** ก่อนอื่นต้องขอชี้แจงก่อนว่า กระทู้นี้ ผมขอยืม Account มาจากเพื่อนรักของผมคนนึง เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดเรื่องราวของผม ดังนั้นเรื่องราวของผมต่อไปนี้ ถือว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง(ทางตรง)ใดๆกับเจ้าของAccountนี้นะครับ ^^"
เรื่องราวที่ผมอยากจะถ่ายทอดนี้ มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อราวๆ 6 ปีก่อน... วันนั้น ผมได้รู้จักกับน้องผู้หญิงคนนึง น้องคนนี้เค้าเป็นคนที่รูปร่างผอม สูง หน้าตาดี มีทั้งความสวยและความน่ารักอยู่ในตัว... (อ่อ ลืมบอก... ส่วนผมน่ะเหรอ เป็นพนักงานกินเงินเดือนที่รูปร่างสูง ผอม หน้าตากลางๆค่อนไปทางดี [อันนี้ มโนไปเอง 55+] แอบฉลาดและทำงานเก่งพอสมควร [อันนี้คนในบริษัทชมเชยมา ^^"])... พอๆ กลับเข้าเรื่องดีกว่า - -"
ในวันแรกที่ได้พบกันนั้น ความรู้สึกของผมเหมือนกับว่าน้องเค้าเป็นคนที่ผมคุ้นเคยมาก่อนอย่างบอกไม่ถูก (อารมณ์ประมาณพระเอกละครหรือพระเอกMVเลยเนอะ ^^")... พอได้รู้จักกัน เราก็ค่อนข้างสนิทสนมกันพอสมควร... เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะนึง ด้วยความใกล้ชิด ทำให้ผมเริ่มมีความรู้สึกดีๆให้เค้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนมันกลายเป็นความรักไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งผมโชคดีมาก ที่ความรู้สึกนี้ไม่ได้เกิดกับผมแค่คนเดียว ด้วยเหตุนี้ เราสองคนเลยได้คบเป็นแฟนกัน...
ช่วงเวลาที่เป็นแฟนกัน เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมาก รู้สึกว่าชีวิตสดใสสุดๆ ต่อให้ทั้งวันต้องเจอกับงานยากๆ หรือปัญหากวนใจต่างๆ แค่ได้พบเจอ แค่ได้พูดคุยกับน้องเค้า วันนั้นก็กลายเป็นวันดีๆของผมไปเลย ^^
แต่แล้วความสุขนั้นของผมก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเวลาผ่านพ้นไปหลายเดือน ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เราสองคนต้องยุติความสัมพันธ์ในแบบคนรักลง... ผมขออนุญาตไม่กล่าวถึงเหตุผลนะครับ บอกได้แค่ว่า เราสองคนเลิกรากันด้วยดี (รวมถึงด้วยเหตุผลที่ดีด้วย) หลังจากเลิกรากัน เราสองคนก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แค่เปลี่ยนจากรูปแบบของคนรัก มาเป็นแบบพี่น้องเท่านั้น เรายังคงใกล้ชิดและสนิทสนมกันดี (ความรู้สึกดีๆที่ผมมีให้น้องเค้ายังคงเต็มเปี่ยม แต่ต้องเปลี่ยนรูปแบบในการมอบให้ก็เท่านั้น T-T)...
หลังจากนั้นราวๆ 1 ปี น้องเค้าก็คบหากับแฟนใหม่ (แน่นอนล่ะ หล่อกว่าผมพอสมควร แต่ลักษณะเพลย์บอยชัดๆ -*-)
**สังเกตดูนะครับ น้องเค้ามีแฟนใหม่หลังจากเลิกกับผมเป็นปี ดังนั้นเหตุผลที่เราเลิกกันไม่เกี่ยวกับมือที่สามแน่นอน...
ช่วงเวลานั้น ผมก็เป็นโสดแบบเหงาๆไป ใจก็ยังคงชอบน้องเค้าอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ความรู้สึกดีๆก็ยังมีให้อยู่ตลอดเวลา แต่สมองต้องคอยบังคับให้หยุดความรู้สึกเหล่านั้น เพราะด้วยรู้ว่าน้องเค้าก็มีแฟนแล้ว ผมต้องเคารพและให้เกียรติความรักใหม่ของน้องเค้าด้วย...
ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่สมองของผมทำงานหนักมาก เพราะนอกจากจะต้องรับผิดชอบงานปรกติอยู่แล้ว ยังจะต้องมาคอยควบคุม กวดขันและข่มขู่หัวใจ ไม่ให้มีความรู้สึกที่ไม่ควรจะมีนั้นอีก... ด้วยความพยายามและความเข้มแข็งของสมอง ทำให้ผมสามารถควบคุมความรู้สึกนั้น ให้มันอยู่แค่ในส่วนลึกของหัวใจและไม่ให้มันมามีอิทธิพลอะไรกับตัวผมอีก...
หลังจากผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ ผมก็ใช้ชีวิตได้อย่างปรกติสุขดี จนมาวันนึง ที่มีผู้หญิงอีกคนนึงเข้ามาในชีวิตผม (เรื่องนี้เริ่มมีตัวละครเยอะแล้วแฮะ เพื่อไม่ให้งง ถ้าจะแทนน้องคนแรกให้เป็นน้อง "A". ก็ขอแทนผู้หญิงคนที่พูดถึงล่าสุดให้เป็น "B" ละกันนะ

)
"B" เป็นผู้หญิงเก่ง บุคลิกดี สุภาพ เรียบร้อย น่ารัก (ถึงแม้จะสวยและน่ารักไม่เท่าน้องคนนั้นก็เถอะ ^^"). ผมได้รู้จักกับ"B"ผ่านทางเพื่อนคนนึง แล้วก็ได้ติดต่อพูดคุยกันมาเรื่อยๆ พอเวลาผ่านไปซักพัก ไอ้เจ้าสมองผู้เก่งกาจของผม มันก็บอกผมว่า "B"เป็นผู้หญิงที่ดีมาก และเราเหมาะสมกันในหลายๆด้าน ถ้ามองด้วยเหตุผลทั้งหลายแล้ว ผมควรจะจีบและคบเป็นแฟนกับ"B"อย่างที่สุด...
ถึงแม้ตัวผม จะอยากลองถามหัวใจให้แน่ใจก่อน แต่ก็คงเพราะโดนไอ้คุณสมองจ้องเขม็งอยู่ หัวใจก็เลยบอกผมอย่างเกรงๆว่ามันก็เห็นด้วยกับสมองนะ...
พอเรื่องมันเป็นอย่างนี้ ผมก็เลยเชื่อฟังสมอง และดำเนินภารกิจพิชิตหัวใจของ"B"ซะเลย แล้วก็ด้วยความโชคดีอีกแล้ว (ผมโชคดีบ่อยแฮะ ^^) ที่ทำให้ได้รู้ว่า"B"ก็มีใจให้ผมอยู่แล้วด้วยเหมือนกัน... ผมกับ"B"ก็เลยได้คบเป็นแฟนกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตลอดเวลาที่คบกับ"B" ผมก็รู้สึกดีนะ ก็มีความสุขดี (ถึงแม้จะต้องยอมรับว่า เทียบไม่ได้เลยกับความสุขตอนที่คบกับน้อง"A"ก็เถอะ)...
ผมคบกับ"B"มาได้หลายปีมาก ถึงแม้ว่าลึกๆแล้วผมจะรู้ว่าผมยังมีความรักและความรู้สึกดีๆที่มีให้กับน้อง"A"เก็บซ่อนไว้ในส่วนลึกของหัวใจก็เถอะ
แต่ก็คิดว่าสมองของผมมันสามารถควบคุมหัวใจไม่ให้ความรู้สึกเหล่านั้นมามีอิทธิพลกับผมได้... ผมจริงใจและจริงจังกับ"B"มากนะ ถึงขนาดตั้งใจทำงานอย่างหนัก(หนักจริงๆนะ กลับบ้านดึกดื่นเป็นประจำ - -") เพื่อเก็บเงินไว้เป็นค่าสินสอดเพื่อสู่ขอ"B"เลยทีเดียว...
แต่แล้วปัญหาใหญ่ในชีวิตของผมมันก็เกิดขึ้น เมื่อมันถึงวันที่ผมต้องคิดจริงจังกับการแต่งงานกับ"B"... เมื่อผมต้องเตรียมเป็นสามีและอยู่ด้วยกันกับผู้หญิงคนนึงไปตลอดชีวิต... มันทำให้ผมต้องลองถามตัวเองอย่างจริงจังอีกครั้ง ว่าผมพร้อมที่จะใช้ชีวิตที่เหลือไปกับ"B"จริงหรือเปล่า...
