ชื่อ: โทกาเนะ ซาคุยะ
สังกัด: กรมรักษาความสงบ แผนกสืบสวนสอบสวน หน่วยที่ 1
ตำแหน่ง: ผู้ถูกบังคับใช้
วันเดือนปีเกิด: 6/6/2086 (ปัจจุบันอายุ 28 ปี)
กรุ๊ปเลือด: AB
ส่วนสูง: 180 ซม.
น้ำหนัก: 66 กก.
เดือนปีที่เข้าทำงาน: 10/2114
บอกตามตรงว่าครั้งแรกที่ได้เห็นคาแรกเตอร์ดีไซน์ของโทกาเนะ ซาคุยะคนนี้ ผมก็รู้สึกได้เลยว่าไอ้หมอนี่มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ ก็ดูสีหน้าเจ้าเล่ห์ในรูปที่อยู่ในข้อมูลตัวละครนั่นสิ มันฉายแววโฉดออกมาชัดๆ ก่อนที่จะไปลุยกันในข้อมูลเชิงลึก เรามาทำความรู้จักกับพื้นหลังความเป็นมาของตัวโทกาเนะกับตระกูลโทกาเนะกันก่อน
ตระกูลโทกาเนะผู้ยิ่งใหญ่ของวงการแพทย์
ในตอนที่ 2 ฉากโรงยิมที่อาคาเนะคุยกับโทกาเนะถึงเรื่องที่เธออนุญาตให้เขาเข้าไปรับฟังการสอบสวนคิตาซาว่า ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดในตอน 1 ซึ่งตัวมาสคอตของบริษัทยา "ลาคูเซ่" ที่ใช้เป็นตัววางระเบิดนั้นก็เป็นบริษัทในเครือของตระกูลโทกาเนะนั่นเอง
ในมังงะภาคผู้สังเกตการณ์โคงามิ ชินยะ ตอนที่ 3 ได้มีการเอ่ยถึงตระกูลโทกาเนะไว้ว่าเป็นตระกูลใหญ่ในวงการแพทย์ ซึ่ง 1 ในโรงพยาบาลที่อยู่ในขอบข่ายอำนาจของตระกูลโทกาเนะก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการทดลองมนุษย์ที่เกิดขึ้นในสมัยที่โคงามิยังเป็นผู้สังเกตการณ์อยู่ ส่วนตระกูลโทกาเนะจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่ว่าโดยตรงหรือไม่นั้นก็ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ที่แน่ๆก็คือประวัติของตระกูลนี้ไม่ได้ใสสะอาดแน่นอนแล้วล่ะ
ตัวโทกาเนะเอง ก่อนที่จะต้องโทษจนต้องมาเป็นผู้ถูกบังคับใช้นั้นก็เคยประกอบอาชีพเป็นนักบำบัดจิตมาก่อน ซึ่งผมเชื่อว่าการที่อดีตลูกหลานของตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในวงการแพทย์ต้องตกต่ำกลายมาเป็นอาชญากรแอบแฝงเช่นนี้คงถือเป็นเรื่องเสื่อมเสียต่อวงศ์ตระกูลเป็นแน่แท้ ตัวโทกาเนะเองก็คงอาจจะถูกคนในตระกูลตัดหางปล่อยวัดไปเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้
โทกาเนะกับโคงามิ ความคล้ายคลึงที่บังเอิญหรือตั้งใจ
ภาพจากฉากเพลงเปิดที่ใบหน้าของโทกาเนะกับโคงามิเลื่อนเข้าซ้อนกันเป็นหนึ่งเดียว
