย เลี้ยงคนทั้งหมู่บ้านใจต่างจังหวัด มันครบรอบวันที่ตาเราเสียน่ะค่ะ ตอนนั้นเราอยู่ ม.1 แม่ก็ขอยืมเงินเรา เราเลยถอนเงินให้แม่ประมาณเกือบ 2 หมื่นให้ด้วยว่าเงินก้อนนี้น่าจะช่วยอะไรหลายๆอย่างได้ แม่สัญญาว่าจะคืนให้ปีหน้าแต่ปัจจุบันเราก้ยังไม่ได้คืนเลย เราก็ไม่คิดอะไร เพราะมันคงไม่ได้คืนอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เราช็อกที่สุดคือพอเราถอนเงินเสร็จ แม่เราพาเราไปวุฒิศักดิ์ค่ะและเอาเงินก้อนนั้นบางส่วนจ่ายในค่าทำหน้า แม่บอกว่า จะกลับต่างจังหวัดทั้งที่ต้องให้ดูดีกว่าคนอื่น จะมาดูจนต่ำเตี้ยเรี่ยดินไม่ได้ เขาจะดูถูกเรา
บอกตรงๆ ...ไม่คิดว่าแม่จะทำแบบนี้
ส่วนน้องเราเหรอค่ะ น้องเรามักโดนแม่ใส่อารมณ์บ่อยๆเลยกลายเป็นเด็กเก็บกดค่ะ ไม่พูด ไม่จากับใครเลย คล้ายๆเราแต่เราควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าน้อง ทว่าลึกๆเรารู้ว่าเราเก็บกดมากเลยค่ะ ตอนนั้นมันอาจเป็นเพียงแค่อาการเริ่มต้น แต่ลึกๆแล้ว เราเริ่มที่จะเก็บกดค่ะ
เวลาแม่ขัดสนเรื่องเงิน เรามักจะเอาเงินที่เราได้จากพ่อจากย่ามาให้แม่ยืมเสมอ ตอนนี้ในบัญชีเราเหลืออยู่ 0 บาท ถามว่าทำไมถึงไม่เก้บอีกล่ะ? เพราะเวลาเราจะฝากเงิน แม่เราจะไม่ให้ฝากจะขอยืมก่อนเสมอรวมๆแล้วเกิน 2 หมื่น บางงครั้งเราซ่อนเงินไว้กะจะไปฝากธนาคาร แม่ก็ไปค้นจนเจอแล้วหยิบเอาเงินไป คือพอเปิดมา เราตกใจมากเลยค่ะที่เงินหาย แม่ก็บอกว่าอะไร แค่ยืมเอง เดี๋ยวคืน
เข้าอีหรอบเดิม เราก็ไม่ได้คืน
( มีต่อด้านล่างค่ะ )
( ระบาย ) ครอบครัวแทบทุกคนของเรามีอาการคล้ายโรคจิตอ่อนๆรวมทั้งตัวเราด้วย เราควรทำยังไงต่อไปดี?
ในครอบครัวเรามี 4 คน คือพ่อแม่ลูก โดยเราเป็นพี่คนโต พื้นเพของแม่เรา แม่เรานั้นเป็นคนต่างจังหวัดที่มาแต่งงานกับพ่อที่เป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิด เราจำได้คร่าวๆว่า แม่เราจบการศึกษาระดับ ป.6 แต่ได้ทำงานโฮสเตสโรงแรม ( เห็นแม่เราบอกว่างั้นนะ ) ทว่าไม่รู้ว่าสาเหตุอะไรทำให้แม่ไปทำงานเป็นสาวโรงงานแทนและนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แม่เราได้พบกับพ่อ
พ่อเราเปิดร้านค้าขายธรรมดาในซอยเล็กๆเป็นคนมีฐานะปานกลาง ตอนที่แม่มาซื้อของก็ได้เจอกับพ่อ ก็ได้คุยกันได้รู้จักกันจนทำให้ทั้งสองแต่งงานกันและมีลูกด้วยกันคนหนึ่งนั่นก็คือเรา ซึ่งก่อนหน้านั้นแม่เราได้เลิกทำงานโรงงานแล้ว พ่อเราไปเปิดร้านค้าขายที่อื่นและให้แม่ทำตรงที่เดิมนั่นก็คือร้านในซอยเล็กๆนั้น พ่อยกให้แม่ทำเพื่อเก็บเงินอะไรก็ว่าไป พอแม่มีเรา แม่ก็เลี้ยงดูเราตามปกติ แต่ว่าพวกค่าเลี้ยงดูเรา แม่จะเป็นคนออก ค่ากินแม่ ค่าเลี้ยงดูเรา ค่าไฟที่บ้าน ส่วนพ่อออกแค่ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำเท่านั้นเพราะพ่อให้เหตุผลว่ายกกิจการให้ไปแล้วและพ่อเองก็มีบ้านให้คนเช่าอยู่ประมาณ 2-3 หลัง แต่พ่อยกค่าเช่าให้แม่ 1 หลังทุกเดือนเพื่อให้แม่เอาเงินตรงนั้นมาใช้จ่ายตามที่เราได้บอกไปนั่นก็คือ ค่ากินแม่ ค่าเลี้ยงดูเรา ค่าไฟที่บ้าน ( ถ้าจำไม่ผิดค่าเช่าจะอยู่ที่ 4 – 5 พันต่อหลัง )
