เดอะ วินเทจ โฮเต็ล เขาใหญ่ (The Vintage Hotel Khaoyai) - กระทู้นี้ เป็นกระทู้รีวิว ครั้งแรก ของเราค่ะ ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ. ที่นี้ด้วยนะค่ะ เนื่องด้วยก่อนจะไปเที่ยวเขาใหญ่ เราพยายามหา รีวิว โรงแรม เดอะ วินเทจ โฮเต็ล เขาใหญ่ ( The Vintage Hotel Khaoyai ) แต่เจอน้อยมาก เลยคิดว่าเราน่าจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ทุกคน ได้เห็นหลายๆ มุมของโรงแรมก่อนที่จะตัดสินใจเลือกกันค่ะ สำหรับทริปนี้เราไปเป็นครอบครัวมีเด็กเล็ก เน้นไปเที่ยวแบบเบาๆ ไม่ได้ต้องเดินทางหลายที่เยอะ จึงขอเที่ยวสถานที่แค่เลียบถนน ธนะรัตน์ พอค่ะ และเราพักกันที่ เดอะ วินเทจ โฮเต็ล งั้น เราเริ่มเดินทางกันเลยดีกว่าค่ะ โดยตามแผนที่คิดไว้ก่อนไปตามรายละเอียดด้านล่างเลย (หึๆ อย่างว่าค่ะเป็นแค่แผนค่ะ โลกความจริง ก็เป็นอีกแบบค่ะ)
Day 1
7.00 ออกจากบ้าน
9.00 – 10.00 ทานมื้อเช้า - แวะตลาดน้ำ ทุ่งบัวชม
11.00 – 12.00 เที่ยวชม Sheep land (กม.4)
12.00 – 13.00 มื้อกลางวัน ครัวเขาใหญ่(กม.13)
14.00 – 15.00 Check in เข้าที่พัก โรงแรม เดอะ วินเทจ โฮเต็ล เขาใหญ่ ( The Vintage Hotel Khao Yai ) (กม.14)
15.00 – 17.00 เที่ยวชม Palio (กม. 17) , น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้างหรือน้ำผุดปากช่อง(กม.15 – 16)
17.00 - 18.00 มื้อเย็น ร้านอาหารครัวหญ้าคา(กม.21)
19.00 พักผ่อนตามอัธยาศัย
Day 2
9.00 – 10.00 มื้อเช้า ทานอาหารเช้าที่โรงแรม
11.00 – 12.00 Check out ออกจากโรงแรม The Vintage Hotel Khao Yai (กม.14)
13.00 – 14.00 มื้อกลางวัน ร้านอ้วนหมูหัน ธนะรัชต์ (กม.4)
14.00 – 15.00 กลับสู่กรุงเทพฯ
หมายเหตุ ร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยว สถานที่พัก เป้าหมายอยู่ริมถนนธนะรัชต์ เริ่มตั้งแต่ทางเข้าถนน ได้แก่
1. ร้านอ้วนหมูหัน ธนะรัชต์ (กม.4)
2. Sheep land (กม.4)
3. ครัวเขาใหญ่(กม.13)
4. The Vintage Hotel Khao Yai (กม.14)
5. น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้างหรือน้ำผุดปากช่อง(กม.15 – 16)
6. Palio (กม. 17)
7. ร้านอาหารครัวหญ้าคา(กม.21)
เหอๆ ด้วยความที่เป็นคนสับสน มีปัญหา เรื่องเส้นทางมาก จึงมีการระบุ กม. เป็นระยะๆ ค่ะ มีแผนที่โรงแรมด้วยค่ะตามด้านล่างเลย
ที่แรก
Sheep land ราคาเข้าชมคนละ 50 บาทค่ะ จำนวนแกะน้อยไม่เยอะอย่างที่คิดเลยค่ะ แต่แกะแลดูหิวโหยมาก กระโจนกันเข้ามา จนหลานเรากลัวสุดๆ เลย เหอๆ สังเกตุ ดูจากรูปและท่าของหลานเรานะ ฮ่าๆ