มาถึงจุดนี้แล้วคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าบุคลิกและการกระทำของโทกาเนะนั้นมีส่วนที่คล้ายคลึงกับโคงามิ ชินยะ อดีตผู้ถูกบังคับใช้หน่วย 1 และตัวเอกของภาคแรกพอสมควร โดยเฉพาะฉากในโรงยิมที่เปิดตัวกันได้แทบจะเหมือนเด๊ะจนผมต้องร้อง "เฮ้ย!" ทั้งการฝึกซ้อมการต่อสู้กับหุ่นยนต์ ทั้งการจุดบุหรี่ ปิดท้ายด้วยการเสยผม แม้ลำดับการทำมันจะไม่ใช่แพทเทิร์นเดียวกันเป๊ะๆ แต่ถ้าทีมงานไม่ได้จงใจให้เหมือนก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วล่ะ
แน่นอนว่าบุหรี่ที่โทกาเนะสูบนั้นจะต้องเป็นยี่ห้อ Spinel ซึ่งอาคาเนะที่สูดกลิ่นนี้จนเคยชินแล้วก็ต้องรู้สึกตัวแน่นอนว่ามันคือบุหรี่ยี่ห้อเดียวกับโคงามิ
ในระหว่างการสนทนาที่โทกาเนะสนับสนุนทฤษฎี "บุคคลไร้ตัวตน" ของอาคาเนะนั้น พอโทกาเนะเอ่ยถึงคิตาซาว่าว่า "จะต้องมีคนชักใยอยู่เบื้องหลังแน่ๆ ไม่เช่นนั้นก็แปลกเกินไปแล้ว" อาคาเนะก็ทำสีหน้าราวกับว่าตระหนักอะไรได้ขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนที่ฮินาคาว่าจะวิ่งโร่เข้ามาเปลี่ยนประเด็นไป คาดว่าชั่วครู่หนึ่งนั้นอาคาเนะคงจะสัมผัสได้ตัวเองเคยพูดคุยอะไรทำนองนี้มาก่อนกับโคงามิ ที่โคงามิสันนิษฐานว่าคดีที่เกิดขึ้นจะต้องมีคนชักใยอยู่เบื้องหลังซึ่งคนๆนั้นก็คือมากิชิมะ โชโกนั่นเอง
เรารู้กันดีว่าโคงามินั้นเป็นเสมือนนักสืบในอุดมคติของอาคาเนะ เราไม่รู้แน่ชัดว่าความรู้สึกที่อาคาเนะมีให้ต่อโคงามินั้นเป็นความรักในเชิงชู้สาวจริงๆหรือไม่ แต่ที่แน่ใจได้เลยก็คือโคงามิคือบุคคลที่อาคาเนะเคยไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุดในองค์กร และเขาก็เป็นหนึ่งในแรงผลักดันให้อาคาเนะมุ่งมั่นในวิถีการทำงานฐานะผู้สังเกตการณ์แบบฉบับของตนมาตลอด
ถ้าหากการที่โทกาเนะมีส่วนที่คล้ายคลึงกับโคงามินั้นเป็นแค่เรื่องบังเอิญล้วนๆก็คงจะโล่งใจไปได้ กลับกันถ้าหากมันเป็นความตั้งใจของโทกาเนะที่จะใช้บุคลิกท่าทางเฉกเช่นโคงามิเพื่อให้อาคาเนะระลึกถึงโคงามิล่ะก็...มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน
มิตรแท้อันหายากหรือศัตรูที่แฝงเร้น
สืบเนื่องจากหัวข้อที่แล้ว ในกรณีที่โทกาเนะตั้งใจใช้บุคลิกท่าทางเหมือนโคงามิเพื่อหลอกให้อาคาเนะเกิดความรู้สึกไว้วางใจ จุดนี้อาจจะเป็นจริงหรือไม่ก็ยังไม่อาจรู้แน่ชัด แต่ที่แน่ๆมันมีองค์ประกอบอื่นๆอีกหลายประการที่บ่งบอกว่าโทกาเนะกำลังพยายามที่จะทำคะแนนพิชิตความไว้วางจากอาคาเนะเสียเหลือเกิน เรามาไล่ดูพฤติกรรมดังกล่าวของโทกาเนะกันทีละฉากดีกว่า
ท้ายตอนที่ 1 ระหว่างการไล่จับกุมคิตาซาว่า ในขณะที่อาคาเนะกำลังเกลี้ยกล่อมคิตาซาว่าที่จนมุมให้สงบสติอารมณ์ลง จู่ๆโทกาเนะก็โผล่มาจากทางด้านหลังและช่วยพูดเสริมจนค่าสัมประสิทธิ์ของคิตาซาว่าลดลงเหลือ 299 ทำให้อาคาเนะสามารถใช้โดมิเนเตอร์ในโหมดพาลาไลเซอร์ได้
