ต้องขอออกตัวก่อนว่าผมเองก็ไม่ใช่คนที่ได้เที่ยวบ่อยอะไร แต่ก็เคยเที่ยวคนเดียวมาบ้าง ประกอบกับลองเสิร์จหาดูในเว็บพันทิปแล้วเหมือนผมยังไม่เจอกระทู้ที่แนะนำเกี่ยวกับอะไรพวกนี้ เพราะโดยส่วนใหญ่จะไปเป็นส่วนหนึ่งในของการรีวิวการไปเที่ยวมากกว่า ผมก็เลยลองตั้งกระทู้แชร์วิธีการเที่ยวไปไหนก็ได้แบบคร่าวๆดูนะครับ
//กระทู้นี้ตั้งโดยเอาเนื้อหามาจากการ Backpack ไปญี่ปุ่นของผมซะส่วนใหญ่ก็เลยจะมีอะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่นเยอะนิดนึงนะครับ ไม่ว่ากันเนอะ
ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยเถิด
How to Travel Alone?
วิธีการท่องเที่ยวคนเดียว ฉบับมั่วๆ
เขาว่ากันว่า ความเหงาคือเหตุผลที่ทำให้คนออกเดินทาง
แต่ผมไม่คิดว่างั้นนะ... คนเราจะออกเดินทางไม่จำเป็นต้องเหงาอย่างเดียวนี่นา
บางคนก็สนุกกับการเดินทาง บางคนก็อยากเจอกับความท้าทาย บางคนกำลังเศร้า ก็ใช้การเดินทาง หวังว่าจะพบกับความสุข
เราทุกคนออกเดินทางเพราะอะไรบางอย่าง และหวังอะไรบางอย่างกลับมา
พี่นิ้วกลมสอนเราว่า “ปีกของนกย่อมมิได้มีไว้เพียงเพื่อยืดเส้นยืดสายในรังเล็ก หรือขยับขึ้นลงเล่นในกรงเหล็กเพียงแค่นั้น หากมีไว้เพื่อกางออกให้สุดเหยียดแล้วโผบินสู่ท้องฟ้าแห่งโอกาส พร้อมกับคำถามคาใจว่า ฟ้ากว้างเพียงใด และ...ฉันจะบินไปไกลได้แค่ไหนกัน”
ผมจำไม่ได้แล้วล่ะว่าครั้งแรกที่เที่ยวคนเดียวคือที่ไหน น่าจะเชียงใหม่ล่ะมั้ง? แต่ที่กล้าพูดเต็มปากเต็มคำ แล้วเอามาเขียนบันทึกตอนนี้ได้ก็คือการ Backpack ไปญี่ปุ่นนี่แหละ
เหตุผลที่ผมออกเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เพราะความเหงา แต่เป็นการทำตามความฝันสมัยเพิ่งจบ ม.3 นู้นแน่ะ ว่าถ้าจบ ม.6 แล้วจะต้อง Backpack ไปญี่ปุ่นให้ได้ จนสุดท้ายก็ได้ไปจริงๆ
นอกเรื่องกันมาพอสมควร เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าว่า การไปเที่ยวคนเดียวมันทำยังไงกันนะ? ยากหรือเปล่า? จะสนุกเหรอ? เดี๋ยวผมเล่าให้ฟังไปเรื่อยๆ เป็นข้อๆมั่วๆแล้วกันนะครับ จะได้พออ่านกันรู้เรื่อง
1. การเตรียมตัว ไปเที่ยวยังไงก็ต้องเตรียมตัวครับ มันมีทั้งเรื่องเงินเรื่องอะไรต่อมิอะไรมากมาย อย่างที่ผมไปเที่ยวเชียงใหม่ ก็เตรียมตัวเรื่องที่พักกับที่เที่ยวนิดๆหน่อยๆ เพราะเป็นการเที่ยวในประเทศ มั่วๆดิบๆหน่อย ได้อารมณ์ดี แต่ที่ไปญี่ปุ่นนี่คือเตรียมอย่างเยอะ เอกสารเป็นกองเลย ไปเมืองอะไร ไปยังไง ต้องเดินไปตรงไหนบ้าง เต็มไปหมด