และถ่ายรูปชิลล์ ให้กับย่าหลานและน้องชาย

ไปกันต่อเลยดีกว่า เริ่ม หิวแล้ว มื้อกลางวัน ต้องไปทานที่ ครัวเขาใหญ่ ฮ่าๆ แต่แผนการไม่ได้เป็นอย่างที่คิดอีกแล้ว ไปถึงเที่ยงกว่า คนเยอะแน่นเต็มร้านครัวเขาใหญ่มากอ่ะ แม่เรารับไม่ได้ รอไม่ได้ เพราะ อารมณ์ว่าหิวมากไม่อยากรอ เลยจัดแผนสอง
ร้านครัวหญ้าคา ไปกันเลยดีกว่า ซึ่งค่อนข้างลึกและไกลพอสมควร จาก Sheep land กม. 4 ต้องไปควรหญ้าคา กม.21 แต่หิวแล้วจัดไปอย่างไรก้อยังอยู่เลียบ ถ.ธนะรัตน์ ตามแผนวางไว้ค่ะ เมื่อถึงร้านแทบ ช๊อก รถบัส สองชั้น คันใหญ่ 3-4 คัน จอดเรียงกัน โอวววแม่เจ้า เต็มอีกไหมเนี่ยะ เลยลองเข้าไปสังเกตการณ์ดูปรากฎว่ากำลังเคลียร์ ทัวร์ ออกจากร้านพอดี เราเข้าไปนั่งในร้านโล่งเลยค่ะ คนน้อย โล่งสบาย ไม่อึดอัด สมใจแม่เราแหล่ะ มาดูเมนูอาหารกันค่ะ สั่งมา 4 อย่าง 3 คน พูดเลยค่ะ ว่า จุก อาหารอร่อยใช้ได้ค่ะ

มาดูจานแรก ค่ะ ปลาทับทิมทอดสมุนไพร รสชาติเหมือนเมี่ยงปลา ดีค่ะ รสชาติ กลมกล่อม ปลาตัวใหญ่ดีค่ะ เมนูนี้สำหรับคนรักสุขภาพค่ะ
จานนี้ทานไม่หมด ทานได้ซีกเดียวเองอิ่มจุกค่ะ เลยขออนุญาตห่อกลับไปทานต่อที่โรงแรม นะ เสียดายไม่อยากทิ้งอ่า

จานที่สอง เห็ดออรินจิผัดกุ้ง จานกลางไม่เล็กไม่ใหญ่ค่ะ อร่อยดีกลมกล่อมค่ะ

จานที่สาม ส้มตำไทยปู ค๊าาา อันนี้คุณแม่ ขอร้อง อยากทานมากค๊าา เกือบถ่ายรูปไม่ทัน ภาพด้านล่างคุณแม่ทานขนมจีนกะ ไข่เค็มไปบ้างแล้ว ฮ่ะๆ

จานที่สี่ ต้มยำปลาคัง ไว้สำหรับ ซดน้ำซุปร้อน ๆ รสชาติจัดจ้าน แซ่บหลาย ค๊าา แบบว่าทานคู่กับข้าวสวย ขอบอกว่า อร่อยมั่ก และหม้อใหญ่มาก เนื้อปลาเยอะ มาก ทานไม่หมด อีกเหมือนกัน แต่ไม่กล้าห่อแล้วเพราะอาย เหลือเนื้อปลา แค่ 3-4 ชิ้น เอง อิๆๆ และสั่งข้าวมา 1 โถ ก้อไม่หมดเหมือนกันห่อค่ะ สรุปวันนั้น ได้ปลาทับทิมสมุนไพรกับข้าวสวยไปทานต่อมื้อเย็น ฮ่าๆๆ

