ข้อมูลที่ Shared/Forward
ด่วน! นาซ่าออกมายืนยันว่าโลกของเราจะเข้าสู่ความมืดตลอด 6 วัน ธันวานี้
นาซ่าได้ยืนยันว่าโลกของเราจะเข้าสู่ความมืดเป็นระยะเวลา 6 วันเต็มในวันที่ 16-22 ธันวาคม 2014
ที่จะถึงในอีกเดือนครึ่งนี้ เนื่องจากผลขอโซล่าสตรอม (Solar Storm)
ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดฝุ่นจากอวกาศบดบังแสงอาทิตย์ถึง 90% เลยทีเดียว
ชาลส์ โบลเด้นประธานองค์การนาซ่าได้ออกมาแถลงต่อผู้คนว่า
อย่าได้ตื่นตระหนกกับปรากฏการณ์ดังกล่าว
โดยที่โซล่าสตรอมนี้จะใหญ่ที่สุดในรอบ 250 ปี กินเวลาเป็น 216 ชั่วโมง
เมื่อนักข่าวได้สัมภาษณ์ผู้คนบางส่วน
(อันนี้ไม่ขอแปลนะครับเพราะเนื้อหาค่อนข้างจะส่อไปทางเหยียดผิวพอสมควร)
ในระยะเวลา 6 วันนี้จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อโลกของเรา
แต่จะไม่มีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์เท่านั้นเอง
โดยได้รับการยืนยันจากเอิร์ล โกดอยนักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซ่าอีกที
" แสงสว่างเพียงน้อยนิดนั้นจะไม่ส่งผลใดๆต่อโลก "
ที่มาของข้อมูลนี้มาจาก
http://goo.gl/q6HAz7
ส่วนข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ http://goo.gl/dlrWDD
สดร.ชี้ข่าวลวง “โลกมืดไป 6 วันจากนาซา” แค่ข่าวจากเว็บลวง
แจงข้อเท็จจริงพายุสุริยะไม่ก่อให้เกิดฝุ่นและขยะอวกาศไม่สามารถบดบังโลก
วอนประชาชนบริโภคข่าวสารอย่างมีวิจารณญาณ
นายมติพล ตั้งมติธรรม เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เปิดเผยว่า
ข่าวลวงดังกล่าวเผยแพร่มาจาก "สำนักข่าว" huzlers
แท้จริงแล้ว huzlers ไม่ใช่สำนักข่าวจริงๆ
แต่เป็นสำนักข่าวที่เขียนข่าวขำขัน
เขียนเรื่องสร้างความตื่นตระหนกให้คนตกใจเล่น ๆ
แม้กระทั่งตัวเพจเองก็เขียนเอาไว้ด้านล่างว่า
"เว็บไซต์ Huzlers.com เป็นเว็บที่ผสมระหว่างข่าวจริง
และเสียดสีที่น่าตื่นเต้นเพื่อสร้างความบันเทิงและน่าทึ่งให้กับผู้ชม"
(Huzlers.com is a combination of real shocking news
and satirical entertainment to keep its visitors in a state of disbelief.)
เพิ่มเติม ทาง www. ต้องการให้คนลงทะเบียนและสมัครเป็นนักเขียน
โดยขอคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีพรสรรค์ในการเขียน
เพื่อร่วมงานใน www. ดังกล่าวด้วย
หมายเหตุ แบบ Column ผู้จัดกวน ของ นสพ.ผู้จัดการ
นายมติพลระบุถึงข่าวลวงโลกที่อ้างว่า วันที่ 16-22 ธันวาคม เป็นเวลารวม 3 วัน
โลกจะตกอยู่ในความมืดสนิท เพราะพายุสุริยะจะทำให้เกิดฝุ่นและขยะอวกาศ
มาบดบังจนโลกอยู่ในความมืดสนิท ซึ่งเขาชี้ว่า “ไม่เป็นความจริง"
" เนื่องจากพายุสุริยะไม่ได้ทำให้เกิดฝุ่นหรืออะไรทั้งนั้น
แล้วก็ไม่ได้ทำให้เกิดแผ่นดินไหวด้วย อย่างมากพายุสุริยะก็จะทำให้ดาวเทียมใช้งานไม่ได้
แล้วก็อาจจะทำให้เห็นออโรราสวยๆ ในประเทศแถบขั้วโลกเท่านั้น
และไม่เป็นความจริงที่ฝุ่นและขยะอวกาศจะมาบดบังโลกให้อยู่ในความมืดสนิท
เนื่องจากขยะอวกาศจะบดบังโลกให้อยู่ในความมืดสนิทได้นั้น
ต้องมีขยะอวกาศมากกว่าดาวเทียมที่มีอยู่ทั้งหมดนี้หลายเท่า
และถ้าเป็นเช่นนั้นดาวเทียมเราทุกดวงคงร่วงไปหมดแล้ว"
เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สดร.อธิบาย
มติพลอธิบายต่อว่า ฝุ่นสามารถบดบังแสงอาทิตย์ได้
แต่เกิดขึ้นได้เฉพาะในชั้นบรรยากาศ เช่น
กรณีที่ภูเขาไฟลูกใหญ่ หรืออุกกาบาตขนาดมหึมา
ทำให้ฝุ่นกระจายไปในชั้นบรรยากาศ
ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์สูญพันธุ์ของไดโนเสาร์
แต่แม้กระนั้นก็ไม่ได้อยู่ในความมืดสนิทอย่างที่กล่าวอ้างในข่าว
"ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อสังคมออนไลน์
ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว
บางครั้งอาจไม่ใช่ข้อเท็จจริง ต้นตอข่าวลือต่างๆ ไม่ได้มาจากไหน
แต่วนเวียนอยู่ในโลกไซเบอร์ที่มีทั้งเรื่องจริง
และเรื่องที่ต้องอาศัยวิจารณญาณในการรับรู้
จึงขอให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ
ศึกษาข้อมูลและความเป็นไปได้ด้วยเหตุและผล
ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาอ้างอิง
และควรระมัดระวังในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้วย" นายมติพลกล่าว
ทั้งนี้ ก่อนนี้มีนักวิทยาศาสตร์จากฝรั่งเศสค้นพบ
รูปแบบสนามแม่เหล็กที่เกิดขึ้นก่อนปรากฏการณ์พายุสุริยะ
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพยากรณ์การปลดปล่อยอนุภาครังสี
จากดวงอาทิตย์ที่เป็นอันตรายต่อดาวเทียมสื่อสารและมนุษย์อวกาศในวงโคจร
แต่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเนื่องจากมีสนามแม่เหล็กโลกช่วยปกป้อง
ทว่าหากพายุสุริยะมีความรุนแรงมากพอ
ก็อาจส่งผลเสียต่อระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าบนโลกเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
การพยากรณ์ปรากฏการณ์ได้ล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ
จะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/q6HAz7
http://goo.gl/dlrWDD
แฉที่มาของ ข่าวโลกจะมืด 6 วันจาก NAZA
ด่วน! นาซ่าออกมายืนยันว่าโลกของเราจะเข้าสู่ความมืดตลอด 6 วัน ธันวานี้
นาซ่าได้ยืนยันว่าโลกของเราจะเข้าสู่ความมืดเป็นระยะเวลา 6 วันเต็มในวันที่ 16-22 ธันวาคม 2014
ที่จะถึงในอีกเดือนครึ่งนี้ เนื่องจากผลขอโซล่าสตรอม (Solar Storm)
ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดฝุ่นจากอวกาศบดบังแสงอาทิตย์ถึง 90% เลยทีเดียว
ชาลส์ โบลเด้นประธานองค์การนาซ่าได้ออกมาแถลงต่อผู้คนว่า
อย่าได้ตื่นตระหนกกับปรากฏการณ์ดังกล่าว
โดยที่โซล่าสตรอมนี้จะใหญ่ที่สุดในรอบ 250 ปี กินเวลาเป็น 216 ชั่วโมง
เมื่อนักข่าวได้สัมภาษณ์ผู้คนบางส่วน
(อันนี้ไม่ขอแปลนะครับเพราะเนื้อหาค่อนข้างจะส่อไปทางเหยียดผิวพอสมควร)
ในระยะเวลา 6 วันนี้จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อโลกของเรา
แต่จะไม่มีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์เท่านั้นเอง
โดยได้รับการยืนยันจากเอิร์ล โกดอยนักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซ่าอีกที
" แสงสว่างเพียงน้อยนิดนั้นจะไม่ส่งผลใดๆต่อโลก "
ที่มาของข้อมูลนี้มาจาก http://goo.gl/q6HAz7
ส่วนข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ http://goo.gl/dlrWDD
สดร.ชี้ข่าวลวง “โลกมืดไป 6 วันจากนาซา” แค่ข่าวจากเว็บลวง
แจงข้อเท็จจริงพายุสุริยะไม่ก่อให้เกิดฝุ่นและขยะอวกาศไม่สามารถบดบังโลก
วอนประชาชนบริโภคข่าวสารอย่างมีวิจารณญาณ
นายมติพล ตั้งมติธรรม เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เปิดเผยว่า
ข่าวลวงดังกล่าวเผยแพร่มาจาก "สำนักข่าว" huzlers
แท้จริงแล้ว huzlers ไม่ใช่สำนักข่าวจริงๆ
แต่เป็นสำนักข่าวที่เขียนข่าวขำขัน
เขียนเรื่องสร้างความตื่นตระหนกให้คนตกใจเล่น ๆ
แม้กระทั่งตัวเพจเองก็เขียนเอาไว้ด้านล่างว่า
"เว็บไซต์ Huzlers.com เป็นเว็บที่ผสมระหว่างข่าวจริง
และเสียดสีที่น่าตื่นเต้นเพื่อสร้างความบันเทิงและน่าทึ่งให้กับผู้ชม"
(Huzlers.com is a combination of real shocking news
and satirical entertainment to keep its visitors in a state of disbelief.)
