จขกท.นะคะ มีเรื่องจะสารภาพค่ะ
ขอโทษค่ะ เราสนับสนุน BNK48 ต่อไม่ไหวแล้ว
เรายังจะให้กำลังใจน้องเมมเบอร์ทุกคนต่อไปนะคะ เพียงแต่อฟช. และแฟนคลับ ทำให้เรารู้สึกว่านี่ไม่ใช่ 48 ที่เราเคยตาม
มันไม่สนุกเลย มันต้องแก่งแย่งพยายาม แฟนคลับแข่งกันเพื่อให้ได้อยู่แถวหน้า ไปต่อคิวแต่เช้ามืดเพื่อได้ของมาขายในราคาแพงๆ
ไปตั้งแคมป์เพื่อให้เข้าถึงเวทีเป็นคนแรกๆ ยืนบังทุกอย่างจนผู้หญิงตัวเตี้ยๆ แบบเราไม่สามารถมองเห็นอะไรได้
เราไม่สามารถดิ้นรนเพื่อจะเข้าหาความสุขเล็กน้อยที่อยู่บนเวที หรือในตู้ปลาได้
เราไม่สามารถทนอ่านความเห็นแบบ "ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย" ในสื่อและโซเชียลต่างๆ เวลามีคนพูดถึง AKB48 group ในญี่ปุ่นแบบผิดๆ
เราว่าเราเหนื่อยกับ 48 ในไทยมากเกินไป พอหันกลับไปมอง AKB แล้วมันยังสนุกและน่าติดตามกว่าค่ะ แม้ว่าจะฟังไม่ออกบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันก็ยังสนุกกับเรามากกว่า ทุกคนเอาใจช่วยเด็กรุ่น 16 แต่ละวงมีต้องแข่งขันเพื่อเอาชนะ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ทำให้เชียร์สนุก ไม่เหมือนตอนนี้ที่เด็กรุ่น 2 โดนโอตะกลุ่มนึงกีดกัน
จริงๆ เราเลิกตามวงไปแค่คนเดียวก็คงไม่ได้มีผลกระทบเท่าไหร่ต่อฝ่ายบริหาร
แฟนคลับลดลงไปคนเดียว แต่ยังมีโอตะเพิ่มเข้ามาอีกหลายพันหมื่นคน
แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องขอบอกว่า เราซัพพอร์ตต่อไปไม่ไหวจริงๆ ค่ะ
อาจจะแค่ไปจับมือให้กำลังใจน้องคนที่เราชอบ แค่นี้ที่คงทำได้
แต่เราก็หวังว่าในอนาคตเราจะได้กลับมาตาม BNK48 อีกครั้งแบบสนุกสนานนะคะ
-- มีนาคม 2561
(ครบรอบ 1 ปีที่ประกาศชื่อเมมเบอร์ทั้ง 29 คนของ BNK /
ครบรอบ 2 ปี ที่มีชื่อของ BNK48 ครั้งแรกในคอนเสิร์ตจบการศึกษาของทากามินะ)
ข้อความใน spoil ข้างล่างนี้ คือข้อความเดิมที่เขียนเมื่อตุลาคม 2557 ค่ะ
ตอนนั้นเรายืนยันกับทุกคนว่า เด็กไทยมีดี หน้าตาดี ความสามารถดี นิสัยดี ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคาดเดาไว้ไม่ผิด
แต่เราลืมนึกไปว่าแฟนคลับนี่แหละที่ต้องดีที่สุด เพราะเป็นหน้าเป็นตาของวง
กลับกลายเป็นว่าแฟนคลับทำให้เราเลิกชอบซะงั้น 555555 ดูจากคอมเมนต์ของโลกอนาคตที่พิมพ์กระแนะกระแหนคอมเมนต์ปี 2557 ก็ได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สวัสดีค่ะ โอตะ 48 และเหล่าแฟนคลับไอดอลญี่ปุ่นที่น่ารักทั้งหลาย
วันนี้ขอตั้งกระทู้อย่างเป็นทางการ (หรือเปล่า) เพื่ออยากจะหว่านล้อมทุกคนที่ยังไม่เห็นด้วยกับ BKK48
เราอ่านเหตุผลที่หลายท่านไม่อยากให้มี หรือยังไม่อยากให้มี ก็พอเข้าใจ