อิ่มเรียบร้อยค่ะ มาดูราคากัน เบ็ดเสร็จ ราคา อยู่ที่ 770 บาทค่ะ

ขอบอกว่าอิ่มแปร๋ มากค่ะ แต่ก่อนจะเข้าโรงแรม เพื่อพักผ่อนกายา ขอแอบแวะ น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้างหรือน้ำผุดปากช่อง(กม.15 – 16)
อีกนิดนึงนะค่ะ บังเอิญผ่านก่อนถึงโรงแรมค่ะ คนเยอะ ค่ะ น้องๆ สวนสยามเลยค่ะ ไม่ได้เล่นน้ำกันค่ะ แค่เดินเล่น ชมวิว เสพบรรยากาศกันเพลินๆ
เจอป้ายหน้าทางเข้าค่ะ เดินผ่านเข้าไปเดว มีคนมาแอบถ่ายรูปเราด้วยน๊ะ ฮ่าๆ

ผ่านทางเข้าไป เจอ ผู้คนเจี๊ยวจ๊าวมากมายค่ะ แต่ถ้าคนน้อยกว่านี้ น่าจะบรรยากาศดี ออกแนวธรรมชาติ ร่มรื่นดี นะค่ะ เดินสักพัก ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกสักหน่อย

ขากลับได้กรอบรูปมา 3 อัน เหอๆ ไม่มีของเราเลย แต่เราจ่ายตังค์อ่ะ แต่ก้อดีนะ เพราะ เขาบอกเอาเงินไปช่วยเด็กด้วยนะ

เดินเที่ยวย่อยอาหารเรียร้อยแล้ว ได้เวลา เข้าโรงแรม เพื่อพักผ่อนกัน ขับรถย้อนกลับมาที่ กม.14 เราสังเกตุจากร้านกล้วยทอดสุโขทัย เพราะ เราขับมาจากเขาใหญ่ ขอบอกอย่างหนึ่งว่า รูปโรงแรม ใน Agoda สีสันสุดใสมาก ทำให้รู้สึกว่าโรงแรมน่าจะเด่นอ่ะ แต่เราขับเกือบเลย เพราะ ป้ายโรงแรม เป็นแบบป้ายใหญ่พื้นหลังขาว ไม่เน้นข้อความชื่อโรงแรมเท่าไร ไม่ค่อยสะดุดตานะ งั้นจับตามข้างทางระหว่างขับรถให้ดีระหว่างเลยโรงแรมล่ะ ใช้จุดสังเกตุ ตามแผนที่ได้เลยนะ

ถ้ามาจากฝั่งที่กำลังจะไปเขาใหญ่ เห็นป้ายโรงแรมให้เข้าช่อง ประตูที่สองนะค่ะ เพราะ ประตูแรก ต้องอ้อมวนกว่าจะเจอฝ่ายต้อนรับ ดังนั้นให้เข้าประตูทางเข้าที่สอง ฝั่งทางเข้าที่ใกล้กับป้าย ชื่อ โรงแรมค่ะ พอเลี้ยวเข้าไป เจอตึก แลซ้าย จะ เจอฝ่ายต้อนรับแอบๆ กันอยู่ใต้ตึกค่ะ พยายามหานิดนึงค่ะ หลังจาก check in พนักงานจะขับรถกอลฟ์ และให้เขาขับรถตาม เพื่อนำรถมาจอดหน้าบ้านได้เลยค่ะ และค่อยขนของเข้าบ้าน

เราว่าที่นี่ดีนะ ไม่ค่อยจุกจิกจู้จี๋ คอยจับว่ามากี่คนเท่าไร check in เสร็จก็จบ ตามอัธยาศัย ได้ เลย ไม่เรื่องมากอ่ะ มาม๊ะ ดูทางเข้าบ้านกัน นี่หน้าบ้านอ่ะ โทษทีมือสั่นอ่ะ

เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเจอเตียง กะ บันไดเดินขึ้นชั้นลอย แลขวาเจอทีวี กะตู้ใส่ของ อยุ่ปลายเตียง