แต่เตรียมตัวไปดีขนาดไหน ไปเที่ยวจริงๆมันต้องเจออะไรบางอย่างที่ทำให้เราต้องปรับครับ เที่ยวคนเดียวมันสนุกตรงนี้ เราจะเปลี่ยนอะไรยังไงก็ได้ ขอให้มันยังกลับไปที่พักของเราในคืนนั้นๆได้ ไม่ต้องเสียเวลาทะเลาะกับใครด้วย
อย่างที่ผมไปญี่ปุ่นนี่กะว่าจะไป Kawakuchiko-Hakone แต่ปรากฏพายุเข้าฮะ เลยเที่ยวแต่ Kawakuchiko ซะเลย
*ถ้าไปเที่ยวต่างประเทศน่าจะมีของเล็กๆน้อยๆติดตัวไว้ เผื่อให้เป็นที่ระลึกนะครับ //มาม่าต้มยำกุ้งก็ยังดีครับ คนต่างประเทศชอบมาก และไม่มี ขายที่ไหนด้วยนอกจากบ้านเรา (ไม่นับห้างนำเข้า อันนั้น

ยิ่งแพง) ผมโดนถามมาแล้ว 555*
2. การปรับตัว อย่างที่บอกไปว่าถึงเราจะเตรียมตัวไปดีแค่ไหน มันก็จะต้องมีซักเหตุการณ์นึงที่มันไม่เป็นไปตามแผน เพราะฉะนั้นเราจึงต้องรู้จักปรับตัวนะฮะ ซึ่งการปรับตัวนี้รวมไปถึงพวกการใช้ชีวิตด้วยนะ ถ้าเราจองที่พักแบบ Dorm ห้องน้ำรวม เราก็ต้องรู้จักว่าเราจะกลับห้องกี่โมงดี กลับดึกเดี๋ยวจะรบกวนเพื่อนร่วมห้องหรือเปล่า หรือก่อนนอนชอบฟังเพลงเสียงดังๆ ก็ต้องปรับตัว นอนแบบเงียบๆไป ห้องน้ำงี้จะเข้าซักชั่วโมงนึงก็ไม่ได้ เกรงใจคนใช้ต่อ อะไรงี้
3. ความหน้าด้าน(นิดๆ) ผมว่าสกิลนี้จำเป็นสุดๆเลยนะ ไปเที่ยวนะครับ ผม

หลงทุกวันเลย 55555 มีปากนี่แหละช่วยชีวิตไว้ ไม่งั้นป่านนี้เป็นปุ๋ยอยู่ในป่าที่ญี่ปุ่นแน่ๆ 555 เดินไปถามเลยครับ ถ้าเที่ยวในประเทศก็ง่ายหน่อย ถ้าไปต่างประเทศก็มั่วๆไปครับ มีทริกแถมให้นิดนึง ถ้าจะเข้าไปถามใคร ส่วนใหญ่ผู้ชายจะไม่ค่อยหนีครับ ผู้หญิงถ้าเดินคนเดียวจะไม่ค่อยกล้าช่วย แต่ถ้าอยู่กับเพื่อนนี่ส่วนใหญ่จะช่วยเต็มที่ ดีไม่ดีก็เดินมาส่งถึงที่เลย ผมพิสูจน์มาละ
4. ลองเปิดใจ เวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ ลองทักทายเพื่อนร่วมทางดูสิครับ ผมว่ามันเป็นอะไรที่ช่วยให้การเดินทางของคุณมีความหมายนะ ตอนผมนั่งรถไฟฟรีไปเชียงใหม่ผมก็คุยกับคุณลุงคุณป้า ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีครับ ผมว่าคุณลุงคุณป้าก็คงเบื่อๆเหงาๆเหมือนกันนั่นแหละ มีเราเป็นเพื่อนคุยเขาก็คงสนุกดี หรืออย่างตอนไปญี่ปุ่น เวลาออกจากโตเกียวก็เจอคนไทยทุกวันเลย นี่ก็ได้พี่กลับมา 4 คนแน่ะ
นึกไม่ค่อยออกละครับ จริงๆเที่ยวคนเดียวนี่ง่ายนะ ไม่ต้องวุ่นวายกับใครดี อยากทำอะไรก็ทำ แต่ขอเตือนตัวใหญ่ๆไว้เลยว่า