คราวนี้ ไอ้คุณสมองก็ยังยืนยันคำเดิม ยังยกเหตุผลมากมายมาชักจูงให้ผมเชื่ออย่างนั้น (ตัวอย่างเหตุผลพวกนั้นก็อย่างเช่น เราเหมาะสมกันมาก, คบกันมาขนาดนี้ ทุ่มเททำงานหนักมาก็เพื่อการนี้ จะยังสงสัยอีกทำไม, คบกับเค้ามานานขนาดนี้ ถ้าต้องเลิกกันไป ไม่สงสารผู้หญิงเค้ารึยังไงที่ต้องเสียเวลา เสียโอกาส ในชีวิตไปกับผู้ชายใจโลเลแบบนี้... T-T มันเล่นซะตูรู้สึกผิดสุดๆไปเลย)...
ก่อนที่ผมจะตัดใจกับคำถามนี้ ผมใช้ความพยายามอย่างมาก ที่จะลดบทบาทของสมองลงไปชั่วคราว แล้วเปิดโอกาสให้หัวใจของผมได้ตอบคำถามนี้อย่างตรงไปตรงมา... หัวใจมันบอกกับผมว่า ไม่เคยมีแม้ซักวันเดียว ที่ผมลืมความรักและความรู้สึกดีๆที่มีให้กับน้อง"A"... ความรู้สึกเหล่านั้นยังคงพลุ่งพล่านอยู่ในหัวใจของผมตลอดเวลา... ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ยังคงอยู่อย่างนั้น... เสมอมา...
(ที่ผมไม่รู้ตัว ก็เพราะผมหลอกตัวเอง ผมปิดบังความรู้สึกเหล่านั้นด้วยคำสั่งของสมองอยู่ตลอดเวลานั่นเอง)
พอได้ยินคำตอบจากหัวใจอย่างนั้นแล้ว ผมรู้สึกสับสนอย่างมาก พร้อมกันนั้น เพลง "ความจริงในใจ" ของ Cressendo ก็ดังกึกก้องอยู่ในหัวของผมทันที ทุกวันนี้ ได้ยินเพลงนี้ที่ไหน ผมแทบจะร้องไห้ ทั้งเจ็บปวดใจ ทั้งรู้สึกผิด ทั้งรู้สึกเกลียดตัวเอง มันมาทุกอารมณ์เลย T-T
หลังจากนั้น ทุกๆวันของผมก็เต็มไปด้วยความอึดอัดใจ ทุกครั้งที่ได้พูดคุยติดต่อกับ"B" ผมก็รู้สึกผิดในใจทุกครั้ง มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานมาก ผมเริ่มไม่แน่ใจว่า ความรู้สึกดีๆที่มีให้กับ"B" มันคือความรักหรือเปล่า ถ้าใช่... มันเป็นความรักที่มาจากสมอง หรือจากหัวใจ ?
ที่หนักกว่านั้นคือ ช่วงหลังๆ ผมเริ่มได้มีโอกาสใกล้ชิดกับน้อง"A"มากขึ้น ซึ่งจริงๆก่อนหน้านั้นเราก็ใกล้ชิดกันพอสมควร แต่ก็ไม่ถึงขนาดช่วงหลังๆ ที่เราเริ่มจะใกล้ชิดกันถึงขนาดไปทานข้าว หรือไปเดินซื้อของด้วยกันสองคน...
มันใช่ครับ ที่เราสองคนต่างคนก็ต่างมีแฟนกันอยู่แล้ว ซึ่งผมก็รู้ว่า จริงๆน้อง"A"เค้าไม่ได้คิดอะไรกับผมมากไปกว่าพี่ชายหรอก ดังนั้นการไปทานข้าว ไปซื้อของกับผม ก็คงเหมือนกับการไปกับพี่ชายคนนึงเท่านั้น... แต่ไอ้ผมน่ะสิครับ คิดอะไรอยู่เต็มๆเลย ยอมรับว่าความสุขที่เคยมีสมัยตอนเป็นแฟนกัน มันยังอยู่ครบถ้วน ไม่น้อยลงไปซักนิดเลย...
ผมก็รู้ตัวนะครับ ว่ากำลังทำผิดกับ"B"มากๆ แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงกล้าไปใกล้ชิดกับน้องเค้าขนาดนั้นอีก... ผมเคยมั่นใจและภูมิใจในตัวเองว่า ผมเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนที่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นมาก... แต่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันไม่ใช่เลย ผมมันแค่ผู้ชายเลวๆคนนึง ที่เห็นแก่ตัว และไม่ซื่อตรงกับผู้หญิงที่ผมเรียกเค้าว่า"แฟน"... จริงๆก็แทบจะรับตัวเองไม่ได้เลยครับ แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมถึงยังหยุดความคิดและการกระทำแย่ๆนี้ไม่ได้...