ไปดูห้องน้ำกันต่อจ๊ะ เราว่าเค้าก็จัดเป็นสัดส่วนดีนะ แยกพื้นที่เปียกกับแห้ง

ปีนขึ้นไปดูชั้นลอยกัน ไม่ค่อยชัดนะ เพราะ ถ่ายรูปลำบากอ่ะ ต้องปีนและต้องจับบันไดไว้ แล้วค่อยถ่าย แต่อยากบอกว่าบริเวณชั้นลอยพื้นที่ กว้างใช้ได้เลย ถ้ามากับเพื่อนคงขึ้นไปเล่นไพ่ กันมันส์ ไปเลย อ่ะ หรือ แอบ นอน เพิ่มได้ อีกหลายคนอ่ะ

ถ่ายจากชั้นลอย ลงมาดูบรรยากาศรอบห้องด้านล่างจ๊ะ บันไดออกแนวสูงชันนะ เสี่ยงต่อการถ่ายรูปมาก

มาออกเดินไปดูบรรยากาศข้างนอกกันหน่อยดีกว่า เนอะ

เปิดประตูออกไปเจอ หว๋าาา แย่แหล่ะ ฝนตกอะ หลัง 3 โมงเย็นถึง 6 โมงเย็นเลยต้องเก็บตัวอยู่ในห้องกันหมดจ้า แต่ฝนตกปรอยๆๆ นะ เราไปปลายเดือนตุลาคม 2557 ไม่ได้ปลายฝน ต้นหนาว เลย เจอแต่ฝนอย่างเดว โชคดีที่ก่อนฝนตกเราไปเที่ยวตามแผนหมดแล้ว สำหรับ DAY 1 เลยจบด้วยการนอนติดฝนอยุ่ที่ห้องค่ะ
มาลุย DAY 2 กันต่อดีกว่า ค่ะ พยายามตืนแต่เช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าค่ะ โชคดีค่ะวันนี้อากาศปรอดโปร่ง ไม่มีแววฝนค่ะ เปิดประตูออกจากห้องเจอน้องทาก ค่ะ ธรรมชาติจริงๆ

ออกมาเดินชมบริเวณรอบบ้านกันดีกว่าค่ะ จะเห็นว่ามีถนนสายยาว รอบๆ บริเวณ โรงแรมค่ะ เพื่อให้สามารถเดินทางเข้าสู่บ้านพักได้ทุกหลัง เพราะ โรงแรมค่อนข้างกว้างและ มีที่พักอยู่หลายแบบในแต่ละโซนค่ะ ถ้าเดินคงเหนื่อยโฮกค่ะ

เดินตามถนนไปด้านหน้าไปถึงตึกฝ่ายต้อนรับค่ะ เจอห้องรับประทานอาหารเช้า เนื่องจากเช้ามากค่ะ ยังไม่มีใครมาเลย เก็บภาพมาให้ชมกันค่ะ

เดินย้อนเข้ามาเจอลานจอดรถจักรยาน ให้ลูกค้าสามารถไปยืมกุญแจง มาปั่นเล่นรอบโรงแรมได้ค่ะ วันแรกที่เรามาเจอจักรยานเต็มลานจอดเลยค่ะตอนนี้เหลือ 2 คัน เดินไปถามฝ่ายต้อนรับบอกว่า กุญแจ ลูกค้านำไปหมดแล้ว ที่จอดไว้คงเป็นลูกค้าเอามาจอดพักเฉยๆ แต่ยังไม่มีใครมาคืนกุญแจ ดังนั้นเราจึงแห้ว อดปั่นจักรยานเลย จักรยานที่นี่ดูแข็งแรงดีนะค่ะ บรรยากาศรอบโรงแรมดี อากาศสดชื่น เหมาะกับการสูดอากาศให้เต็มปอด พร้อมกับการปั่นจักรยานออกกำลังกายค่ะ ถ้าเพื่อน มีโอกาสหลัง check in อย่าลืมจับจองจักรยานไว้ปั่นตอนเช้ากันนะค่ะ

