สวัสดีค่ะ เพื่อนๆพี่ๆใน Pantip ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่อ่านกระทู้เรื่องราวต่างๆใน Pantip มาโดยตลอดแต่ไม่คิดว่าวันหนึ่งดิ
ฉันจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะมาแชร์ประสบการณ์อันเลวร้ายและสิ่งที่อึดอัด ตันใจ และความเจ็บปวดสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างดิฉัน
เรื่องมีอยู่ว่า.....
ดิฉันอายุ 24 ปีพึ่งเรียนจบได้ไม่เท่าไหร่ ก็ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในวงการรถ หรือเรียกง่ายๆว่า วงการนายหน้ารถ
ดิฉันตัวคนเดียวค่ะไม่ได้อยู่กับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเหมือนกับครอบครัวคนอื่นๆทั่วไป ต้องดำรงค์ชีพแบบโดดเดียว
มาโดยตลอด ดิฉันมีภาระหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบ ต้องทำงานผ่อนรถ ค่าบ้าน ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
อีกทั่งต้องหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง แฟนก็มาจากไปเมื่อหลายปีก่อน
ในการทำงานของดิฉันทำงานในลักษณะของนายหน้ารถค่ะ ซึ่งรายได้ก็ไม่มากพอมากนัก แต่ก็เลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตัวเอง
ได้รอดในแต่ละวัน แต่ก็ดิ้นรนปากกัดตีนถีบมาได้จนถึงทุกวันนี้ค่ะ การทำงานของดิฉันมีความซื่อสัตย์ต่อการทำงานมากค่ะ
เพราะเป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตัวเองนี่ค่ะ จึงมีความสุขและเต็มที่ทุกครั้งที่ได้ทำ อีกอย่างการที่เราซื่อสัตย์
และจริงจังกับงาน และไม่เอาเปรียบใคร สิ่งที่เราได้รับกลับมามันก็ควรจะเป็นแบบนั่นใช่รึเปล่าค่ะ....แต่ทำไม
มันกลับตรงกันข้ามกันหมดทุกอย่าง บางครั้งดิฉันโดนเอาเปรียบจากการทำงานบ้าง ก็เพราะความเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว
ที่โดนถูกเอาเปรียบจากเพศตรงข้าม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนที่เรานับถือทั้งสิ้น ดิฉันเป็นคนค่อนข้างไว้ใจคนง่าย
เพราะสิ่งนี่ค่ะที่ทำให้ดิฉันโดนมาแบบสาหัส สากัญขนาดนี้ จนมาวันหนึ่งดิฉันต้องมาเป็นหนี้ก้อนใหญ่โดยหนี้ก้อนนี้
เป็นหนี้สินที่ดิฉันไม่ได้สร้างขึ้นมาเองด้วยซ้ำไป และด้วยความรับผิดชอบทำให้ต้องรับผิดชอบทั้งหมดแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพราะถึงวินาทีที่เกิดปัญหาทุกๆคนก็พร้อมที่จะเอาตัวรอดทั้งสิ้น และพร้อมที่จะปัดภาระทั้งหมดมาให้กับผู้หญิงอย่างดิฉัน
มันคือ สัจจะธรรมของมนุษย์ค่ะ...เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้...เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2557
ลูกค้าฝากขายรถยนต์ Toyota Vios ในราคา 65,000 บาท ซึ่งมีนายหน้า 1 คนแนะนำมาบอกว่าช่วยขายรถคันนี้ให้หน่อย
ซึ่งเจ้าของเดือนร้อนใช้เงินมาก ดิฉันด้วยความเห็นใจว่าเค้าเดือดร้อนจริงๆจึ่งช่วยขายให้ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาหนึ่ง