แต่ส่วนตัวของเรา รอวันนี้มานานมาก
เราไม่ได้อยากเป็นไอดอล แต่เราเป็นแฟนคลับคนหนึ่งที่อยากเห็นเมืองไทยมีเกิร์ลกรุ๊ปดังระดับประเทศบ้าง
ทุกวันนี้วงที่มีชื่อเสียงรู้จักกันไปทั่วมากที่สุดคงเป็น เฟย์ฟางแก้ว กับ เกิร์ลลี่เบอร์รี่
แต่ก็ไม่ใช่ลุงป้าน้าอา อาม่าอาอึ้มทุกคนจะรู้จักสองวงนี้
ในขณะที่ AKB48 นั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะลูกเด็กเล็กแดง หรือแก่หง่อมขนาดไหน น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก
แต่ทุกท่านย่อมรู้ดีว่า กว่า AKB จะมีวันนี้ ต้องฝ่าฟันความยากลำบากมาตั้งมากมายแค่ไหน
หลายคนมองว่า BKK48 นั้นเป็นไปได้ยากในเมืองไทย
ไม่ว่าจะปัญหาเรื่องการดาวน์โหลดเพลงแบบผิดลิขสิทธิ์ หรือจะความอดทนต่ำของเด็กไทย
ไหนจะเรื่องเพลง เรื่องท่าเต้น เรื่องการวางตัวของไอดอล กฎห้ามมีแฟนอีก
ที่ทั้งหมดล้วนแล้วไม่เหมาะกับสภาพเมืองไทยและการใช้ชีวิตของเรา
ยิ่งเป็นแบบนี้ เรายิ่งอยากให้มี BKK48 เลยค่ะ
เราเชื่อว่าอากิโมโต้ซัง สามารถเปลี่ยนจุดวิกฤติวงการเพลงและวงการบันเทิง ให้มันดีขึ้นได้ (ไม่รู้ว่าคาดหวังมากเกินไปหรือเปล่า)
อาจจะไม่ใช่ในทันที แต่ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีนะคะ ถ้าได้คนระดับนี้ยื่นมือมาสร้างโปรเจคต์ร่วมกับคนไทย
อย่างน้อยอะไรอะไรในประเทศไทยจะได้ตื่นตัวขึ้นบ้าง
นอกเหนือจากความคาดหวังว่า จะมีเมมเบอร์ 48 จากญี่ปุ่น (หรือต่างประเทศ) มาเยี่ยมเยือนประเทศไทยบ้างแล้ว
เราก็หวังว่าจะสร้างไอดอล หรือส่งออกเด็กไทยให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศได้บ้าง
หลายคนคิดว่าเด็กผู้หญิงเมืองไทยมีภาพลักษณ์ไม่เหมือนเด็กญี่ปุ่น
จากรายการโทรทัศน์ชื่อดังที่ให้สาวๆ มาทำกิจกรรมร่วมกัน หรือจากรายการประกวดร้องเพลงหลากหลายช่อง
แต่จริงๆ แล้ว ทุกคนล้วนมีความสามารถมากเลยนะคะ หากปั้นให้ถูกทาง วางเข็มทิศชี้ให้ถูกต้อง
ทุกวันนี้เด็กผู้หญิงก็ร่าเริงสดใสเฮฮาเหมือนกันหมดทุกเชื้อชาติ แค่สิ่งที่สื่อฯทำให้เห็น มันมีแค่นี้
คืออยากให้เชื่อว่า เด็กไทยก็เจ๋งไม่แพ้ใครเหมือนกันค่ะ
ถ้าพวกเราไม่ลองเปิดใจรับคนไทยด้วยกันเองก่อน
มันก็ไม่มีประโยชน์ที่ต่างชาติจะเข้ามาปฏิรูปอะไรในบ้านเรา
ทั้งที่คนในบ้านยังมองว่า เราเองไม่มีศักยภาพเพียงพอ
อย่าลืมว่า กว่า 48 จะมีทุกวันนี้ได้ พวกเธอผ่านอะไรมาบ้าง
แฟนคลับทั้งหลายอดทนเชียร์มาเนิ่นนานแค่ไหน
หากจะมีปรากฏการณ์แบบนั้นในไทยบ้าง จะเป็นไปได้ไหมคะ
อีกเหตุผลใหญ่ที่หลายคนไม่อยากให้มี BKK48 คือหลายคนในเมืองไทยยังมอง 48 เป็นดาราเอวีอยู่เลย
ข้อนี้พวกเราต้องช่วยกันแล้วล่ะค่ะ คนเรามีหลายประเภท บางคนหากอธิบายดีๆ ก็พร้อมจะเข้าใจ