ต่อไปเรามาลุยขึ้นไปดูบรรยากาศห้องบ้านพักนนชั้น 2 ของตึกกันดีกว่าค่ะ ขึ้นบันไดมาก็เจอสระว่ายน้ำแรกเลยค่ะ ที่นี่จะมี 2 สระว่าย ห้องบ้านพักสำหรับบริเวณนี้เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขา และเสพบรรยากาศมุมสูงค่ะ

มาเดินชมบ้านแต่ละแบบกันเลยดีกว่าค่ะ ออกแบบแนวธรรมชาติสุดคะ ต้นไม้นัวเนียเต็มบ้านเลยค่ะ
[CR] รีวิว เดอะ วินเทจ โฮเต็ล เขาใหญ่ (The Vintage Hotel Khaoyai) , 2 วัน 1 คืน พาหลานเที่ยวเลียบ ถ.ธนะรัตน์ เขาใหญ่
Day 1
7.00 ออกจากบ้าน
9.00 – 10.00 ทานมื้อเช้า - แวะตลาดน้ำ ทุ่งบัวชม
11.00 – 12.00 เที่ยวชม Sheep land (กม.4)
12.00 – 13.00 มื้อกลางวัน ครัวเขาใหญ่(กม.13)
14.00 – 15.00 Check in เข้าที่พัก โรงแรม เดอะ วินเทจ โฮเต็ล เขาใหญ่ ( The Vintage Hotel Khao Yai ) (กม.14)
15.00 – 17.00 เที่ยวชม Palio (กม. 17) , น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้างหรือน้ำผุดปากช่อง(กม.15 – 16)
17.00 - 18.00 มื้อเย็น ร้านอาหารครัวหญ้าคา(กม.21)
19.00 พักผ่อนตามอัธยาศัย
Day 2
9.00 – 10.00 มื้อเช้า ทานอาหารเช้าที่โรงแรม
11.00 – 12.00 Check out ออกจากโรงแรม The Vintage Hotel Khao Yai (กม.14)
13.00 – 14.00 มื้อกลางวัน ร้านอ้วนหมูหัน ธนะรัชต์ (กม.4)
14.00 – 15.00 กลับสู่กรุงเทพฯ
หมายเหตุ ร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยว สถานที่พัก เป้าหมายอยู่ริมถนนธนะรัชต์ เริ่มตั้งแต่ทางเข้าถนน ได้แก่
1. ร้านอ้วนหมูหัน ธนะรัชต์ (กม.4)
2. Sheep land (กม.4)
3. ครัวเขาใหญ่(กม.13)
4. The Vintage Hotel Khao Yai (กม.14)
5. น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้างหรือน้ำผุดปากช่อง(กม.15 – 16)
6. Palio (กม. 17)
7. ร้านอาหารครัวหญ้าคา(กม.21)
เหอๆ ด้วยความที่เป็นคนสับสน มีปัญหา เรื่องเส้นทางมาก จึงมีการระบุ กม. เป็นระยะๆ ค่ะ มีแผนที่โรงแรมด้วยค่ะตามด้านล่างเลย
ที่แรก Sheep land ราคาเข้าชมคนละ 50 บาทค่ะ จำนวนแกะน้อยไม่เยอะอย่างที่คิดเลยค่ะ แต่แกะแลดูหิวโหยมาก กระโจนกันเข้ามา จนหลานเรากลัวสุดๆ เลย เหอๆ สังเกตุ ดูจากรูปและท่าของหลานเรานะ ฮ่าๆ
