[CR] สองจี๋สุดซ่า ตะลุยฮอกไกโด ฮันนีมูนแซ่บซี๊ดส์ ชิมช๊อปแชะชุชิมารุ ปล.ขับรถเที่ยวกันเองนะจ๊ะ

สวัสดีครับ วันนี้วันสบายว่างๆ ก็เลยจะมาขอรีวิวทริปไปเที่ยวฮอกไกโดของเรา แบ่งปันประสบการณ์ให้ทุกท่านได้ร่วมเดินทางนะครับทริปนี้เป็นทริปฮันนีมูนของผมกะท่าน ผบ. โดยหลังจากเหน็ดเหนื่อยในการจัดงานแต่ง ซึ่งท่านๆ ที่แต่งงานแล้วก็จะทราบว่ามันวุ่นวายมาเพียงใดในการเตรียมงานแต่ง ซึ่งเราก็คุยกันว่าจะไปที่ใหนกันดี โดยส่วนตัวผมอยากไปนิวซีแลนด์ อยากไปดูธรรมชาติสวยๆของเกาะใต้ แบบว่าแอบฝันไว้นานละ ท่าน ผบ. บอกว่าอยากไปอิลาลี ไปเที่ยวคาปรี เดินเที่ยวในเมือง บรรยากาศดี ผู้คนเยอะนิดๆ ชิคหน่อยๆ ก็ไปหาข้อมูลในเนต คุยกันไปคุยกันมา ตกลงหวยเลยไปออกที่ ฮอกไกโด ญี่ปุ่น เพราะคิดว่าน่าจะตอบโจทย์ของเราสองคนได้ลงตัว มีทั้งธรรมชาติที่สวยงามและอาหารอร่อยที่ผมชอบ และมีที่ให้ชอปปิ้ง ร้านแนวๆ นั่งถ่ายรูปอัพไอจี มีเมืองสวยๆ ตามความต้องการของท่าน ผบ.
               จากนั้นก็ตกลงกันว่าจะไปกันเองหรือไปทัวร์ อันว่าตัวผมก็อยากไปทัวร์เพราะมันง่ายและสะดวกดี ประกอบกับการดูโปรแกรมของบริษัททัวร์ก็มีที่ถูกใจ แต่ท่าน ผบ. ไม่ยอม บอกว่าไปกะทัวร์บ่อยละ อยากไปเองบ้าง อยากขับรถเที่ยว เจอที่ใหนสวยก็แวะ อยากทานไรก็ทาน ไรงี้ ก็ตกลงกันว่าจะขับรถเที่ยวกัน หลังจากได้หาข้อมูลเรื่อยๆ ดูโปรแกรมทัวร์บ้าง อ่านพันทิบบ้าง คุยกันบ้าง ก็ได้ข้อสรุปเป็นทริปของเรา โดยจะขอเล่าการเตรียมมตัวก่อน เผื่อทุกท่านจะนำไปใช้ประโยชน์ได้นะครับ
ปล.ชื่อกระทู้ ท่าน ผบ. แนะนำมาครับ

การจองตั๋วเครื่องบิน

             ไปซับโปโร มีหลายสายการบินครับ แต่ต้องไป transit ตามสนามบินต่างๆ สำหรับท่านที่ต้องการความสะดวกไม่ต้อง transit ก็ต้องการบินไทยของเรานี่แหละครับ  การจองก็ทำการจองผ่านเอเยนต์ หรือผ่านเว็บก็ได้นะครับ ส่วนผมจองผ่านเว็บการบินไทยครับ
http://www.thaiairways.co.th  
ราคาก็ตามแต่ความพอใจของแต่ละท่านเลยนะครับ มีตั้งแต่สองหมื่นต้นๆ ไปถึงประมาณห้าหมื่นครับ
   ข้อดี    
เป็นเที่ยวบินเดียวที่บินตรงสู่ฮอกไกโดแม้แต่ของ ANA หรือ JAL ยังไม่มีให้บริการเลยครับ ใช้เวลาน้อยที่สุด(8 ชม.) เหมาะกับคนที่เวลาค่อนข้างจำกัดครับ
    มีอาหาร เครื่องดื่มถือบริการไม่เสียค่าใช้จ่าย (รวมไปในค่าตั๋วแล้ว)
    มีจอของเล่นแก้เบื่อสามารถดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ฆ่าเวลาได้ดีเหมือนกันครับ ส่วนตัวนอนบนเครื่องไม่ค่อยหลับดูหนังจบไปสองเรื่องกว่า _*_
    กระเป๋าขาไปคงไม่มีปัญหาเนื่องน้ำหนัก แต่ขากลับของผมกะท่าน ผบ. น้ำหนักรวม  51 กก. บังเอิญท่าน ผบ. มีบัตร ROP ก็ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มครับ
  ข้อเสีย      
แพงคับถ้าเทียบกับโลว์คอร์สแอร์ไลน์ ส่วนข้ออื่น ยังนึกไม่ออกครับ