ในระหว่างที่ผมสับสนอยู่นี้ เพื่อนที่สนิทๆของผม(มีไม่กี่คนที่รู้ปัญหานี้)ก็แนะนำมาหลายๆทาง ทั้งให้ตัดใจจากน้อง"A"ให้ได้ หรือไม่ก็ให้บอกเลิกกับ"B"ไปตรงๆ(ดีกว่าที่จะยื้อเค้าไปเรื่อยๆทั้งที่ไม่แน่ใจว่ารัก)...
ผมลองมานั่งคุยกับตัวเองดีๆ ลองนั่งคิดวิธีแก้ปัญหานี้ ผมก็พอได้แนวทางประมาณนี้,
1. ลองพยายามตัดใจจากน้อง"A"ให้ได้ อย่าไปใกล้ชิด อย่าไปสนิทสนมกับน้องเค้าอีก... (ซึ่งจริงๆแล้วผมก็ลองกับแนวทางนี้มาหลายครั้งแล้วเหมือนกันแต่ก็ยังทำไม่ได้ซักที - -" หลายๆคนบอกว่า เวลาจะแก้ปัญหานี้ได้ เมื่อเวลาผ่านไปเราจะตัดใจได้ง่ายเอง... แต่แหม่ ผ่านมา 4-5 ปีแล้วนะครับ ผมก็ยังตัดใจไม่ได้เลย T-T )
2. ที่ผ่านมาผมก็ใช้สมองควบคุมหัวใจให้เก็บความรู้สึกดีๆกับน้อง"A"เหล่านั้นไว้ในส่วนลึกของหัวใจได้เป็นอย่างดี ถ้าจะทำแบบนั้นต่อไปก็น่าจะทำได้ แล้วก็หวังไว้ว่า เมื่อผมแต่งงานกับ"B" หรือถ้าน้อง"A"แต่งงานกับแฟนแล้ว ผมก็คงตัดใจจากน้องเค้าได้... (แต่ก็นะ... ถ้าวันนึงสมองผมอ่อนแอลง หรือต่อให้น้องเค้าแต่งงานไปแล้วผมก็ยังมีความรู้สึกพวกนั้นอยู่ล่ะ มันไม่ยิ่งเป็นการทำร้าย"B"มากเข้าไปใหญ่เหรอ T-T)
3. บอกเลิกกับ"B"ไปตรงๆ ดีกว่าที่จะยื้อให้เค้าเสียเวลามากไปกว่านี้... ซึ่งถ้าทำอย่างนี้ ผมก็จะกลับไปโสดสนิทและอยู่คนเดียวไปตลอด (น้อง"A"เค้าก็รักกับแฟนเค้าดี ไอ้ผมก็ไม่ใช่คนที่จะคอยลุ้นให้ใครเลิกกันหรอก)... แต่อย่างน้อยผมก็จะได้หยุดทำร้าย"B" และให้เค้าได้มีโอกาสเจอกับคนที่ดี(กว่าผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างผม)...
4. พยายามหาคำตอบให้ตัวเองแน่ใจให้ได้ ว่าความรู้สึกที่มีให้กับ"B"คือ'ความรัก'หรือเปล่า... ผมเชื่อว่า ถ้าผมแน่ใจในเรื่องนี้ ผมก็น่าจะตัดใจ หรือควบคุมความรู้สึกดีๆที่มีให้น้อง"A"ได้ดียิ่งขึ้น จนความรู้สึกพวกนั้นมันไม่มีอิทธิพลกับชีวิตผมอีก... (แต่ก็คิดวิธีหาคำตอบนั้นยังไม่ได้เลย T-T)
ไม่ว่าจะเลือกแนวทางไหน ตอนนี้ผมก็พยายามอย่างหนักในการแก้ปัญหาเหล่านี้อยู่ เพราะยิ่งปล่อยเวลาให้ผ่านไปนานเท่าไร ก็มีแต่จะก่อให้เกิดผลเสียมากขึ้นเท่านั้น...
อีกไม่นาน ผมคงได้รู้ผลลัพธ์ในแนวทางที่ผมเลือก... อีกไม่นาน ผมคงได้รู้ว่าชีวิตของผมหลังจากนี้จะเป็นเช่นไร... อีกไม่นาน...