และถ่ายรูปชิลล์ ให้กับย่าหลานและน้องชาย
ไปกันต่อเลยดีกว่า เริ่ม หิวแล้ว มื้อกลางวัน ต้องไปทานที่ ครัวเขาใหญ่ ฮ่าๆ แต่แผนการไม่ได้เป็นอย่างที่คิดอีกแล้ว ไปถึงเที่ยงกว่า คนเยอะแน่นเต็มร้านครัวเขาใหญ่มากอ่ะ แม่เรารับไม่ได้ รอไม่ได้ เพราะ อารมณ์ว่าหิวมากไม่อยากรอ เลยจัดแผนสอง
ร้านครัวหญ้าคา ไปกันเลยดีกว่า ซึ่งค่อนข้างลึกและไกลพอสมควร จาก Sheep land กม. 4 ต้องไปควรหญ้าคา กม.21 แต่หิวแล้วจัดไปอย่างไรก้อยังอยู่เลียบ ถ.ธนะรัตน์ ตามแผนวางไว้ค่ะ เมื่อถึงร้านแทบ ช๊อก รถบัส สองชั้น คันใหญ่ 3-4 คัน จอดเรียงกัน โอวววแม่เจ้า เต็มอีกไหมเนี่ยะ เลยลองเข้าไปสังเกตการณ์ดูปรากฎว่ากำลังเคลียร์ ทัวร์ ออกจากร้านพอดี เราเข้าไปนั่งในร้านโล่งเลยค่ะ คนน้อย โล่งสบาย ไม่อึดอัด สมใจแม่เราแหล่ะ มาดูเมนูอาหารกันค่ะ สั่งมา 4 อย่าง 3 คน พูดเลยค่ะ ว่า จุก อาหารอร่อยใช้ได้ค่ะ
มาดูจานแรก ค่ะ ปลาทับทิมทอดสมุนไพร รสชาติเหมือนเมี่ยงปลา ดีค่ะ รสชาติ กลมกล่อม ปลาตัวใหญ่ดีค่ะ เมนูนี้สำหรับคนรักสุขภาพค่ะ
จานนี้ทานไม่หมด ทานได้ซีกเดียวเองอิ่มจุกค่ะ เลยขออนุญาตห่อกลับไปทานต่อที่โรงแรม นะ เสียดายไม่อยากทิ้งอ่า
จานที่สอง เห็ดออรินจิผัดกุ้ง จานกลางไม่เล็กไม่ใหญ่ค่ะ อร่อยดีกลมกล่อมค่ะ
จานที่สาม ส้มตำไทยปู ค๊าาา อันนี้คุณแม่ ขอร้อง อยากทานมากค๊าา เกือบถ่ายรูปไม่ทัน ภาพด้านล่างคุณแม่ทานขนมจีนกะ ไข่เค็มไปบ้างแล้ว ฮ่ะๆ
จานที่สี่ ต้มยำปลาคัง ไว้สำหรับ ซดน้ำซุปร้อน ๆ รสชาติจัดจ้าน แซ่บหลาย ค๊าา แบบว่าทานคู่กับข้าวสวย ขอบอกว่า อร่อยมั่ก และหม้อใหญ่มาก เนื้อปลาเยอะ มาก ทานไม่หมด อีกเหมือนกัน แต่ไม่กล้าห่อแล้วเพราะอาย เหลือเนื้อปลา แค่ 3-4 ชิ้น เอง อิๆๆ และสั่งข้าวมา 1 โถ ก้อไม่หมดเหมือนกันห่อค่ะ สรุปวันนั้น ได้ปลาทับทิมสมุนไพรกับข้าวสวยไปทานต่อมื้อเย็น ฮ่าๆๆ
อิ่มเรียบร้อยค่ะ มาดูราคากัน เบ็ดเสร็จ ราคา อยู่ที่ 770 บาทค่ะ
ขอบอกว่าอิ่มแปร๋ มากค่ะ แต่ก่อนจะเข้าโรงแรม เพื่อพักผ่อนกายา ขอแอบแวะ น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้างหรือน้ำผุดปากช่อง(กม.15 – 16)
