ผลประโยชน์ ของสัมปทาน ปิโตรเลียมครั้งที่ 21 เอกชนเมิน

หน้าแรกเมนูข่าว

สัมปทานปิโตรเลียมรอบ21หวั่นล่ม "เอกชน"เมินยื่นประมูลรัฐรีดเงินหนักไม่เอื้อลงทุน

updated: 28 ต.ค. 2557 เวลา 13:53:04 น.

 



ก ก ก

ก.พลังงาน กางแผนที่สัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 รวม 29 แปลง รวบพื้นที่จากแปลงสัมปทานเดิมที่เคยเปิดให้ยื่นขอตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบ 20 มาเปิดใหม่ วัดดวงระบบสัมปทานไทยแลนด์ทรีพลัสดึงดูดนักลงทุนหรือไม่ แนะฝ่ายคัดค้านเปิดสัมปทานปิโตรเลียม รวมตัวตั้งบริษัทยื่นขอสัมปทานจะได้รู้ศักยภาพแท้จริงประเทศ คาดเอกชนสนใจยื่นไม่เกิน 2 ราย

กระทรวงพลังงานประกาศเชิญชวนให้เอกชนยื่นคำขอสิทธิ์สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ทั้งบนบกและในอ่าวไทยรวม 29 แปลง แบ่งเป็นแปลงบนบก 23 แปลง ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง 6 แปลง รวม 5,458.91 ตารางกิโลเมตร และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 แปลง รวม 49,196.40 ตารางกิโลเมตร แปลงในอ่าวไทยรวม 6 แปลง พื้นที่ 11,808.20 ตารางกิโลเมตร ประกาศเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 เอกชนในธุรกิจสำรวจและผลิต สามารถยื่นคำขอได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 18 กุมภาพันธ์ 2558 นี้ 



กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติให้ข้อมูลว่า สำหรับแปลงสัมปทานส่วนใหญ่ในรอบนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1) ส่วนที่เปิดสัมปทานตั้งแต่รอบที่ 1 ถึง 20 แต่ไม่มีการยื่นขอสัมปทาน และ 2) ส่วนที่เปิดสัมปทานไปแล้ว มีการสำรวจแต่ไม่พบ ซึ่งกรมเชื้อเพลิงฯมองว่าหากมีการสำรวจเพิ่มเติมอาจจะมีการพบก๊าซธรรมชาติตั้งแต่ระดับ 1-5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และน้ำมันดิบ 20-50 ล้านบาร์เรล 

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า พื้นที่เปิดสัมปทานปิโตรเลียมครั้งนี้จะเป็น "พื้นที่เดิม" แต่ในบางแปลงอยู่ใกล้พื้นที่ที่มีศักยภาพ ฉะนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพบทั้งก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน การเปิดครั้งนี้จะเป็นตัวพิสูจน์ว่าเงื่อนไขระบบสัมปทานไทยแลนด์ทรีพลัส (Thailand III Plus) ที่ได้มีการปรับแก้ไขเพิ่มเติมตามความเห็นจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น นักวิชาการ และประชาชนทั่วไป จะประสบความสำเร็จหรือไม่ภายใต้ศักยภาพในระดับนี้ โจทย์ของกระทรวงพลังงาน คือ จะสร้างความมั่นคงพลังงานของประเทศอย่างไร เมื่อแหล่งปิโตรเลียมในทะเลอ่าวไทยรองรับการใช้ไม่เกิน 7-8 ปีนี้หากไม่มีการสำรวจเพิ่ม

การคัดค้านของบรรดานักวิชาการ องค์กรเอกชน (NGO) มองว่าสามารถดำเนินการได้ แต่หากจะให้เกิดประโยชน์กับประเทศจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่กลุ่มคัดค้านดังกล่าว จะรวมตัวกันและจัดตั้งบริษัทเข้ามายื่นขอสัมปทานครั้งนี้ เพื่อให้ทราบชัดเจนถึงการลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตที่แท้จริง ที่สำคัญคือศักยภาพที่แท้จริงด้านพลังงานของประเทศเป็นอย่างไร

"ตอนนี้การจัดหาพลังงานต้องเตรียมแผนสำรอง หากว่าการเปิดสัมปทานครั้งนี้ไม่มีเอกชนรายใดเข้ามายื่นขอ จะมีการจัดหาเพิ่มเติมได้อย่างไร ประเด็นที่สังคมไทยต้องยอมรับด้วยคือ ความต้องการใช้ในประเทศเพิ่มขึ้น แต่การค้นพบแหล่งใหม่ในประเทศก็ยากมากเช่นกัน"

แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 20 ที่ผ่านมา รวม 28 แปลง แต่มีการสำรวจพบเพียง 1 แปลง ในปริมาณ 0.05 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันเท่านั้น ความคาดหมายสำหรับสัมปทานรอบนี้อาจจะมีเอกชนที่สนใจยื่นขอ 1-2 ราย ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว 

ก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ได้สอบถามไปยังนายยงยศ หาญสุวาณิช รองประธาน บริษัท เอ็กซอนโมบิล เอ็กซ์โพลเรชั่น แอนด์ โพรดักชั่น โคราช อิงค์ ถึงการเปิดสัมปทานในรอบใหม่ ซึ่งหากเป็นพื้นที่เดิมที่เคยเปิดมาแล้วแต่สำรวจไม่พบ ความสนใจที่จะยื่นขอสัมปทานในรอบนี้จึง "น้อย" มาก 

สำหรับสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21ใช้ระบบสัมปทานไทยแลนด์ทรีพลัส (Thailand III Plus) จะมีความแตกต่างจากรอบที่ผ่าน ๆ มา คือ การหลีกเลี่ยงพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 A เขตอนุรักษ์และรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีการเพิ่มเติมในส่วนของผลประโยชน์ที่ภาครัฐจะได้มากขึ้น คือ 1) เก็บค่าภาคหลวงในอัตราร้อยละ 5-15 จากรายได้ขายปิโตรเลียม 2) เก็บเงินภาษีเงินได้ร้อยละ 50 จากกำไร

3) การเรียกเก็บเงินผลตอบแทนพิเศษ หรือ Special Remuneratory Benefit (SRB) เมื่อมีกำไรหลังคืนทุน หรือเมื่อราคาน้ำมันดิบอยู่ในราคาสูงตามหลักเกณฑ์ที่รัฐกำหนด 4) การสนับสนุนเงินเพื่อการศึกษาและพัฒนาท้องถิ่น (ช่วงสำรวจได้ไม่น้อยกว่าปีละ 1 ล้านบาท และช่วงผลิตจะได้ไม่น้อยกว่าปีละ 2 ล้านบาท) 5) เสนอให้บริษัทไทยเข้าร่วมกิจการในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 

นอกจากนี้ เพิ่มผลประโยชน์อีก 2 ส่วนคือ การเรียกเก็บค่าธรรมเนียม หรือ Signature Bonus เมื่อมีการลงนามกับเอกชนที่ได้รับสัมปทาน แม้ว่าจะสำรวจพบหรือไม่ก็ตาม และการเรียกเก็บผลประโยชน์เพิ่มเติม เมื่อเอกชนผลิตได้ตามเกณฑ์ที่รัฐกำหนด หรือ Production Bonut
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่