ถ้าเหงา ถ้าอกหัก “อย่าไปภูเขา” เพราะแค่ความเศร้ามันก็เหงาพออยู่แล้ว ไปเจอลมหนาวกับวิวสวยๆบนนั้น บอกได้คำเดียวครับว่า “พี่ได้เหงาตายแน่นอน” (พิสูจน์มาเอง ดีนะไม่ตาย 555)
ไปทะเลน่าจะดีกว่า(มั้ง)
*นี่ผมก็เพิ่งอินดี้นั่งรถตู้ไปทะเลมา ที่พักก็ไม่ได้จองไว้ก่อน ไปถึงก็หาเอา อยากบอกว่าทะเลก็สวยพอๆกับภูเขาอะครับ ถ้าอกหักไปก็เจ็บพอกัน 555*
ขอเตือนสำหรับคนที่ไปต่างประเทศแล้วนัดเจอเพื่อน ให้นัดตรงที่มันมีความเฉพาะนะครับ อย่าไปทำแบบผม ญี่ปุ่นนี่แหละ พอดีเพื่อนไปเรียน ก็เลยนัดเจอกัน นัดที่ไหนไม่นัด จัดนี่เลยครับ สถานีชินจูกุ โคตรรรรรรใหญ่ สรุปหมดค่าโทรศัพท์บานเลย
ส่วนนี้ก็จะเป็นลิ้งค์ที่มีประโยชน์นะครับ เท่าที่ผมได้ใช้
www.google.com
ส่วนใหญ่ใช้คีย์เวิร์ดเป็นสถานที่ที่สนใจ แล้วก็ตามด้วย Pantip ครับ มีประโยชน์มาก
www.hyperdia.com/en/
เว็บนี้สำหรับวางแผนการเดินทางในญี่ปุ่นครับ มีประโยชน์สุดๆ
www.travel.rakuten.com/
เว็บหาที่พักที่ญี่ปุ่น สำหรับคนที่อยากได้ราคาถูกๆก็ให้กดเข้าที่เป็นภาษาญี่ปุ่นนะครับ แล้วใช้ google translate เอา มันจะได้ที่พักเยอะกว่า แต่เว็บนี้ใช้ยากนิดนึงนะ ต้องดูแผนที่เก่งๆ
สายการบิน Jet Star มีโปร bkk-fuk บ่อยๆ ตอนผมไปได้โปรขากลับ 1 บาท(ขาไป 5,xxx thb)
สายการบินในประเทศของญี่ปุ่นก็ลองดู Peach, Vanilla อะไรงี้
https://www.couchsurfing.org/
เว็บที่พักฟรีในยุโรป ส่วนตัวยังไม่เคยไปยุโรปแต่เห็นคนในพันทิปเขาเคยใช้บริการกัน ลองหาอ่านดูนะครับ
http://www.mitfahrgelegenheit.de/
อันนี้เป็นเหมือนบริการโบกรถออนไลน์ อัพเกรดจากการโบกรถฟรีข้างถนน อาจจะมีแชร์ค่าน้ำมัน แต่ถูกกว่า ไวกว่า (ล่ะมั้ง) หาอ่านได้ตามพันทิปเช่นเคย
โครงการ wwoof สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศนานๆ ใช้ตังน้อยๆ ก็ใช้วิธีนี้ได้ครับ ประมาณว่าใช้แรงงานแลกข้าวกับที่ซุกหัวนอน ดีไม่ดีก็มีเที่ยวฟรี อะไรงี้ ลองศึกษาดูได้จากพันทิป เช่นเดิม
รายชื่อที่พักที่ไปมาในญี่ปุ่น
Toukaisou
http://www.toukaisou.com/
มีทั้งห้องเดี่ยว (ห้องน้ำในตัว) และ Dorm ราคาถูก ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินของ Tokyo Metro และสถานที่ท่องเที่ยว มีของกินทั้งวันทั้งคืน (ร้านราเมงเปิดตอน 5 ทุ่ม ปิดตี 2 กับซุชิ 24 ชม.)
toco.
