คุณรู้ข้อมูลหุ้นที่คุณซื้อรอบด้านหรือไม่ ? ปกติหาข้อมูลพื้นฐานกิจการกันที่ลิงค์ไหนบ้าง ?

ไม่ได้เขียนทู้นานละครับ ขอเอามะพร้าวมาขายสวนสักหน่อย .. เรื่องที่เขียนบางท่านยังไม่ทราบ ท่านที่ทราบแล้วก็ จุ๊ๆ นะครับ ผมเขิน

เชื่อหรือไม่ว่า ทุกคนที่ซื้อหุ้น ก็หวังให้หุ้นเราได้ผลตอบแทน ที่น่าพอใจ
ส่วนจะได้ผลตอบแทนนั้น ในระดับ นาที วัน สัปดาห์ หรือ เดือน ก็ต้องขึ้นกับ หุ้นที่เลือก กับ สกิลของท่าน
ว่า ท่านเป้น มวยเร็ว มวยลีลา เป้นชาวสวน ชาวนา ชาวไล่ สุดแล้วแต่

ทีนี้ สมมุติ ได้หุ้นมาแล้ว ท่านก็แบบ แหมๆ ไหนก็ก็มีในครอบครองแล้ว ก็มาดู พื้นฐานหน่อยว่า ทำมาค้าขายอะไร ทำไมเราไปซื้อมาไว้

-ไม่ใช่ซื้อเพราะ พรายบอกว่าไปแน่
-ไม่ใช่ว่า เห็นมีข่าวๆๆ ว่าทำ พลังงานแสงอาทิตย์ ต้องรวยแน่ๆ
-ไม่ใช่ว่า สนข หัวสี ทั้งหลาย หรือ ข่าววงนอก วงใน ทั้งหลาย ต้องกำไรแน่ๆ

สิ่งนี้คือปัจจัยพื้นฐาน

ปกติ ส่วนใหญ่ นักลงทุนก็จะดู ที่ set.or.th หรือ settrade.com ก็ว่ากันไป

ส่วนตัวผมดูทั้งสองที่ครับ  (ถึงแม้ ดูกราฟซื้ออย่างน้อยก็แอบดู กิจการนิดนึง ว่า ไม่ได้ซื้อลมขายลม กิจการเขามีการทำงาน มีแผนงานน่าสนใจ)

ปกติ ถ้าเราดูรายละเอียดหุ้นรายตัว  เช่น ตัวอย่างผมดู ปตท.  จาก set.or.th  ก็จะหน้าตาแบบนี้


ใน tab แรก จะเห็นว่า ถ้าเราคลิกเข้าไปดู (ซึ่งผมเข้าไปดูบ่อยอยู่) จะสังเกตุว่า
ตรงนี้ ถ้าผมเข้ามา จะมาดูว่า มีหุ้น กี่หุ้น พาร์เท่าไร ใครบริหารบ้าง

แต่มี ปุ่มหนึ่งสีสัมครับ ที่เขียนสรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน
ผมเชื่อว่าหลายคนเคยเข้า ดูแล้ว แต่มีอีกจำนวนมาก ที่ไม่เคยเข้าไปดู



พอคลิกเข้าไปดู จะมีข้อมูลอีกมาก ซึ่งแทบจะเรียกว่าให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด ในการเลือกซื้อหุ้นในหน้าเดียว

เรียก สรุปข้อมูลสนเทศบริษัทจดทะเบียน
สามารถเข้าตรงได้เลย ที่ลิงค์  

http://www.set.or.th/set/factsheet.do?symbol=PTT&language=th&country=TH
เปลี่ยนชื่อหุ้น ตรงหน้าเครื่องหมาย & เป็น หุ้นที่เราต้องการ



ซึ่งหลายๆ จุดนั้น มีประโยชน์มากนะครับ
เดี๋ยวจะเขียน หลายๆ ประเด็นย่อยลงไปให้ดู
ซึ่งผมว่า สายพื้นฐาน สามารถนำข้อมูลไปใช้ได้ สายเทคนิค หรือ กึ่งเทคนิคก็นำไปใช้ได้เช่นกันครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 39
ขอบคุณมากครับ คุณGantz

นอกจากข้อมูลข้างต้นผมคิดว่าข้อมูลจากหนังสือพิมพ์หุ้นและเศรษฐกิจต่างๆ เช่นกรุงเทพธุรกิจ โพสต์ทูเดย์. ฐานเศรษฐกิจ ประชาชาติธุรกิจ ข่าวหุ้น ทันหุ้น. และบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ รวมทั้งการสัมมนาต่างๆเช่น Money Talk ประจำเดือน. การจัดสัมมนาของโบรกเกอร์ และการฟังข่าวและดูทีวีรายการข่าวเศรษฐกิจ. การเงิน การคลัง และการเมืองทั่วโลก. เอามาประกอบการพิจารณาตัดสินใจลงทุนก็มีความสำคัญมากเช่นกัน

