ทะเลยังหยั่งรู้ลึกตื้น ภูเขายังหยั่งรู้ สูงตํ่า สากกะเบือยังหยั่งรู้หนักเบา แต่ใจ คนเราหยั่งรู้หนาบางมิได้เลย
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาตินัดล่าสุด เพื่อพิจารณากรณีถอดถอน “นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์” อดีตประธานรัฐสภาและ “นายนิคม ไวยรัชพานิช” อดีตประธานวุฒิสภาใช้เวลาประชุมลับนานกว่า 3 ชั่วโมง
โดยที่ประชุม สนช.จะต้องตัดสินใจเลือกทางออกเพียง 1 ประตู จาก 4 ประตู คือ...
1,เดินหน้าถอดถอน “สมศักดิ์–นิคม” ให้เสร็จค่อล่อซ่อทันที
เพราะยังมีคิวถอดถอนรอให้เช็กบิลอีกหลายขบวน
2,มีมติไม่รับเรื่องถอดถอนไว้ดำเนินการ
เพราะรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวไม่ได้ ให้อำนาจ สนช.เที่ยวไปถอดถอนใคร
3,ส่งคืนคำร้องถอดถอนกลับไปให้ ป.ป.ช.แก้ไขปรับปรุง
เพราะสำนวนกล่าวหาของ ป.ป.ช.มีรูโหว่ให้ช้างลอดได้ 15 ตัว
4,พักการถอดถอนไว้ก่อน 1 ปี เพื่อรอให้รัฐธรรมนูญใหม่คลอดออกมาใช้แทนรัฐธรรมนูญชั่วคราว
“แม่ลูกจันทร์” คาดว่าที่ประชุม สนช.จะโหวตตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่งให้รู้แล้วรู้แร่ดกันไปเลย
แต่สุดท้าย สมาชิก สนช.ส่วนใหญ่เกิดความสับสนไม่รู้จะตัดสินใจเลือกประตู ไหนดี จึงขอ “เลื่อน” การพิจารณาคำร้องถอดถอนต่อไปอีก 2 สัปดาห์
อ้างว่าเพื่อให้ สนช.มีเวลาไปพิจารณา รายละเอียดต่างๆ ให้สิ้นข้อกังขาคาใจ
“แม่ลูกจันทร์” มองไม่เห็นความจำเป็นที่ สนช.จะต้องเสียเวลาศึกษารายละเอียดให้เมื่อยตุ้มแต่อย่างใด
เพราะถ้าท่านใช้สามัญสำนึกของตัวเองพิจารณาก็จะได้คำตอบทันทีว่า สนช.ชุดนี้ ไม่มีอำนาจหน้าที่ และไม่มีความชอบธรรมที่จะลงมติถอดถอน 2 อดีตประธานสภาฯ
ด้วยเหตุผล 5 ประการคือ...
1,การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของสมาชิกสภาผู้แทนฯ และสมาชิกวุฒิสภา
การเอาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเหตุถอดถอน จึงเป็นข้อกล่าวหาที่บ้องตื้นอย่างแรง
2,การแก้ไขรัฐธรรมนูญคืนอำนาจประชาชนให้เป็นผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาโดยตรง แทนการให้คนแค่ 7 คน ขโมยอำนาจประชาชนทั้งประเทศไปลากตั้ง ส.ว.ตามอำเภอใจ
ก็ถูกต้องตามหลักประชาธิปไตย
3,ป.ป.ช.อ้างมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2550 เป็นเงื่อนไขถอดถอน 2 อดีตประธานสภาฯ
แต่เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกฉีกทิ้งไปแล้ว จึงไม่มีฐานความผิดที่จะอ้างเป็นเหตุถอดถอนอีกต่อไป
4,นายสมศักดิ์ และ นายนิคม ได้พ้นสถานะผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองไปแล้วทั้งนิตินัยและพฤตินัย ทำให้ขาดสาระสำคัญที่ใช้เป็นเหตุในการลงมติถอดถอน (ซ้ำ) ตามข้อเสนอของ ป.ป.ช.
5,ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยในประเด็นเดียวกันนี้ โดยชี้ว่า ขณะนี้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ไม่มีผลใช้บังคับแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่รับคำร้องไว้พิจารณา
เกมมันจบไปแล้ว...ยังไม่หยุดอาฆาตพยาบาทจองเวรกันอีกหรือโยม??
“แม่ลูกจันทร์” ไม่เคยรู้จักมักจี่ “นายสมศักดิ์” และ “นายนิคม”
และถ้าทั้ง 2 คนต้องโดนถอดถอนก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร
เพียงแต่ถ้าอดีตประธานสภา 2 คน ต้องโดนถอดถอนในข้อหาความผิดฐานแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประชาชนมีสิทธิ์เลือก ส.ว.โดยตรง
จะเป็นเรื่องตลกที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
กลายเป็นข่าวโจ๊กให้สังคมโลกฮากระจายไปอีกนาน.