http://backpackersjapan.co.jp/english/
ขออนุญาตหยาบนะครับ ที่นี่

โคตรสวย บรรยากาศญี่ปุ่นเก่าๆ อาหารเช้าราคาถูก ด้านหน้าเป็น bar ผมมานั่งจน bar ปิดทั้ง 2 คืนอะ คุยกับคนญี่ปุ่น สนุกดี คุยกันเรื่องประเทศญี่ปุ่น ผักชี แล้วก็ทองหยิบทองหยอด (ไปคุยกันเรื่องนั้นได้ไงก็ไม่รู้นะ แต่นึกแล้วยังฮาอะ 5555) อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดินของ Tokyo Metro
Khaosan Ninja
http://www.khaosan-tokyo.com/thai/ninja/
ที่พักสุดฮิตของ backpacker ชาวไทย ถึงขนาดมีเว็บภาษาไทยอะคิดดู 555 แต่การเดินทางอันนี้ลำบากหน่อย เพราะเป็นของ Toei –จริงๆมันก็ไม่ลำบากนะ แต่ผมว่าเราหาที่พักให้อยู่ในสายรถไฟใต้ดินของบริษัทเดียวกันมันจะสะดวกกว่า
--เรื่องที่พักกับสายรถไฟที่ญี่ปุ่นขอเสริมสั้นๆว่า ถ้าคิดว่าไปเที่ยวครั้งนี้ใช้ subway แล้วสะดวกกว่าใช้ JR เวลาหาที่พักให้ดูนิดนึงว่าใกล้กับสถานีอะไร มันจะมี 2 เจ้า คือ Tokyo Metro กับ Toei ซึ่งจริงๆมันก็ไปได้ถึงกันหมดแหละ แต่เหมือนกับมันต้องเสียเงินเพิ่มเล็กน้อย กับเสียเวลาเปลี่ยนขบวนอะครับ ส่วนตัวผมแนะนำว่า ถ้าได้ที่พักที่ติดกับสถานีของ Tokyo Metro ก็ให้หาที่พักที่ติดกับ Tokyo Metro ทุกคืนเลย(ในกรณีเปลี่ยนที่พัก) ในทางกลับกัน ถ้าเป็น Toei ก็ให้หาที่พักให้ใกล้กับ Toei ทุกคืน
--เท่าที่ผมไปสัมผัสมาอีกนั่นแหละ ผมรู้สึกว่าเส้น Toei จะงงกว่า Tokyo Metro หน่อยๆ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ แค่ความรู้สึกเฉยๆ
kawa st inn
http://www.st-inn.com/Thai/index.html
อีกหนึ่งที่พักสุดฮิตของชาวไทยที่จะไปดูภูเขาฟูจิที่เมืองคาวากูจิโกะ ถึงขนาดเว็บมีภาษาไทยเช่นกัน การเดินทางไม่ต้องเป็นกังวล เดินข้ามถนนจากสถานีรถบัสถึงเลย
สนามบินนาริตะ
อันนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นอนสบายสุดๆ ตรงเก้าอี้นั่นล่ะครับ ก่อนจะเข้าไป Departure Zone อะไรพวกนั้น เอาผ้าเช็ดตัวเป็นผ้าห่ม(ตามตำนานบอกว่าขอผ้าห่มได้ แต่ผมไม่กล้า) มีปลั๊กอะไรพร้อม มีคนนอนเป็นเพื่อนประมาณ 10 คน
แถมที่พักที่เชียงใหม่-ปาย, หันหิน ด้วยเลยละกันนะครับ
ปาย
The Heart of Pai
http://www.heartofpai.com/
ช่วง Low ห้องพัดลมก็นอนสบายครับ ถูกสุดๆด้วย
เชียงใหม่
สะบายเดย์ เกสต์เฮ้าส์
ส่วนตัวชอบที่นี่มาก เจ้าของเป็นกันเอง ที่พักราคาไม่แพงมาก อยู่บนถนนนิมมาน แสงสีเต็ม, แต่ที่พักอยู่ในซอย สงบดีครับ
เชียงใหม่ฟลอร่า
http://www.chiangmaiflora.com/