ช่วงนั้นกิจการที่บ้านบูมมาก ถ้าเก็บเงินเก่งๆมีใช้ได้สบายๆเลยค่ะ แต่แม่เราก็เอาเงินตรงนั้นไปเข้าสปา ทำหน้า ซื้อชุดเพราะเหมือนให้รางวัลตัวเองจนไม่ค่อยมีเงินเหลือเท่าไหร่ แต่ก็พอหมุนเงินได้บ้านได้ สมัยก่อนได้วันละ 2-3 พันยังสบายๆเลยค่ะ ( กิจการค้าขายขอไม่บอกนะคะว่าเป็นอะไร )
ตอนเราเด็กๆ สมัยอนุบาลเราจำได้ว่าเรากลัวแม่มาก เพราะเวลาแม่โกรธแม่อารมณ์รุนแรง เคยเอาไม้กวาดฟาดหลังเราเป็นรอยห่อเลือดบ้างก็มี บางครั้งตีเราก่อนไปโรงเรียนจนครูทักเราเลยกลัวแม่มาก เพราะถ้าทำผิดแม่จะลงโทษรุนแรงหรือไม่ก็พังข้าวของเช่น หักพัดลม ทุบกระจก ตะคอกและด่าแรงๆใส่หน้าเรา เช่น _ึงไม่น่าเกิดมาเลยวะ อย่าง_ึงอยู่สถานสงเคราะห์น่าจะดีที่สุด เลี้ยงเปลืองเงินกูอีก แต่พอเราอยู่นุบาล 2 แม่เราก็มีลูกอีกคน สมมุติชื่อ ครีมล่ะกันค่ะ
ต่อมาพอเราขึ้นชั้นประถม 1 มีเหตุการณ์หนึ่งที่เราจำได้ดี เราไม่ลืมเลยค่ะ เราทะเลาะกับแม่เสร็จ เราเลยขอเงินพ่อไปซื้อขนมแถวบ้าน เราก็คุยกับเจ้าของร้านไปสนุกๆ ทว่าแม่เราก็เดินเข้ามาหาเราพร้อมไม้แขวนเสื้อแล้วตีเราไม่ยั้ง เราจำประโยคที่แม่พูดได้นั่นก็คือ ‘_ึงคิดจะนินทากูใช่มั้ย!? _ึงมานี่เลย!’ เราร้องไห้หนักมาก คือแม่ตีเราต่อหน้าเจ้าของร้าน เราทั้งเจ็บ ทั้งเสียใจทั้งอาย พูดไม่ถูกเลยค่ะ เรารีบวิ่งกลับบ้านทันที ขึ้นข้างบนแล้วล็อกห้อง
แม่เราเป็นคนอารมณ์รุนแรง ถ้าไม่พอใจจะด่า อาละวาดและทำลายข้าวของก่อนเลย เราไม่รู้ว่าทำไม แต่รู้แค่ว่าแม่เราเป็นคนทะเยอทะยานพอตัว มีครั้งหนึ่งเราจะสอบเข้าโรงเรียนตอน ม.1 ญาติเราจะให้เข้าโรงเรียนแถวบ้านซึ่งสังคมไม่ดีเท่าไหร่ แต่แม่เราห้ามและให้เข้าโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเท่านั้น ซึ่งโชคดีที่เราสอบเข้าได้ นั่นถือว่าเป็นข้อดี
แต่กับน้องเรา น้องเราไม่ค่อยทันคน น้องเราโดนด่าโดนว่าแบบเราทุกประการ แต่เรื่องการทำร้ายร่างกายโดนไม่บ่อยเท่าเรา แต่พอน้องเราทำอะไรไม่ถูกใจแม่ แม่จะด่าว่า ไอ้โง่ เกิดมาทำสัตว์อะไร ในเมื่อเกิดมาจะโง่ขนาดนี้