ช่วงต้นตอนที่ 3 ระหว่างที่หน่วย 1 ทำการสำรวจอพาร์ทเมนต์ของอาคาเนะ ในขณะที่มิกะกับกิโน่ตั้งข้อสงสัยถึงการที่ไม่มีร่องรอยการบุกรุกถูกบันทึกไว้ในระบบรักษาความปลอดภัยเลยว่าอาจจะเป็นตัวอาคาเนะเองหรือไม่ที่ขีดเขียนคำว่า WC? บนกำแพงห้องด้วยตัวเอง แต่โทกาเนะนั้นเลือกที่จะเชื่อในตัวอาคาเนะมากกว่า โดยอ้างว่า "ผู้ถูกบังคับใช้ควรจะเชื่อมั่นในตัวของผู้สังเกตการณ์"
ช่วงปลายตอนที่ 3 ในขณะที่อาคาเนะกำลังสืบสวนร่องรอยของคามุยจากสถานที่เกิดเหตุที่ผู้สังเกตการณ์ชิซุยหายตัวไป กิโนสะที่เห็นว่าอาคาเนะมีท่าทางหมกมุ่นกับคดีมากเกินไปจึงเตือนด้วยความเป็นห่วงเพราะกลัวว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอยกับโคงามิที่มุ่งมั่นสืบคดีของโชโกมากเกินไปจนค่าสัมประสิทธิ์พุ่งขึ้นสูงจนต้องถูกลดขั้นจากผู้สังเกตการณ์มาเป็นผู้ถูกบังคับใช้ แต่โทกาเนะกลับหันมาพูดกับกิโนสะพร้อมกับสีหน้ายิ้มเยาะว่า "อย่างผู้สังเกตการณ์ซึเนโมริน่ะไม่เป็นไรหรอก เฉดสีของเธอไม่หม่นง่ายๆกับเรื่องแค่นี้อยู่แล้ว"
ตรงจุดสังเกตสุดท้ายนี่แหละที่ทำให้ตัวละครที่เคยเป็นขวัญใจมหาชนอย่างโทกาเนะตกเป็นผู้ต้องสงสัยขึ้นมาทันที ทำไมคนที่เพิ่งเข้าทำงานหมาดๆไม่ถึง 1 เดือนอย่างโทกาเนะถึงได้มั่นใจในตัวอาคาเนะขนาดนั้น ราวกับว่าเขาล่วงรู้ถึงความลับของอาคาเนะที่ตัวเธอมีค่าสัมประสิทธิ์ที่สามารถลดลงได้เองแม้จะถูกเพิ่มขึ้นด้วยสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าอย่างไรเฉดสีของเธอก็จะยังคงเป็น Powder Blue เสมอ ซึ่งเรื่องนี้สมควรที่จะเป็นความลับที่แม้แต่ตัวชิโมทสึกิ มิกะที่ทำงานเป็นผู้สังเกตการณ์ร่วมกันมามากกว่า 1 ปีไม่ล่วงรู้เลยด้วยซ้ำ
อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้โทกาเนะดูเป็นตัวละครที่ดูน่าสงสัยอีกประการหนึ่งก็คือคำเตือนจากหัวหน้ากรมคาเซย์ ที่บอกว่าตัวโทกาเนะนั้นเคยมีประวัติค่าสัมประสิทธิ์สูงที่สุดที่เคยมีมา แน่นอนว่าคนที่เป็นอาชญากรแอบแฝงนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นคนไม่ดีไปซะทุกคน แต่คนที่ถึงขนาดมีประวัติค่าสัมประสิทธิ์สูงขนาดไม่เคยมีมาก่อนนี่จะเรียกได้ว่าเป็นคนไม่มีพิษมีภัยจริงๆเหรอ โทกาเนะทำอะไรถึงทำให้ค่าสัมประสิทธิ์พุ่งขึ้นสูงไปได้ขนาดนั้น ปริศนาจุดนี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าเขาจะเป็นมิตรหรือศัตรูของอาคาเนะกันแน่
