สองสาว...แบกเป้...เที่ยวสมุย... 2 วัน 1 คืน งบ 5,400 บาท

เดินทางท่องเที่ยวมาก็เยอะแล้ว แต่ไม่เคยทำรีวิว จริงๆจังๆ สักครั้ง กระทู้นี้เป็นครั้งแรกที่เที่ยวบ้านเกิดของตัวเอง และประทับใจเกาะสมุยมากมายค่ะ เจี๊ยบเกิดที่ จ. สุราษฎร์ธานี แต่เชื่อมั้ย??? ตั้งแต่เด็กจนโตป่านนี้ ไม่เคยไปเกาะสมุย พูดแล้วน่าอายจริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่อยากไปนะ อยากมากกกกกกก แต่ยังไม่มีโอกาส ครั้งนี้ตัดสินใจลาพักร้อนยาว 2-5 สิงหาคม 2014 เพื่อเยี่ยมบ้านเกิดและเที่ยวทะเลไปในตัว คุ้มจริงๆ ^^

เริ่มจากบังคับเพื่อนรักที่สุราษฎร์ฯ ให้ลาพักร้อน โดยมีข้อเสนอว่า “เราจะไปปล่อยแก่กัน” เท่านั้นแหละ คนใจง่ายอย่างเราๆ ก็เริ่มแบ่งหน้าที่ทันที  โดยให้เพื่อนหาทริปดำน้ำและเทียบราคา ระหว่างเกาะเต่า-เกาะนางยวน และ หมู่เกาะอ่างทอง แต่สองสาวเห็นตรงกันว่าเราไปหมู่เกาะอ่างทองกันดีจะกว่า อยากไปดูทะเลใน ที่เกาะแม่เกาะกันทั้งคู่ ส่วนเจี๊ยบมีหน้าที่หาที่พักบนเกาะสมุย เลือกไปเลือกมาอยู่นาน ในที่สุดหวยก็ออกที่ The Room Chaweng ห้องซูพีเรีย รวมอาหารเช้าแบบคอนติเนนทัล ในราคา 1,560บาท/คืน สำหรับเราสองคน และก็จองเจ้าหางแดง บินเดี่ยวไป-กลับ จากดอนเมือง-สุราษฎร์ ทันที ได้ตั๋วโปรโมชั่นในราคา 1,573 บาท

เรามาร่วมเดินทางไปด้วยกันเลยนะคะ เย็นวันที่ 2 ส.ค. เดินทางจากออกจากกรุงเทพฯ และนอนค้างที่บ้าน 1 คืน เช้าวันที่ 3 ส.ค. นัดเพื่อนตี 4 และมีคุณหมอวิทย์ หนุ่มใหญ่ใจดี (พี่ชายเพื่อน) ขับรถไปส่งที่ท่ารถตู้ในตัวเมืองบ้านดอน เพื่อนสาวก็จัดแจงซื้อตั๋ว แต่ด้วยความที่รถตู้เที่ยวแรกจะออกตี 5 ครึ่ง กว่าจะไปถึงท่าเรือดอนสัก ใช้เวลาพอสมควร เราไม่ทันขึ้นเรือเฟอร์รี่แน่ๆเลย เพราะเรือออกเที่ยวแรก 6 โมงเช้า เราอยากไปเที่ยวแรก เพื่อที่จะได้ถึงเกาะสมุย 7 โมงเช้า และจะได้ไปดำน้ำทัน เดี๋ยวไกด์ไม่รอ เพื่อนสาวบอกว่างั้นเดี๋ยวขอคืนตั๋ว แล้วให้พี่ชายไปส่งที่ท่าเรือแทน น้องพนักงานก็ใจดีค่ะ ให้เราคืนตั๋วและคืนเงินให้ แล้วเราก็รีบกระโดดขึ้นรถกันต่อ.....

ขับรถประมาณ 45 นาที ก็ไปถึงท่าเรือดอนสัก ที่นี่จะมีบริการเรือเฟอร์รี่ระหว่าง ซีทรานเฟอร์รี่ และ ราชาเฟอร์รี่ เราเลือกใช้บริการได้ตามใจชอบนะคะ จากสนามบินสุราษฎร์ธานี มีเคาเตอร์บริการของทั้งสองเจ้า และจะติดราคาค่าโดยสารอย่างชัดเจน ทั้งแบบเที่ยวเดียว แลไปกลับ ซึ่งราคาจะรวมรถบัสปรับอากาศ รับ-ส่งจากสนามบิน และ ค่าตั๋วเรือ แต่เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วย.....