ในระหว่างที่รอเพื่อจะขาย นายหน้าคนที่ 1 ก็บอกว่าช่วยหน่อยตอนนี้เจ้าของเดือดร้อนใช้เงินอย่างมาก จึงทำทุกวิถีทางให้ช่วยขายได้
ด้วยดิฉันเป็นนักขายอยู่แล้วจึงช่วยขายจนสุดความสามารถจนสุดท้ายไม่นานมีลูกค้าติดต่อเข้ามา...ชื่อ..ราเชน
โทรสอบถามรายละเอียดเรื่องรถคันนี้หลายครั้ง จนเราเห็นว่าราเชนสนใจจริงๆ จึงเจรจาต่อรองเรื่องราคา
ราเชนก็โอเคคุยกันง่ายๆเข้าใจกันง่าย จึงตกลงเรื่องการส่งมอบรถ ซึ่งปกติแล้วดิฉันจะต้องให้ลูกค้ามารับรถเองและชำระเงินกับเจ้าของรถเอง
เมื่อคุยแล้วรู้สึกสนิทสนมเป็นกันเองเราเลยตายใจและเชื่อใจ จึงตกลงกันว่า จะจ้างคนขับ ขับไปส่งรถให้ที่ จ.นครปฐม
ซึ่งจะต้องจ่ายนอกอีก 6,000 บาท เป็นค่าขับส่ง ดิฉันจึงให้ราเชน ชำระเงินค่าขับส่งโดยโอนผ่านทาง ATM เข้ามาก่อน
แต่ราเชนเล่าให้ฟังว่า เคยโดนหลอกให้โอนเงินไปให้แต่สุดท้ายเมื่อโอนไปแล้วก็ปิดเครื่องหนี ดิฉันจึงเห็นใจราเชนเป็นอย่างมาก
และด้วยความบริสุทธิ์ใจและความเห็นใจจึงให้โอนเงินมาแค่ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งจะชำระหลังจากได้รับรถ
ราเชนจึงโอนมาให้ค่าขับส่งแค่ 3,000 บาท และอีก 3,000 บาทที่เป็นค่าขับส่งจะรวมกับค่ารถในวันรับรถ
ซึ่งรวมเป็นจำนวนเงิน 68,000 บาท จากนั้นด้วยความที่ดิฉันสงสารและเห็นใจคนขับรถที่ไปส่งรถ จึงออกให้อีก 3,000 บาท
เพื่อให้คนขับรถได้ใช้จ่ายในระหว่างการเดินทางตามที่ตกลงกับคนขับไว้
**เหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้นเดี๋ยวดิฉันจะรีบกลับมาเล่าให้ฟังน่ะค่ะ มันโหดร้ายเกินกว่าจะรับไหว ขอพักเช็ดน้ำตาลูกผู้หญิงหน่อยน่ะค่ะ**
บทเรียนราคาแพง!!!
ฉันจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะมาแชร์ประสบการณ์อันเลวร้ายและสิ่งที่อึดอัด ตันใจ และความเจ็บปวดสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างดิฉัน
เรื่องมีอยู่ว่า.....
ดิฉันอายุ 24 ปีพึ่งเรียนจบได้ไม่เท่าไหร่ ก็ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในวงการรถ หรือเรียกง่ายๆว่า วงการนายหน้ารถ
ดิฉันตัวคนเดียวค่ะไม่ได้อยู่กับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเหมือนกับครอบครัวคนอื่นๆทั่วไป ต้องดำรงค์ชีพแบบโดดเดียว
มาโดยตลอด ดิฉันมีภาระหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบ ต้องทำงานผ่อนรถ ค่าบ้าน ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
อีกทั่งต้องหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง แฟนก็มาจากไปเมื่อหลายปีก่อน
ในการทำงานของดิฉันทำงานในลักษณะของนายหน้ารถค่ะ ซึ่งรายได้ก็ไม่มากพอมากนัก แต่ก็เลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตัวเอง
ได้รอดในแต่ละวัน แต่ก็ดิ้นรนปากกัดตีนถีบมาได้จนถึงทุกวันนี้ค่ะ การทำงานของดิฉันมีความซื่อสัตย์ต่อการทำงานมากค่ะ
เพราะเป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตัวเองนี่ค่ะ จึงมีความสุขและเต็มที่ทุกครั้งที่ได้ทำ อีกอย่างการที่เราซื่อสัตย์