จากองค์ประกอบทุกอย่างที่กล่าวมา ทำให้ผมเกิดความรู้สึกว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าโทกาเนะนั้นคือ 1 ในผู้ให้ความร่วมมือกับคามุยที่แฝงตัวเข้ามาในองค์กรของงอาคาเนะเพื่อหาทางใกล้ชิดกับอาคาเนะ เพราะตัวคามุยเองก็เหมือนกับว่าจะรู้จักตัวอาคาเนะไม่ใช่เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น จากในตอนจบของตอนที่ 2 ที่คามุยชกกำแพงอย่างเจ็บใจหลังจากที่คิตาซาว่าถูกอาโอยานางิ ริสะใช้โดมิเนอเตอร์ในโหมดลีทัลเอลิมิเนเตอร์ยิงตาย คามุยพูดขึ้นมาทั้งน้ำตาว่า "ซึเนโมริ อาคาเนะ อุตส่าห์คิดว่าถ้าเป็นเธอจะเข้าใจเสียอีก..."
บวกกับการที่คามุยดูเหมือนจะรู้ถึงระบบการทำงานภายในกรมรักษาความสงบของพวกอาคาเนะเป็นอย่างดีราวกับว่ามีคนให้ข้อมูลจากด้านในองค์กรมาให้ก็มิปาน ดังนั้นมันอาจจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าคามุยจะส่งสปายเข้ามาแทรกซึมในกรมรักษาความสงบ และสปายคนนั้นก็คือโทกาเนะนั่นเอง แม้กระทั่งในฉากเพลงเปิดของภาคนี้ ก็เหมือนจะบอกใบ้ถึงเรื่องนี้กลายๆ

จะเห็นว่าร่างของคาเซย์ที่ถือโดมิเนเตอร์ย่างก้าวเข้ามาใกล้หน้าจอ พอหลังจากที่มีภาพคามุยนั่งอยู่ในห้องสีดำสนิทแทรกตัดเข้ามา คาเซย์ก็กลายร่างเป็นโทกาเนะในฉับพลัน รอยยิ้มที่ปรากฎอยู่บนใบหน้าของโทกาเนะนั้นไม่ใช่รอยยิ้มของคนเป็นมิตรแน่นอน ฉากนี้เราอาจจะตีความได้ว่าคามุยอาจจะเป็นคนส่งโทกาเนะเข้ามาแทรกซึมในองค์กรของเหล่าตัวเอกเพื่อเป็นสปายก็เป็นได้
ทั้งนี้เนื้อหาใน OP ก็ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องจริงเสมอไป และประเด็นต่างๆก็เป็นการตีความจากมุมมองของผมในทางที่ผลมันออกมาเป็นในแง่ลบเท่านั้น ความเป็นจริงแล้วโทกาเนะจะเป็นคนดีจริงเหมือนการกระทำหรือเป็นผู้ร้ายที่แฝงตัวมาในคราบคนดีกันแน่ เราก็ต้องติดตามกันต่อไปล่ะครับ
รวมกระทู้ PSYCHO-PASS ของจขกท.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้[PSYCHO-PASS] ความจริงที่ซ่อนอยู่ในช่วงวาระสุดท้ายของมาคิชิมะ โชโก
[เจาะลึก PSYCHO-PASS 2] ซึเนโมริ อาคาเนะกับบุหรี่
[TEXT SPOIL] PSYCHO-PASS 2 ตอนที่ 4 - โศกนาฏกรรมนองเลือด
[เจาะลึก PSYCHO-PASS 2] โทกาเนะ ซาคุยะ บุรุษลึกลับผู้มากด้วยความน่าสงสัย
ชื่อ: โทกาเนะ ซาคุยะ
สังกัด: กรมรักษาความสงบ แผนกสืบสวนสอบสวน หน่วยที่ 1
ตำแหน่ง: ผู้ถูกบังคับใช้
วันเดือนปีเกิด: 6/6/2086 (ปัจจุบันอายุ 28 ปี)
กรุ๊ปเลือด: AB
ส่วนสูง: 180 ซม.