แล้วคุณล่ะครับ ? จะทำยังไง ? ถ้าคุณตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับผม คุณจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ? ^^
Love ReMains...
Love Remains: รักด้วยสมอง หรือมองด้วยหัวใจ...
เรื่องราวที่ผมอยากจะถ่ายทอดนี้ มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อราวๆ 6 ปีก่อน... วันนั้น ผมได้รู้จักกับน้องผู้หญิงคนนึง น้องคนนี้เค้าเป็นคนที่รูปร่างผอม สูง หน้าตาดี มีทั้งความสวยและความน่ารักอยู่ในตัว... (อ่อ ลืมบอก... ส่วนผมน่ะเหรอ เป็นพนักงานกินเงินเดือนที่รูปร่างสูง ผอม หน้าตากลางๆค่อนไปทางดี [อันนี้ มโนไปเอง 55+] แอบฉลาดและทำงานเก่งพอสมควร [อันนี้คนในบริษัทชมเชยมา ^^"])... พอๆ กลับเข้าเรื่องดีกว่า - -"
ในวันแรกที่ได้พบกันนั้น ความรู้สึกของผมเหมือนกับว่าน้องเค้าเป็นคนที่ผมคุ้นเคยมาก่อนอย่างบอกไม่ถูก (อารมณ์ประมาณพระเอกละครหรือพระเอกMVเลยเนอะ ^^")... พอได้รู้จักกัน เราก็ค่อนข้างสนิทสนมกันพอสมควร... เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะนึง ด้วยความใกล้ชิด ทำให้ผมเริ่มมีความรู้สึกดีๆให้เค้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนมันกลายเป็นความรักไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งผมโชคดีมาก ที่ความรู้สึกนี้ไม่ได้เกิดกับผมแค่คนเดียว ด้วยเหตุนี้ เราสองคนเลยได้คบเป็นแฟนกัน...
ช่วงเวลาที่เป็นแฟนกัน เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมาก รู้สึกว่าชีวิตสดใสสุดๆ ต่อให้ทั้งวันต้องเจอกับงานยากๆ หรือปัญหากวนใจต่างๆ แค่ได้พบเจอ แค่ได้พูดคุยกับน้องเค้า วันนั้นก็กลายเป็นวันดีๆของผมไปเลย ^^
แต่แล้วความสุขนั้นของผมก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเวลาผ่านพ้นไปหลายเดือน ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เราสองคนต้องยุติความสัมพันธ์ในแบบคนรักลง... ผมขออนุญาตไม่กล่าวถึงเหตุผลนะครับ บอกได้แค่ว่า เราสองคนเลิกรากันด้วยดี (รวมถึงด้วยเหตุผลที่ดีด้วย) หลังจากเลิกรากัน เราสองคนก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แค่เปลี่ยนจากรูปแบบของคนรัก มาเป็นแบบพี่น้องเท่านั้น เรายังคงใกล้ชิดและสนิทสนมกันดี (ความรู้สึกดีๆที่ผมมีให้น้องเค้ายังคงเต็มเปี่ยม แต่ต้องเปลี่ยนรูปแบบในการมอบให้ก็เท่านั้น T-T)...
หลังจากนั้นราวๆ 1 ปี น้องเค้าก็คบหากับแฟนใหม่ (แน่นอนล่ะ หล่อกว่าผมพอสมควร แต่ลักษณะเพลย์บอยชัดๆ -*-)
**สังเกตดูนะครับ น้องเค้ามีแฟนใหม่หลังจากเลิกกับผมเป็นปี ดังนั้นเหตุผลที่เราเลิกกันไม่เกี่ยวกับมือที่สามแน่นอน...
ช่วงเวลานั้น ผมก็เป็นโสดแบบเหงาๆไป ใจก็ยังคงชอบน้องเค้าอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ความรู้สึกดีๆก็ยังมีให้อยู่ตลอดเวลา แต่สมองต้องคอยบังคับให้หยุดความรู้สึกเหล่านั้น เพราะด้วยรู้ว่าน้องเค้าก็มีแฟนแล้ว ผมต้องเคารพและให้เกียรติความรักใหม่ของน้องเค้าด้วย...
ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่สมองของผมทำงานหนักมาก เพราะนอกจากจะต้องรับผิดชอบงานปรกติอยู่แล้ว ยังจะต้องมาคอยควบคุม กวดขันและข่มขู่หัวใจ ไม่ให้มีความรู้สึกที่ไม่ควรจะมีนั้นอีก... ด้วยความพยายามและความเข้มแข็งของสมอง ทำให้ผมสามารถควบคุมความรู้สึกนั้น ให้มันอยู่แค่ในส่วนลึกของหัวใจและไม่ให้มันมามีอิทธิพลอะไรกับตัวผมอีก...
หลังจากผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ ผมก็ใช้ชีวิตได้อย่างปรกติสุขดี จนมาวันนึง ที่มีผู้หญิงอีกคนนึงเข้ามาในชีวิตผม (เรื่องนี้เริ่มมีตัวละครเยอะแล้วแฮะ เพื่อไม่ให้งง ถ้าจะแทนน้องคนแรกให้เป็นน้อง "A". ก็ขอแทนผู้หญิงคนที่พูดถึงล่าสุดให้เป็น "B" ละกันนะ
"B" เป็นผู้หญิงเก่ง บุคลิกดี สุภาพ เรียบร้อย น่ารัก (ถึงแม้จะสวยและน่ารักไม่เท่าน้องคนนั้นก็เถอะ ^^"). ผมได้รู้จักกับ"B"ผ่านทางเพื่อนคนนึง แล้วก็ได้ติดต่อพูดคุยกันมาเรื่อยๆ พอเวลาผ่านไปซักพัก ไอ้เจ้าสมองผู้เก่งกาจของผม มันก็บอกผมว่า "B"เป็นผู้หญิงที่ดีมาก และเราเหมาะสมกันในหลายๆด้าน ถ้ามองด้วยเหตุผลทั้งหลายแล้ว ผมควรจะจีบและคบเป็นแฟนกับ"B"อย่างที่สุด...
ถึงแม้ตัวผม จะอยากลองถามหัวใจให้แน่ใจก่อน แต่ก็คงเพราะโดนไอ้คุณสมองจ้องเขม็งอยู่ หัวใจก็เลยบอกผมอย่างเกรงๆว่ามันก็เห็นด้วยกับสมองนะ...
พอเรื่องมันเป็นอย่างนี้ ผมก็เลยเชื่อฟังสมอง และดำเนินภารกิจพิชิตหัวใจของ"B"ซะเลย แล้วก็ด้วยความโชคดีอีกแล้ว (ผมโชคดีบ่อยแฮะ ^^) ที่ทำให้ได้รู้ว่า"B"ก็มีใจให้ผมอยู่แล้วด้วยเหมือนกัน... ผมกับ"B"ก็เลยได้คบเป็นแฟนกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตลอดเวลาที่คบกับ"B" ผมก็รู้สึกดีนะ ก็มีความสุขดี (ถึงแม้จะต้องยอมรับว่า เทียบไม่ได้เลยกับความสุขตอนที่คบกับน้อง"A"ก็เถอะ)...
ผมคบกับ"B"มาได้หลายปีมาก ถึงแม้ว่าลึกๆแล้วผมจะรู้ว่าผมยังมีความรักและความรู้สึกดีๆที่มีให้กับน้อง"A"เก็บซ่อนไว้ในส่วนลึกของหัวใจก็เถอะ
แต่ก็คิดว่าสมองของผมมันสามารถควบคุมหัวใจไม่ให้ความรู้สึกเหล่านั้นมามีอิทธิพลกับผมได้... ผมจริงใจและจริงจังกับ"B"มากนะ ถึงขนาดตั้งใจทำงานอย่างหนัก(หนักจริงๆนะ กลับบ้านดึกดื่นเป็นประจำ - -") เพื่อเก็บเงินไว้เป็นค่าสินสอดเพื่อสู่ขอ"B"เลยทีเดียว...
แต่แล้วปัญหาใหญ่ในชีวิตของผมมันก็เกิดขึ้น เมื่อมันถึงวันที่ผมต้องคิดจริงจังกับการแต่งงานกับ"B"... เมื่อผมต้องเตรียมเป็นสามีและอยู่ด้วยกันกับผู้หญิงคนนึงไปตลอดชีวิต... มันทำให้ผมต้องลองถามตัวเองอย่างจริงจังอีกครั้ง ว่าผมพร้อมที่จะใช้ชีวิตที่เหลือไปกับ"B"จริงหรือเปล่า...
