ตามความฝัน ไปบ้านท่านขุนฯ

ก่อนไปเยี่ยมคุณย่ากับปู่ ที่บ้านผักไห่ ริมแม่น้ำน้อย เรากับแม่ฝันคล้ายๆ กัน แต่เป็นฝันถึงคุณยายที่เสียไปแล้ว

สำหรับเราคุณยายพาไปเที่ยวที่บ้านโบราณ ใหญ่โตสวยงามเหมือนวัง คุณยายบอกเราว่า....(ชื่อเรา) ชอบถ่ายรูปบ้านและวังโบราณ ต้องระวังให้ดี ต้องขออนุญาติเจ้าของบ้านเค้าด้วยนะลูก เดี๋ยวเค้าจะตามกลับบ้านมาด้วย ในฝันเราก็กลัว ยายเลยบอกว่าไม่เป็นไร (เหมือนจะบอกว่า แก้ไขได้ด้วยการทำอะไร) แล้วคุณยายก็พาเดินถัดออกมาอีกหน่อยนึง ยายพามาไหว้อะไร ใกล้ๆ และพานั่งกราบ พอเราเงยหน้ามาเหมือนเป็นรูปปั้น สี่ดำๆ หล่อ ขนาดปานกลาง พอดูชัดก็เลยรู้ว่า ร.5 ยายก็บอกว่า ถวายนี่ด้วยนะ เป็นนม(ตราหมีเป็นโหล ซึ่งก่อนยายเสียแม่จะชอบซื้อให้ยายดื่มจากสลิ้ง)

เราตื่นมาก็งง ยังคิดเลยว่าเอ๊ะหรือคุณยาย จะให้ทำาบุญให้ ก็เอาไปเล่าให้แม่ฟัง พ่อกับแม่ มองตากันเลย เพราะก่อนหน้านั้นแม่ก็ฝันและเคยเล่าให้พ่อฟังเมื่อวันก่อน(ก่อนเราจะคุยกับแม่) แม่เล่าว่า ฝันว่า มีบรรพบุรุษเราเช่นคุณตา(พ่อของแม่) คุณทวด(คือยายของแม่) และญาติที่ล่วงลับไปแล้วและอีกคนไม่แน่ใจว่าเป็นใครแต่คิดว่าน่าจะเป็นแม่(คุณยายเรา)  แม่เราฝันว่าเป็นภาพรางๆ (ผิดกับเรา ภาพชัดเจนแถมมีซาวน์แทท็กเป็นเสียงด้วย) แม่บอกว่า ในฝัน บรรพบุรุษ(ไม่รู้ใคร) พาไปกราบ รูปเคารพใครไม่รู ไม่รู้ว่าเป็น ร.9 ปัจจุบัน หรือ ร.5 เพราะในฝันไม่ชัดเจน มันลางๆ

เรากับแม่ก็เลยมองหน้ากันว่าแปลกดี เดี๋ยวคงต้องทำบุญให้คุณยายและบรรพบุรุษ (ป.ล.คุณยายมาเข้าฝัน ตลอดคะ เราเป็นหลานคนโตที่ผูกพันและยายเลี้ยงมาจนโต ก่อนหน้านี้มีขโมยมาขโมย ของที่วางนอกบ้านไป คุณยายก็เข้าฝันมาบอกก่อนเกิดเหตุการณ์จริงประมาณ 2 เดือน เราก็สงสัยว่าที่คุณยายมาบอกเรานั้นมันหมายถึงอะไรกันแน่)

พอวันรุ่งขึ้นวันต่อมา เราเดินทางไปบ้านของปู่ย่า ซึ่ง ย่าคนนี้เป็นน้องสาวของย่าเราที่ยังมีชีวิตอยู่ นอกนั้นพี่น้องย่ารวมทั้งย่าจริงของเราเสียไปหมดแล้ว ย่าป่วยก็เลยไปเยี่ยมกันในวันหยุด บ้านของย่าอยู่ใก้ล บ้านเขียวของ ท่านขุนพิทักษ์บริหาร (พึ่ง มิลินทวณิช) อยุธยา ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำน้อยเหมือนกัน เราเคยรบเร้าให้ย่าพาไปเที่ยวเพราะ เห็นลงข่าวใน น.ส.พ.และออกรายการคนอวดผี ก็อยากไปถ่ายรูป เก็บไว้เพราะชอบบ้านสวยๆ เก่าๆ และเราก็ชอบถ่ายรูป


แต่พ่อก็บอกไปวันหลัง มันรก แกจะไปทำไม เราเลยจ๋อยก็เลยไม่ได้ไปสักที ตอนนั้นย่าก็บอกบ้านมันผุๆ แต่สวยดี เราก็เก็บความอยากไปไว้ในใจ จนกระทั่งวันที่ไปเยี่ยมย่า(ประมาณ19 ต.ค.57 ที่ผ่านมา) ขากลับจากบ้านย่า จะขับกลับบ้าน อยู่ๆ พี่ชายก็เลี้ยว เข้าไปในซอยเล็กๆ แล้วพาไปบ้านเขียว เซอร์ไพรซ์ทุกคน




