หงส์แดงลิเวอร์พูลรองแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้วยังทำผลงานได้ทรมานหัวใจแฟนๆเช่นเคย ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2014 เป็นต้นมา ลิเวอร์พูลยังหาฟอร์มเก่งของฤดูกาลที่แล้วไม่เจอ มีเพียงไม่กี่นัดที่พวกเขาสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ขาดลอยและประทับใจกองเชียร์ เช่นนัดที่เอาชนะทอตแนม ฮอตสเปอร์ ไปได้ 3-0
นัดนี้ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับการมาเยือนของ สวอนซี ซิตี้ ทีมเจ้าบ้านได้มีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นจากนัดที่ก่อนหน้านี้หลายคน โดยให้โอกาสตัวสำรองและนักเตะที่ซื้อเข้ามาใหม่ได้มีโอกาสลงสนาม นัดนี้ บอรินี่, แลมเบิร์ต, มาโควิช ได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่
เริ่มเกมส์มาเป็นหงส์แดงเจ้าบ้านที่ทำผลงานได้ดีกว่าและมีโอกาสทำประตูหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ จบครึ่งแรกเสมกันที่ 0 - 0
เริ่มครึ่งหลังเป็นทีมเยือนสวอนซีที่เริ่มทำผลงานได้ดี และได้ประตูขึ้นนำจาก เอ็มเนส ในนาทีที่ 66 หลังจากเสียประตู ลิเวอร์พูลต้องบุกมากขึ้นเพื่อทำประตูตีเสมอ ในช่วงสิบนาทีสุดท้ายก่อนทดเวลาบาดเจ็บ มาริโอ บาโลเตลลี่ ถูกส่งตัวลงสนามแทนแลมเบิร์ต และแล้วเขาก็ทำประตูตีเสมอได้ในนาทที่ 87 เกมส์นี้เหมือนจะมีการต่อเวลาพิเศษ แต่ในจังหวะสุดท้ายก่อนหมดเวลาในช่วงทดเจ็บก็มีประตูชัยของเจ้าบ้านลิเวอร์พูลเกิดขึ้นเมื่อคูตินโญ่โยนบอลยาวมาจากริมเส้นด้านซ้ายไปทางเสาไกลเทรมเมลออกมาพลาด บอลลอยไปถึงลอฟเรนเลยโขกตกลงพื้นเข้าประตูไป ทำให้พวกเขาผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป

หงส์แดงลิเวอร์พูลยังทำผลงานได้สม่ำเสมอ คือแข่งนัดไหนกองเชียร์ต้องลุ้นจนวินาทีสุดท้ายทุกนัด ฟอร์มการเล่นเกมส์บุกสุดโหดดังเช่นที่ทำได้ในฤดูกาลที่แล้วยังหาไม่เจอ อาจจะเป็นเพราะการสูญเสียสุดยอดดาวยิงของทีม "หลุยส์ ซัวเรส" ไปให้กับบาเซโลน่า และการบาดเจ็บของกองหน้าตัวหลัก "แดเนียล สเตอร์ริด" ทำให้เกมส์รุกขาดความน่ากลัวลงไปเยอะ อีกทั้งนักเตะใหม่ๆที่ซื้อเข้ามาส่วนใหญ่ยังทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจ ทั้ง มาร์โควิชและแลมเบิร์ตยังทำผลงานได้ไม่ดี ขณะที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ ประตูได้น้อยกว่าที่ทุกคนตั้งความหวังกันไว้

ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ลิเวอร์พูลจะสามารถกลับมาเป็นเครื่องจักรสังหารไล่ถล่มประตูคู่แข่งได้อีกครั้ง รู้แค่ว่าตอนนี้หงส์แดงเจอใครกองเชียร์ก็ได้ลุ้นเหนื่อยทุกนัดแน่นอน
หงส์แดงแซงทางโค้ง แคปปิตอลวัน คัพ อังกฤษลิเวอร์พูล 2-1 สวอนซี ซิตี้
นัดนี้ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับการมาเยือนของ สวอนซี ซิตี้ ทีมเจ้าบ้านได้มีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นจากนัดที่ก่อนหน้านี้หลายคน โดยให้โอกาสตัวสำรองและนักเตะที่ซื้อเข้ามาใหม่ได้มีโอกาสลงสนาม นัดนี้ บอรินี่, แลมเบิร์ต, มาโควิช ได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่
เริ่มเกมส์มาเป็นหงส์แดงเจ้าบ้านที่ทำผลงานได้ดีกว่าและมีโอกาสทำประตูหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ จบครึ่งแรกเสมกันที่ 0 - 0
เริ่มครึ่งหลังเป็นทีมเยือนสวอนซีที่เริ่มทำผลงานได้ดี และได้ประตูขึ้นนำจาก เอ็มเนส ในนาทีที่ 66 หลังจากเสียประตู ลิเวอร์พูลต้องบุกมากขึ้นเพื่อทำประตูตีเสมอ ในช่วงสิบนาทีสุดท้ายก่อนทดเวลาบาดเจ็บ มาริโอ บาโลเตลลี่ ถูกส่งตัวลงสนามแทนแลมเบิร์ต และแล้วเขาก็ทำประตูตีเสมอได้ในนาทที่ 87 เกมส์นี้เหมือนจะมีการต่อเวลาพิเศษ แต่ในจังหวะสุดท้ายก่อนหมดเวลาในช่วงทดเจ็บก็มีประตูชัยของเจ้าบ้านลิเวอร์พูลเกิดขึ้นเมื่อคูตินโญ่โยนบอลยาวมาจากริมเส้นด้านซ้ายไปทางเสาไกลเทรมเมลออกมาพลาด บอลลอยไปถึงลอฟเรนเลยโขกตกลงพื้นเข้าประตูไป ทำให้พวกเขาผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป
หงส์แดงลิเวอร์พูลยังทำผลงานได้สม่ำเสมอ คือแข่งนัดไหนกองเชียร์ต้องลุ้นจนวินาทีสุดท้ายทุกนัด ฟอร์มการเล่นเกมส์บุกสุดโหดดังเช่นที่ทำได้ในฤดูกาลที่แล้วยังหาไม่เจอ อาจจะเป็นเพราะการสูญเสียสุดยอดดาวยิงของทีม "หลุยส์ ซัวเรส" ไปให้กับบาเซโลน่า และการบาดเจ็บของกองหน้าตัวหลัก "แดเนียล สเตอร์ริด" ทำให้เกมส์รุกขาดความน่ากลัวลงไปเยอะ อีกทั้งนักเตะใหม่ๆที่ซื้อเข้ามาส่วนใหญ่ยังทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจ ทั้ง มาร์โควิชและแลมเบิร์ตยังทำผลงานได้ไม่ดี ขณะที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ ประตูได้น้อยกว่าที่ทุกคนตั้งความหวังกันไว้
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ลิเวอร์พูลจะสามารถกลับมาเป็นเครื่องจักรสังหารไล่ถล่มประตูคู่แข่งได้อีกครั้ง รู้แค่ว่าตอนนี้หงส์แดงเจอใครกองเชียร์ก็ได้ลุ้นเหนื่อยทุกนัดแน่นอน