ราคาเดียวทั้งปี อยู่ในเกณฑ์ถูกมาก ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ไปพักเถอะ เรียกว่าคุ้ม อยู่ถนนนิมมาน ข้างๆมีร้านนั่งชิล เดินออกมาจากซอยฝั่งตรงข้ามเป็นสวรรค์ เอ้ย ร้าน Warm Up ..รู้ๆกันนะ
หันหิน
หัวหินพาราไดซ์เกสเฮาส์
http://www.huahin-paradise.com/
ที่พักอยู่ในซอกอะครับ ไม่มีชั้น 1 ตอนผมไปนี่เดินงงเลย555 ที่นี่จะเรียกประทับใจก็ไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก(ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความสะอาด)
ก็แนะนำว่าถ้าจะพักผ่อนแบบสบายๆผ่อนคลายก็ลองดูที่อื่นก่อนน่าจะดีกว่านะครับ(ที่นี่มีรีวิวในพันทิปอยู่ ลองดูครับ) แต่อย่างผมนี่เอาไว้ซุกหัวนอน(เพราะอินดี้เกิน กลัวไม่มีที่นอน) ก็นอนได้ครับ
เขียนมาอย่างยาว ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยว(คนเดียว) ไม่มากก็น้อยนะคร้าบ
ขอให้มีความสุขกับทุกการเดินทาง.. แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าครับ ;)
[CR]วิธีการท่องเที่ยวตัวคนเดียวหรือหลายคน ฉบับมั่วๆจากประสบการณ์ตรง
//กระทู้นี้ตั้งโดยเอาเนื้อหามาจากการ Backpack ไปญี่ปุ่นของผมซะส่วนใหญ่ก็เลยจะมีอะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่นเยอะนิดนึงนะครับ ไม่ว่ากันเนอะ
ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยเถิด
How to Travel Alone?
วิธีการท่องเที่ยวคนเดียว ฉบับมั่วๆ
เขาว่ากันว่า ความเหงาคือเหตุผลที่ทำให้คนออกเดินทาง
แต่ผมไม่คิดว่างั้นนะ... คนเราจะออกเดินทางไม่จำเป็นต้องเหงาอย่างเดียวนี่นา
บางคนก็สนุกกับการเดินทาง บางคนก็อยากเจอกับความท้าทาย บางคนกำลังเศร้า ก็ใช้การเดินทาง หวังว่าจะพบกับความสุข
เราทุกคนออกเดินทางเพราะอะไรบางอย่าง และหวังอะไรบางอย่างกลับมา
พี่นิ้วกลมสอนเราว่า “ปีกของนกย่อมมิได้มีไว้เพียงเพื่อยืดเส้นยืดสายในรังเล็ก หรือขยับขึ้นลงเล่นในกรงเหล็กเพียงแค่นั้น หากมีไว้เพื่อกางออกให้สุดเหยียดแล้วโผบินสู่ท้องฟ้าแห่งโอกาส พร้อมกับคำถามคาใจว่า ฟ้ากว้างเพียงใด และ...ฉันจะบินไปไกลได้แค่ไหนกัน”
ผมจำไม่ได้แล้วล่ะว่าครั้งแรกที่เที่ยวคนเดียวคือที่ไหน น่าจะเชียงใหม่ล่ะมั้ง? แต่ที่กล้าพูดเต็มปากเต็มคำ แล้วเอามาเขียนบันทึกตอนนี้ได้ก็คือการ Backpack ไปญี่ปุ่นนี่แหละ
เหตุผลที่ผมออกเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เพราะความเหงา แต่เป็นการทำตามความฝันสมัยเพิ่งจบ ม.3 นู้นแน่ะ ว่าถ้าจบ ม.6 แล้วจะต้อง Backpack ไปญี่ปุ่นให้ได้ จนสุดท้ายก็ได้ไปจริงๆ