เราก็เลยได้ไปเยือนบ้านเขียว ครั้งแรก ไม่ผิดหวังจริงๆ สวยมาก ตอนนี้ปรับปรุงสวยงาม บ้านไม่รกร้าง อะไรที่ผุพังก็อนุรักษ์ซ่อมแซม ตอนที่เข้าไป เราก็นึกถึงความฝันทันที แม่ก็มองหน้าบอกไปไหว้ขออนุญาตก่อนลูก เราก็ไปไหว้ ขอถ่ายรูปและขอเยี่ยมชม

ซึ่งศาลาไหว้ท่านขุน อยู่ด้านซ้ายของหน้าบ้านนี้นั่นเอง


หลังจากไหว้ท่านขุนก็มี คุณน้าท่านหนึ่งเป็นผู้ดูแล ท่านเลยเล่าประวัติบ้านนี้ให้ฟังคะ




บ้านนี้มีอายุ 150 ปี ออกแบบโดยช่างอิตาลี่ ก่อสร้างโดยช่างไทยที่เป๋นคนแถวนี้





มีส่วนที่เป็นตู้บิ้วอินข้างล่าง ในห้องรับแขก เรียกว่าทันสมัยอย่างฝรั่ง





หน้าต่าง เป็นแบบบานผลักรูปแบบเดียวกับที่วัง...(จำชื่อวังไม่ได้)ที่กรุงเทพ   บ้านไม้หลังนี้ทำจากไม้สักทอง



ความรู้สึกแรกที่เข้าไปรู้สึกว่าบ้านนี้ มีหลายห้องมากและสวยงามแบบโบราณ
รู้สึก ขนลุกนิดหน่อยแต่ในใจก็บอกแต่ว่า เรามาดีมาชมความงามของบ้านไม่ได้มาลบหลู่อะไร พอเห็น พระที่ตั้งอยู่ในบ้าน เลยคลายความรู้สึกลัวลง (แหะๆ หัวเราะอมยิ้ม17อมยิ้ม17)

เดินไปทางด้านขวาเจอบันไดของบ้านเก๋ สุดๆ คะเป็นบันไดวน ไม้อย่างหนาไม่ต้องกลัวตกปุ๊ไป ตอนแรกก็กังวลนิดๆ เพราะบ้านอายุ 150 ปีแล้วแต่เดินขึ้นบันไดไปกลับผิดคาด งานไม้ทำดีมาก แน่นปึ่ก




ข้างบนชั้น 2 มีห้องโถง มีระเบียง ที่มองออกไปเห็นแม่น้ำน้อย อากาศเย็นๆ จากลมที่พัดมาจากแม่น้ำ ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ
ระเบียงนอกบ้านก็สวย ระเบียงที่ใหญ่เชื่อมมาจากห้องโถงมีส่วนพื้นกระเบื้องเป็นลายโบราณแท้ นำเข้าจากประเททศอิตาลี่ (เสียดายไม่ได้ค๊อบรูปกระเบื้องให้ชัดกว่านี้เพราะข้างนอกบ้านแดดร้อนจัด ออกไปคงไม่ไหว อีกอย่างต้องเดินตามขบวนไกด์ท้องถิ่นคะ ถ่ายได้ถ่าย ถ่ายไม่ได้ปล่อย เพราะ ไม่อยากอยู่คนเดียว อิอิ อมยิ้ม07)

มาถึงห้องที่เซอร์ไพรซ์ แม่กับ เราแล้วคะ ประหลาดใจเพราะห้องนี้มีพระบรมรูปร.5 แขวนบนผนัง เราไม่เคยรู้เลยว่ามีห้องนี้มีรูป ร.5 ซึ่งไกด์ กิติมศักดิ์ก็ได้เล่าให้เฟังว่า ห้องนี้น่าจะเป็นห้องรับรอง ขณะ ร.5 เสด็จประพาสต้น ซึ่งพระองค์ท่านแวะบ้านเขียว ก่อนจะเสด็จไปนครสวรรค์(ทางเรือ) ซึ่งมีบันทึกในเสด็จประพาสต้น


เราลงไปกราบกับพื้นคะ เข้าใจแจ่มแจ้งถึงความฝันแล้ว ว่าคืออะไร นั่งอึ้งไปแปบเลยคะ(แต่รู้สึกดีมากๆ)