น้ำหนัก: 66 กก.
เดือนปีที่เข้าทำงาน: 10/2114
บอกตามตรงว่าครั้งแรกที่ได้เห็นคาแรกเตอร์ดีไซน์ของโทกาเนะ ซาคุยะคนนี้ ผมก็รู้สึกได้เลยว่าไอ้หมอนี่มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ ก็ดูสีหน้าเจ้าเล่ห์ในรูปที่อยู่ในข้อมูลตัวละครนั่นสิ มันฉายแววโฉดออกมาชัดๆ ก่อนที่จะไปลุยกันในข้อมูลเชิงลึก เรามาทำความรู้จักกับพื้นหลังความเป็นมาของตัวโทกาเนะกับตระกูลโทกาเนะกันก่อน
ตระกูลโทกาเนะผู้ยิ่งใหญ่ของวงการแพทย์
ในตอนที่ 2 ฉากโรงยิมที่อาคาเนะคุยกับโทกาเนะถึงเรื่องที่เธออนุญาตให้เขาเข้าไปรับฟังการสอบสวนคิตาซาว่า ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดในตอน 1 ซึ่งตัวมาสคอตของบริษัทยา "ลาคูเซ่" ที่ใช้เป็นตัววางระเบิดนั้นก็เป็นบริษัทในเครือของตระกูลโทกาเนะนั่นเอง
ในมังงะภาคผู้สังเกตการณ์โคงามิ ชินยะ ตอนที่ 3 ได้มีการเอ่ยถึงตระกูลโทกาเนะไว้ว่าเป็นตระกูลใหญ่ในวงการแพทย์ ซึ่ง 1 ในโรงพยาบาลที่อยู่ในขอบข่ายอำนาจของตระกูลโทกาเนะก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการทดลองมนุษย์ที่เกิดขึ้นในสมัยที่โคงามิยังเป็นผู้สังเกตการณ์อยู่ ส่วนตระกูลโทกาเนะจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่ว่าโดยตรงหรือไม่นั้นก็ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ที่แน่ๆก็คือประวัติของตระกูลนี้ไม่ได้ใสสะอาดแน่นอนแล้วล่ะ
ตัวโทกาเนะเอง ก่อนที่จะต้องโทษจนต้องมาเป็นผู้ถูกบังคับใช้นั้นก็เคยประกอบอาชีพเป็นนักบำบัดจิตมาก่อน ซึ่งผมเชื่อว่าการที่อดีตลูกหลานของตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในวงการแพทย์ต้องตกต่ำกลายมาเป็นอาชญากรแอบแฝงเช่นนี้คงถือเป็นเรื่องเสื่อมเสียต่อวงศ์ตระกูลเป็นแน่แท้ ตัวโทกาเนะเองก็คงอาจจะถูกคนในตระกูลตัดหางปล่อยวัดไปเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้
โทกาเนะกับโคงามิ ความคล้ายคลึงที่บังเอิญหรือตั้งใจ
ภาพจากฉากเพลงเปิดที่ใบหน้าของโทกาเนะกับโคงามิเลื่อนเข้าซ้อนกันเป็นหนึ่งเดียว
