เจ้านายพาไปทำงานด้วยที่สิงคโปร์ครับ ได้มีโอกาสได้ถ่ายรูปมาด้วย ต้องขอขอบคุณนายที่ให้โอกาสแว๊บบบถ่ายรูปเล่นครับ
ด้วยความอยากลองดูครับว่าในเวลาเย็นที่จำกัดนี้ จะได้รูปแลนด์มาร์คของเมืองนี้มาสักกี่มากน้อย ก่อนที่ฟ้าจะมืดหรือหมดแรงเดิน
ผมจะลงรูปตั้งแต่จุดแรกที่ถ่ายรูป จนถึงจุดสุดท้าย และแผนที่คร่าวๆ นะครับ
รูปแรก จุดที่ 1 ครับ
ลงรถที่หน้า Gardens by the bays แล้วเดินขึ้นเหนือไปเหนือสุดของสวน... ฟ้าใกล้มืดแล้ว
เดินต่อมาอีกนิดจากรูปแรก ใกล้ๆ สระน้ำ Dragonfly lake
จุดที่ 2 เดินลงมากลางสวนครับ ไม่ใช่เดินสิ วิ่งเลยแหละ เพราะฟ้ามืดไวมาก Supertree
จากจุดนี้ วิ่งหามุมครับ ไม่เคยมา ก็วิ่งวนไปเรื่อยเลย
ได้รูปนี้จากใกล้ๆ เต็นท์ขายตั๋วขึ้นไปชมสวนบนสะพานลอยที่เห็นเป็นทางเส้นๆ บนนั้น
เวลาประมาณทุ่มครึ่ง จะมีการแสดงแสงสีเสียง Supertree เปลี่ยนสี
มีสนามหญ้าอยู่ทางตอนใต้ของ Supertree มีคุณผู้ชมมานั่งนอนดูอย่างมีความสุข
Supertree เปลี่ยนสีไปตามจังหวะเพลง
Supertree เปลี่ยนสีไปตามจังหวะเพลง ...ถึงเวลานี้พักเหนื่อยด้วยการนอนถ่ายรูปและชมการแสดงไปจนจบครับ
เมื่อการแสดงจบลงก็เผ่นด้วยความรวดเร็วไปต่อครับ เบียดกับฝูงชลชนกันรุงรังเล็กน้อย
ถ่ายรูปยากนิดหน่อยครับ เพราะคนเดินไปมาสะพานแกว่งๆ ภาพจะไม่ค่อยคมนัก
จุดที่ 3 บนสะพานซึ่งเป็นทางเชื่อมไปตึก Marina Bays Sands
เดินผ่านสวน ทะลุตึกมา ช่วงทางเดินข้างในตึกมีแอร์เย็นสบายพอคลายเหนื่อย
แล้วก็มาเจอภาพนี้ ที่ จุดที่ 4 ลานกว้างๆ นั่งนอนชมวิวสบายๆ หน้าตึก Marina Bays Sands
เวลาประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง จะมีการแสดงแสงสีเสียงที่นี่ครับ มีผู้คนมานั่งรอชมกันแล้ว แต่วันนี้ผมคงไม่ทันได้ดู
หันหลังจากรูปข้างบนเจอตึกอะไรหนอ เหมือนเรือนเพาะชำเรือนกระจก...
เดินไปดูใกล้ๆ อ๋อ...ร้านขายเครื่องหนังนี่เอง ...เดินไปส่องดูสักหน่อย จุดที่ 5
ตึก Marina Bays Sands ถ่ายจากทางเข้าร้านเครื่องหนังครับ
เดินไปต่อครับ จุดที่ 6 นี่คือ ArtScience Museum ... หยุดยืนดูตึกใกล้ๆ ...คิดในใจว่าคงมีสักวันได้แสดงงานที่นี่บ้าง อึม... แล้วก็เดินต่อไป
หันหลังกลับไปดูร้านเครื่องหนัง กับวิวเมือง ...มุมนี้เธอช่างเลอค่าจริงๆ
เดินแล้วครับ เดินขึ้นสะพาน Helix จุดที่ 7 วิ่งไม่ไหวละ..และฟ้าก็เริ่มเป็นสีดำแล้วด้วยไม่ต้องวิ่งแข่งเวลา เหลือแต่แข่งกับสังขาร
บนสะพาน DNA นี้จะมีระเบียงยื่นออกไปครับ หลายๆ อัน แวะเข้าไปพักเหนื่อย ชมวิวกันได้ สะพานไม่แกว่งไม่เวียนหัวเท่าไหร่นัก
ต้องหาโอกาสมาวิ่งออกกำลังที่นี่ให้ได้
ถ่ายจากทางเชื่อมถนนรถ กับถนนคนเดิน
3 ทุ่มแล้ว คงจบการเดินทางไว้เท่านี้ครับ ไปทำงานต่อ กินข้าวด้วย หิวมากมาย ...