เหลือเวลาอีกประมาณ 10 นาที เรือจะออกแล้ว เรารีบกระโดดลงจากรถ รีบๆ ขอบคุณพี่หมอ เพื่อซื้อตั๋ว ซื้อเสดก็รีบวิ่งๆ ไปท่าเรือทันที ขอบอกว่าการบริหารจัดการ ตรงเวลาเป๊ะ เรือออกเวลาไหนเวลานั้น ไม่มีคอยนะคะ เดินเรือทุกๆ 1 ชั่วโมง มาไม่ทันคือ....รอออออออ อย่างเดียวค่ะ
1 ชม. ระหว่างการเดินทางไปเกาะ จัดไปอย่าได้เสีย เราเดินขึ้นไปดาดฟ้าเรือ เพื่อถ่ายรูป อาบแดดอุ่นๆ ยามเช้า ลืมเรื่องอื่นๆ ไปเลย ในหัวคิดแต่ว่าทริปนี้ฟินแน่ มีความสุขจัง









เราเดินไปที่รถตู้ของบริษัททัวร์ ซึ่งเค้ามารอรับเราอยู่ก่อนหน้าแล้ว อย่ารอช้า....ขึ้นรถกัน แล้วตรงดิ่งไปที่ท่าเรือเพื่อจะไปดำน้ำกันทันที ทริปนี้ฟินมาก เพราะมีคนไทยเพียง 4 คน คือเรากับเพื่อน และมีพี่ผู้ชายอีก 2 คน มาจาก กทม.  ที่เหลือคือชาวต่างชาติทั้งลำ และแล้วก็ได้มิตรภาพใหม่ๆ ที่ประทับใจมิรู้ลืม


วันแรกเราซื้อทัวร์ดำน้ำหมู่เกาะอ่างทอง และ ทะเลใน รวมพายเรือคายัค ในราคาคนละ 2,040 บาท เราไม่ได้จองทัวร์เองให้เพื่อนเป็นคนจัดการทั้งหมด ราคาแอบแพงใช่เล่นเลยค่ะ หลังจากตะลอนทัวร์กลางทะเลกันมาทั้งวัน ก็ได้เก็บภาพประทับใจมาพอสมควร ตามนี้เลยนะคะ

นี่จุดดำน้ำแรกของทริป จำไม่ได้ว่าชื่อเกาะอะไร แต่น้ำใส สวยดีค่ะ ไกด์แนะนำว่าให้ระวังเนื่องจากมีแมงกะพรุนเยอะ เรากับเพื่อนเลยตัดสินใจไม่ลง นั่งถ่ายรูปเล่นกันบนเรือแทน



หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไปยังทะเลใน ระหว่างทางไกด์ก็แนะนำเกาะต่างๆ และประวัติความเป็นมา แต่เราจำไม่ได้เลย 5555555









ถึงแล้วทะเลใน  มีลักษณะเป็นแอ่ง ค่อนข้างกลมคล้ายทะเลสาบขนาดย่อม ๆ โอบล้อมด้วยภูเขาหินปูนเรียงรายเป็นวงรอบจนเกิดเป็นแอ่งและมีน้ำขังอยู่ภาย ในขนาดความกว้าง โดยเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 250 เมตร ยาว 350 เมตร ลึก 7 เมตร มีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ เมื่อมองดูผิวเผินแล้วคล้ายทะเลสาบ แต่ไม่ถูกปิดเสียทีเดียว เพราะมีช่องทางที่สามารถติดต่อกับทะเลภายนอก (ด้านอ่าวไทย) ที่ล้อมรอบเขาหินปูนอยู่อีกชั้นหนึ่ง มีบางแห่งเห็นได้ชัดว่าเป็นช่องโพรง (Cavern) ซึ่งเกิดจากหินปูนบางส่วนถูกชะล้างละลายโดยน้ำ จึงเกิดเป็นถ้ำและช่องโพรงให้น้ำทะเลไหลลอดเข้ามาและออกไปจากแอ่งได้ ลักษณะภูมิสัณฐานดังกล่าวเปรียบเสมือนมีทะเลอยู่ภายในแนวเขาที่ล้อมอยู่โดย รอบ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสถานที่ว่า ทะเลใน