คราวนี้ ไอ้คุณสมองก็ยังยืนยันคำเดิม ยังยกเหตุผลมากมายมาชักจูงให้ผมเชื่ออย่างนั้น (ตัวอย่างเหตุผลพวกนั้นก็อย่างเช่น เราเหมาะสมกันมาก, คบกันมาขนาดนี้ ทุ่มเททำงานหนักมาก็เพื่อการนี้ จะยังสงสัยอีกทำไม, คบกับเค้ามานานขนาดนี้ ถ้าต้องเลิกกันไป ไม่สงสารผู้หญิงเค้ารึยังไงที่ต้องเสียเวลา เสียโอกาส ในชีวิตไปกับผู้ชายใจโลเลแบบนี้... T-T มันเล่นซะตูรู้สึกผิดสุดๆไปเลย)...
ก่อนที่ผมจะตัดใจกับคำถามนี้ ผมใช้ความพยายามอย่างมาก ที่จะลดบทบาทของสมองลงไปชั่วคราว แล้วเปิดโอกาสให้หัวใจของผมได้ตอบคำถามนี้อย่างตรงไปตรงมา... หัวใจมันบอกกับผมว่า ไม่เคยมีแม้ซักวันเดียว ที่ผมลืมความรักและความรู้สึกดีๆที่มีให้กับน้อง"A"... ความรู้สึกเหล่านั้นยังคงพลุ่งพล่านอยู่ในหัวใจของผมตลอดเวลา... ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ยังคงอยู่อย่างนั้น... เสมอมา...
(ที่ผมไม่รู้ตัว ก็เพราะผมหลอกตัวเอง ผมปิดบังความรู้สึกเหล่านั้นด้วยคำสั่งของสมองอยู่ตลอดเวลานั่นเอง)
พอได้ยินคำตอบจากหัวใจอย่างนั้นแล้ว ผมรู้สึกสับสนอย่างมาก พร้อมกันนั้น เพลง "ความจริงในใจ" ของ Cressendo ก็ดังกึกก้องอยู่ในหัวของผมทันที ทุกวันนี้ ได้ยินเพลงนี้ที่ไหน ผมแทบจะร้องไห้ ทั้งเจ็บปวดใจ ทั้งรู้สึกผิด ทั้งรู้สึกเกลียดตัวเอง มันมาทุกอารมณ์เลย T-T
หลังจากนั้น ทุกๆวันของผมก็เต็มไปด้วยความอึดอัดใจ ทุกครั้งที่ได้พูดคุยติดต่อกับ"B" ผมก็รู้สึกผิดในใจทุกครั้ง มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานมาก ผมเริ่มไม่แน่ใจว่า ความรู้สึกดีๆที่มีให้กับ"B" มันคือความรักหรือเปล่า ถ้าใช่... มันเป็นความรักที่มาจากสมอง หรือจากหัวใจ ?
ที่หนักกว่านั้นคือ ช่วงหลังๆ ผมเริ่มได้มีโอกาสใกล้ชิดกับน้อง"A"มากขึ้น ซึ่งจริงๆก่อนหน้านั้นเราก็ใกล้ชิดกันพอสมควร แต่ก็ไม่ถึงขนาดช่วงหลังๆ ที่เราเริ่มจะใกล้ชิดกันถึงขนาดไปทานข้าว หรือไปเดินซื้อของด้วยกันสองคน...
มันใช่ครับ ที่เราสองคนต่างคนก็ต่างมีแฟนกันอยู่แล้ว ซึ่งผมก็รู้ว่า จริงๆน้อง"A"เค้าไม่ได้คิดอะไรกับผมมากไปกว่าพี่ชายหรอก ดังนั้นการไปทานข้าว ไปซื้อของกับผม ก็คงเหมือนกับการไปกับพี่ชายคนนึงเท่านั้น... แต่ไอ้ผมน่ะสิครับ คิดอะไรอยู่เต็มๆเลย ยอมรับว่าความสุขที่เคยมีสมัยตอนเป็นแฟนกัน มันยังอยู่ครบถ้วน ไม่น้อยลงไปซักนิดเลย...
ผมก็รู้ตัวนะครับ ว่ากำลังทำผิดกับ"B"มากๆ แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงกล้าไปใกล้ชิดกับน้องเค้าขนาดนั้นอีก... ผมเคยมั่นใจและภูมิใจในตัวเองว่า ผมเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนที่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นมาก... แต่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันไม่ใช่เลย ผมมันแค่ผู้ชายเลวๆคนนึง ที่เห็นแก่ตัว และไม่ซื่อตรงกับผู้หญิงที่ผมเรียกเค้าว่า"แฟน"... จริงๆก็แทบจะรับตัวเองไม่ได้เลยครับ แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมถึงยังหยุดความคิดและการกระทำแย่ๆนี้ไม่ได้...
