เรื่องของเรื่องคือ ซื้อโทรสับแอนดรอย ยี่ห้อ LAVA จากค่าย AIS เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมาจากร้าน เทเลวิช สาขาเซนทรัลรามอินทรา พนักงานไม่ได้แจ้งรายละเอียดการรับประกัน บอกแต่ว่ารับประกันเปลี่ยนเครื่องถ้าเสียภายใน 7 วัน และรับประกันตัวเครื่อง 1 ปีตามมาตรฐานการรับประกัน
ต่อมาเมื่อประมาณต้นเดือนต.ค. ชาร์จไฟไม่เข้า เป็นสัญญานกระพริบๆ ตลอด จึงนำไปที่ศูนย์ AIS สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วานชั้น 5 พนักงานรับเรื่องให้แล้วแนะนำให้ส่งศูนย์ซ่อมของ ไอที เซนเตอร์ บอกว่าเป็นที่รับซ่อมเครื่องของ LAVA เราเลยไปส่งซ่อม พนักงานสอบถามอาการ เราบอกว่าชาร์ตไฟไม่เข้า พนักงานลองเอาสายชาร์ตของเค้ามาลองชาร์ต ไฟเข้าซักพักก้อไม่เข้า ตกลงพนักงานรับเครื่องไว้ ก่อนจะออกไปรับเครื่องให้ พนักงานได้แกะฝาหลังเครื่องออกมา เอาซิมการ์ดและเมมโมรี่ การ์ดออกให้ และถอดที่หุ้มฝาหลัง(เคส) ออกส่งคืนมาให้ด้วย....สาบานได้....ว่าด้านในเครื่องของเราปกติ เครื่องไม่เคยหล่น ไม่เคยตกน้ำ
หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ พนักงาน AIS โทรมาแจ้งเรื่องซ่อม ว่ามีค่าใช้จ่ายในการซ่อม 2,083 บาท เราตกใจ เครื่องซื้อมา 2,690 ใข้ได้ 3 เดือน ค่าซ่อม 2,083 บาท เราเลยถามไปว่าเครื่องอยู่ในประกันไม่ใช่หรอ ???
พนักงานผู้หญิงนางนี้ ตอบด้วยน้ำเสียงจองหองว่า.....แถบความชื้นของเครื่องแดงขึ้นมา ประกันขาดอัตโนมัติ...แหม !!!! เหตุผลเดียวกะไอโฟนกูเลยนะ เมืองไทยเป็นเมืองร้อนชื้น ถ้าจะเอาตรงนี้มาเป็นเงื่อนไขในการหมดประกัน กุขอแนะนำให้
หยุดผลิตขายในเมืองไทย ไปขายในแอฟริกาแทน เพราะมันเป็นเมืองร้อน แล้ง รับรองปัญหาเรื่องความชื้นไม่มีแน่นอน สัสสสสส
วันนี้ไปรับเครื่องกลับมา คุยกับพนักงานคนที่รับเครื่องไว้ตอนซ่อม เล่าให้เค้าฟังว่าพนักงานแจ้งเหตุผลแบบนี้ พนักงานบอกว่าตอนรับเครื่องแถบความชื้นไม่ขึ้น เราเลยเดินไปถามที่ศูนย์ AIS ชั้น 5 พนักงานมาช่วยกันดู 5-6 คนมีการเปิดเครื่องดู แล้วบอกว่าเครื่องตกน้ำมา เรายืนยันว่าไม่ได้ตกน้ำ พนักงานบอกว่าแถบความชื้นขึ้น เราถามว่าตรงไหน เค้าชี้ให้ดูสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ด้านหลังเครื่อง เรายืนยันว่า พนักงานที่รับเครื่องซ่อมไม่ได้ลงรายละเอียดไว้ว่าตรงนี้เป็นสีแดง เรายืนยันด้วยใบรับเครื่องที่พนักงานออกมาให้ ว่าเครื่องอยู่ในสภาพปกติ เราจึงบอกกับทางพนักงานศูนย์ไปว่าแบบนี้บอกไม่ได้หรอกว่าชื้นที่เรา หรือพนักงานซ่อมเอาไปทำให้มันชื้น ????? เพราะตอนเอาเครื่องไป ถ้าชื้นอยู่แล้วต้องเห็น ต้องแจ้งเรา แล้วเราจะยอมรับและทำใจว่าเราต้องจ่ายค่าซ่อม แต่นี้ไม่มีการแจ้งอะไรทั้งนั้น แล้วจะมาว่าของเราชื้นตอนไปได้อย่างไร