การจองรถ

              สำหรับผู้ที่ต้องการขับรถในญี่ปุ่นก็ต้องเตรียมใบขับขี่สากลก่อนนะครับ สามารถทำได้ที่สำนักงานขนส่งทุกสาขาครับ ค่าธรรมเนียม 500 บาท ใช้เวลาไม่นานครับ รอรับได้เลย
    ต่อไปก็เป็นการหารถที่เราต้องการนะคับ ก็มีหลายเว็บครับ เช่น Nippon Toyota  Nissan rent a car เลือกได้ตามใจชอบครับ ส่วนกระผมเลือก Nippon rent a car เนื่องจากราคาถูกและมีหลายแพคเกจให้เลือกตามความต้องการของลูกค้า ที่สำคัญจ่ายเงินตอนรับรถครับ


เลือกรุ่นของรถที่ต้องการ เปรียบเทียบราคา สเปคแล้วก็ไปกรอกแบบฟอร์มด้านล่างครับ


จากนั้นจะมีเมล์ตอบกลับมาก็เซฟไว้ในโทรศัพท์พอเดินทางไปถึงเคาน์เตอร์ที่สนามบินชิโตเสะ ก็ยื่นให้น้องสาวเค้าดู จ่ายตัง แล้วเค้าก็จะดำเนินการให้เองคับ โดยรวมค่อนข้างง่ายครับ


ผมเลือกรถ 5 ประตูครับ เนื่องจากคิดว่าของเยอะแน่นอน แพคเกจแบบมี pocket wifi ครับ รับพร้อมรถคืนพร้อมรถสะดวกดีครับ ราคาถูกและสะดวกกว่าเช่าแยกครับ เราเช่ารถ 6 วัน ราคารวม 56,537 เยน ประมาณ 18,846 บาท คิดเป็นวันละ 3,150 บาท ราคาแพงกว่าเช่ารถบ้านเรานิดหน่อยครับ

รถซูบารุสีขาวคันกลางครับ รูปในเว็บอาจไม่ตรงกับรถที่ได้รับนะครับแต่จะเป็นรถในคลาสเดียวกันครับ

               รถทุกคันจะมี GPS ติดมาด้วยเป็นมาตรฐานครับ โดยปุ่มกดจะเป็นภาษาญี่ปุ่น ส่วนเสียงพากษ์ก็จะเป็นสาวน้อยญี่ปุ่นพูดภาษาอังกฤษครับ ต้องใช้สกิลการในการฟังพอสมควร การใช้งาน GPS ก็ไม่ยากครับ สิ่งที่สำคัญในการเดินทางก็คือเราจะต้องมี เบอร์โทรหรือ map code ของสถานที่ที่เราต้องการไป แล้วกดไปในจอจากนั้นเครื่องก็จะคำนวนระยะทาง เวลา ค่าทางด่วน ให้เสร็จสรรพครับ
ใหนๆพูดถึงรถแล้วก็ขอชมหน่อยนะครับ รถที่ญี่ปุ่นผมว่าระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ดีมากนะครับ  ขับรถกินเลน(ทับเส้นแบ่งเลน) ก็เตือน รถคันหน้าเบรกก็เตือน ไฟเขียวรถคันหน้าไปแล้วเราไม่ไปก็เตือน อยากให้บ้านเรามีบ้างครับ
ปล. โดยรวมแล้ว GPS สามารถนำทางไปถูกต้องครับแต่การบอกเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาอาจจะผิดบ้างควรดูแผนที่ประกอบครับ ของผมใช้ google map จากมือถือครับการคำนวนเส้นทางแม่นยำกว่าเห็นได้ชัดครับ


ดูเอาเองครับว่าทำไมมันบอกผมอย่างนั้น

ETC

                   เอาง่ายๆ เลยนะครับ ETC ก็คือ EASY PASS บ้านเราละครับ เป็นบัตรที่ติดรถไว้เพื่อเก็บเงินเวลาเข้าทางด่วนอัตโนมัติ ไม่เสียเวลา และมีส่วนลดให้นิดหน่อยครับ ตอนเช่ารถพนักงานจะถามว่าต้องการ ETC หรือไม่ หากต้องการพนักงานก็จะเอาการ์ดมาเสียบรถให้  เวลาเข้าออกทางด่วนก็เข้าช่องที่เขียนว่า ETC ระบบจะคิดเงินอัตโนมัติแล้วรวมยอดไปจ่ายทีเดียวตอนคืนรถครับ
    ส่วนผมไม่ได้ใช้ ETC ครับ เนื่องจากไม่ทราบว่ามีส่วนลด จากที่ไปเที่ยวมาทำให้รู้ว่าค่าทางด่วนญี่ปุ่นแพงมาก ผมคิดคร่าวๆ ขับรถ 6 วันหมดค่าทางด่วนไปประมาณ 7,000 บาทเลยนะครับ