อีกนิดนึงนะค่ะ บังเอิญผ่านก่อนถึงโรงแรมค่ะ คนเยอะ ค่ะ น้องๆ สวนสยามเลยค่ะ ไม่ได้เล่นน้ำกันค่ะ แค่เดินเล่น ชมวิว เสพบรรยากาศกันเพลินๆ
เจอป้ายหน้าทางเข้าค่ะ เดินผ่านเข้าไปเดว มีคนมาแอบถ่ายรูปเราด้วยน๊ะ ฮ่าๆ
ผ่านทางเข้าไป เจอ ผู้คนเจี๊ยวจ๊าวมากมายค่ะ แต่ถ้าคนน้อยกว่านี้ น่าจะบรรยากาศดี ออกแนวธรรมชาติ ร่มรื่นดี นะค่ะ เดินสักพัก ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกสักหน่อย
ขากลับได้กรอบรูปมา 3 อัน เหอๆ ไม่มีของเราเลย แต่เราจ่ายตังค์อ่ะ แต่ก้อดีนะ เพราะ เขาบอกเอาเงินไปช่วยเด็กด้วยนะ
เดินเที่ยวย่อยอาหารเรียร้อยแล้ว ได้เวลา เข้าโรงแรม เพื่อพักผ่อนกัน ขับรถย้อนกลับมาที่ กม.14 เราสังเกตุจากร้านกล้วยทอดสุโขทัย เพราะ เราขับมาจากเขาใหญ่ ขอบอกอย่างหนึ่งว่า รูปโรงแรม ใน Agoda สีสันสุดใสมาก ทำให้รู้สึกว่าโรงแรมน่าจะเด่นอ่ะ แต่เราขับเกือบเลย เพราะ ป้ายโรงแรม เป็นแบบป้ายใหญ่พื้นหลังขาว ไม่เน้นข้อความชื่อโรงแรมเท่าไร ไม่ค่อยสะดุดตานะ งั้นจับตามข้างทางระหว่างขับรถให้ดีระหว่างเลยโรงแรมล่ะ ใช้จุดสังเกตุ ตามแผนที่ได้เลยนะ
ถ้ามาจากฝั่งที่กำลังจะไปเขาใหญ่ เห็นป้ายโรงแรมให้เข้าช่อง ประตูที่สองนะค่ะ เพราะ ประตูแรก ต้องอ้อมวนกว่าจะเจอฝ่ายต้อนรับ ดังนั้นให้เข้าประตูทางเข้าที่สอง ฝั่งทางเข้าที่ใกล้กับป้าย ชื่อ โรงแรมค่ะ พอเลี้ยวเข้าไป เจอตึก แลซ้าย จะ เจอฝ่ายต้อนรับแอบๆ กันอยู่ใต้ตึกค่ะ พยายามหานิดนึงค่ะ หลังจาก check in พนักงานจะขับรถกอลฟ์ และให้เขาขับรถตาม เพื่อนำรถมาจอดหน้าบ้านได้เลยค่ะ และค่อยขนของเข้าบ้าน
เราว่าที่นี่ดีนะ ไม่ค่อยจุกจิกจู้จี๋ คอยจับว่ามากี่คนเท่าไร check in เสร็จก็จบ ตามอัธยาศัย ได้ เลย ไม่เรื่องมากอ่ะ มาม๊ะ ดูทางเข้าบ้านกัน นี่หน้าบ้านอ่ะ โทษทีมือสั่นอ่ะ
เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเจอเตียง กะ บันไดเดินขึ้นชั้นลอย แลขวาเจอทีวี กะตู้ใส่ของ อยุ่ปลายเตียง
ไปดูห้องน้ำกันต่อจ๊ะ เราว่าเค้าก็จัดเป็นสัดส่วนดีนะ แยกพื้นที่เปียกกับแห้ง
ปีนขึ้นไปดูชั้นลอยกัน ไม่ค่อยชัดนะ เพราะ ถ่ายรูปลำบากอ่ะ ต้องปีนและต้องจับบันไดไว้ แล้วค่อยถ่าย แต่อยากบอกว่าบริเวณชั้นลอยพื้นที่ กว้างใช้ได้เลย ถ้ามากับเพื่อนคงขึ้นไปเล่นไพ่ กันมันส์ ไปเลย อ่ะ หรือ แอบ นอน เพิ่มได้ อีกหลายคนอ่ะ