แต่บางคน พูดให้ตายแค่ไหน ก็ปิดใจไม่รับฟัง
แต่ก่อนเราก็มองว่า 48 แต่งตัวโป๊ยั่วผู้ชาย อะไรแบบนี้เหมือนกัน
ซักพักก็เริ่มรับวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้ << ก่อนเราจะมาตามเต็มตัวอีกค่ะ
คิดว่ามันก็ต้องมีคนมองมุมใหม่ได้เหมือนเราแหละนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่หากมาไทย คงจะให้เด็กวัยแตกเนื้อสาวมาใส่บิกินี่ ถ่ายแบบไม่ได้แน่ๆ
ยังไงก็ตาม หากมีคนมาพูดว่า ไอดอลญี่ปุ่น = ดาราเอวี
หาพีวีเพลงหน้าร้อนซักเพลงปาใส่ให้เขาไปฟัง เดี๋ยวก็รู้เองแหละค่ะ ว่านางฟ้ากับสิ่งที่เขาคิดนั้นต่างกันแค่ไหน
และอย่าลืมว่า ไม่ว่าใครก็ต้องโดนติฉินนินทาด่าทออยู่แล้ว ทุกคนที่เติบโตล้วนเคยโดนต่อว่ามาทั้งนั้น
อย่าไปท้อค่ะ ไม่ต้องสนใจเสียงนกเสียงกา เรารักคนเราต่อไป
ซักวันเขาก็จะเห็นความดีความเด่นดังของสาวๆ เอง
(อันนี้คือคนที่ไม่เห็นด้วยกับ BKK ก็เอาไปท่องนะโมในใจได้นะคะ
ไม่ว่าจะมี BKK หรือไม่มี เราก็รักสาวๆ และไม่ยอมให้ใครมาว่า 48 อยู่ดีคะ่)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แอบเห็นบางท่านบอกว่าไม่ชิน หากให้มาเชียร์มาติ่งคนไทยด้วยกัน
อยากจะบอกว่า ไม่ต้องเขินค่ะ เดี๋ยวซักพักก็ชินเอง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คือในไทยมีแต่แฟนคลับผู้หญิง น้อยมากที่จะเห็นผู้ชายตามเชียร์ใคร โหวตให้ใคร
แต่มีเดอะสตาร์ปีนึง ที่น้องนทผ่านเข้ารอบมาได้ลึก เห็นเพื่อนผู้ชายหลายคนปั่นโหวตกันเต็มที่
ในฐานะผู้หญิงด้วยกันเราประทับใจมาก 555555 อยากให้เพศชายสัมผัสความติ่งเช่นเพศหญิงบ้างค่ะ
ตอนนี้อาจจะยังไม่พร้อมซะทีเดียวในการวางโครงการ BKK48
คนไทยหลายท่านเองก็ยังไม่เห็นด้วย ทางต้นสังกัดญี่ปุ่นอาจจะยังมองไม่เห็นลู่ทาง
แต่เราเชื่อว่าซักวันมันต้องเกิดขึ้นได้ค่ะ
ไม่ว่านานแค่ไหนก็จะรอ

ปล. มันอาจจะเป็นชื่ออื่นที่ไม่ใช่ BKK48 แต่ขอเรียกชื่อนี้ให้ทุกคนเข้าใจตรงกันนะคะ
ปล.2 มีบางเหตุผลของผุ้ที่ไม่อยากให้มี 48 ในไทย ที่เราไม่ได้กล่าวถึง
อาจจะเป็นเพราะเรามองข้ามไปไม่ได้อ่าน หรือเราจนใจหาคำตอบไม่ได้
หากมีเพิ่มเติม สามารถคอมเมนต์ถกเถียงในกระทู้ได้เลยค่ะ
เรายินดีรับฟังความเห็นทุกท่าน แต่ก็อยากให้ทุกท่านรับฟังความเห็นเราเหมือนกันค่ะ
สุดท้ายแล้ว เราจะกลับมาตามอีกหรือไม่ ก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตแล้วกันค่ะ
อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น สิ่งที่คาดหวังอาจจะไม่มี แต่สิ่งที่ไม่ได้คาดคิด ก็อาจจะมา
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้นะคะ
จากใจคนที่อยากให้มี BKK48
