การแสดงทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ของข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หรือ นักการเมือง

กระทู้คำถาม
"เท็จ" ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ระบุไว้ มีความหมายคือ ปด, โกหก, ไม่จริง.

ดังนั้น การแสดงทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ไม่ได้ครอบคลุมเพียงเฉพาะ การแสดงทรัพย์สินที่ขาดหายไปเท่านั้น
แต่ "เท็จ" นั้น ยังครอบคลุมถึงการแสดงทรัพย์สินที่ตนเองมี มากกว่าทรัพย์สินที่ตัวเองถือครองจริง

เมือ สัปดาห์ สองสัปดาห์ก่อน มีทหารท่านหนึ่ง นำเอาทรัพย์สินของบุคคลอื่น และ/หรือ หน่วยงานราชการ
อื่น เอามารวมไว้กับทรัพย์สินของตนเอง และ ภรรยาที่จดทะเบียนสมรส ดังนั้นจึงเป็นการแสดงทรัพย์สินที่
เกินไปกว่าความเป็นจริงที่ตนเอง และ ภรรยาที่จดทะเบียนสมรส ครอบครอง

การแสดงทรัพย์สินดังกล่าวจึงถือว่า เป็นการแสดงทรัพย์สินอันเป็น "เท็จ" ซึ่งต้องได้รับโทษจากหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้อง คือ ปปช. ของ นาย วิชา

ทั้งหมด ทั้งปวงนี้ ผมเพียงเอามาเล่าให้ฟังเท่านั้น เพราะ ผมเชื่อสนิทใจว่า ไม่มีใครนำเรื่องนี้สู่อัยการ หรือ
ศาลฯ แต่อย่างใด

ประเทศไทย ไม่เคยมีมาตรฐานเดียวมาตั้งแต่กรุงศรีฯ แล้วครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
พี่โบกฯที่รักของจ่าครัฟฟฟฟฟ

หลังยึดอำนาจ 22 พค.57
"สางเขียว" น้องชาย "Dictator" รวยเละ
เพราะในช่วง 3 เดือนหลังการยึดอำนาจ มีเงินไหลเข้า บช.มันกว่า 25 ล้าน !!!

ก่อนที่จะมีการถอนออกไป 30 กว่าล้าน

"สางเขียว" ยื่น บช.ต่อ ปปช.ว่ามีเงินฝาก 10 บัญชี รวม 89 ล้านกว่าบาท

เป็นของมัน 5 บช.รวม 42 ล้านกว่าๆ
เป็นของเมียมันอีก 5 บช.รวมแล้วเกือบๆ 47 ล้าน
นี่ขนาดเมียมันเป็น "แม่บ้าน" ไม่ได้ทำมาหารับประทานอะไรเลยนะครัฟฟฟฟ

แต่มันรวยกว่าคนทำธุรกิจซะอีก  !!!

"น้องชาย Dictator" มันชี้แจงว่า
เมียมันรวยมาก่อนแล้ว เพราะเป็นลูกเศรษฐีเชียงราย
แถมพ่อมันขายที่ดินได้ และ แบ่งให้ลูกๆคนละ 80 ล้านบาท
ซึ่ง "Dictator" พี่ชายมันก็ได้เงินในส่วนที่พ่อแบ่งให้จำนวนนี้ด้วยเช่นกัน

โห...จ่าเพิ่งรู้ว่าตระกูลมันรวยมาตั้งแต่ยุคพ่อแล้ว...ขำว่ะ !!!

แต่อันนี้จ่าว่าโคตรเด็ดครัฟฟฟ
เพราะพอจ่าห็นตัวเลขแล้ว จ่าขำจนปวดต่อมลูกหมากเลย

http://www.nacc.go.th/download_acc/asset_report/s_201410061108400.pdf

"สางเขียว" น้องชาย "Dictator"
มันกรอกเอกสารว่าทั้งปีมันมีรายได้ 1.9 ล้าน และ มีรายจ่ายอยู่ที่ 1.5 ล้าน
เมียเป็นแม่บ้านไม่ได้ทำมาหากินอะไร และ มีลูก 2 คน เรียนจบแล้ว 1 คน ส่วนอีกคนยังเรียนอยู่

แต่ในปี 56 ที่ผ่านมา
มันซื้อรถยนต์ด้วย "เงินสด" 3 คัน
คันแรก 3 ล้าน , คันที่สอง 1 ล้าน และ คันที่สาม 1.5 ล้าน (รวม 5 ล้าน 5 แสนบาท)

พอมาปี 57 (ปีนี้นี่แหละ)
มันก็ซื้ออีก 1 คัน ราคา 2 ล้านบาท

นี่แหละครัฟฟฟฟ.....
รับราชการ สมถะ กินเจียมอยู่เจียม
ซื้อรถเงินสด 2 ปี 4 คัน รวมแล้ว 7 ล้าน 5 แสนบาท  !!!

แอคคอร์ดตัวใหม่ของพี่โบกฯ กับ BMW เก่าๆของจ่าไม่ได้เสี้ยวของ พณ ท่านเลยครัฟฟฟ

ถ้าจ่าเป็นแม้ว
จ่าคงอายม้วนเลย
เพราะแม้วมันรวยแบบมีที่มาที่ไป
มันรวยเพราะมันทำมาหารับประทาน มันทำธุรกิจ มันได้สัมปทานโน่น นี่ นั่น

แต่ไอ้พวก "Dictator" มันรวยเพราะเมียรวย และ พ่อขายที่ได้แล้วแบ่งเงินให้.... ..!!!!!!












จ่าพิเชษฐ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่