พอลงมาจากจุดชมวิว ไกด์ก็พาพวกราไปทำกิจกรรมเรือคายัค คลื่นแรง แต่มันส์มากเลยค่ะ ก่อนเริ่มกิจกรรม ไกด์จะสอบถามความถนัดและประสบการณ์ว่าใครเคยพายเรือคายัคมาแล้วบ้าง ซึ่งเรากับเพื่อนไม่เคยมาก่อนเลยนี่คือครั้งแรก 55555 เราเลยได้ไปนั่งพายคู่กับไกด์ค่ะ ส่วนเพื่อนก็ไปนั่งพายกับพี่ผู้ชายคนไทยที่มาด้วยกัน





ได้เวลามื้อกลางวันกันแล้วคร่าาา ไกด์พาเราไปทานอาหารที่เกาะเกาะนึง เป็นที่น่าสงสัยเหมือนกันนะคะ ว่าไปเที่ยวทะเลทีไร ทำไมกรุ๊ปทัวร์ถึงทำกับข้าวเอาใจแต่ฝรั่ง รสชาดออกแนวจืดๆ เช่น ต้มจืดลูกชิ้นปลา เต้าหู้ ผัดเปรี้ยวหวาน ต้มยำ และที่ต้องมีทุกทัวร์คือ สปาเกตตี้ กับ ไก่ทอด คือมันไม่ถูกปากคนไทยอย่างพวกเราเลยจริงๆ พี่ผู้ชายคนที่ที่มาด้วยกัน 2 คน เลยเดินไปขอกับข้าวพื้นบ้านของเจ้าของร้านมากิน ได้เป็นแกงเหลืองรสชาติเลอเลิศมากเลยค่ะ




















พอเช็คอินเรียบร้อย พวกเรานอนเอนพักเหนื่อยกันแป้ปนึง แล้วพออาบน้ำเสด ท้องเริ่มร้องโครกคราก หิวกันแล้วสิ... พนักงานในโรงแรมก็แนะนำว่าเดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จะเจอถนนคนเดินเฉวง มีอาหารอร่อยๆ ให้เลือกหลายๆ ร้านด้วย พอมาถึงก็ตาลายไปหมด ร้านเยอะจนเลือกไม่ถูกเลยค่ะ มีแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (หล่อๆทั้งน้านนนน) และในที่สุดสองสาวก็เลือกร้านได้ นั่งจิบเบียร์ไป กินกับแกล้มไป ชมวิวไป มีเพลงอินเตอร์ประกอบซีน แหม่!!!!  ฟินเว่อร์ อิอิ แล้วอิ่มท้อง สบายใจกันแล้ว เราก็กลับไปพักผ่อนกัน






















เช้าวันที่ 4 ส.ค. ตื่นมาอาบน้ำ เก็บของจัดกระเป๋าเสร็จ ก็ลงมาทานอาหารเช้าของโรงแรม พอเช็คเอ้าท์ เรียบร้อยก็ออกเดินทางกันต่อ เรานั่งสองแถวจากตัวเมืองเฉวง มาท่าเรือหน้าทอน เกาะสมุย ค่ารถสองแถวคนละ 60 บาท  พอมีเวลาเหลือนิดหน่อย เลยเดินหาร้านนั่งเล่นชิลกัน แต่กลับไม่ชิล จัดเต็มอีกแล้ว กลัวหิว เพราะคิดว่าอีกหลายชั่วโมง กว่าจะถึงบ้านกัน





ร้านนี้อาหารและเครื่องดื่มอร่อยดีค่ะ ราคาก็โอเคด้วย แต่แอบเสียดายไม่ได้ถ่ายรูปชื่อร้านมาอ่า  อยู่ตรงหัวมุมทางแยกหน้าท่าเรือหน้าทอนเลยค่ะ ถ้าได้ไปเกาะสมุย ลองแวะไปชิมกันนะคะ