นอกเรื่องกันมาพอสมควร เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าว่า การไปเที่ยวคนเดียวมันทำยังไงกันนะ? ยากหรือเปล่า? จะสนุกเหรอ? เดี๋ยวผมเล่าให้ฟังไปเรื่อยๆ เป็นข้อๆมั่วๆแล้วกันนะครับ จะได้พออ่านกันรู้เรื่อง
1. การเตรียมตัว ไปเที่ยวยังไงก็ต้องเตรียมตัวครับ มันมีทั้งเรื่องเงินเรื่องอะไรต่อมิอะไรมากมาย อย่างที่ผมไปเที่ยวเชียงใหม่ ก็เตรียมตัวเรื่องที่พักกับที่เที่ยวนิดๆหน่อยๆ เพราะเป็นการเที่ยวในประเทศ มั่วๆดิบๆหน่อย ได้อารมณ์ดี แต่ที่ไปญี่ปุ่นนี่คือเตรียมอย่างเยอะ เอกสารเป็นกองเลย ไปเมืองอะไร ไปยังไง ต้องเดินไปตรงไหนบ้าง เต็มไปหมด
แต่เตรียมตัวไปดีขนาดไหน ไปเที่ยวจริงๆมันต้องเจออะไรบางอย่างที่ทำให้เราต้องปรับครับ เที่ยวคนเดียวมันสนุกตรงนี้ เราจะเปลี่ยนอะไรยังไงก็ได้ ขอให้มันยังกลับไปที่พักของเราในคืนนั้นๆได้ ไม่ต้องเสียเวลาทะเลาะกับใครด้วย
อย่างที่ผมไปญี่ปุ่นนี่กะว่าจะไป Kawakuchiko-Hakone แต่ปรากฏพายุเข้าฮะ เลยเที่ยวแต่ Kawakuchiko ซะเลย
*ถ้าไปเที่ยวต่างประเทศน่าจะมีของเล็กๆน้อยๆติดตัวไว้ เผื่อให้เป็นที่ระลึกนะครับ //มาม่าต้มยำกุ้งก็ยังดีครับ คนต่างประเทศชอบมาก และไม่มี ขายที่ไหนด้วยนอกจากบ้านเรา (ไม่นับห้างนำเข้า อันนั้น
2. การปรับตัว อย่างที่บอกไปว่าถึงเราจะเตรียมตัวไปดีแค่ไหน มันก็จะต้องมีซักเหตุการณ์นึงที่มันไม่เป็นไปตามแผน เพราะฉะนั้นเราจึงต้องรู้จักปรับตัวนะฮะ ซึ่งการปรับตัวนี้รวมไปถึงพวกการใช้ชีวิตด้วยนะ ถ้าเราจองที่พักแบบ Dorm ห้องน้ำรวม เราก็ต้องรู้จักว่าเราจะกลับห้องกี่โมงดี กลับดึกเดี๋ยวจะรบกวนเพื่อนร่วมห้องหรือเปล่า หรือก่อนนอนชอบฟังเพลงเสียงดังๆ ก็ต้องปรับตัว นอนแบบเงียบๆไป ห้องน้ำงี้จะเข้าซักชั่วโมงนึงก็ไม่ได้ เกรงใจคนใช้ต่อ อะไรงี้
3. ความหน้าด้าน(นิดๆ) ผมว่าสกิลนี้จำเป็นสุดๆเลยนะ ไปเที่ยวนะครับ ผม
4. ลองเปิดใจ เวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ ลองทักทายเพื่อนร่วมทางดูสิครับ ผมว่ามันเป็นอะไรที่ช่วยให้การเดินทางของคุณมีความหมายนะ ตอนผมนั่งรถไฟฟรีไปเชียงใหม่ผมก็คุยกับคุณลุงคุณป้า ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีครับ ผมว่าคุณลุงคุณป้าก็คงเบื่อๆเหงาๆเหมือนกันนั่นแหละ มีเราเป็นเพื่อนคุยเขาก็คงสนุกดี หรืออย่างตอนไปญี่ปุ่น เวลาออกจากโตเกียวก็เจอคนไทยทุกวันเลย นี่ก็ได้พี่กลับมา 4 คนแน่ะ