ที่สำคัญกระบวนการสังเคราะห์และวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจที่จะเติบโตในอนาคตเป็นสิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าข้อมูลที่อยู่ในคลังสมองของเรา จากนั้นก็เป็นการเลือกจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม จากนั้นก็รอผลสำเร็จหรือล้มเหลว

เม่าอ่านหนังสือพิมพ์เม่าอ่านหนังสือพิมพ์เม่าอ่านเม่าอ่าน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
จุดแรกที่น่าใช้ คือ กราฟ 1yr performance
ซึ่งผมเชื่อว่า ถึงท่านที่ดูกราฟไม่เป็น เห็นภาพนี้ไว้

ท่านจะได้ทราบข้อมูลว่า 1 ปีที่ผ่านมาดัชนีขึ้นมาเท่าไร
แล้วหุ้นท่านขึ้นมากี่% ที่เทียบเท่ากับตลาด แล้วแพ้หรือ ชนะตลาด
แล้วหุ้นท่านขึ้นมากี่% ที่เทียบเท่ากับ sector แล้วแพ้หรือ ชนะ sector

เช่น DIMET  ขึ้นมา 1444% เทียบเท่า กับ ดัชนีตลาดที่ขึ้นมาเพียง 70% ใน 1 ปี ... เสี่ยงหรือไม่ เชื่อว่าคนเล่นตอบได้
ดังนั้น เล่นแล้วเจ็บต้องไม่โวยวาย



กรณี super ถ้าดูราคาล่าสุด
ก็ เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก เทียบกับ กลุ่ม และ ดัชนี set



ส่วน cyber ที่มีการไป ชุมนุมประท้วง เรื่อง SP หุ้น ก็ลองดูนะครับ ราคาขึ้นมาในระดับเกินไปจริงๆ
คนเล่นก็ต้องยอมรับ ว่าตอนเข้าไปเล่น ถ้า ราคาเพิ่มเป้น เปอร์เซ็นต์มากๆๆๆๆ เมื่อเทียบกับตลาด
ผิดพลาดมาก็ต้องทำใจนะครับ


ความคิดเห็นที่ 4
แถมให้ว่า

1) ต้องอ่านข้อมูลในแบบ 56-1 ซึ่งจะอธิบายธุรกิจที่กำลังทำ ความเสี่ยงที่เผชิญ และประวัติผู้บริหาร ... หาได้ในเว็บ http://www.set.or.th ในส่วนของข้อมูลรายบริษัท

2) ต้องอ่านงบการเงินงวดล่าสุด อ่านให้ครบไปจนถึงงบกระแสเงินสด และหมายเหตุประกอบงบฯ ... หาได้ในเว็บ http://www.set.or.th ในส่วนของข้อมูลรายบริษัท

3) ต้องอ่านบทวิเคราะห์ล่าสุด ซึ่งจะมีการอัพเดทเรื่องราว สถานะ และงบการเงินล่าสุด พร้อมทั้งราคาพื้นฐาน 12 เดือนข้างหน้า ... หาได้ในเว็บ www.settrade.com ในส่วน IAA Consensus

4) ต้องดูคลิปและสไลด์ที่เจ้าของ/ผู้บริหาร นำมาเสนอในงาน SET Opportunity Day ... หาได้จาก http://dcs-digital.com/setweb/

5) ต้องดูตัวเลขเชิงมูลค่าของหุ้นเทียบกับอุตสาหกรรม เพื่อดูว่าถูกหรือแพง เมื่อเทียบกับเพื่อน ๆ .. หาได้จาก http://www.setsmart.com (มีค่าใช้จ่าย)

6) ต้องดูแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าอยู่ในขาขึ้น ขาลง หรือขาแกว่ง ... หาได้จากโปรแกรมกราฟทั่วไป เช่น Aspen, Bisnews, Efinance, Streaming for iPad (ของบางค่าย)

รู้จริงรู้ลึกแค่ไหน โอกาสก็มากขึ้นเท่านั้น ความเสี่ยงก็ลดลงเท่านั้น

http://www.facebook.com/ThInvestForum
ความคิดเห็นที่ 3
เหลือที่  ให้เพื่อนๆ พี่ๆ มาต่อยอดกันนะครับ ใครมีลิงค์อะไร แหล่งอะไรที่ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย หรือ
หลายคนเข้าไปไม่ถึง ลองลงแชร์กันดูครับ

ผมเขียนพอเป็นไอเดีย จะได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ให้ชุมชุน pantip เป้นชุมชนนักลงทุน ที่มีคุณภาพและ ความสุขครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่