สุดท้าย....พนักงานศูนย์ขอถ่ายรูปในรับเครื่อง ด้านหลังเครื่อง และขอไปปรึกษาทางบริษัท LAVA ว่าจะทำอย่างไรดี เราก็จะรอค่ะ รอว่าทางบริษัทของคุณจะมีนโยบายเช่นใดในเคสนี้ ถ้าไม่มีความรับผิดชอบใด ๆ ต่อผู้บริโภคอย่างเราหล่ะก้อ....โทรสับยี่ห้อ LAVA จะกลายเป็นยี่ห้อ "เลวว่ะ" ทันที งานนี้ คงยาวนะคะ
ใครเคยซื้อโทรศัพท์ LAVA จากค่าย AIS บ้างคะ? เคยโดนแบบนี้ไม๊....หาว่าโทรศัพท์เราตกน้ำมา
ต่อมาเมื่อประมาณต้นเดือนต.ค. ชาร์จไฟไม่เข้า เป็นสัญญานกระพริบๆ ตลอด จึงนำไปที่ศูนย์ AIS สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วานชั้น 5 พนักงานรับเรื่องให้แล้วแนะนำให้ส่งศูนย์ซ่อมของ ไอที เซนเตอร์ บอกว่าเป็นที่รับซ่อมเครื่องของ LAVA เราเลยไปส่งซ่อม พนักงานสอบถามอาการ เราบอกว่าชาร์ตไฟไม่เข้า พนักงานลองเอาสายชาร์ตของเค้ามาลองชาร์ต ไฟเข้าซักพักก้อไม่เข้า ตกลงพนักงานรับเครื่องไว้ ก่อนจะออกไปรับเครื่องให้ พนักงานได้แกะฝาหลังเครื่องออกมา เอาซิมการ์ดและเมมโมรี่ การ์ดออกให้ และถอดที่หุ้มฝาหลัง(เคส) ออกส่งคืนมาให้ด้วย....สาบานได้....ว่าด้านในเครื่องของเราปกติ เครื่องไม่เคยหล่น ไม่เคยตกน้ำ
หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ พนักงาน AIS โทรมาแจ้งเรื่องซ่อม ว่ามีค่าใช้จ่ายในการซ่อม 2,083 บาท เราตกใจ เครื่องซื้อมา 2,690 ใข้ได้ 3 เดือน ค่าซ่อม 2,083 บาท เราเลยถามไปว่าเครื่องอยู่ในประกันไม่ใช่หรอ ???
พนักงานผู้หญิงนางนี้ ตอบด้วยน้ำเสียงจองหองว่า.....แถบความชื้นของเครื่องแดงขึ้นมา ประกันขาดอัตโนมัติ...แหม !!!! เหตุผลเดียวกะไอโฟนกูเลยนะ เมืองไทยเป็นเมืองร้อนชื้น ถ้าจะเอาตรงนี้มาเป็นเงื่อนไขในการหมดประกัน กุขอแนะนำให้
วันนี้ไปรับเครื่องกลับมา คุยกับพนักงานคนที่รับเครื่องไว้ตอนซ่อม เล่าให้เค้าฟังว่าพนักงานแจ้งเหตุผลแบบนี้ พนักงานบอกว่าตอนรับเครื่องแถบความชื้นไม่ขึ้น เราเลยเดินไปถามที่ศูนย์ AIS ชั้น 5 พนักงานมาช่วยกันดู 5-6 คนมีการเปิดเครื่องดู แล้วบอกว่าเครื่องตกน้ำมา เรายืนยันว่าไม่ได้ตกน้ำ พนักงานบอกว่าแถบความชื้นขึ้น เราถามว่าตรงไหน เค้าชี้ให้ดูสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ด้านหลังเครื่อง เรายืนยันว่า พนักงานที่รับเครื่องซ่อมไม่ได้ลงรายละเอียดไว้ว่าตรงนี้เป็นสีแดง เรายืนยันด้วยใบรับเครื่องที่พนักงานออกมาให้ ว่าเครื่องอยู่ในสภาพปกติ เราจึงบอกกับทางพนักงานศูนย์ไปว่าแบบนี้บอกไม่ได้หรอกว่าชื้นที่เรา หรือพนักงานซ่อมเอาไปทำให้มันชื้น ????? เพราะตอนเอาเครื่องไป ถ้าชื้นอยู่แล้วต้องเห็น ต้องแจ้งเรา แล้วเราจะยอมรับและทำใจว่าเราต้องจ่ายค่าซ่อม แต่นี้ไม่มีการแจ้งอะไรทั้งนั้น แล้วจะมาว่าของเราชื้นตอนไปได้อย่างไร
สุดท้าย....พนักงานศูนย์ขอถ่ายรูปในรับเครื่อง ด้านหลังเครื่อง และขอไปปรึกษาทางบริษัท LAVA ว่าจะทำอย่างไรดี เราก็จะรอค่ะ รอว่าทางบริษัทของคุณจะมีนโยบายเช่นใดในเคสนี้ ถ้าไม่มีความรับผิดชอบใด ๆ ต่อผู้บริโภคอย่างเราหล่ะก้อ....โทรสับยี่ห้อ LAVA จะกลายเป็นยี่ห้อ "เลวว่ะ" ทันที งานนี้ คงยาวนะคะ