“แม่ลูกจันทร์”
http://www.thairath.co.th/content/457713
ไม่น่าจะสับสนในอำนาจหน้าที่ของตนเองเลยเนอะ รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 มี 48 มาตรา มีมาตราไหนที่ให้อำนาจถอดถอนแก่ สนช.บ้าง
แม่ลูกจันทร์ สำนักข่าวหัวเขียว ไทยรัฐ กล่าวถึงเรื่องการถอดถอนสมศักดิ์-นิคม ของ สนช. "สับสนทำไม" พร้อมยกเหตุผล5ข้อ
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาตินัดล่าสุด เพื่อพิจารณากรณีถอดถอน “นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์” อดีตประธานรัฐสภาและ “นายนิคม ไวยรัชพานิช” อดีตประธานวุฒิสภาใช้เวลาประชุมลับนานกว่า 3 ชั่วโมง
โดยที่ประชุม สนช.จะต้องตัดสินใจเลือกทางออกเพียง 1 ประตู จาก 4 ประตู คือ...
1,เดินหน้าถอดถอน “สมศักดิ์–นิคม” ให้เสร็จค่อล่อซ่อทันที
เพราะยังมีคิวถอดถอนรอให้เช็กบิลอีกหลายขบวน
2,มีมติไม่รับเรื่องถอดถอนไว้ดำเนินการ
เพราะรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวไม่ได้ ให้อำนาจ สนช.เที่ยวไปถอดถอนใคร
3,ส่งคืนคำร้องถอดถอนกลับไปให้ ป.ป.ช.แก้ไขปรับปรุง
เพราะสำนวนกล่าวหาของ ป.ป.ช.มีรูโหว่ให้ช้างลอดได้ 15 ตัว
4,พักการถอดถอนไว้ก่อน 1 ปี เพื่อรอให้รัฐธรรมนูญใหม่คลอดออกมาใช้แทนรัฐธรรมนูญชั่วคราว
“แม่ลูกจันทร์” คาดว่าที่ประชุม สนช.จะโหวตตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่งให้รู้แล้วรู้แร่ดกันไปเลย
แต่สุดท้าย สมาชิก สนช.ส่วนใหญ่เกิดความสับสนไม่รู้จะตัดสินใจเลือกประตู ไหนดี จึงขอ “เลื่อน” การพิจารณาคำร้องถอดถอนต่อไปอีก 2 สัปดาห์
อ้างว่าเพื่อให้ สนช.มีเวลาไปพิจารณา รายละเอียดต่างๆ ให้สิ้นข้อกังขาคาใจ
“แม่ลูกจันทร์” มองไม่เห็นความจำเป็นที่ สนช.จะต้องเสียเวลาศึกษารายละเอียดให้เมื่อยตุ้มแต่อย่างใด
เพราะถ้าท่านใช้สามัญสำนึกของตัวเองพิจารณาก็จะได้คำตอบทันทีว่า สนช.ชุดนี้ ไม่มีอำนาจหน้าที่ และไม่มีความชอบธรรมที่จะลงมติถอดถอน 2 อดีตประธานสภาฯ
ด้วยเหตุผล 5 ประการคือ...
1,การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของสมาชิกสภาผู้แทนฯ และสมาชิกวุฒิสภา
การเอาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเหตุถอดถอน จึงเป็นข้อกล่าวหาที่บ้องตื้นอย่างแรง
2,การแก้ไขรัฐธรรมนูญคืนอำนาจประชาชนให้เป็นผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาโดยตรง แทนการให้คนแค่ 7 คน ขโมยอำนาจประชาชนทั้งประเทศไปลากตั้ง ส.ว.ตามอำเภอใจ
ก็ถูกต้องตามหลักประชาธิปไตย
3,ป.ป.ช.อ้างมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2550 เป็นเงื่อนไขถอดถอน 2 อดีตประธานสภาฯ
แต่เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกฉีกทิ้งไปแล้ว จึงไม่มีฐานความผิดที่จะอ้างเป็นเหตุถอดถอนอีกต่อไป
4,นายสมศักดิ์ และ นายนิคม ได้พ้นสถานะผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองไปแล้วทั้งนิตินัยและพฤตินัย ทำให้ขาดสาระสำคัญที่ใช้เป็นเหตุในการลงมติถอดถอน (ซ้ำ) ตามข้อเสนอของ ป.ป.ช.
5,ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยในประเด็นเดียวกันนี้ โดยชี้ว่า ขณะนี้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ไม่มีผลใช้บังคับแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่รับคำร้องไว้พิจารณา
เกมมันจบไปแล้ว...ยังไม่หยุดอาฆาตพยาบาทจองเวรกันอีกหรือโยม??
“แม่ลูกจันทร์” ไม่เคยรู้จักมักจี่ “นายสมศักดิ์” และ “นายนิคม”
และถ้าทั้ง 2 คนต้องโดนถอดถอนก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร
เพียงแต่ถ้าอดีตประธานสภา 2 คน ต้องโดนถอดถอนในข้อหาความผิดฐานแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประชาชนมีสิทธิ์เลือก ส.ว.โดยตรง
จะเป็นเรื่องตลกที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
กลายเป็นข่าวโจ๊กให้สังคมโลกฮากระจายไปอีกนาน.
“แม่ลูกจันทร์”
http://www.thairath.co.th/content/457713
ไม่น่าจะสับสนในอำนาจหน้าที่ของตนเองเลยเนอะ รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 มี 48 มาตรา มีมาตราไหนที่ให้อำนาจถอดถอนแก่ สนช.บ้าง