ถ่ายจากชั้นลอย ลงมาดูบรรยากาศรอบห้องด้านล่างจ๊ะ บันไดออกแนวสูงชันนะ เสี่ยงต่อการถ่ายรูปมาก
มาออกเดินไปดูบรรยากาศข้างนอกกันหน่อยดีกว่า เนอะ
เปิดประตูออกไปเจอ หว๋าาา แย่แหล่ะ ฝนตกอะ หลัง 3 โมงเย็นถึง 6 โมงเย็นเลยต้องเก็บตัวอยู่ในห้องกันหมดจ้า แต่ฝนตกปรอยๆๆ นะ เราไปปลายเดือนตุลาคม 2557 ไม่ได้ปลายฝน ต้นหนาว เลย เจอแต่ฝนอย่างเดว โชคดีที่ก่อนฝนตกเราไปเที่ยวตามแผนหมดแล้ว สำหรับ DAY 1 เลยจบด้วยการนอนติดฝนอยุ่ที่ห้องค่ะ
มาลุย DAY 2 กันต่อดีกว่า ค่ะ พยายามตืนแต่เช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าค่ะ โชคดีค่ะวันนี้อากาศปรอดโปร่ง ไม่มีแววฝนค่ะ เปิดประตูออกจากห้องเจอน้องทาก ค่ะ ธรรมชาติจริงๆ
ออกมาเดินชมบริเวณรอบบ้านกันดีกว่าค่ะ จะเห็นว่ามีถนนสายยาว รอบๆ บริเวณ โรงแรมค่ะ เพื่อให้สามารถเดินทางเข้าสู่บ้านพักได้ทุกหลัง เพราะ โรงแรมค่อนข้างกว้างและ มีที่พักอยู่หลายแบบในแต่ละโซนค่ะ ถ้าเดินคงเหนื่อยโฮกค่ะ
เดินตามถนนไปด้านหน้าไปถึงตึกฝ่ายต้อนรับค่ะ เจอห้องรับประทานอาหารเช้า เนื่องจากเช้ามากค่ะ ยังไม่มีใครมาเลย เก็บภาพมาให้ชมกันค่ะ
เดินย้อนเข้ามาเจอลานจอดรถจักรยาน ให้ลูกค้าสามารถไปยืมกุญแจง มาปั่นเล่นรอบโรงแรมได้ค่ะ วันแรกที่เรามาเจอจักรยานเต็มลานจอดเลยค่ะตอนนี้เหลือ 2 คัน เดินไปถามฝ่ายต้อนรับบอกว่า กุญแจ ลูกค้านำไปหมดแล้ว ที่จอดไว้คงเป็นลูกค้าเอามาจอดพักเฉยๆ แต่ยังไม่มีใครมาคืนกุญแจ ดังนั้นเราจึงแห้ว อดปั่นจักรยานเลย จักรยานที่นี่ดูแข็งแรงดีนะค่ะ บรรยากาศรอบโรงแรมดี อากาศสดชื่น เหมาะกับการสูดอากาศให้เต็มปอด พร้อมกับการปั่นจักรยานออกกำลังกายค่ะ ถ้าเพื่อน มีโอกาสหลัง check in อย่าลืมจับจองจักรยานไว้ปั่นตอนเช้ากันนะค่ะ
ต่อไปเรามาลุยขึ้นไปดูบรรยากาศห้องบ้านพักนนชั้น 2 ของตึกกันดีกว่าค่ะ ขึ้นบันไดมาก็เจอสระว่ายน้ำแรกเลยค่ะ ที่นี่จะมี 2 สระว่าย ห้องบ้านพักสำหรับบริเวณนี้เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขา และเสพบรรยากาศมุมสูงค่ะ
มาเดินชมบ้านแต่ละแบบกันเลยดีกว่าค่ะ ออกแบบแนวธรรมชาติสุดคะ ต้นไม้นัวเนียเต็มบ้านเลยค่ะ