ขอโทษค่ะ เราสนับสนุน BNK48 ต่อไม่ไหวแล้ว
เรายังจะให้กำลังใจน้องเมมเบอร์ทุกคนต่อไปนะคะ เพียงแต่อฟช. และแฟนคลับ ทำให้เรารู้สึกว่านี่ไม่ใช่ 48 ที่เราเคยตาม
มันไม่สนุกเลย มันต้องแก่งแย่งพยายาม แฟนคลับแข่งกันเพื่อให้ได้อยู่แถวหน้า ไปต่อคิวแต่เช้ามืดเพื่อได้ของมาขายในราคาแพงๆ
ไปตั้งแคมป์เพื่อให้เข้าถึงเวทีเป็นคนแรกๆ ยืนบังทุกอย่างจนผู้หญิงตัวเตี้ยๆ แบบเราไม่สามารถมองเห็นอะไรได้
เราไม่สามารถดิ้นรนเพื่อจะเข้าหาความสุขเล็กน้อยที่อยู่บนเวที หรือในตู้ปลาได้
เราไม่สามารถทนอ่านความเห็นแบบ "ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย" ในสื่อและโซเชียลต่างๆ เวลามีคนพูดถึง AKB48 group ในญี่ปุ่นแบบผิดๆ
เราว่าเราเหนื่อยกับ 48 ในไทยมากเกินไป พอหันกลับไปมอง AKB แล้วมันยังสนุกและน่าติดตามกว่าค่ะ แม้ว่าจะฟังไม่ออกบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันก็ยังสนุกกับเรามากกว่า ทุกคนเอาใจช่วยเด็กรุ่น 16 แต่ละวงมีต้องแข่งขันเพื่อเอาชนะ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ทำให้เชียร์สนุก ไม่เหมือนตอนนี้ที่เด็กรุ่น 2 โดนโอตะกลุ่มนึงกีดกัน
จริงๆ เราเลิกตามวงไปแค่คนเดียวก็คงไม่ได้มีผลกระทบเท่าไหร่ต่อฝ่ายบริหาร
แฟนคลับลดลงไปคนเดียว แต่ยังมีโอตะเพิ่มเข้ามาอีกหลายพันหมื่นคน
แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องขอบอกว่า เราซัพพอร์ตต่อไปไม่ไหวจริงๆ ค่ะ
อาจจะแค่ไปจับมือให้กำลังใจน้องคนที่เราชอบ แค่นี้ที่คงทำได้
แต่เราก็หวังว่าในอนาคตเราจะได้กลับมาตาม BNK48 อีกครั้งแบบสนุกสนานนะคะ
-- มีนาคม 2561
(ครบรอบ 1 ปีที่ประกาศชื่อเมมเบอร์ทั้ง 29 คนของ BNK /
ครบรอบ 2 ปี ที่มีชื่อของ BNK48 ครั้งแรกในคอนเสิร์ตจบการศึกษาของทากามินะ)
ข้อความใน spoil ข้างล่างนี้ คือข้อความเดิมที่เขียนเมื่อตุลาคม 2557 ค่ะ
ตอนนั้นเรายืนยันกับทุกคนว่า เด็กไทยมีดี หน้าตาดี ความสามารถดี นิสัยดี ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคาดเดาไว้ไม่ผิด
แต่เราลืมนึกไปว่าแฟนคลับนี่แหละที่ต้องดีที่สุด เพราะเป็นหน้าเป็นตาของวง
กลับกลายเป็นว่าแฟนคลับทำให้เราเลิกชอบซะงั้น 555555 ดูจากคอมเมนต์ของโลกอนาคตที่พิมพ์กระแนะกระแหนคอมเมนต์ปี 2557 ก็ได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดท้ายแล้ว เราจะกลับมาตามอีกหรือไม่ ก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตแล้วกันค่ะ
อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น สิ่งที่คาดหวังอาจจะไม่มี แต่สิ่งที่ไม่ได้คาดคิด ก็อาจจะมา
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้นะคะ