จากมติชนออนไลน์ ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ (เรื่อง-ภาพ)
ลำไยยักษ์ พันธุ์ “จัมโบ้”

ลำไยสายพันธุ์ใหม่ ที่กรมวิชาการเกษตร ได้มีหนังสือรับรองพันธุ์ขึ้นทะเบียนกรมวิชาการเกษตร จัดเป็นลำไยอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ได้จากการกลายพันธุ์มาจากการเพาะเมล็ด (คาดว่าน่าจะกลายมาจากพันธุ์อีดอ) เป็นพันธุ์ที่เหมาะต่อการบริโภคสด
ผลมีขนาดใหญ่มาก มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 เซนติเมตร มีขนาดผลใหญ่กว่าลำไยเกรด A ที่ส่งขายยัง ต่างประเทศถึง 2 เท่า
เป็นลำไยที่เนื้อหนาแข็งและแห้ง ไม่แฉะน้ำ มีความหวานเฉลี่ย 13-15 เปอร์เซ็นต์บริกซ์
ที่น่าสนใจคือ เมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์ และได้มีการตั้งชื่อว่า พันธุ์ “จัมโบ้” (JUMBO)
เจ้าของลำไยพันธุ์จัมโบ้นี้คือ คุณสุทัศน์ อินต๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นต้นที่ได้จากการปลูกด้วยเมล็ดและกลายพันธุ์มาดี จากลำไยต้นหนึ่งในเขตอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่
ลักษณะของการติดผลของลำไยพันธุ์นี้ ถ้าดูแลดี ดกไม่แพ้พันธุ์อีดอ โดยเฉพาะในช่วงออกดอกและติดผล ลักษณะผลจะกลมแป้น ผิวเปลือกเรียบ มีสีน้ำตาลปนเหลือง เปลือกหนาประมาณ 1.3 มิลลิเมตร
ในธรรมชาติจะออกดอกในช่วงเดือนมกราคม และเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือนสิงหาคม-กันยายน
จัดเป็นลำไยที่มีลักษณะเป็นพันธุ์หนักกว่าพันธุ์อื่น ทำให้ผลผลิตแก่กว่าลำไยที่ออกในฤดูทั่วไป เนื่องจากเป็นลำไยที่พบเปอร์เซ็นต์เมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ “สวนคุณลี” จังหวัดพิจิตร และได้ผลผลิตในช่วงต้นเดือนกันยายน พบว่าใน 1 ช่อ ผลลำไยมีเมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์
ถือเป็นพันธุ์ลำไยที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก คือรสชาติ ลักษณะเหมือนลำไยพันธุ์อีดอผสมเบี้ยวเขียว คือมีเนื้อแห้งและกรอบ แต่ได้ขนาดที่ผลใหญ่มาก และที่สำคัญ “เมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์ และเนื้อหนามาก”
มีเกษตรกรผู้ปลูกลำไยส่งออกได้มาดูผลผลิตยอมรับว่าดีจริง และส่งขายต่างประเทศได้ราคาสูงแน่นอน
โดยผู้ส่งออกได้มาดูผลผลิตลำไยพันธุ์จัมโบ้ที่สวนคุณลีบอกว่า ลักษณะคล้ายกับพันธุ์อีดอ เนื้อมีสีขาว แต่โดดเด่นตรงที่เนื้อหนามากและเมล็ดลีบ ทำให้ได้เปรียบลำไยสายพันธุ์อื่น
สำหรับพื้นที่ที่จะปลูกลำไยพันธุ์จัมโบ้สามารถปลูกได้ทั่วประเทศ ขอให้มีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์เท่านั้น
เนื่องจากปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรต หรือโซเดียมคลอเรต บังคับให้ออกนอกฤดูได้
การปลูกลำไยแบบสมัยใหม่ ถ้าเป็นพื้นที่ที่เคยปลูกพืชอื่นมาก่อน ให้ไถดินลึก ประมาณ 30 เซนติเมตร ตากดินไว้ 20-25 วัน พรวนย่อยดินอีก 1-2 ครั้ง และปรับระดับดินให้สม่ำเสมอตามแนวลาดเอียง
วิธีการปลูก เริ่มจากการเตรียมพันธุ์โดยวิธีการตอนกิ่ง ซึ่งควรเตรียมไว้ล่วงหน้า 1 ปี เพื่อจะได้ต้นกล้าที่แข็งแรง หรือเลือกใช้ต้นพันธุ์ลำไยที่ขยายพันธุ์แบบเสียบยอด หรือทาบกิ่งก็ได้ เพราะจะได้ต้นพันธุ์ที่มีรากแก้ว ทำให้ต้นแข็งแรง หากินเก่ง ทนต่อสภาพดินไม่ดีได้ ต่อมาก็เป็นเรื่องของระยะปลูก 6x6 เมตร แล้วใช้วิธีควบคุมทรงพุ่ม