ได้วิ่งๆ เดินๆ รีบๆ อย่างนี้เมื่อยหน่อย หอบนิด ก็สนุกดีครับ
จะดีแค่ไหนถ้าเมืองทั้งเมืองจะมอบความโรแมนติกเพียงลำพังเป็นของขวัญให้แก่คุณและคู่รัก
[CR] 3 ชั้วโมงถ่ายรูปแลนด์มาร์คสิงคโปร์ Gardens by the Bays,Marina Bays Sands,Helix Bridge,Singapore City View
ด้วยความอยากลองดูครับว่าในเวลาเย็นที่จำกัดนี้ จะได้รูปแลนด์มาร์คของเมืองนี้มาสักกี่มากน้อย ก่อนที่ฟ้าจะมืดหรือหมดแรงเดิน
ผมจะลงรูปตั้งแต่จุดแรกที่ถ่ายรูป จนถึงจุดสุดท้าย และแผนที่คร่าวๆ นะครับ
รูปแรก จุดที่ 1 ครับ
ลงรถที่หน้า Gardens by the bays แล้วเดินขึ้นเหนือไปเหนือสุดของสวน... ฟ้าใกล้มืดแล้ว
เดินต่อมาอีกนิดจากรูปแรก ใกล้ๆ สระน้ำ Dragonfly lake
จุดที่ 2 เดินลงมากลางสวนครับ ไม่ใช่เดินสิ วิ่งเลยแหละ เพราะฟ้ามืดไวมาก Supertree
จากจุดนี้ วิ่งหามุมครับ ไม่เคยมา ก็วิ่งวนไปเรื่อยเลย
ได้รูปนี้จากใกล้ๆ เต็นท์ขายตั๋วขึ้นไปชมสวนบนสะพานลอยที่เห็นเป็นทางเส้นๆ บนนั้น
เวลาประมาณทุ่มครึ่ง จะมีการแสดงแสงสีเสียง Supertree เปลี่ยนสี
มีสนามหญ้าอยู่ทางตอนใต้ของ Supertree มีคุณผู้ชมมานั่งนอนดูอย่างมีความสุข
Supertree เปลี่ยนสีไปตามจังหวะเพลง
Supertree เปลี่ยนสีไปตามจังหวะเพลง ...ถึงเวลานี้พักเหนื่อยด้วยการนอนถ่ายรูปและชมการแสดงไปจนจบครับ
เมื่อการแสดงจบลงก็เผ่นด้วยความรวดเร็วไปต่อครับ เบียดกับฝูงชลชนกันรุงรังเล็กน้อย
ถ่ายรูปยากนิดหน่อยครับ เพราะคนเดินไปมาสะพานแกว่งๆ ภาพจะไม่ค่อยคมนัก
จุดที่ 3 บนสะพานซึ่งเป็นทางเชื่อมไปตึก Marina Bays Sands
เดินผ่านสวน ทะลุตึกมา ช่วงทางเดินข้างในตึกมีแอร์เย็นสบายพอคลายเหนื่อย
แล้วก็มาเจอภาพนี้ ที่ จุดที่ 4 ลานกว้างๆ นั่งนอนชมวิวสบายๆ หน้าตึก Marina Bays Sands
เวลาประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง จะมีการแสดงแสงสีเสียงที่นี่ครับ มีผู้คนมานั่งรอชมกันแล้ว แต่วันนี้ผมคงไม่ทันได้ดู
หันหลังจากรูปข้างบนเจอตึกอะไรหนอ เหมือนเรือนเพาะชำเรือนกระจก...
เดินไปดูใกล้ๆ อ๋อ...ร้านขายเครื่องหนังนี่เอง ...เดินไปส่องดูสักหน่อย จุดที่ 5
ตึก Marina Bays Sands ถ่ายจากทางเข้าร้านเครื่องหนังครับ
เดินไปต่อครับ จุดที่ 6 นี่คือ ArtScience Museum ... หยุดยืนดูตึกใกล้ๆ ...คิดในใจว่าคงมีสักวันได้แสดงงานที่นี่บ้าง อึม... แล้วก็เดินต่อไป
หันหลังกลับไปดูร้านเครื่องหนัง กับวิวเมือง ...มุมนี้เธอช่างเลอค่าจริงๆ
เดินแล้วครับ เดินขึ้นสะพาน Helix จุดที่ 7 วิ่งไม่ไหวละ..และฟ้าก็เริ่มเป็นสีดำแล้วด้วยไม่ต้องวิ่งแข่งเวลา เหลือแต่แข่งกับสังขาร
บนสะพาน DNA นี้จะมีระเบียงยื่นออกไปครับ หลายๆ อัน แวะเข้าไปพักเหนื่อย ชมวิวกันได้ สะพานไม่แกว่งไม่เวียนหัวเท่าไหร่นัก
ต้องหาโอกาสมาวิ่งออกกำลังที่นี่ให้ได้
ถ่ายจากทางเชื่อมถนนรถ กับถนนคนเดิน
3 ทุ่มแล้ว คงจบการเดินทางไว้เท่านี้ครับ ไปทำงานต่อ กินข้าวด้วย หิวมากมาย ...
ได้วิ่งๆ เดินๆ รีบๆ อย่างนี้เมื่อยหน่อย หอบนิด ก็สนุกดีครับ
จะดีแค่ไหนถ้าเมืองทั้งเมืองจะมอบความโรแมนติกเพียงลำพังเป็นของขวัญให้แก่คุณและคู่รัก