มาถึงจุดนี้แล้วคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าบุคลิกและการกระทำของโทกาเนะนั้นมีส่วนที่คล้ายคลึงกับโคงามิ ชินยะ อดีตผู้ถูกบังคับใช้หน่วย 1 และตัวเอกของภาคแรกพอสมควร โดยเฉพาะฉากในโรงยิมที่เปิดตัวกันได้แทบจะเหมือนเด๊ะจนผมต้องร้อง "เฮ้ย!" ทั้งการฝึกซ้อมการต่อสู้กับหุ่นยนต์ ทั้งการจุดบุหรี่ ปิดท้ายด้วยการเสยผม แม้ลำดับการทำมันจะไม่ใช่แพทเทิร์นเดียวกันเป๊ะๆ แต่ถ้าทีมงานไม่ได้จงใจให้เหมือนก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วล่ะ
แน่นอนว่าบุหรี่ที่โทกาเนะสูบนั้นจะต้องเป็นยี่ห้อ Spinel ซึ่งอาคาเนะที่สูดกลิ่นนี้จนเคยชินแล้วก็ต้องรู้สึกตัวแน่นอนว่ามันคือบุหรี่ยี่ห้อเดียวกับโคงามิ
ในระหว่างการสนทนาที่โทกาเนะสนับสนุนทฤษฎี "บุคคลไร้ตัวตน" ของอาคาเนะนั้น พอโทกาเนะเอ่ยถึงคิตาซาว่าว่า "จะต้องมีคนชักใยอยู่เบื้องหลังแน่ๆ ไม่เช่นนั้นก็แปลกเกินไปแล้ว" อาคาเนะก็ทำสีหน้าราวกับว่าตระหนักอะไรได้ขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนที่ฮินาคาว่าจะวิ่งโร่เข้ามาเปลี่ยนประเด็นไป คาดว่าชั่วครู่หนึ่งนั้นอาคาเนะคงจะสัมผัสได้ตัวเองเคยพูดคุยอะไรทำนองนี้มาก่อนกับโคงามิ ที่โคงามิสันนิษฐานว่าคดีที่เกิดขึ้นจะต้องมีคนชักใยอยู่เบื้องหลังซึ่งคนๆนั้นก็คือมากิชิมะ โชโกนั่นเอง
เรารู้กันดีว่าโคงามินั้นเป็นเสมือนนักสืบในอุดมคติของอาคาเนะ เราไม่รู้แน่ชัดว่าความรู้สึกที่อาคาเนะมีให้ต่อโคงามินั้นเป็นความรักในเชิงชู้สาวจริงๆหรือไม่ แต่ที่แน่ใจได้เลยก็คือโคงามิคือบุคคลที่อาคาเนะเคยไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุดในองค์กร และเขาก็เป็นหนึ่งในแรงผลักดันให้อาคาเนะมุ่งมั่นในวิถีการทำงานฐานะผู้สังเกตการณ์แบบฉบับของตนมาตลอด
ถ้าหากการที่โทกาเนะมีส่วนที่คล้ายคลึงกับโคงามินั้นเป็นแค่เรื่องบังเอิญล้วนๆก็คงจะโล่งใจไปได้ กลับกันถ้าหากมันเป็นความตั้งใจของโทกาเนะที่จะใช้บุคลิกท่าทางเฉกเช่นโคงามิเพื่อให้อาคาเนะระลึกถึงโคงามิล่ะก็...มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน
มิตรแท้อันหายากหรือศัตรูที่แฝงเร้น
สืบเนื่องจากหัวข้อที่แล้ว ในกรณีที่โทกาเนะตั้งใจใช้บุคลิกท่าทางเหมือนโคงามิเพื่อหลอกให้อาคาเนะเกิดความรู้สึกไว้วางใจ จุดนี้อาจจะเป็นจริงหรือไม่ก็ยังไม่อาจรู้แน่ชัด แต่ที่แน่ๆมันมีองค์ประกอบอื่นๆอีกหลายประการที่บ่งบอกว่าโทกาเนะกำลังพยายามที่จะทำคะแนนพิชิตความไว้วางจากอาคาเนะเสียเหลือเกิน เรามาไล่ดูพฤติกรรมดังกล่าวของโทกาเนะกันทีละฉากดีกว่า