รู้ยัง? “5 ผลไม้ เด่น ที่น่าปลูกในอนาคต” มีอะไรบ้าง
ลำไยยักษ์ พันธุ์ “จัมโบ้”
ลำไยสายพันธุ์ใหม่ ที่กรมวิชาการเกษตร ได้มีหนังสือรับรองพันธุ์ขึ้นทะเบียนกรมวิชาการเกษตร จัดเป็นลำไยอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ได้จากการกลายพันธุ์มาจากการเพาะเมล็ด (คาดว่าน่าจะกลายมาจากพันธุ์อีดอ) เป็นพันธุ์ที่เหมาะต่อการบริโภคสด
ผลมีขนาดใหญ่มาก มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 เซนติเมตร มีขนาดผลใหญ่กว่าลำไยเกรด A ที่ส่งขายยัง ต่างประเทศถึง 2 เท่า
เป็นลำไยที่เนื้อหนาแข็งและแห้ง ไม่แฉะน้ำ มีความหวานเฉลี่ย 13-15 เปอร์เซ็นต์บริกซ์
ที่น่าสนใจคือ เมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์ และได้มีการตั้งชื่อว่า พันธุ์ “จัมโบ้” (JUMBO)
เจ้าของลำไยพันธุ์จัมโบ้นี้คือ คุณสุทัศน์ อินต๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นต้นที่ได้จากการปลูกด้วยเมล็ดและกลายพันธุ์มาดี จากลำไยต้นหนึ่งในเขตอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่
ลักษณะของการติดผลของลำไยพันธุ์นี้ ถ้าดูแลดี ดกไม่แพ้พันธุ์อีดอ โดยเฉพาะในช่วงออกดอกและติดผล ลักษณะผลจะกลมแป้น ผิวเปลือกเรียบ มีสีน้ำตาลปนเหลือง เปลือกหนาประมาณ 1.3 มิลลิเมตร
ในธรรมชาติจะออกดอกในช่วงเดือนมกราคม และเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือนสิงหาคม-กันยายน
จัดเป็นลำไยที่มีลักษณะเป็นพันธุ์หนักกว่าพันธุ์อื่น ทำให้ผลผลิตแก่กว่าลำไยที่ออกในฤดูทั่วไป เนื่องจากเป็นลำไยที่พบเปอร์เซ็นต์เมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ “สวนคุณลี” จังหวัดพิจิตร และได้ผลผลิตในช่วงต้นเดือนกันยายน พบว่าใน 1 ช่อ ผลลำไยมีเมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์
ถือเป็นพันธุ์ลำไยที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก คือรสชาติ ลักษณะเหมือนลำไยพันธุ์อีดอผสมเบี้ยวเขียว คือมีเนื้อแห้งและกรอบ แต่ได้ขนาดที่ผลใหญ่มาก และที่สำคัญ “เมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์ และเนื้อหนามาก”
มีเกษตรกรผู้ปลูกลำไยส่งออกได้มาดูผลผลิตยอมรับว่าดีจริง และส่งขายต่างประเทศได้ราคาสูงแน่นอน
โดยผู้ส่งออกได้มาดูผลผลิตลำไยพันธุ์จัมโบ้ที่สวนคุณลีบอกว่า ลักษณะคล้ายกับพันธุ์อีดอ เนื้อมีสีขาว แต่โดดเด่นตรงที่เนื้อหนามากและเมล็ดลีบ ทำให้ได้เปรียบลำไยสายพันธุ์อื่น
สำหรับพื้นที่ที่จะปลูกลำไยพันธุ์จัมโบ้สามารถปลูกได้ทั่วประเทศ ขอให้มีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์เท่านั้น
เนื่องจากปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรต หรือโซเดียมคลอเรต บังคับให้ออกนอกฤดูได้
การปลูกลำไยแบบสมัยใหม่ ถ้าเป็นพื้นที่ที่เคยปลูกพืชอื่นมาก่อน ให้ไถดินลึก ประมาณ 30 เซนติเมตร ตากดินไว้ 20-25 วัน พรวนย่อยดินอีก 1-2 ครั้ง และปรับระดับดินให้สม่ำเสมอตามแนวลาดเอียง
วิธีการปลูก เริ่มจากการเตรียมพันธุ์โดยวิธีการตอนกิ่ง ซึ่งควรเตรียมไว้ล่วงหน้า 1 ปี เพื่อจะได้ต้นกล้าที่แข็งแรง หรือเลือกใช้ต้นพันธุ์ลำไยที่ขยายพันธุ์แบบเสียบยอด หรือทาบกิ่งก็ได้ เพราะจะได้ต้นพันธุ์ที่มีรากแก้ว ทำให้ต้นแข็งแรง หากินเก่ง ทนต่อสภาพดินไม่ดีได้ ต่อมาก็เป็นเรื่องของระยะปลูก 6x6 เมตร แล้วใช้วิธีควบคุมทรงพุ่ม