เพิ่มเติม ทาง www. ต้องการให้คนลงทะเบียนและสมัครเป็นนักเขียน
โดยขอคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีพรสรรค์ในการเขียน
เพื่อร่วมงานใน www. ดังกล่าวด้วย
หมายเหตุ แบบ Column ผู้จัดกวน ของ นสพ.ผู้จัดการ
นายมติพลระบุถึงข่าวลวงโลกที่อ้างว่า วันที่ 16-22 ธันวาคม เป็นเวลารวม 3 วัน
โลกจะตกอยู่ในความมืดสนิท เพราะพายุสุริยะจะทำให้เกิดฝุ่นและขยะอวกาศ
มาบดบังจนโลกอยู่ในความมืดสนิท ซึ่งเขาชี้ว่า “ไม่เป็นความจริง"
" เนื่องจากพายุสุริยะไม่ได้ทำให้เกิดฝุ่นหรืออะไรทั้งนั้น
แล้วก็ไม่ได้ทำให้เกิดแผ่นดินไหวด้วย อย่างมากพายุสุริยะก็จะทำให้ดาวเทียมใช้งานไม่ได้
แล้วก็อาจจะทำให้เห็นออโรราสวยๆ ในประเทศแถบขั้วโลกเท่านั้น
และไม่เป็นความจริงที่ฝุ่นและขยะอวกาศจะมาบดบังโลกให้อยู่ในความมืดสนิท
เนื่องจากขยะอวกาศจะบดบังโลกให้อยู่ในความมืดสนิทได้นั้น
ต้องมีขยะอวกาศมากกว่าดาวเทียมที่มีอยู่ทั้งหมดนี้หลายเท่า
และถ้าเป็นเช่นนั้นดาวเทียมเราทุกดวงคงร่วงไปหมดแล้ว"
เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สดร.อธิบาย
มติพลอธิบายต่อว่า ฝุ่นสามารถบดบังแสงอาทิตย์ได้
แต่เกิดขึ้นได้เฉพาะในชั้นบรรยากาศ เช่น
กรณีที่ภูเขาไฟลูกใหญ่ หรืออุกกาบาตขนาดมหึมา
ทำให้ฝุ่นกระจายไปในชั้นบรรยากาศ
ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์สูญพันธุ์ของไดโนเสาร์
แต่แม้กระนั้นก็ไม่ได้อยู่ในความมืดสนิทอย่างที่กล่าวอ้างในข่าว
"ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อสังคมออนไลน์
ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว
บางครั้งอาจไม่ใช่ข้อเท็จจริง ต้นตอข่าวลือต่างๆ ไม่ได้มาจากไหน
แต่วนเวียนอยู่ในโลกไซเบอร์ที่มีทั้งเรื่องจริง
และเรื่องที่ต้องอาศัยวิจารณญาณในการรับรู้
จึงขอให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ
ศึกษาข้อมูลและความเป็นไปได้ด้วยเหตุและผล
ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาอ้างอิง
และควรระมัดระวังในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้วย" นายมติพลกล่าว
ทั้งนี้ ก่อนนี้มีนักวิทยาศาสตร์จากฝรั่งเศสค้นพบ
รูปแบบสนามแม่เหล็กที่เกิดขึ้นก่อนปรากฏการณ์พายุสุริยะ
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพยากรณ์การปลดปล่อยอนุภาครังสี
จากดวงอาทิตย์ที่เป็นอันตรายต่อดาวเทียมสื่อสารและมนุษย์อวกาศในวงโคจร
แต่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเนื่องจากมีสนามแม่เหล็กโลกช่วยปกป้อง
ทว่าหากพายุสุริยะมีความรุนแรงมากพอ
ก็อาจส่งผลเสียต่อระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าบนโลกเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
การพยากรณ์ปรากฏการณ์ได้ล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ
จะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/q6HAz7
http://goo.gl/dlrWDD