นึกไม่ค่อยออกละครับ จริงๆเที่ยวคนเดียวนี่ง่ายนะ ไม่ต้องวุ่นวายกับใครดี อยากทำอะไรก็ทำ แต่ขอเตือนตัวใหญ่ๆไว้เลยว่า
ถ้าเหงา ถ้าอกหัก “อย่าไปภูเขา” เพราะแค่ความเศร้ามันก็เหงาพออยู่แล้ว ไปเจอลมหนาวกับวิวสวยๆบนนั้น บอกได้คำเดียวครับว่า “พี่ได้เหงาตายแน่นอน” (พิสูจน์มาเอง ดีนะไม่ตาย 555)
ไปทะเลน่าจะดีกว่า(มั้ง)*นี่ผมก็เพิ่งอินดี้นั่งรถตู้ไปทะเลมา ที่พักก็ไม่ได้จองไว้ก่อน ไปถึงก็หาเอา อยากบอกว่าทะเลก็สวยพอๆกับภูเขาอะครับ ถ้าอกหักไปก็เจ็บพอกัน 555*
ขอเตือนสำหรับคนที่ไปต่างประเทศแล้วนัดเจอเพื่อน ให้นัดตรงที่มันมีความเฉพาะนะครับ อย่าไปทำแบบผม ญี่ปุ่นนี่แหละ พอดีเพื่อนไปเรียน ก็เลยนัดเจอกัน นัดที่ไหนไม่นัด จัดนี่เลยครับ สถานีชินจูกุ โคตรรรรรรใหญ่ สรุปหมดค่าโทรศัพท์บานเลย
ส่วนนี้ก็จะเป็นลิ้งค์ที่มีประโยชน์นะครับ เท่าที่ผมได้ใช้
www.google.com
ส่วนใหญ่ใช้คีย์เวิร์ดเป็นสถานที่ที่สนใจ แล้วก็ตามด้วย Pantip ครับ มีประโยชน์มาก
www.hyperdia.com/en/
เว็บนี้สำหรับวางแผนการเดินทางในญี่ปุ่นครับ มีประโยชน์สุดๆ
www.travel.rakuten.com/
เว็บหาที่พักที่ญี่ปุ่น สำหรับคนที่อยากได้ราคาถูกๆก็ให้กดเข้าที่เป็นภาษาญี่ปุ่นนะครับ แล้วใช้ google translate เอา มันจะได้ที่พักเยอะกว่า แต่เว็บนี้ใช้ยากนิดนึงนะ ต้องดูแผนที่เก่งๆ
สายการบิน Jet Star มีโปร bkk-fuk บ่อยๆ ตอนผมไปได้โปรขากลับ 1 บาท(ขาไป 5,xxx thb)
สายการบินในประเทศของญี่ปุ่นก็ลองดู Peach, Vanilla อะไรงี้
https://www.couchsurfing.org/
เว็บที่พักฟรีในยุโรป ส่วนตัวยังไม่เคยไปยุโรปแต่เห็นคนในพันทิปเขาเคยใช้บริการกัน ลองหาอ่านดูนะครับ
http://www.mitfahrgelegenheit.de/
อันนี้เป็นเหมือนบริการโบกรถออนไลน์ อัพเกรดจากการโบกรถฟรีข้างถนน อาจจะมีแชร์ค่าน้ำมัน แต่ถูกกว่า ไวกว่า (ล่ะมั้ง) หาอ่านได้ตามพันทิปเช่นเคย
โครงการ wwoof สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศนานๆ ใช้ตังน้อยๆ ก็ใช้วิธีนี้ได้ครับ ประมาณว่าใช้แรงงานแลกข้าวกับที่ซุกหัวนอน ดีไม่ดีก็มีเที่ยวฟรี อะไรงี้ ลองศึกษาดูได้จากพันทิป เช่นเดิม
รายชื่อที่พักที่ไปมาในญี่ปุ่น
Toukaisou
http://www.toukaisou.com/
มีทั้งห้องเดี่ยว (ห้องน้ำในตัว) และ Dorm ราคาถูก ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินของ Tokyo Metro และสถานที่ท่องเที่ยว มีของกินทั้งวันทั้งคืน (ร้านราเมงเปิดตอน 5 ทุ่ม ปิดตี 2 กับซุชิ 24 ชม.)
toco.