และจริงจังกับงาน และไม่เอาเปรียบใคร สิ่งที่เราได้รับกลับมามันก็ควรจะเป็นแบบนั่นใช่รึเปล่าค่ะ....แต่ทำไม
มันกลับตรงกันข้ามกันหมดทุกอย่าง บางครั้งดิฉันโดนเอาเปรียบจากการทำงานบ้าง ก็เพราะความเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว
ที่โดนถูกเอาเปรียบจากเพศตรงข้าม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนที่เรานับถือทั้งสิ้น ดิฉันเป็นคนค่อนข้างไว้ใจคนง่าย
เพราะสิ่งนี่ค่ะที่ทำให้ดิฉันโดนมาแบบสาหัส สากัญขนาดนี้ จนมาวันหนึ่งดิฉันต้องมาเป็นหนี้ก้อนใหญ่โดยหนี้ก้อนนี้
เป็นหนี้สินที่ดิฉันไม่ได้สร้างขึ้นมาเองด้วยซ้ำไป และด้วยความรับผิดชอบทำให้ต้องรับผิดชอบทั้งหมดแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพราะถึงวินาทีที่เกิดปัญหาทุกๆคนก็พร้อมที่จะเอาตัวรอดทั้งสิ้น และพร้อมที่จะปัดภาระทั้งหมดมาให้กับผู้หญิงอย่างดิฉัน
มันคือ สัจจะธรรมของมนุษย์ค่ะ...เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้...เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2557
ลูกค้าฝากขายรถยนต์ Toyota Vios ในราคา 65,000 บาท ซึ่งมีนายหน้า 1 คนแนะนำมาบอกว่าช่วยขายรถคันนี้ให้หน่อย
ซึ่งเจ้าของเดือนร้อนใช้เงินมาก ดิฉันด้วยความเห็นใจว่าเค้าเดือดร้อนจริงๆจึ่งช่วยขายให้ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาหนึ่ง
ในระหว่างที่รอเพื่อจะขาย นายหน้าคนที่ 1 ก็บอกว่าช่วยหน่อยตอนนี้เจ้าของเดือดร้อนใช้เงินอย่างมาก จึงทำทุกวิถีทางให้ช่วยขายได้
ด้วยดิฉันเป็นนักขายอยู่แล้วจึงช่วยขายจนสุดความสามารถจนสุดท้ายไม่นานมีลูกค้าติดต่อเข้ามา...ชื่อ..ราเชน
โทรสอบถามรายละเอียดเรื่องรถคันนี้หลายครั้ง จนเราเห็นว่าราเชนสนใจจริงๆ จึงเจรจาต่อรองเรื่องราคา
ราเชนก็โอเคคุยกันง่ายๆเข้าใจกันง่าย จึงตกลงเรื่องการส่งมอบรถ ซึ่งปกติแล้วดิฉันจะต้องให้ลูกค้ามารับรถเองและชำระเงินกับเจ้าของรถเอง
เมื่อคุยแล้วรู้สึกสนิทสนมเป็นกันเองเราเลยตายใจและเชื่อใจ จึงตกลงกันว่า จะจ้างคนขับ ขับไปส่งรถให้ที่ จ.นครปฐม
ซึ่งจะต้องจ่ายนอกอีก 6,000 บาท เป็นค่าขับส่ง ดิฉันจึงให้ราเชน ชำระเงินค่าขับส่งโดยโอนผ่านทาง ATM เข้ามาก่อน
แต่ราเชนเล่าให้ฟังว่า เคยโดนหลอกให้โอนเงินไปให้แต่สุดท้ายเมื่อโอนไปแล้วก็ปิดเครื่องหนี ดิฉันจึงเห็นใจราเชนเป็นอย่างมาก
และด้วยความบริสุทธิ์ใจและความเห็นใจจึงให้โอนเงินมาแค่ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งจะชำระหลังจากได้รับรถ
ราเชนจึงโอนมาให้ค่าขับส่งแค่ 3,000 บาท และอีก 3,000 บาทที่เป็นค่าขับส่งจะรวมกับค่ารถในวันรับรถ
ซึ่งรวมเป็นจำนวนเงิน 68,000 บาท จากนั้นด้วยความที่ดิฉันสงสารและเห็นใจคนขับรถที่ไปส่งรถ จึงออกให้อีก 3,000 บาท
เพื่อให้คนขับรถได้ใช้จ่ายในระหว่างการเดินทางตามที่ตกลงกับคนขับไว้
**เหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้นเดี๋ยวดิฉันจะรีบกลับมาเล่าให้ฟังน่ะค่ะ มันโหดร้ายเกินกว่าจะรับไหว ขอพักเช็ดน้ำตาลูกผู้หญิงหน่อยน่ะค่ะ**