เชื้อไฟ (มติชนสุดสัปดาห์ 10-16 ตุลาคม 2557)
ตอนที่คิดแต่งตั้งนายทหารจำนวนมากเป็นสมาชิก
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.
ผู้มีอำนาจใน คสช. คิดแต่เพียงเรื่อง "ความมั่นคง"
ต้องมีคนที่ไว้ใจได้อยู่ในสภา
ลืมไปว่าคนที่เป็น สนช. ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินด้วย
การเปิดเผยทรัพย์สินของแต่ละคนเป็นเรื่องความโปร่งใส
แต่ทางการเมือง่มีผลทาง"จิตวิทยา"สูงมาก
เพราะเป็นการเล่นกับ"ความเชื่อ" ของสังคมไทย
อย่างเช่นครั้งนี้
อย่าลืมว่าที่ผ่านมาสังคมไทยเชื่อว่า "ทหารนับขวด ตำรวจนับแบงก์"
ทุกคนคิดว่าทหารส่วนใหญ่จะยากจน
แต่พอเปิดบัญชีทรัพย์สินของ สนช. ขึ้นมา ทุกคนจึงรู้ว่า
อาชีพทหารก็สามารถลืมตาอ้าปากได้เหมือนกัน
พ่อแม่ที่เคยบอกให้ลูกชายเลือกงานภาคเอกชน
ด้วยเหตุผลเรื่อง"ความมั่นคง"
แต่เป็น"ความมั่นคงทางการเงิน"
เพราะเชื่อว่าทำงานภาคเอกชนรายได้ดีกว่าทหาร
วันนี้พ่อแม่ที่มีอคติต่ออาชีพทหารจะต้องเปลี่ยนใจ
จากบัญชีทรัพย์สินที่เปิดเผยนายทหารแต่ละคนมีทรัพย์สิน
ไม่ต่ำกว่า30ล้านบาท
ระดับ พล.ท. บางคนที่ยังรับราชการอยู่มีทรัพย์สินถึง 70 กว่าล้านบาท
ส่วนนายทหารที่เกษียณอายุไปแล้ว บางคนมีทรัพย์สินเกิน 100 ล้าน
นึกถึงตอนที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินหลัง
รัฐประหารและเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
"บิ๊กบัง" และภรรยาทั้ง 2 คน มีทรัพย์สินรวมกัน 94 ล้านบาท
แต่ตอนนั้น พล.อ.สนธิ เพิ่งเกษียณอายุราชการหมาดๆ และอำนาจเต็มมือ
ไม่แปลกที่ไม่มีใครกล้าสงสัยว่าท่านบริหาร "พอร์ต" อย่างไร
รายได้จึงงอกงามเช่นนี้
ป.ป.ช. ก็ไม่กล้า !!!
ว่ากันว่า ผลสะเทือนจากการเปิดบัญชีทรัพย์สินของ สนช. ถือเป็นแค่ "น้ำจิ้ม"
สู้การเปิดบัญชีทรัพย์สินของคณะรัฐมนตรีไม่ได้
เพราะคนอยากรู้ว่านายทหารระดับสูงในคสช.มีทรัพย์สินเท่าไร
จะมากหรือน้อยกว่านายทหารที่เป็นสนช.
เรื่องทรัพย์สินที่แสดงคงไม่มีผลกระทบต่อรัฐบาลในวันนี้
แต่ถือเป็น "ข้อมูล" พื้นฐานที่ฝ่ายตรงข้ามต้องนำมาใช้ในอนาคตอย่างแน่นอน
ถ้าอุณหภูมิทางการเมืองเปลี่ยนไป
เรื่องนี้ "บิ๊กบัง" รู้ดีที่สุด
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1413456453&grpid=
"เชื้อไฟ" จากบัญชีทรัพย์สิน สนช.-แกนนำคสช. เรื่องนี้ "บิ๊กบัง" รู้ดีที่สุด ....มติขนออนไลน์ ....sao..เหลือ..noi
ตอนที่คิดแต่งตั้งนายทหารจำนวนมากเป็นสมาชิก
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.
ผู้มีอำนาจใน คสช. คิดแต่เพียงเรื่อง "ความมั่นคง"
ต้องมีคนที่ไว้ใจได้อยู่ในสภา
ลืมไปว่าคนที่เป็น สนช. ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินด้วย
การเปิดเผยทรัพย์สินของแต่ละคนเป็นเรื่องความโปร่งใส
แต่ทางการเมือง่มีผลทาง"จิตวิทยา"สูงมาก
เพราะเป็นการเล่นกับ"ความเชื่อ" ของสังคมไทย
อย่างเช่นครั้งนี้
อย่าลืมว่าที่ผ่านมาสังคมไทยเชื่อว่า "ทหารนับขวด ตำรวจนับแบงก์"
ทุกคนคิดว่าทหารส่วนใหญ่จะยากจน
แต่พอเปิดบัญชีทรัพย์สินของ สนช. ขึ้นมา ทุกคนจึงรู้ว่า
อาชีพทหารก็สามารถลืมตาอ้าปากได้เหมือนกัน
พ่อแม่ที่เคยบอกให้ลูกชายเลือกงานภาคเอกชน
ด้วยเหตุผลเรื่อง"ความมั่นคง"
แต่เป็น"ความมั่นคงทางการเงิน"
เพราะเชื่อว่าทำงานภาคเอกชนรายได้ดีกว่าทหาร
วันนี้พ่อแม่ที่มีอคติต่ออาชีพทหารจะต้องเปลี่ยนใจ
จากบัญชีทรัพย์สินที่เปิดเผยนายทหารแต่ละคนมีทรัพย์สิน
ไม่ต่ำกว่า30ล้านบาท
ระดับ พล.ท. บางคนที่ยังรับราชการอยู่มีทรัพย์สินถึง 70 กว่าล้านบาท
ส่วนนายทหารที่เกษียณอายุไปแล้ว บางคนมีทรัพย์สินเกิน 100 ล้าน
นึกถึงตอนที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินหลัง
รัฐประหารและเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
"บิ๊กบัง" และภรรยาทั้ง 2 คน มีทรัพย์สินรวมกัน 94 ล้านบาท
แต่ตอนนั้น พล.อ.สนธิ เพิ่งเกษียณอายุราชการหมาดๆ และอำนาจเต็มมือ
ไม่แปลกที่ไม่มีใครกล้าสงสัยว่าท่านบริหาร "พอร์ต" อย่างไร
รายได้จึงงอกงามเช่นนี้
ป.ป.ช. ก็ไม่กล้า !!!
ว่ากันว่า ผลสะเทือนจากการเปิดบัญชีทรัพย์สินของ สนช. ถือเป็นแค่ "น้ำจิ้ม"
สู้การเปิดบัญชีทรัพย์สินของคณะรัฐมนตรีไม่ได้
เพราะคนอยากรู้ว่านายทหารระดับสูงในคสช.มีทรัพย์สินเท่าไร
จะมากหรือน้อยกว่านายทหารที่เป็นสนช.
เรื่องทรัพย์สินที่แสดงคงไม่มีผลกระทบต่อรัฐบาลในวันนี้
แต่ถือเป็น "ข้อมูล" พื้นฐานที่ฝ่ายตรงข้ามต้องนำมาใช้ในอนาคตอย่างแน่นอน
ถ้าอุณหภูมิทางการเมืองเปลี่ยนไป
เรื่องนี้ "บิ๊กบัง" รู้ดีที่สุด
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1413456453&grpid=