ท้ายตอนที่ 1 ระหว่างการไล่จับกุมคิตาซาว่า ในขณะที่อาคาเนะกำลังเกลี้ยกล่อมคิตาซาว่าที่จนมุมให้สงบสติอารมณ์ลง จู่ๆโทกาเนะก็โผล่มาจากทางด้านหลังและช่วยพูดเสริมจนค่าสัมประสิทธิ์ของคิตาซาว่าลดลงเหลือ 299 ทำให้อาคาเนะสามารถใช้โดมิเนเตอร์ในโหมดพาลาไลเซอร์ได้
ช่วงต้นตอนที่ 3 ระหว่างที่หน่วย 1 ทำการสำรวจอพาร์ทเมนต์ของอาคาเนะ ในขณะที่มิกะกับกิโน่ตั้งข้อสงสัยถึงการที่ไม่มีร่องรอยการบุกรุกถูกบันทึกไว้ในระบบรักษาความปลอดภัยเลยว่าอาจจะเป็นตัวอาคาเนะเองหรือไม่ที่ขีดเขียนคำว่า WC? บนกำแพงห้องด้วยตัวเอง แต่โทกาเนะนั้นเลือกที่จะเชื่อในตัวอาคาเนะมากกว่า โดยอ้างว่า "ผู้ถูกบังคับใช้ควรจะเชื่อมั่นในตัวของผู้สังเกตการณ์"
ช่วงปลายตอนที่ 3 ในขณะที่อาคาเนะกำลังสืบสวนร่องรอยของคามุยจากสถานที่เกิดเหตุที่ผู้สังเกตการณ์ชิซุยหายตัวไป กิโนสะที่เห็นว่าอาคาเนะมีท่าทางหมกมุ่นกับคดีมากเกินไปจึงเตือนด้วยความเป็นห่วงเพราะกลัวว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอยกับโคงามิที่มุ่งมั่นสืบคดีของโชโกมากเกินไปจนค่าสัมประสิทธิ์พุ่งขึ้นสูงจนต้องถูกลดขั้นจากผู้สังเกตการณ์มาเป็นผู้ถูกบังคับใช้ แต่โทกาเนะกลับหันมาพูดกับกิโนสะพร้อมกับสีหน้ายิ้มเยาะว่า "อย่างผู้สังเกตการณ์ซึเนโมริน่ะไม่เป็นไรหรอก เฉดสีของเธอไม่หม่นง่ายๆกับเรื่องแค่นี้อยู่แล้ว"
ตรงจุดสังเกตสุดท้ายนี่แหละที่ทำให้ตัวละครที่เคยเป็นขวัญใจมหาชนอย่างโทกาเนะตกเป็นผู้ต้องสงสัยขึ้นมาทันที ทำไมคนที่เพิ่งเข้าทำงานหมาดๆไม่ถึง 1 เดือนอย่างโทกาเนะถึงได้มั่นใจในตัวอาคาเนะขนาดนั้น ราวกับว่าเขาล่วงรู้ถึงความลับของอาคาเนะที่ตัวเธอมีค่าสัมประสิทธิ์ที่สามารถลดลงได้เองแม้จะถูกเพิ่มขึ้นด้วยสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าอย่างไรเฉดสีของเธอก็จะยังคงเป็น Powder Blue เสมอ ซึ่งเรื่องนี้สมควรที่จะเป็นความลับที่แม้แต่ตัวชิโมทสึกิ มิกะที่ทำงานเป็นผู้สังเกตการณ์ร่วมกันมามากกว่า 1 ปีไม่ล่วงรู้เลยด้วยซ้ำ
อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้โทกาเนะดูเป็นตัวละครที่ดูน่าสงสัยอีกประการหนึ่งก็คือคำเตือนจากหัวหน้ากรมคาเซย์ ที่บอกว่าตัวโทกาเนะนั้นเคยมีประวัติค่าสัมประสิทธิ์สูงที่สุดที่เคยมีมา แน่นอนว่าคนที่เป็นอาชญากรแอบแฝงนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นคนไม่ดีไปซะทุกคน แต่คนที่ถึงขนาดมีประวัติค่าสัมประสิทธิ์สูงขนาดไม่เคยมีมาก่อนนี่จะเรียกได้ว่าเป็นคนไม่มีพิษมีภัยจริงๆเหรอ โทกาเนะทำอะไรถึงทำให้ค่าสัมประสิทธิ์พุ่งขึ้นสูงไปได้ขนาดนั้น ปริศนาจุดนี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าเขาจะเป็นมิตรหรือศัตรูของอาคาเนะกันแน่
จากองค์ประกอบทุกอย่างที่กล่าวมา ทำให้ผมเกิดความรู้สึกว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าโทกาเนะนั้นคือ 1 ในผู้ให้ความร่วมมือกับคามุยที่แฝงตัวเข้ามาในองค์กรของงอาคาเนะเพื่อหาทางใกล้ชิดกับอาคาเนะ เพราะตัวคามุยเองก็เหมือนกับว่าจะรู้จักตัวอาคาเนะไม่ใช่เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น จากในตอนจบของตอนที่ 2 ที่คามุยชกกำแพงอย่างเจ็บใจหลังจากที่คิตาซาว่าถูกอาโอยานางิ ริสะใช้โดมิเนอเตอร์ในโหมดลีทัลเอลิมิเนเตอร์ยิงตาย คามุยพูดขึ้นมาทั้งน้ำตาว่า "ซึเนโมริ อาคาเนะ อุตส่าห์คิดว่าถ้าเป็นเธอจะเข้าใจเสียอีก..."
บวกกับการที่คามุยดูเหมือนจะรู้ถึงระบบการทำงานภายในกรมรักษาความสงบของพวกอาคาเนะเป็นอย่างดีราวกับว่ามีคนให้ข้อมูลจากด้านในองค์กรมาให้ก็มิปาน ดังนั้นมันอาจจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าคามุยจะส่งสปายเข้ามาแทรกซึมในกรมรักษาความสงบ และสปายคนนั้นก็คือโทกาเนะนั่นเอง แม้กระทั่งในฉากเพลงเปิดของภาคนี้ ก็เหมือนจะบอกใบ้ถึงเรื่องนี้กลายๆ
จะเห็นว่าร่างของคาเซย์ที่ถือโดมิเนเตอร์ย่างก้าวเข้ามาใกล้หน้าจอ พอหลังจากที่มีภาพคามุยนั่งอยู่ในห้องสีดำสนิทแทรกตัดเข้ามา คาเซย์ก็กลายร่างเป็นโทกาเนะในฉับพลัน รอยยิ้มที่ปรากฎอยู่บนใบหน้าของโทกาเนะนั้นไม่ใช่รอยยิ้มของคนเป็นมิตรแน่นอน ฉากนี้เราอาจจะตีความได้ว่าคามุยอาจจะเป็นคนส่งโทกาเนะเข้ามาแทรกซึมในองค์กรของเหล่าตัวเอกเพื่อเป็นสปายก็เป็นได้
ทั้งนี้เนื้อหาใน OP ก็ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องจริงเสมอไป และประเด็นต่างๆก็เป็นการตีความจากมุมมองของผมในทางที่ผลมันออกมาเป็นในแง่ลบเท่านั้น ความเป็นจริงแล้วโทกาเนะจะเป็นคนดีจริงเหมือนการกระทำหรือเป็นผู้ร้ายที่แฝงตัวมาในคราบคนดีกันแน่ เราก็ต้องติดตามกันต่อไปล่ะครับ
รวมกระทู้ PSYCHO-PASS ของจขกท.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้