ตอนเราขึ้นมัธยมนั้น ครอบครัวเราทะเลาะกันบ่อยมาก น่าจะเรื่องเงิน กิจการไม่บูมเหมือนเมื่อก่อน แม่เราพูดกับพ่อบ่อยๆว่าแม่เป็นผู้หญิง ควรจะได้ทรัพย์สมบัติจากสามีเช่น รถเช่นบ้านเพราะอุตสาห์จากพ่อจากแม่มากรุงเทพ แต่พ่อเราก็ไม่ให้จนทำให้แม่เราเกลียดพ่อไป ซึ่งมีครั้งนึงเราผิดใจกับพ่อ แม่ก็บอกเราว่า พ่อเอาเรื่องที่เราผิดใจกับพ่อไปเล่าให้ย่าฟังแบบบิดเบือน คือพ่อดูเป็นคนถูกอยู่ฝ่ายเดียวน่ะค่ะ ตอนนั้นเราโกรธมากเนื่องจากถ้าพ่อพูดให้ย่าฟัง น้าเราก็ต้องรู้ ซึ่งน้าเราเป็นคนเกลียดอะไรแรงมากกก จนลืมฉุกคิดอะไรหลายๆอย่าง เช่น แม่รู้ได้ไง? ในเมื่อแม่กับย่าไม่ได้คุยกันเลย ไม่ได้ไปหากันเลยไม่สนิทกันด้วย? ( ย่าคือแม่ของพ่อนะคะ ) ตอนนั้นเรายังเด้กมากจริงๆ
จนปัจจุบันเราก็ยังสงสัยว่าแม่รู้ได้ยังไง??? ว่าพ่อพูดแบบนั้น?? นิสัยพ่อยังไงก็ไม่น่าเล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟังอยู่แล้ว
นอกจากนั้นแม่ก็ยังพูดกับเราว่า แม่สมควรได้นะ แม่เป็นผู้หญิง แม่เลี้ยงดูลูก แม่มาอยู่ที่นี่ทะเบียนก็ไม่ได้จด แล้วนี่เขายังงกไม่ให้อีกเหรอ? หน้าเงิน บลาๆ จนเราไม่ชอบหน้าพ่อเราไปด้วย โดยนับตั้งแต่นั้นมาเราก็ไม่ค่อยได้คุยกับพ่ออีกเลย อยู่บ้านเดียวกันแต่ไม่ได้คุยกันเลยจนปัจจุบันเราอยู่ ม.5 แล้วค่ะ
นั่นแหละค่ะ อย่างที่บอกไปกิจการแม่ไม่บูม แม่บอกว่าต้องใช้เงินไปทำงานบุญอะไรสักอย่าง จัดงานจ้างหมอลำอะไรทำนองนี้มาด้วย เลี้ยงคนทั้งหมู่บ้านใจต่างจังหวัด มันครบรอบวันที่ตาเราเสียน่ะค่ะ ตอนนั้นเราอยู่ ม.1 แม่ก็ขอยืมเงินเรา เราเลยถอนเงินให้แม่ประมาณเกือบ 2 หมื่นให้ด้วยว่าเงินก้อนนี้น่าจะช่วยอะไรหลายๆอย่างได้ แม่สัญญาว่าจะคืนให้ปีหน้าแต่ปัจจุบันเราก้ยังไม่ได้คืนเลย เราก็ไม่คิดอะไร เพราะมันคงไม่ได้คืนอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เราช็อกที่สุดคือพอเราถอนเงินเสร็จ แม่เราพาเราไปวุฒิศักดิ์ค่ะและเอาเงินก้อนนั้นบางส่วนจ่ายในค่าทำหน้า แม่บอกว่า จะกลับต่างจังหวัดทั้งที่ต้องให้ดูดีกว่าคนอื่น จะมาดูจนต่ำเตี้ยเรี่ยดินไม่ได้ เขาจะดูถูกเรา
บอกตรงๆ ...ไม่คิดว่าแม่จะทำแบบนี้
ส่วนน้องเราเหรอค่ะ น้องเรามักโดนแม่ใส่อารมณ์บ่อยๆเลยกลายเป็นเด็กเก็บกดค่ะ ไม่พูด ไม่จากับใครเลย คล้ายๆเราแต่เราควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าน้อง ทว่าลึกๆเรารู้ว่าเราเก็บกดมากเลยค่ะ ตอนนั้นมันอาจเป็นเพียงแค่อาการเริ่มต้น แต่ลึกๆแล้ว เราเริ่มที่จะเก็บกดค่ะ
เวลาแม่ขัดสนเรื่องเงิน เรามักจะเอาเงินที่เราได้จากพ่อจากย่ามาให้แม่ยืมเสมอ ตอนนี้ในบัญชีเราเหลืออยู่ 0 บาท ถามว่าทำไมถึงไม่เก้บอีกล่ะ? เพราะเวลาเราจะฝากเงิน แม่เราจะไม่ให้ฝากจะขอยืมก่อนเสมอรวมๆแล้วเกิน 2 หมื่น บางงครั้งเราซ่อนเงินไว้กะจะไปฝากธนาคาร แม่ก็ไปค้นจนเจอแล้วหยิบเอาเงินไป คือพอเปิดมา เราตกใจมากเลยค่ะที่เงินหาย แม่ก็บอกว่าอะไร แค่ยืมเอง เดี๋ยวคืน
เข้าอีหรอบเดิม เราก็ไม่ได้คืน
( มีต่อด้านล่างค่ะ )