ช่องทางขึ้นทางด่วน สีเขียวรถทั่วไป ส่วนสีน้ำเงินรถมี ETC ครับ

การขึ้นทางด่วนและจอดรถในลานแบบเก็บเงิน

ที่ญี่ปุ่นเวลาขึ้นทางด่วน หรือเข้าลานจอดรถแบบจ่ายเงินจะมีขึ้นตอนเหมือนกัน คือ เราจะต้องกดปุ่มที่เครื่องแล้ว เครื่องจะออกบัตรให้เราเก็บไว้

บัตรทางด่วนและบัตรจอดรถหน้าตาจะประมาณนี้ครับ

         เวลาจะออกจากทางด่วนก็จะผ่านด่านเก็บเงิน จะมีพนักงานเก็บเงิน ก็ยื่นบัตรให้พร้อมกับเงิน โดยยอดเงินที่ชำระก็ดูได้จาก GPS ครับ แต่บางทีก็ดูผิดครับ พนักงานก็ทำหน้างง เราก็งง พอรู้ก็ยื่นเงินเพิ่มไป แล้วเค้าจะทอนมาให้เองครับ พนักงานเก็บเงินที่ญี่ปุ่นทุกท่านมีมนุษย์สัมพันธ์ดีมากครับ ก่อนรับบัตรก็จะสวัสดีทักทาย บอกยอดเงินและขอบคุณเป็นอย่างดี แต่เป็นภาษาญี่ปุ่น ฟังไม่รู้เรื่องครับ ผมก็ยิ้มกะพยักหน้าอย่างเดียวพร้อมกะพูดว่า อาริงาโตะ โกไซมัสสส 555


การจอดรถในลานก็คล้ายกันครับเวลาเข้าไปก็กดปุ่มรับบัตร ป้ายกั้นก็จะเปิด เวลาออกก็ยื่นบัตรใส่ไปในเครื่อง เครื่องก็จะบอกค่าบริการ ก็หยอดเหรียญไปครับ ป้ายกั้นก็เปิด ขับรถออก ไม่ยากครับ

ภาพทางเข้าออกลานจอดรถแบบเก็บเงินครับ

การขับขี่รถในญี่ปุ่น

สรุปคร่าวๆจาก ปสก.เลยนะครับ
    -ไม่มีเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดให้รอสัญญาณไฟครับ
    -ไฟเขียวไฟแดงไม่มีบอกเวลา ตรงนี้อันตรายนะครับ ผมเบรกหัวทิ่มหลายครั้ง ขนาดขับไม่เร็วนะครับ เวลาขับผ่านให้คิดเสียว่าทันก้อช่างไม่ทันก้อช่างจะปลอดภัยกว่าครับ
    -จากที่เห็นคนญี่ปุ่นหลายคนขับรถตามน้ำ(ฝ่าไฟแดง)เหมือนบ้านเราครับ
    -ขับรถระวังคนข้ามถนนด้วยนะครับ คนที่นี่เป๊ะมาก เห็นไฟแดงปุ๊บเดินข้ามปั๊บ ไม่สนรถมาเลยนะครับ
    -ป้ายจำกัดความเร็ว ส่วนมากจะขับกัน +20 ครับ  ในเมืองขับไม่เกิน 60 ครับ
    -บนทางด่วนจะขับกันค่อนข้างเร็วครับ ไม่สนป้ายจำกัดความเร็วกันเลยครับ ฝนตกก็ไม่กลัวกัน ไม่ว่ารถใหญ่รถเล็ก ขับช้าชิดซ้ายไว้ก่อน ระวังกันด้วยนะครับ

การจองโรงแรม
           เราจองผ่านเว็บทั้งหมดครับ มีทั้งเว็บเอเยนต์ และจองกับเว็บโรงแรมโดยตรงครับ ขึ้นอยู่กับราคาและเงื่อนไขต่างๆ ครับ แต่ข้อเสียของโรงแรมญี่ปุ่นก็คือจะไม่ค่อยร่วมกับพวก agoda หรือ booking ทำให้นักท่องเที่ยวพลาดโรงแรมดีๆ หลายแห่ง หากท่านใดต้องการพักโรงแรมญี่ปุ่นควรไปหาในเว็บ  http://www.ryokan.or.jp/th/    หรือ   http://www.japanican.com/th/hotel  จะมีตัวเลือกมากกว่านะครับ

พูดถึงการเตรียมตัวไปพอสมควรละครับ เรามาออกเดินทางกันดีกว่า
ทริปนี้เราเดินทาง 12-20 ก.ย. 57  เที่ยวบิน TG 670    
วันเดินทางก็รีบไปเชคอิน ที่ สนามบินสุวรรณภูมิครับ เวลาเหลือก็เดินดูของหน่อย


เดี๋ยวขึ้นเครื่องกลัวนอนไม่หลับ ท่าน ผบ. ก็เลยจัดไปแก้วนึง