Whiplash คือหนังดนตรีที่สนุกและเร้าใจมากกระชากใจคนดูสุดๆ 9/10



ดีกรีภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก Sundance Film Festival น่าจะเป็นโพรไฟล์ที่ดีที่สุดที่จะทำให้ผมตัดสินใจเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ในเทศกาล World Film ที่ Sf Central World เมื่อวันก่อน โดยที่ในหัวแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลย นอกจากทราบว่าเป็นเรื่องของนักตีกลอง และอยากจะบอกว่า Whiplash เป็นหนังดนตรีที่ไม่ดลกสวย ไม่มีมุมมองในความสวยงามของดนตรีสักเท่าไหร่ หนังไม่ได้เสนอด้านดีของดนตรีเลย แต่ดนตรีในหนังเรื่องนี้คือศึกคือสงครามที่ใช้ห้ำหั่นทั้งต่อสู้กับตัวเอง และต่อสู้กับนักดนตรีด้วยกันแบบไม่เลือกสังเวียนและไม่เลือกอายุไม่เลือกรุ่น

พระเอกเป็นนักเรียนดนตรีที่ไขว่คว้าหาความเป็นที่1 ในฐานะมือกลองวงแจส เค้ามุ่งมั่นและฝึกซ้อมเพื่อที่จะได้อยู่ในวงดนตรีของเฟลทเชอร์ อาจารย์สอนดนตรีผู้ให้จังหวะที่เก่งที่สุด ในโรงเรียนสอนดนตรีที่ดีที่สุดในประเทศ แต่เฟลทเชอร์ไม่ใช่ครูปกติ เฟลทเชอร์ไม่ต่างอะไรจากปีศาจร้ายในคราบครูสอนดนตรีเลย เค้าโหด ปากจัด  และไม่รู้จักประณีประณอม เค้าเป็นคนที่รักความสมบูรณ์แบบ ตรงเวลา ไม่มีคำว่ายืดหยุ่น ส่วนพระเอกก็มีลูกบ้า มุ่งมั่น และไม่ยอมให้อะไรมาขวางหนทางสู่ความเป็นที่ 1 เค้าละทิ้งทุกอย่างแม้แต่คนรัก เพราะเค้ามีความเชื่อว่า เค้ายอมตายในช่วงอายุที่ไม่มากแต่เป็นเวลาที่เค้าพีคที่สุดเสียยังดีกว่ามีอายุยืนยาวฐานะร่ำรวยแต่ไม่มีคนจำเค้าได้ ความต้องการความสมบูรณ์แบของตัวเองของพระเอกนั้นเยอะเสียจนแทบจะเรียกว่ายอมให้ปีศาจมาครอบงำเลยก้ว่าได้ เรียกว่าพอมาเจอกับอาจารย์จอมโหดสุดโต่งอย่าง เฟลทเชอร์ ที่จะไม่ยอมชื่นชมผลงานของใครทั้งสิ้น เพราะเค้าต้องการความสมบูรณ์แบบในระดับ The Best และแน่นอน มันไม่รู้จักพอ

นี่คือหนังดนตรีที่เร้าใจที่สุด งานเล่าเรื่องแทบไม่มีที่ติเลย จังหวะการนำเสนอ การลำดับภาพ งานกำกับภาพ ทุกซีนดูลงตัว ภาพห้องเรียนดนตรี เครื่องดนตรี บรรยากาศในการเรียนดนตรี ถูกท่ายทอดออกมาในหนังอย่างถึงอารมณ์ รวมถึงการบันทึกเสียงที่เนี๊ยบมาก และเป็นงานที่เรียกว่าลงตัวจนน่าตกใจว่าผู้กำกับ Damien Chazelle อายุแค่ 29 เท่านั้น



น่าตกใจมาก ที่อายุแค่ 29 แต่ฝีมือจัดจ้านมาก จนอดเทียบกับผู้กำกับหนังบ้านเราไม่ได้ที่บางคนอายุมากกำกับหนังมาเป็นสิบๆเรื่อง บางปีก็กำกับมันซะ 7-8 เรื่อง แต่อีโก้แน่นจนไม่ยอมให้มาติผลงาน แต่สำหรับ Damien Chazelle อายุแค่ 29 กับทำหนังออกมาได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้

การแสดงที่โดดเด่นของ J.K. Simmons ในบทอาจารย์เฟลทเชอร์จอมโหดน่าจะเป็นบทบาทการแสดงที่อยู่ในความทรงจำของนักดูหนังยาวไปจนถึงช่วงเทศกาลออสการ์แน่นอน ส่วนตัวไม่เก็งแค่ได้เข้าชิงนะ แต่เก้งว่า J.K. Simmons มีลุ้นถึงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบเลย เพราะเค้ามีคุณสมบัติของผู้ชนะครบถ้วนในเรื่องของตัวบทสมทบแต่มีพลังและสร้างความประทับใจให้คนดูเป็นอย่างสูง

ส่วนพระเอก Miles Teller นี่พูดเลยว่าแสดงดีมากกกก แต่ความโดดเด่นอาจจะถูก J.K. Simmons  กลบไปนิดนึง แต่ก้ต้องซูฮกในความทุ่มเทของพระเอกล่ะ  เพราะลงทุนตีกลองเองในเรื่องจนเลือดสาดเลย

whiplash ปิดม่านลงอย่างสุดแสนประทับใจ พร้อมเสียบงปรบมือของคนในโรงอย่างกึกก้อง มีคนบอกว่าหนังเรื่องนี้ฉายที่ไหน คนก็พร้อมใจกันปรบมือเกือบทุกที่ ไม่รู้จริงไหม แต่ที่แน่ๆ Whiplash เป็นหนังที่ประทับใจมากกกกกก ดูแล้วฮึกเหิม ปลุกเร้าพลังในตัวอย่างบอกไม่ถูก

9/10


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่