http://backpackersjapan.co.jp/english/
ขออนุญาตหยาบนะครับ ที่นี่
Khaosan Ninja
http://www.khaosan-tokyo.com/thai/ninja/
ที่พักสุดฮิตของ backpacker ชาวไทย ถึงขนาดมีเว็บภาษาไทยอะคิดดู 555 แต่การเดินทางอันนี้ลำบากหน่อย เพราะเป็นของ Toei –จริงๆมันก็ไม่ลำบากนะ แต่ผมว่าเราหาที่พักให้อยู่ในสายรถไฟใต้ดินของบริษัทเดียวกันมันจะสะดวกกว่า
--เรื่องที่พักกับสายรถไฟที่ญี่ปุ่นขอเสริมสั้นๆว่า ถ้าคิดว่าไปเที่ยวครั้งนี้ใช้ subway แล้วสะดวกกว่าใช้ JR เวลาหาที่พักให้ดูนิดนึงว่าใกล้กับสถานีอะไร มันจะมี 2 เจ้า คือ Tokyo Metro กับ Toei ซึ่งจริงๆมันก็ไปได้ถึงกันหมดแหละ แต่เหมือนกับมันต้องเสียเงินเพิ่มเล็กน้อย กับเสียเวลาเปลี่ยนขบวนอะครับ ส่วนตัวผมแนะนำว่า ถ้าได้ที่พักที่ติดกับสถานีของ Tokyo Metro ก็ให้หาที่พักที่ติดกับ Tokyo Metro ทุกคืนเลย(ในกรณีเปลี่ยนที่พัก) ในทางกลับกัน ถ้าเป็น Toei ก็ให้หาที่พักให้ใกล้กับ Toei ทุกคืน
--เท่าที่ผมไปสัมผัสมาอีกนั่นแหละ ผมรู้สึกว่าเส้น Toei จะงงกว่า Tokyo Metro หน่อยๆ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ แค่ความรู้สึกเฉยๆ
kawa st inn
http://www.st-inn.com/Thai/index.html
อีกหนึ่งที่พักสุดฮิตของชาวไทยที่จะไปดูภูเขาฟูจิที่เมืองคาวากูจิโกะ ถึงขนาดเว็บมีภาษาไทยเช่นกัน การเดินทางไม่ต้องเป็นกังวล เดินข้ามถนนจากสถานีรถบัสถึงเลย
สนามบินนาริตะ
อันนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นอนสบายสุดๆ ตรงเก้าอี้นั่นล่ะครับ ก่อนจะเข้าไป Departure Zone อะไรพวกนั้น เอาผ้าเช็ดตัวเป็นผ้าห่ม(ตามตำนานบอกว่าขอผ้าห่มได้ แต่ผมไม่กล้า) มีปลั๊กอะไรพร้อม มีคนนอนเป็นเพื่อนประมาณ 10 คน
แถมที่พักที่เชียงใหม่-ปาย, หันหิน ด้วยเลยละกันนะครับ
ปาย
The Heart of Pai
http://www.heartofpai.com/
ช่วง Low ห้องพัดลมก็นอนสบายครับ ถูกสุดๆด้วย
เชียงใหม่
สะบายเดย์ เกสต์เฮ้าส์
ส่วนตัวชอบที่นี่มาก เจ้าของเป็นกันเอง ที่พักราคาไม่แพงมาก อยู่บนถนนนิมมาน แสงสีเต็ม, แต่ที่พักอยู่ในซอย สงบดีครับ
เชียงใหม่ฟลอร่า
http://www.chiangmaiflora.com/
ราคาเดียวทั้งปี อยู่ในเกณฑ์ถูกมาก ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ไปพักเถอะ เรียกว่าคุ้ม อยู่ถนนนิมมาน ข้างๆมีร้านนั่งชิล เดินออกมาจากซอยฝั่งตรงข้ามเป็นสวรรค์ เอ้ย ร้าน Warm Up ..รู้ๆกันนะ
หันหิน
หัวหินพาราไดซ์เกสเฮาส์
http://www.huahin-paradise.com/
ที่พักอยู่ในซอกอะครับ ไม่มีชั้น 1 ตอนผมไปนี่เดินงงเลย555 ที่นี่จะเรียกประทับใจก็ไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก(ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความสะอาด)
ก็แนะนำว่าถ้าจะพักผ่อนแบบสบายๆผ่อนคลายก็ลองดูที่อื่นก่อนน่าจะดีกว่านะครับ(ที่นี่มีรีวิวในพันทิปอยู่ ลองดูครับ) แต่อย่างผมนี่เอาไว้ซุกหัวนอน(เพราะอินดี้เกิน กลัวไม่มีที่นอน) ก็นอนได้ครับ
เขียนมาอย่างยาว ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยว(คนเดียว) ไม่มากก็น้อยนะคร้าบ
ขอให้มีความสุขกับทุกการเดินทาง.. แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าครับ ;)