บจ. ที่รับส้มหล่นจากเมกะโปรเจ็กต์ 6.8 หมื่นล้านบาท
ผลจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรีวันที่ 21 ตุลาคม จะทำให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่ในข่ายมีโอกาสที่จะได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนี้
บริษัทที่ได้รับประโยชน์โดยตรง อาทิ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC, บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD, บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ, บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CNT
ถัดมา บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS, บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL, บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL และ บริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) หรือ CHO และบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO
ส่วนบริษัทที่ได้รับผลประโยชน์ทางอ้อม อาทิ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP, บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART, บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC, บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL, บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Q-CON, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB และบริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) DCON
ถัดมา บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE, บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON, บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO, บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC, บริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR และบริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC
ที่มา :
http://www.kaohoon.com/online/102245/twitter.htm
อานิสงส์เมกะโปรเจ็กต์ -> คมนาคมขนส่ง
บจ. ที่รับส้มหล่นจากเมกะโปรเจ็กต์ 6.8 หมื่นล้านบาท
ผลจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรีวันที่ 21 ตุลาคม จะทำให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่ในข่ายมีโอกาสที่จะได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนี้
บริษัทที่ได้รับประโยชน์โดยตรง อาทิ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC, บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD, บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ, บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CNT
ถัดมา บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS, บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL, บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL และ บริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) หรือ CHO และบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO
ส่วนบริษัทที่ได้รับผลประโยชน์ทางอ้อม อาทิ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP, บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART, บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC, บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL, บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Q-CON, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB และบริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) DCON
ถัดมา บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE, บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON, บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO, บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC, บริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR และบริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC
ที่มา : http://www.kaohoon.com/online/102245/twitter.htm