จากนั้นไกด์ก็พาไปดูห้องท่านขุนคะ
ตอนนี้มีหีบวางอยู่ด้วย ห้องของท่านขุนฯ มีลูกเหล็กที่รายการคนอวดผีและ ข่าวหลายสำนักข่าว ได้ออกข่าวว่ามีเสียงเล่าลือว่าเป็นโซ่คล้องในห้องนอนเลยบอกว่าไม่ได้เอามาตรวนทาส เพราะทาสที่ไหนจะมาอยู่บนเรือน เลยเอากำปั่นที่เป็นไม้สำหรับใส่สมบัติมาวางไว้ข้างๆ แสดงเพราะเป็นที่วางคล้องหีบใส่ของมีค่าเพราะสมัยนั้นยังไม่มีธนาคาร คนจะได้เลิกเข้าใจผิด พ่อก็เลยเสริมว่าเคยเห็นของตา(คือคุณทวดเรา)ก็มี คุยไปคุยมาไกด์ก็บอกว่า คุ้นหน้าพ่อเหมือนเคยรู้จัก พ่อเลยบอกตอนเด็กๆ ก็อยู่บ้านแถวนี้ แล้วก็รำลึกถึงบรรพบุรุษเราที่เป็นคนแถวนี้ซึ่งไกด์ก็รู้จัก คุยไปมาก็กลายเป็นคนรู้จักกันกลายๆ (ป.ล.พ่อเรารูปร่างหน้าตาเหมือน ทวดเราคะ หรือคุณตาของพ่อนั่นเอง เคยดูรูปคุณทวดคะ ใส่ชุดราชปะแตนเสื้อขาวแบบสมัยก่อน)

แล้วไกด์ก็เล่าให้ฟังต่อถึงสภาพรอบบ้านว่า จริงๆ จะมีบ้านหลังเล็กๆ รายล้อม บ้านใหญ่ ตรงด้านหน้าแม่น้ำ มีสะพานทอดยาวจนถึงแม่น้ำแต่ตอนนี้บ้านได้ผุพังไปมาก สะพานก็พังไปแล้ว เมื่อก่อนมีดอกไม้รอบๆ เต็มไปหมดเลย หน้าบ้านเล็กๆ เหล่านั้น

...มาถึงตรงนี้ ฟังไปก็อึ้งเลยคะเพราะเราเคยฝันถึงบ้านใหญ่ ครึ่งตึกครึ่งไม้ ทรงโบราณแต่สวย สภาพในฝัน เป็นบ้านใหม่ สวยงามน่าอยู่มากอารมณ์คล้าย ทรงขนมปังขิงด้วยมีลายฉลุบบไทยผสมฝรั่ง มีลานหน้าบ้าน มีบ้านเล็กๆ รายรอบ มีดอกไม้สวยมากดอกเล็กๆ หลายสีไม่รู้ดอกอะไร แต่ฝันเป็นสิบปีแล้วนะ ทุกวันนี้ยังสงสัยว่าคือที่ไหน ไม่รู้เป็นที่นี่หรือเปล่า อันนี้ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยคะ แล้วเราก็ไม่ได้เล่าให้ไกด์ฟังได้แต่เก็ยบแบบอึ้งๆ ไว้ในใจ แต่เราเล่าความฝันของเรากับแม่ให้ฟังก่อนมาที่นี่คะ ที่ กราบร.5 แล้วเดินเข้ามาในบ้านโบราณแต่ไม่ได้เล่าเรื่องคุณยายให้ฟัง (อ่านรายละเอียดจากที่เขียนไว้บรรทัดแรกๆ นะคะ) ไกด์บอกไม่แปลกหรอกครับ นี่ก็มีคุณนายเมียผู้การ... จาก... ฝันถึงบ้านหลังนี้ก็ขับรถมานี่เลย ตรงดิ่งมาบ้านนี้ได้ยังไงไม่รู้เพราะไม่เคยมาแต่ก็มาถูก คุณนายมาบ้านเห็นบ้านก็บอกจะมาทำบุญและอยากช่วยซ่อมแซมบ้าน บางทีท่านขุนก็ไปเข้าฝันอย่างนี้ ที่คุณฝันก็ไม่แปลก คนมาบ้านนี้หลายคนก็เคยฝันถึงบ้านนี้ (โอ๊ววว จริงหรือนี่) หัวเราะ





เราเลยคิดว่าที่เราฝันถึง อาจจะเพราะท่านขุน ยังคงผูกพันกับบ้านนี้เลย อยากให้คนมาเที่ยวชมความงามของบ้านนี้แล้วก็เป็นได้ ปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้ทายาทได้ยกให้เป็นที่ราชพัสดุ ซึ่งเป็นสมบัติของชาติแล้วนั่นเอง จึงไม่ได้ขึ้นกับกรมศิลปากร การบูรณะจึงอาจจะมีกำลังน้อยแต่คนท้องถิ่นก็เห็นความสำคัญ มีไกด์ท้องถิ่นที่บ้านอยู่แถวนี้คอยดูแลแนะนำนักท่องเที่ยว ปัจจุบัน ปากซอยเข้าบ้านเขียว มีป้าย บอกว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ รู้สึกเทศบาลของที่นี่ก็มาช่วยดูแล ตามกำลังที่มี คนที่มาเที่ยวชมบ้านนี้ก็เข้ามาชมได้โดยไม่เสียอะไร แต่จะมีกล่องรับบริจาคตามศรัทธา เพื่อไปซ่อมแซมบ้าน  ส่วนเราที่ฝันถึงก็อาจเพราะบรรพบุรุษอาจจะเคยรู้จักนับถือเลยดลใจให้ฝันถึงบ้านหลังนี้มาก่อนก็เป็นไปได้ แต่ที่แน่ๆ บ้านหลังนี้ สวยจริงๆ คะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่