ในระหว่างที่ผมสับสนอยู่นี้ เพื่อนที่สนิทๆของผม(มีไม่กี่คนที่รู้ปัญหานี้)ก็แนะนำมาหลายๆทาง ทั้งให้ตัดใจจากน้อง"A"ให้ได้ หรือไม่ก็ให้บอกเลิกกับ"B"ไปตรงๆ(ดีกว่าที่จะยื้อเค้าไปเรื่อยๆทั้งที่ไม่แน่ใจว่ารัก)...
ผมลองมานั่งคุยกับตัวเองดีๆ ลองนั่งคิดวิธีแก้ปัญหานี้ ผมก็พอได้แนวทางประมาณนี้,
1. ลองพยายามตัดใจจากน้อง"A"ให้ได้ อย่าไปใกล้ชิด อย่าไปสนิทสนมกับน้องเค้าอีก... (ซึ่งจริงๆแล้วผมก็ลองกับแนวทางนี้มาหลายครั้งแล้วเหมือนกันแต่ก็ยังทำไม่ได้ซักที - -" หลายๆคนบอกว่า เวลาจะแก้ปัญหานี้ได้ เมื่อเวลาผ่านไปเราจะตัดใจได้ง่ายเอง... แต่แหม่ ผ่านมา 4-5 ปีแล้วนะครับ ผมก็ยังตัดใจไม่ได้เลย T-T )
2. ที่ผ่านมาผมก็ใช้สมองควบคุมหัวใจให้เก็บความรู้สึกดีๆกับน้อง"A"เหล่านั้นไว้ในส่วนลึกของหัวใจได้เป็นอย่างดี ถ้าจะทำแบบนั้นต่อไปก็น่าจะทำได้ แล้วก็หวังไว้ว่า เมื่อผมแต่งงานกับ"B" หรือถ้าน้อง"A"แต่งงานกับแฟนแล้ว ผมก็คงตัดใจจากน้องเค้าได้... (แต่ก็นะ... ถ้าวันนึงสมองผมอ่อนแอลง หรือต่อให้น้องเค้าแต่งงานไปแล้วผมก็ยังมีความรู้สึกพวกนั้นอยู่ล่ะ มันไม่ยิ่งเป็นการทำร้าย"B"มากเข้าไปใหญ่เหรอ T-T)
3. บอกเลิกกับ"B"ไปตรงๆ ดีกว่าที่จะยื้อให้เค้าเสียเวลามากไปกว่านี้... ซึ่งถ้าทำอย่างนี้ ผมก็จะกลับไปโสดสนิทและอยู่คนเดียวไปตลอด (น้อง"A"เค้าก็รักกับแฟนเค้าดี ไอ้ผมก็ไม่ใช่คนที่จะคอยลุ้นให้ใครเลิกกันหรอก)... แต่อย่างน้อยผมก็จะได้หยุดทำร้าย"B" และให้เค้าได้มีโอกาสเจอกับคนที่ดี(กว่าผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างผม)...
4. พยายามหาคำตอบให้ตัวเองแน่ใจให้ได้ ว่าความรู้สึกที่มีให้กับ"B"คือ'ความรัก'หรือเปล่า... ผมเชื่อว่า ถ้าผมแน่ใจในเรื่องนี้ ผมก็น่าจะตัดใจ หรือควบคุมความรู้สึกดีๆที่มีให้น้อง"A"ได้ดียิ่งขึ้น จนความรู้สึกพวกนั้นมันไม่มีอิทธิพลกับชีวิตผมอีก... (แต่ก็คิดวิธีหาคำตอบนั้นยังไม่ได้เลย T-T)
ไม่ว่าจะเลือกแนวทางไหน ตอนนี้ผมก็พยายามอย่างหนักในการแก้ปัญหาเหล่านี้อยู่ เพราะยิ่งปล่อยเวลาให้ผ่านไปนานเท่าไร ก็มีแต่จะก่อให้เกิดผลเสียมากขึ้นเท่านั้น...
อีกไม่นาน ผมคงได้รู้ผลลัพธ์ในแนวทางที่ผมเลือก... อีกไม่นาน ผมคงได้รู้ว่าชีวิตของผมหลังจากนี้จะเป็นเช่นไร... อีกไม่นาน...
แล้วคุณล่ะครับ ? จะทำยังไง ? ถ้าคุณตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับผม คุณจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ? ^^
Love ReMains...